ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 20 วังสวรรค์มีบัญชา
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 20 วังสวรรค์มีบัญชา
“ห้าสิบ หนึ่งร้อย สองร้อย สามร้อย………”
ณ ลานกว้าง
กู้ชิงเฟิงมองดูทหารสวรรค์ชุดเกราะสีเงินที่เดินออกมาทีละคน รู้สึกราวกับว่าดวงวิญญาณของเขากำลังสั่นสะท้าน เสมือนหนึ่งฝันไป
ทหารสวรรค์ห้าร้อยนาย เทียบเท่าปราชญ์ห้าร้อยคน ปรากฏตัวพร้อมกันบนท้องฟ้า
ชั่วขณะนั้น เก้าสวรรค์ชั้นฟ้าปั่นป่วน ฟ้าดินแปรปรวน
แม้แต่แสงสว่างของดวงอาทิตย์ยังดูเลือนรางภายใต้อิทธิฤทธิ์ของปราชญ์ห้าร้อยคน!
“เช่นนี้… สามารถสังหารมหาปราชญ์ได้หรือไม่?”
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงชี้ไปยังทหารสวรรค์ห้าร้อยนายที่ปรากฏตัวขึ้น เอ่ยถาม
กู้ชิงเฟิงไม่อาจเอ่ยวาจาใด ๆ ออกมา ถูกความตกตะลึงทำลายจนหมดสิ้น
ชายชราไป๋อวี่ก็เช่นกัน
ปราชญ์ห้าร้อยคนปรากฏตัวพร้อมกัน สร้างความตื่นตะลึงเกินกว่าจะรับไหว!
ไม่ว่าผู้ใดได้พบเห็น ล้วนยากที่จะสงบนิ่ง
ส่วนเรื่องที่ว่าสามารถสังหารมหาปราชญ์ได้หรือไม่ พูดตามตรง พวกเขาไม่รู้
ผู้แข็งแกร่งระดับนั้นมิใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถคาดเดาได้!
จี๋อวิ๋นไม่ได้คาดหวังว่ากู้ชิงเฟิงและไป๋อวี่จะตอบคำถามนี้ เขาเพียงแค่ต้องการโอ้อวดเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าทหารสวรรค์ห้าร้อยนายจะไม่สามารถสังหารมหาปราชญ์ได้ ก็ไม่เป็นไร
หากห้าร้อยนายยังไม่พอ ก็เพิ่มอีกห้าร้อยนาย!
“เผ่ามังกรเจียว หวังว่าพวกเจ้าจะอยู่รอดได้นานสักหน่อย………”
จี๋อวิ๋นพึมพำกับตัวเอง
ในเมื่ออีกฝ่ายส่งตัวเองมาถึงที่ หากไม่ใช้โอกาสนี้สร้างชื่อเสียงให้กับวังสวรรค์ คงไม่สมเหตุสมผล
การสร้างชื่อเสียงครั้งแรก จี๋อวิ๋นจะไม่รีรอ
หากลงมือแล้ว ก็ต้องลงมืออย่างรวดเร็ว เด็ดขาด ไร้ความปราณี
เผ่ามังกรเจียวของเจ้าไม่ใช่เผ่าราชันสัตว์เทพ แต่กลับมีเผ่าโบราณห้าเผ่าอยู่เบื้องหลังเช่นนั้นหรือ
ดี เช่นนั้นข้าจะตัดแขนตัดขาพวกเจ้า ทำลายเผ่าโบราณทั้งห้าเสียก่อน
จากนั้นจึงค่อยสังหารสมาชิกของเผ่าที่อยู่นอกเผ่า บีบให้พวกเจ้าต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในฐานที่มั่น ไม่กล้าออกมา
สุดท้ายค่อยยกทัพไปปิดล้อม จับพวกเจ้าทั้งหมด!
ทำลายล้างอย่างรวดเร็ว ไร้ผู้ต่อต้าน!
คิดแล้วก็ลงมือทำทันที จี๋อวิ๋นสั่งการให้กู้ชิงเฟิงออกไปรวบรวมข้อมูล
สืบหาที่ตั้งของเผ่าโบราณทั้งห้า ตำแหน่งของสมาชิกเผ่ามังกรเจียวทุกคนที่อยู่ภายนอก
ส่งทหารสวรรค์ออกไปปิดล้อมสังหารในสถานที่ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน
ต้องไม่ให้พวกเขามีโอกาสได้ตอบโต้!
เมื่อพวกเขารู้ตัว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว!
