ตอนที่ 13 ด่านโสหุยล่มแล้ว
เปิดหรือไม่เปิด!
เสมือนกับทางสองแพร่งบนสะพานไม้แผ่นเดียว
เบื้องหน้าคือทางตัน มีคนที่อ้างว่าเป็นสหายกำลังเรียกเขาอยู่
ส่วนด้านหลังก็คือกลุ่มโจร ถือดาบเตรียมพร้อม
หลี่ซูรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนหน้าผา ไม่กล้าก้าวขาไปข้างหน้าหรือถอยหลัง และเสี่ยงตกถ้ายืนเฉยๆ
ความคิดมากมาย ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
เขาเห็นว่าทหารม้าใต้กำแพงภายในร้อยก้าวล้วนสวมชุดทหารของตั๋งโต๊ะ เหมือนนกหวาดกลัว เขาทนไม่ไหวและรีบตะโกนบอกหลี่ซู
"ท่านแม่ทัพ เปิดประตูเถอะขอรับ! " จ้าวเซินทนไม่ไหวจึงเอ่ยปาก
"คนที่อยู่ด้านล่าง ล้วนแล้วแต่เป็นพี่น้องของพวกเราทั้งนั้น!"
คำพูดของจ้าวเซิน ทำให้หลี่ซูได้สติ
"คนที่อยู่ด้านล่าง เจ้าเป็นใคร บอกชื่อมา! " หลี่ซูตะโกน
พอได้ยินแบบนั้น ทหารม้าที่อยู่ด้านล่างก็หยุดลง จากนั้น ก็มีแม่ทัพคนหนึ่ง เดินออกมาพร้อมกับทหารคนสนิทและตะโกน"ท่านคือแม่ทัพหลี่ซู ใช่หรือไม่? "
"ข้าคือผิงเหมา แม่ทัพภายใต้แม่ทัพฮัวหยง พวกเราถูกซุ่มโจมตี ท่านแม่ทัพฮัวหยงตกอยู่ในอันตราย ขอรบกวนท่านแม่ทัพ เปิดประตูเมือง ให้พวกเราเข้าไปด้วย! "
"แม่ทัพผิงเหมา?"หลี่ซูขมวดคิ้ว
เขากำลังนึกว่า กองทัพของฮัวหยงมีแม่ทัพชื่อนี้ด้วยหรือ?
"ท่านแม่ทัพ ข้ารู้จักผิงเหมา"จ้าวเซินกล่าวด้วยความดีใจ
"น้ำเสียง และรูปร่างหน้าตาเหมือนกับคนที่อยู่ด้านล่างไม่มีผิด! "
"จริงรึ?"หลี่ซูขมวดคิ้ว มองลงไปด้านล่าง
"เจ้าบอกว่าท่านแม่ทัพฮัวหยงตกอยู่ในอันตราย แล้วตอนนี้ เขาอยู่ที่ไหน? "
พอได้ยินแบบนั้น ผิงเหมาก็รีบสั่งให้คนอุ้มแม่ทัพคนหนึ่งออกมา
แม่ทัพคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ แต่ตอนนี้กลับดูอ่อนแอ
"ท่านแม่ทัพ เปิดประตูเถอะ พวกมันตามมาแล้ว! "ผิงเหมาตะโกน
"ถ้าไม่เปิด พวกเราตายกันหมดแน่! "
เสมือนกับนัดกันมา ทหารที่อยู่ด้านหลัง ก็พากันตะโกนเสียงดัง ตอนนี้ พวกมันอยู่ห่างจากด่านไม่ถึงสามร้อยก้าวแล้ว
หลี่ซูมองไปที่ร่างของฮัวหยง กัดฟันหันไปถามชวีชาง
"เมื่อกี้เจ้าบอกว่า ฮัวหยงตายแล้ว แล้วคนที่อยู่ด้านล่างคือใคร?"
"เจ้าเห็นฮัวหยงตายกับตาตัวเองหรือไม่?"
