ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 23 ด้วยพลังเพียงเท่านี้คงมิอาจทำได้
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 23 ด้วยพลังเพียงเท่านี้คงมิอาจทำได้
เหนือความว่างเปล่า
ลำแสงสี่สายกำลังทะลวงผ่านความว่างเปล่าโดยอาศัยประตูค่ายกล
ทันใดนั้น แสงสว่างก็สั่นไหว การเคลื่อนย้ายต้องหยุดชะงักลง
ชั่วพริบตาถัดมา ความว่างเปล่าก็แตกออก ปรากฏร่างเงาสี่ร่างออกมา
กลิ่นอายของพวกเขาล้ำลึกดุจห้วงสมุทร ไม่อาจหยั่งถึง
ล้วนเป็นตัวตนระดับราชันปราชญ์!
“อืม? ยังมาไม่ถึงเผ่ามังกรเจียว เหตุใดการเคลื่อนย้ายความว่างเปล่าจึงหยุดลง? แปลกยิ่งนัก”
“หรือว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายจะมีปัญหา?”
“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ ท่านทราบหรือไม่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น”
ราชันปราชญ์ทั้งสามต่างมองไปยังบุคคลที่สี่
ผู้นี้มีตบะสูงส่งที่สุดในบรรดาพวกเขา บรรลุถึงระดับราชันปราชญ์ระยะสูงสุด
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้อาวุโสของเผ่ามังกรเจียว ส่วนผู้ที่มีตบะสูงสุดคือท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่ามังกรเจียว
พวกเขาเพิ่งกลับมาจากการออกไปสืบหาข่าวคราวของวังสวรรค์
การตายของเจียวฮ่าวเทียน บุตรมังกรที่แบกรับความหวังของเผ่า แม้แต่สภาผู้อาวุโสก็ยังโกรธแค้นจนไม่อาจระงับได้
หลังจากตามหามาหลายวัน แต่ก็ยังคงไร้ซึ่งข่าวคราวของวังสวรรค์ พวกเขาจึงต้องออกเดินทางด้วยตนเอง แต่ก็ยังคงไร้ผล
พวกเขาจึงต้องกลับไปยังเผ่ามังกรเจียว
ไม่คิดเลยว่า ค่ายกลเคลื่อนย้ายจะหยุดลงก่อนที่จะถึงเผ่ามังกรเจียว
ในเวลานี้ ท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่ามังกรเจียวกลับไม่ได้เอ่ยวาจาใด ๆ ออกมา
ดูเหมือนว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง จึงมองไปยังความว่างเปล่าอันไกลโพ้น
เห็นเพียงระลอกคลื่นสั่นไหว ปรากฏร่างเงาชุดเกราะสีเงินเดินออกมาอย่างเชื่องช้า
บุรุษผู้นั้นมีสีหน้าเย็นชา มือถือกระบี่เทพ ผ้าคลุมสีขาวโบกสะบัดตามสายลม ดูสง่างามและหยิ่งผยองยิ่งนัก
ตามสายตาของท่านผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสอีกสามคนก็สังเกตเห็นเช่นกัน จึงหันมามอง
“ใครกัน?”
“วังสวรรค์ เฟยเผิง”
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับทำให้ผู้คนตกอยู่ในห้วงน้ำแข็ง
“ข้ามาที่นี่เพื่อส่งพวกเจ้าไปสู่ปรโลก”
สิ้นคำกล่าว ผู้อาวุโสหลายคนต่างคิดว่าตนเองคงฟังผิดไป
บุรุษผู้นี้เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับราชันปราชญ์ กลับกล้าพูดว่าจะส่งพวกเขาไปสู่ปรโลก ต่อหน้าราชันปราชญ์สี่คน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีราชันปราชญ์ระยะสูงสุดอีกหนึ่งคน
คนผู้นี้ คงมิใช่คนโง่กระมัง!
ท่านผู้อาวุโสใหญ่เจียวอวิ๋นเฟยมองเฟยเผิงที่อยู่ตรงหน้า มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะ
“วังสวรรค์ พวกหนูท่อที่ชอบหลบซ่อนตัว ในที่สุดก็ยอมปรากฏตัวออกมา”
“ข้าตามหาพวกเจ้ามานานแล้ว!”
“พวกเจ้าต้องการลอบสังหารข้า น่าเสียดาย ข้อมูลของพวกเจ้าช่างย่ำแย่ยิ่งนัก ส่งมาเพียงแค่ราชันปราชญ์หนึ่งคน อยากจะสังหารข้า ด้วยพลังเพียงเท่านี้คงมิอาจทำได้!”