“หลังจากวันนี้ ข้าจะทำให้ชื่อเสียงของวังสวรรค์โด่งดังไปทั่วมณฑลเทพจงถู!”
จี๋อวิ๋นมองไปยังท้องฟ้าไกลโพ้น เอ่ยขึ้น
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
………………
เวลาผ่านไปครึ่งเดือน แม้ว่าเผ่ามังกรเจียวและเผ่าโบราณทั้งห้าจะออกตามหาวังสวรรค์อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับไร้ผล
ไม่เพียงแต่ไม่พบที่ตั้งของวังสวรรค์ แม้แต่ข่าวคราวก็ยังไม่มี
ราวกับว่าขุมอำนาจวังสวรรค์แห่งนี้ได้หายไปจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง
ในเวลาเดียวกัน บนก้อนเมฆกลุ่มหนึ่ง มีเงาร่างสีเงินยืนอยู่
ผู้นำคือเฟยเผิงและนาจา ข้าง ๆ มีกู้ชิงเฟิงยืนอยู่
แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นทหารสวรรค์ชุดเกราะสีเงินจำนวนมากมายมหาศาล เขาก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างสั่นสะท้าน
“สืบหาข้อมูลได้อย่างไรบ้าง?”
ในเวลานั้น จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิง เอ่ยถาม
“ผู้อาวุโสเฟยเผิง ข้าและอาจารย์ได้สืบหาข้อมูลมาพอสมควรแล้ว ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในจี้หยกนี้ เชิญตรวจสอบ”
กู้ชิงเฟิงหยิบจี้หยกออกมา
เพื่อที่จะเกาะต้นขาของวังสวรรค์แห่งนี้ให้มั่น กู้ชิงเฟิงที่เป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่
เขาและชายชราไป๋อวี่ได้ทำงานอย่างหนัก รวบรวมข้อมูลให้กับวังสวรรค์ ทำหน้าที่เป็นสายลับ
เฟยเผิงรับจี้หยกมา ใช้จิตตระหนักรู้ตรวจสอบ ทันใดนั้น ข้อมูลมากมายก็หลั่งไหลเข้ามา
ข้อมูลนั้นละเอียดมาก รวมถึงจำนวนยอดฝีมือของเผ่าโบราณทั้งห้า สถานที่ตั้ง รวมไปถึงสมาชิกของเผ่ามังกรเจียวที่อยู่นอกเผ่า
ไม่เพียงแต่มีการระบุตำแหน่งอย่างชัดเจน แม้แต่ชื่อก็ยังมี
“ไม่เลว”
แม้แต่จี๋อวิ๋นยังรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ากู้ชิงเฟิงจะมีความสามารถเช่นนี้
“ดีมาก หลังจากเรื่องนี้เสร็จสิ้น ข้าจะรายงานเบื้องบน ขอมอบรางวัลให้กับพวกเจ้า”
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิง กล่าว
“ขอบพระคุณผู้อาวุโสเฟยเผิง!”
กู้ชิงเฟิงและชายชราไป๋อวี่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากเข้าร่วมวังสวรรค์มาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ได้สร้างผลงาน!
“ต่อไปพวกเจ้าก็ยังคงสืบหาข้อมูลต่อไป หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ให้แจ้งพวกเราผ่านยันต์ในทันที”
ยันต์นั้นก็คือป้ายประจำตัวของทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์แห่งวังสวรรค์
หลังจากที่จี๋อวิ๋นปรับปรุงเล็กน้อย ก็กลายเป็นเครื่องมือสื่อสาร
จี๋อวิ๋นมอบให้กับกู้ชิงเฟิงและไป๋อวี่เพื่อความสะดวกในการติดต่อ
“เข้าใจแล้ว” กู้ชิงเฟิงพยักหน้า
จากนั้นจี๋อวิ๋นก็ควบคุมเฟยเผิง นาจา และหุ่นเชิดทหารสวรรค์ห้าร้อยนาย เริ่มออกเดินทางตามข้อมูลที่อยู่ในจี้หยก
เริ่มต้นการสังหารอย่างเต็มรูปแบบ!