ชวีชางรู้สึกหวาดกลัว พอเห็นหลี่ซูทำท่าทางดุร้าย เขาก็ยิ่งหวาดผวา จึงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ข้า.... ข้าไม่ได้เห็นกับตา......."
สาเหตุที่เขารอดมาได้ เพราะเขาอยู่แนวหลัง
คนที่อยู่ใกล้ๆท่านแม่ทัพฮัวหยง ล้วนแล้วแต่ถูกฆ่าตายหมดแล้ว
ไม่งั้นเขาจะรอดออกมาได้อย่างไร?
เขาไม่รู้ว่าข่าวการตายของฮัวหยงเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ
พอเห็นฮัวหยงปรากฏตัวที่หน้าด่าน เขาไม่กล้ารับผิดชอบ จึงได้แต่พูดว่า
"ข้า...ข้าคงจะ ฟังผิดไปเอง "
"ไอ้ขยะ!"หลี่ซูตะโกน
มองฮัวหยงที่อยู่หน้าประตูเมือง
ถ้าหากชวีชางกล้าพูดหนักแน่นกว่านี้ เขาก็อาจจะลองเสี่ยงดูสักครั้ง
แต่ตอนนี้ เขาไม่กล้าเสี่ยงแล้ว!
ถ้าหากคนที่ประตูคือฮัวหยงจริงๆ แล้วเขาไม่ยอมเปิดประตู ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูตั๋งโต๊ะ เขาตายแน่!
พอเห็นกองทัพศัตรูกำลังใกล้เข้ามา เขาก็กัดฟัน
"เปิดประตู! "หลี่ซูตัดสินใจ
"ขอรับ! " จ้าวเซิน รู้สึกโล่งใจ
เขาไม่สามารถตอแยหลี่ซูได้ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮัวหยง
ถ้าเขาล่าช้าไปสักสามนาทีและทำให้ฮัวหยงโกรธ เขาอาจโดนฆ่า
พอได้รับคำสั่ง เขาจึงรีบสั่งให้ทหารเปิดประตูทันที
พอทหารได้รับคำสั่ง ด้วยเสียงดังเอี้ยด ประตูใหญ่ของด่านโสหุยก็เปิดออก
แม่ทัพใต้กำแพงเห็นประตูเปิดก็รีบก้มหัวให้หลี่ซูที่เฝ้าประตู
"ขอบคุณท่านแม่ทัพ " ผิงเหมารีบค้อมศีรษะให้หลี่ซู
"บุญคุณในครั้งนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม"
พูดจบ เขาก็หันหลังกลับแล้วตะโกนว่า "ทุกคน รีบเข้าเมือง! "
จากนั้น เขาก็นำทหารม้าหลายพันนายเข้าไปในด่าน
ส่วนซุนเกี๋ยน ที่อยู่ไม่ไกลก็รีบนำทัพตามมาติดๆ พอเห็นแบบนี้ เขาก็ดีใจมาก
"ฆ่า! ตามข้าไป กำจัดพวกมันให้หมด! " ซุนเกี๋ยนตะโกน
"เร็ว! รีบยิงธนู ปิดประตูด้วย! " หลี่ซูเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนสั่ง
"ซู่ๆๆๆๆๆ "
ทหารที่อยู่บนกำแพง ตางก็พากันยิงธนูใส่ทหารที่อยู่ด้านล่าง
ชั่วพริบตา ลูกศรนับร้อยนับพันดอกก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า
แต่เวลานี้ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากด้านล่าง
"ฆ่า! ตามข้ายึดประตูเมือง ต้อนรับท่านแม่ทัพเข้าเมือง! "
พูดจบ ฮัวหยงที่ดูเหมือนคนใกล้ตายก็ฟื้นคืนชีพ
เขากระโดดลงจากหลังม้า หยิบง้าวคู่ออกมา จากนั้นก็ฆ่าทหารที่เฝ้าประตูด่าน
ในเวลาเดียวกัน ซูเหมาและหันต๋ง ก็ไม่ปิดบังตัวตนอีกต่อไป คนหนึ่งถือดาบคู่ ส่วนอีกคนถือดาบยาว พวกเขากลายเป็นยมทูตและพุ่งเข้าหาทหารซีเหลียง
ทหารม้านับพันที่เข้ามาในเมืองต่างก็ทำตามคำสั่ง เริ่มเหวี่ยงดาบและฆ่าทุกที่
ทหารซีเหลียงเหล่านั้นต่างก็ไม่ทันตั้งตัว พอเห็นว่าคนที่เป็นสหายกันเมื่อครู่นี้กลับกลายเป็นศัตรู พวกเขาก็หวาดกลัว
ชั่วพริบตา เสียงฆ่าฟันก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งด่าน
หลี่ซูและจ้าวเซินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป
พวกมันคือศัตรูจริงๆ ด้วย!