สิ้นคำกล่าว เจียวอวิ๋นเฟยก็ปลดปล่อยพลังออกมา กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวดุจห้วงสมุทร พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ราวกับคลื่นยักษ์ซัดสาดทำลายทุกสิ่ง
ผู้อาวุโสของเผ่ามังกรเจียวอีกสามคนต่างก็ยืนแทบไม่อยู่ ต้องถอยร่นออกไป
พวกเขามองดูด้วยความยำเกรง นี่คือท่านผู้อาวุโสใหญ่ของพวกเขา ตบะของเขาก้าวสู่ระดับมหาปราชญ์แล้ว!
ทว่าเฟยเผิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกลับยืนนิ่ง มิสั่นคลอน
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย กล่าวว่า
“ตามที่ผู้อาวุโสใหญ่ต้องการ”
บัซ บัซ บัซ-
ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน
ชั่วพริบตาถัดมา ก็มีร่างเงาหลายร่างเดินออกมาอย่างเชื่องช้า
พวกเขาสวมชุดเกราะสีเงิน มือถือหอกสงคราม มีรูปลักษณ์และกลิ่นอายเหมือนกัน
“ปราชญ์ห้าสิบคน? เพียงเท่านี้ พวกเจ้าก็อยาก………”
ผู้อาวุโสของเผ่ามังกรเจียวคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ
ทว่าในชั่วพริบตาถัดมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป กลายเป็นเคร่งขรึม และในที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว
เพราะร่างเงาที่เดินออกมาจากความว่างเปล่า ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ห้าสิบ หนึ่งร้อย สองร้อย สามร้อย สี่ร้อย ห้าร้อย……
จำนวนยังคงเพิ่มขึ้น ทุกคนล้วนเป็นตัวตนระดับปราชญ์!
จนกระทั่งในที่สุด แม้แต่ท่านผู้อาวุโสใหญ่เจียวอวิ๋นเฟยที่เคยมั่นใจ ใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
แม้กระทั่งมีความหวาดกลัวปรากฏขึ้น
เพราะจำนวนปราชญ์ที่เดินออกมาจากความว่างเปล่า บรรลุถึงหนึ่งพันคนแล้ว!
“ปราชญ์หนึ่งพันคน นี่ นี่………”
เมื่อมองดูทหารสวรรค์หนึ่งพันคนที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า ร่างกายของพวกเขาเปล่งประกายเจิดจรัส สว่างไสวไปทั่วแผ่นดิน
แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ก็ยังคงเงียบงัน
ส่วนผู้อาวุโสเผ่ามังกรเจียวอีกสามคน ตอนนี้ร่างกายสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
ความหนาวเหน็บแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในชั่วพริบตา
นี่คือรัศมีกดดันของปราชญ์หนึ่งพันคน เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็สามารถสยบทุกสรรพสิ่ง พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทั่วเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน
แม้แต่ราชันปราชญ์ก็ยังคงยากที่จะสงบนิ่ง ภายในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แท้จริงแล้ว การสังหารผู้อาวุโสของเผ่ามังกรเจียวสี่คนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ทหารสวรรค์ระดับปราชญ์ถึงหนึ่งพันคน
เพียงแค่ส่งเฟยเผิงและนาจาไปก็เพียงพอแล้ว
แต่จี๋อวิ๋นไม่ชอบทำอะไรให้ยุ่งยาก ส่งหุ่นเชิดทหารสวรรค์หนึ่งพันคนไปกวาดล้างทุกสิ่งไม่ดีกว่าหรือ!
เขาไม่มีความคิดที่จะปิดบังความแข็งแกร่ง
แม้จะส่งทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายออกไปทั้งหมดก็ไม่เป็นไร
ท้ายที่สุดแล้ว เขามีระบบหุ่นเชิดเทพนิยาย ในอนาคตย่อมต้องมีไพ่ตายมากมาย
ไม่เพียงแค่ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายเท่านั้น
แม้แต่การสุ่มได้ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์หนึ่งแสนนาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อถึงเวลานั้น หุ่นเชิดทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายก็ไม่นับว่าเป็นอันใด
“สังหาร!”
คิดได้ดังนั้นจี๋อวิ๋นจึงไม่รีรอ ควบคุมหุ่นเชิดทหารสวรรค์หนึ่งพันนายโจมตีผู้อาวุโสเผ่ามังกรเจียวสี่คนที่อยู่ตรงกลางอย่างรุนแรง
ตู้ม!