พายุเงียบสงบเริ่มก่อตัว
เมื่อมองดูสมาชิกวังสวรรค์ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย กู้ชิงเฟิงกล่าวอย่างเศร้าสร้อย “เผ่ามังกรเจียว… กำลังจะจบสิ้นแล้ว”
“ไม่เพียงเท่านั้น การที่วังสวรรค์ปรากฏตัวในโลกนี้ สมดุลที่คงอยู่มานานนับพันปีก็จะถูกทำลาย”
“ยิ่งไปกว่านั้น วังสวรรค์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ขุมอำนาจโบราณแห่งยุคอมตะจะปรากฏตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง ความวุ่นวาย… กำลังจะมาถึง!”
เสียงของชายชราไป๋อวี่ดังขึ้น เต็มไปด้วยความกังวล
“ศิษย์รัก กระแสแห่งยุคสมัยไม่อาจต้านทานได้ ใต้กระแสธารอันยิ่งใหญ่นี้ เป็นทั้งความท้าทายและโอกาส เจ้ามีโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ ได้เข้าร่วมวังสวรรค์ล่วงหน้า ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่น”
“อนาคตเจ้าจะต้องก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด!”
“ขอรับ” กู้ชิงเฟิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ศิษย์เข้าใจแล้ว”
จากนั้นเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว เดินทางไปสืบหาข้อมูลต่อไป
………………
ณ เมืองหมาป่าสวรรค์ เป็นดินแดนอันทรงเกียรติ เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ราชันปราชญ์หมาป่าสวรรค์สร้างขึ้น
ตามตำนาน ราชันปราชญ์หมาป่าสวรรค์ผู้นี้เดิมทีเป็นเพียงหมาป่าขาวธรรมดาที่ตรัสรู่มรรค
แม้ว่าจะไม่ใช่เผ่าสัตว์เทพโบราณ แต่เนื่องจากเขาบรรลุระดับราชันปราชญ์ จึงได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าหมาป่าโลหิต
วันนี้เป็นวันครบรอบพันปีของราชันปราชญ์หมาป่าสวรรค์หลังจากที่แปลงร่างเป็นมนุษย์
ดังนั้นจึงมีผู้คนจากหลายขุมอำนาจเดินทางมาอวยพร
ในบรรดาแขกเหรื่อมีปราชญ์หลายคน เป็นงานเลี้ยงที่หาได้ยากยิ่ง
ในเวลานี้ ภายในพระราชวังที่หรูหราที่สุดของเมืองหมาป่าสวรรค์มีผู้คนหลายร้อยคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่
พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือจากขุมอำนาจต่าง ๆ มีทั้งผู้ทรงอำนาจระดับก่อมรรค ราชัน และปราชญ์
ในบรรดาคนเหล่านี้ มีสองร่างที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
หนึ่งคือเจ้าของงานเลี้ยงในวันนี้ ราชันปราชญ์หมาป่าสวรรค์
สวมชุดยาวสีขาว มีบุคลิกสง่างามดุจบัณฑิต
ส่วนอีกร่างหนึ่ง มีบุคลิกที่น่าเกรงขามยิ่งกว่า
รูปร่างกำยำ ใบหน้าดูน่าเกรงขาม สวมชุดคลุมสีแดงเลือด ดวงตาและเส้นผมเป็นสีแดงเลือด ร่างกายล้อมรอบด้วยแสงสีเลือด ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ราวกับเทพแห่งโลหิตจุติ
เขาคือผู้นำเผ่าหมาป่าโลหิต เป็นถึงราชันปราชญ์เช่นกัน
ในเวลานี้ ผู้นำเผ่าหมาป่าโลหิตกำลังร่ำสุรากับราชันปราชญ์หมาป่าสวรรค์ พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
“วังสวรรค์นั่นไม่มีข่าวคราวเลย คงจะกลัวเผ่ามังกรเจียวจนต้องหลบซ่อนตัวเป็นเต่าหดหัวแล้วกระมัง”
“ข้าคิดว่าไม่ต้องให้เผ่ามังกรเจียวลงมือ เพียงแค่ราชันหมาป่าโลหิตผู้นี้ก็สามารถทำลายวังสวรรค์ได้แล้ว!”
คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความโอหังและเย่อหยิ่ง
คนอื่น ๆ ไม่เพียงแต่ไม่แสดงความไม่พอใจ กลับรู้สึกยำเกรงยิ่งนัก
ราชันปราชญ์หนึ่งคน เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือพวกเขามากนัก
ในขณะที่ราชันปราชญ์หมาป่าสวรรค์กำลังจะตอบกลับ
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากท้องฟ้าเบื้องบน ราวกับเป็นเสียงของโลก
“วังสวรรค์มีบัญชา ให้ประหารราชันหมาป่าโลหิต!”