กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 329 ผู้ใดกล้า!
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 329 ผู้ใดกล้า!
“โลกสวรรค์ก่อกำเนิดอย่าได้ลำพองนัก!”
ปราชญ์โบราณแค่นเสียงเย็น เอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “ในโลกอินทนิลเร้นลับ มีมหาจักรพรรดิไม่น้อย บนรายนามจักรพรรดิมีถึงสองท่าน มิใช่เพียงอาวุธจักรพรรดิชิ้นเดียวที่สามารถเทียบเคียง!”
“หากมหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์ มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬต้องการ กระบี่สะท้านฟ้าคงจะปรากฏขึ้นในโลกนี้อีกคราในไม่ช้า!”
“ถูกต้อง!”
คำพูดนี้ทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายในโลกอินทนิลเร้นลับพูดเสริมขึ้นมา
“หากกระบี่สะท้านฟ้าปรากฏขึ้น คงต้องประลองกับระฆังราชาอสูร!”
“ข้าอยากจะเห็นว่ากระบี่สะท้านฟ้าลำดับที่ห้าในรายนามอาวุธจักรพรรดิจะเหนือกว่า หรือระฆังราชาอสูรลำดับที่สามในรายนามอาวุธจักรพรรดิจะไร้เทียมทาน!”
“อาวุธจักรพรรดิก็คืออาวุธจักรพรรดิ ในเมื่อเป็นอาวุธ สิ่งใดแข็งแกร่งกว่า ขึ้นอยู่กับผู้ครอบครอง มิใช่ตัวอาวุธ”
“ระฆังราชาอสูรของโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ข้าก็เคยได้ยินมา เป็นเพียงอาวุธจักรพรรดิของเผ่าอีกาทองคำ พลังโจมตีมิได้เหนือกว่ากระบี่สะท้านฟ้า!”
ภายในโลกอินทนิลเร้นลับ สิ่งมีชีวิตมากมาย พูดคุยกัน
คำพูดของพวกเขาดูเหมือนว่าจะไม่ใส่ใจระฆังราชาอสูร
รายนามอาวุธจักรพรรดิพวกเขาไม่กล้าสงสัย แต่สงสัยพลังของโลกสวรรค์ก่อกำเนิดนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถหาผู้ที่อยู่ในระดับมหาจักรพรรดิระยะสูงสุดได้
หากระฆังราชาอสูรอยู่ในมือของบรรพบุรุษเผ่าอีกาทองคำ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวล
เพราะว่าโลกอินทนิลเร้นลับมีมหาจักรพรรดิสองท่านที่อยู่ในรายนามจักรพรรดิ
หากเพิ่มกระบี่สะท้านฟ้า พลังจะแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า การปราบปรามบรรพบุรุษเผ่าอีกาทองคำที่เพิ่งจะบรรลุระดับจักรพรรดิ สำหรับพวกเขาแล้ว เป็นเรื่องง่ายดาย
หากสามารถแย่งชิงระฆังราชาอสูรมาได้ก็ยิ่งดี
ลำดับที่สามในรายนามอาวุธจักรพรรดิ ผู้บำเพ็ญคนใดบ้าง ที่จะไม่หมายปอง
“พวกเจ้าอย่าได้ลำพองนัก!”
ภายในฝูงชน
บุรุษผู้หนึ่ง รูปร่างสง่างาม ผมสีทอง ใบหน้าเย็นชา รอบกายเต็มไปด้วยปราณแท้สุริยัน ปรากฏตัวขึ้น เขาสองมือไพล่หลัง รังสีอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา
ราวกับราชันอสูรรุ่นเยาว์ มองข้ามทุกสารทิศ
“อาวุธจักรพรรดิของเผ่าอีกาทองคำ พวกเจ้าคิดว่าตนเองสามารถวิจารณ์ได้หรือ”
องค์ชายรองอีกาทองคำ ดวงตาคมกล้า ราวกับสายฟ้า ทุกที่ที่สายตาของเขามองไป ไม่มีผู้ใดกล้าสบตา
รังสีอำนาจของยอดฝีมือรุ่นเยาว์ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
“เป็นองค์ชายของเผ่าอีกาทองคำ ดูเหมือนจะเป็นองค์ชายรองอีกาทองคำ ชายผู้นี้อยู่ในลำดับที่สามสิบแปดของรายนามอัจฉริยะสวรรค์ก่อกำเนิด และลำดับที่สิบหกของรายนามอัจฉริยะเผ่าอสูร!”
“เคยได้ยินมาว่าเขาอยู่ในลำดับที่สิบแปด แต่ผ่านไปเพียงไม่นาน เขาก็อยู่ในลำดับที่สิบหก!”
“เขาคือใคร”
“คนผู้นี้มีพลังแข็งแกร่ง ศักยภาพสูง ในอนาคตอาจจะปรากฏตัวในรายนามอัจฉริยะหมื่นโลกา! หลายคนกล่าวว่าเขาอาจจะอยู่ในลำดับที่ห้าร้อยเอ็ดของรายนามอัจฉริยะหมื่นโลกา!”
“ไม่แปลกใจที่คนของโลกอินทนิลเร้นลับกล้าดูถูกอาวุธจักรพรรดิของเผ่าอีกาทองคำ ในฐานะองค์ชายรองอีกาทองคำ เหตุใดจะไม่ลุกขึ้นมาต่อต้าน”
ผู้คนมากมายของโลกอินทนิลเร้นลับ ต่างตกตะลึง
ในทางตรงกันข้าม ผู้คนของโลกสวรรค์ก่อกำเนิด รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง
เรื่องอื่นพวกเขาไม่อาจเทียบเคียงได้ แต่พลังของอัจฉริยะรุ่นเยาว์พวกเขาเหนือกว่า
องค์ชายรองอีกาทองคำคนเดียวก็สามารถปราบปรามอัจฉริยะของโลกอินทนิลเร้นลับได้
“ในโลกอินทนิลเร้นลับ มีผู้ใดกล้าต่อสู้กับข้าหรือไม่”
องค์ชายรองอีกาทองคำเอ่ยขึ้น เสียงดังกังวาน เย็นชา ราวกับเสียงโลหะกระทบกัน ดังก้องไปทั่ว ทำให้ผู้คนมากมายมีสีหน้าเปลี่ยนไป
ผู้คนอดทึ่งในความแข็งแกร่งขององค์ชายรองอีกาทองคำไม่ได้
เขาไม่ได้ท้าทายขุมอำนาจใดขุมอำนาจหนึ่งของโลกอินทนิลเร้นลับ แต่เป็นการท้าทายอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งหมด!
แต่น่าเสียดาย คนที่เดินทางมายังเมืองต้าฮวง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนรุ่นเก่า พวกเขาไม่อาจรับคำท้าได้ แม้จะชนะ ก็ไม่อาจทำให้พวกเขาภูมิใจ แต่กลับถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ
“โอหัง!”
ปราชญ์โบราณของโลกอินทนิลเร้นลับแค่นเสียงเย็นชา เอ่ยว่า “ในโลกอินทนิลเร้นลับมีอัจฉริยะมากมายที่อยู่ในรายนามอัจฉริยะ หากพวกเขาอยู่ที่นี่เจ้าไม่มีทางโอหังเช่นนี้!”
“จริงหรือ”
องค์ชายรองอีกาทองคำหัวเราะเยาะ ผมยาวสลวยปลิวไสว เสื้อผ้าสะบัดพลิ้วไหว เขากล่าวอย่างมั่นใจว่า “อัจฉริยะทั้งหมดของโลกอินทนิลเร้นลับเป็นเพียงไก่ป่า หมาวัด”
“ไม่คู่ควรให้ข้าสนใจ”
“ส่วนกระบี่สะท้านฟ้า...”
องค์ชายรองอีกาทองคำมองรายนามอาวุธจักรพรรดิเบื้องบน หัวเราะอย่างเย็นชา “อาวุธจักรพรรดิลำดับที่ห้า คิดว่าตนเองสามารถเทียบเคียงกับอาวุธจักรพรรดิลำดับที่สามได้หรือ”
“บังอาจ!”
“กล้าหาญนัก!”
“เดรัจฉานน้อย เจ้ากำลังหาที่ตาย!”
ภายในโลกอินทนิลเร้นลับ ผู้คนมากมายลุกขึ้นยืนตะโกนเสียงดัง
เด็กที่โอหังเช่นนี้ พวกเขาเพิ่งจะพบเจอเป็นครั้งแรก รายนามอาวุธจักรพรรดิเพิ่งจะปรากฏ ยังไม่มีอาวุธจักรพรรดิชนิดใดปะทะกัน
แต่องค์ชายรองอีกาทองคำผู้นี้กลับกล่าวอย่างมั่นใจว่า กระบี่สะท้านฟ้าด้อยกว่าระฆังราชาอสูร
นี่มิใช่การสร้างความเกลียดชังหรือ
การกระทำเช่นนี้เหมาะสมกับเผ่าอีกาทองคำ เพราะเผ่าอีกาทองคำนั้นหยิ่งยโส มักจะโอหัง ภายในโลกสวรรค์ก่อกำเนิด พวกเขาครอบครองดินแดนกว้างใหญ่
ตอนนี้โลกทั้งสองหลอมรวมกัน
เผ่าอีกาทองคำยังคงเป็นขุมอำนาจใหญ่
แม้เขาจะพูดเช่นนี้ ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้
เพราะว่าที่นี่คือโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ส่วนที่เขายืนอยู่ เป็นดินแดนของเมืองต้าฮวง!
ปราชญ์หลายคนของโลกอินทนิลเร้นลับหน้าซีดเผือด เส้นเลือดปูดโปน ดวงตาแดงก่ำ ราวกับจะพ่นไฟออกมา จ้องมององค์ชายรองอีกาทองคำ หวังจะทำลายเขาให้สิ้นซาก
กระบี่สะท้านฟ้า ในใจของพวกเขาคืออาวุธที่ไร้เทียมทาน
ตอนนี้ถูกดูหมิ่น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกอินทนิลเร้นลับต่างก็รู้สึกเสียหน้า
“พวกเจ้าต้องการลงมือหรือ”
องค์ชายรองอีกาทองคำมีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่หวาดกลัว เขาก้าวไปข้างหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าลืมว่าที่นี่คือโลกสวรรค์ก่อกำเนิด ยิ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรของท่านผู้อาวุโสเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ข้าอยากจะเห็นว่าผู้ใดกล้า!”
สิ้นเสียง เบื้องหลังองค์ชายรองอีกาทองคำ ชายชราก็เดินออกมา รอบกายแผ่รังสีอำนาจระดับอภิศักดิ์สิทธิ์ ปกคลุมสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของโลกอินทนิลเร้นลับ
แรงกดดันอันน่ากลัวทำให้ห้วงมิติโดยรอบบิดเบี้ยว
แม้จะไม่ได้ลงมือ แต่แรงกดดันนี้ ก็ทำให้ปราชญ์หลายคนมีสีหน้าซีดเผือด หายใจติดขัด
“วันนี้ ข้าเดินทางมาที่นี่ เพียงแค่ต้องการขอให้ท่านผู้อาวุโสทำนายวาสนาให้ข้า แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้พบกับรายนามจักรพรรดิ และรายนามอาวุธจักรพรรดิ” องค์ชายรองอีกาทองคำกล่าวพลางมองรายนามทั้งสองแผ่นบนท้องฟ้า
“กระบี่สะท้านฟ้าของโลกอินทนิลเร้นลับ ในเมื่อไร้เจ้าของ เหตุใดจึงไม่ตกเป็นของเผ่าอีกาทองคำ!”
“เจ้ากล้า!”
ปราชญ์โบราณของโลกอินทนิลเร้นลับ ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธ
เขารู้ดีว่าคำพูดขององค์ชายรองอีกาทองคำมิใช่คำล้อเล่น
เผ่าอีกาทองคำนั้นมีพลังและมีความมั่นใจ พวกเขามีรากฐานอันแข็งแกร่ง สืบทอดมรดกมานับไม่ถ้วน การหาที่อยู่ของกระบี่สะท้านฟ้ามิใช่เรื่องยาก
เพียงแค่จ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์เพื่อทำนายก็เพียงพอแล้ว
หากกระบี่สะท้านฟ้าตกไปอยู่ในมือของเผ่าอีกาทองคำจริง ๆ
ภาพเช่นนั้น พวกเขาไม่อยากจะจินตนาการ
ไม่ต่างอะไรกับการถูกตบหน้าอย่างรุนแรง!