ตัวตนระดับปราชญ์หนึ่งพันคนลงมือพร้อมกัน พลังทำลายล้างเกินกว่าจะจินตนาการได้ ราวกับดวงดาวนับหมื่นดวงตกลงมาจากฟากฟ้า ปกคลุมทั่วทั้งแผ่นดิน ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
ผู้อาวุโสเผ่ามังกรเจียวหลายคนสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัว ใบหน้าซีดเผือด แต่พวกเขาก็ไม่ยอมนั่งรอความตาย
ทั้งสี่ต่างคำรามลั่น แปรเปลี่ยนร่างกลับสู่ร่างเดิม กลายเป็นมังกรเจียวขนาดใหญ่หลายพันจั้ง พลังเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว ทำลายความว่างเปล่า
แต่น่าเสียดาย ทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์
หอกสงครามหนึ่งพันเล่มพุ่งเข้าใส่ ปลายหอกอันยิ่งใหญ่เจาะทะลุร่างมังกรเจียวขนาดใหญ่หลายพันจั้ง
เลือดสีแดงสดไหลทะลักลงมาจากท้องฟ้า ราวกับท้องนภากำลังร่ำไห้ สายฝนสีเลือดโปรยปรายลงมา ปกคลุมทั่วสารทิศ
สายฝนสีเลือดตกลงบนพื้นดิน ถูกพืชพรรณและดินดูดซับ ทำให้เกิดวิวัฒนาการ
เลือดของราชันปราชญ์เปรียบเสมือนยาวิเศษ
ปุ! ปุ! ปุ!……
ปลายหอกยังคงพุ่งเข้าใส่ ทำให้ร่างมังกรเจียวหลายร่างแตกสลาย ไม่อาจต้านทานได้
แต่ราชันปราชญ์ไหนเลยจะตายง่ายเพียงนั้น แม้ว่าร่างกายจะถูกทำลาย แต่ดวงวิญญาณยังคงอยู่
ในเวลานี้ ดวงวิญญาณของผู้อาวุโสสามคนถอยร่นไปยังข้างกายของท่านผู้อาวุโสใหญ่
“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ พวกเราจะทำเช่นไรดี!”
ผู้อาวุโสทั้งสามต่างสิ้นหวัง ต่อหน้าปราชญ์หนึ่งพันคน พวกเขาไม่อาจต้านทานได้แม้แต่ครั้งเดียว
ทันใดนั้นดวงตาของท่านผู้อาวุโสใหญ่เจียวอวิ๋นเฟยก็เผยความโหดเหี้ยมออกมา เขายื่นมือออกไป คว้าดวงวิญญาณของผู้อาวุโสสามคนไว้ในมือ
“ท่านผู้อาวุโสใหญ่!”
“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ ท่านต้องการทำอะไร!”
“ง่ายมาก ข้าจะขอยืมดวงวิญญาณของพวกเจ้ามาใช้!” ท่านผู้อาวุโสใหญ่เจียวอวิ๋นเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ชั่วพริบตาถัดมา เขาก็ใช้วิชาลับ ลบสติสัมปชัญญะของผู้อาวุโสสามคน จากนั้นโยนดวงวิญญาณทั้งสามไปยังทหารสวรรค์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“ระเบิด!”
เสียงคำรามแผ่วเบาดังขึ้น ทันใดนั้นดวงวิญญาณทั้งสามก็เปล่งประกายเจิดจ้า จากนั้นก็ระเบิดกลางอากาศ!
ตู้ม—!
ราวกับดวงอาทิตย์เก้าดวงบนท้องฟ้าระเบิดออก แสงสว่างและความร้อนแผ่กระจายออกไป กวาดล้างทุกสิ่ง ทำลายทุกสิ่ง สังหารทุกสิ่ง!
ดวงวิญญาณระดับราชันปราชญ์สามดวงระเบิดตัวเอง พลังทำลายล้างเกินกว่าจะจินตนาการได้
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่าง ล้วนถูกทำลาย!
ทว่าท่ามกลางพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ไข่มุกวิเศษดวงหนึ่งกลับพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เปล่งประกายสีทอง ปกป้องตนเองจากพลังทำลายล้าง
ภายในไข่มุกวิเศษดวงนี้ คือท่านผู้อาวุโสใหญ่เจียวอวิ๋นเฟย!