พวกเขาติดกับ!
แม่ทัพทั้งสองทำอะไรไม่ถูก
ส่วนซุนเกี๋ยน ที่อยู่ไม่ไกลก็หัวเราะออกมา
ทุกอย่าง เป็นไปตามที่ไป๋หลี่หมิงคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด พวกมันเปิดประตูเมืองแล้ว!
และเมื่อพวกมันเปิดประตูเมือง แผนการนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ส่วนจะยึดด่านได้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของเขาแล้ว!
"ทหารทุกนาย ฟังคำสั่ง! "
"บุก! "
ซุนเกี๋ยนชักดาบออกมา ชี้ขึ้นฟ้า แล้วตะโกนลั่น
ทันใดนั้น กองทัพทั้งสามก็เคลื่อนพลพร้อมกัน ทหารหน่วยจู่โจมที่ซ่อนตัวอยู่ในกองทัพก็รีบวิ่งออกมาพร้อมกับบันได
ทหารกว่าหมื่นห้าพันนาย มุ่งหน้าไปยังกำแพงเมือง
ตอนนี้ ทหารที่อยู่ด้านบนต่างก็พากันตกใจและกลายเป็นยุ่งเหยิง
ถึงแม้ว่าจะมีทหารมากมาย แต่ก็ยากที่จะจัดระเบียบต่อต้านอย่างมีประสิทธิภาพ
"ท่านแม่ทัพ พวกเราควรทำอย่างไรดี? " จ้าวเซินถามอย่างร้อนใจ เขามองทั้งหมดนี้ อยากร้องแต่ไม่มีน้า
"ถอยทัพ!" หลี่ซูหลับตาลงพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
"พวกเรา สู้ไม่ได้แล้ว! "
ภายในคืนเดียว พวกเขาติดกับถึงสองครั้ง ขวัญกำลังใจลดลงจนถึงขีดสุด
ในขณะที่กองทัพของซุนเกี๋ยนกำลังฮึกเหิม
แบบนี้ พวกเขาจะไปต้านทานได้อย่างไร?
พูดจบ หลี่ซูก็รีบเดินลงจากกำแพงเมือง
ในเมื่อตัดสินใจถอยแล้ว ก็ควรรีบเอาของมีค่าติดตัวไปด้วย!
หวังว่าจะสามารถชดเชยความผิดของเขาได้!
แต่พอเขาลงจากกำแพงเมืองไป ก็ไม่พบจ้าวเซิน
....
ครึ่งชั่วยามต่อมา หลี่ซูนำทหารที่เหลือไม่กี่พันนายไปยังลั่วหยาง
ส่วนซุนเกี๋ยนก็เข้ายึดด่านโสหุยได้สำเร็จ
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ซุนเกี๋ยนก็เปิดทางไปสู่ลั่วหยางได้อย่างสมบูรณ์
ในทำนองเดียวกัน เส้นทางชีวิตดั้งเดิมของเขาก็ไปสู่อีกเส้นทางหนึ่งพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในคืนนี้