ตอนที่แล้วระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 18 ความยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 20 วังสวรรค์มีบัญชา

ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 19 วังสวรรค์ประกาศศึก


ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 19 วังสวรรค์ประกาศศึก

ในขณะเดียวกัน

เผ่ามังกรเจียวเริ่มต้นส่งยอดฝีมือออกตามหาวังสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่

ในตอนแรกพวกเขาส่งเพียงแค่คนในเผ่าออกไป แต่กลับไร้ผล

ผู้นำเผ่ามังกรเจียวจึงออกคำสั่งให้เผ่าโบราณทั้งห้าที่อยู่ใต้บังคับบัญชาออกตามหา

ในฐานะเผ่าราชันสัตว์เทพ แน่นอนว่าย่อมต้องมีเผ่าพันธมิตร

ได้แก่ งูเก้านรก งูหลามฟ้าครามโบราณ งูทอง หมาป่าโลหิต และราชสีห์สามหัว

เผ่าโบราณทั้งห้า แม้ว่าจะด้อยกว่าเผ่ามังกรเจียว แต่ละเผ่าก็มีราชันปราชญ์หนึ่งคนประจำการ หากเทียบกับเผ่ามนุษย์ก็คือขุมอำนาจระดับสี่ ไม่อาจมองข้ามได้

ขุมอำนาจระดับสี่ห้าแห่ง บวกกับเผ่ามังกรเจียวที่เทียบเท่าขุมอำนาจระดับสาม

การเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้ ย่อมต้องก่อให้เกิดความวุ่นวายในมณฑลเทพจงถู

ขณะที่สิ่งมีชีวิตในมณฑลเทพจงถูต่างก็สงสัย ข่าวลือก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

“ได้ยินหรือไม่! เจียวฮ่าวเทียน บุตรแห่งสวรรค์ของเผ่ามังกรเจียว และราชันปราชญ์หนึ่งคนล้วนสิ้นชีพแล้ว”

“นั่นมันข่าวเก่าแล้ว ข่าวล่าสุดคือผู้ที่สังหารเจียวฮ่าวเทียนและราชันปราชญ์ของเผ่ามังกรเจียว คือขุมอำนาจที่ชื่อว่าวังสวรรค์!”

“วังสวรรค์? นี่คือขุมอำนาจใด เหตุใดจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน”

“ข้าก็ไม่เคยได้ยินเช่นกัน ดูเหมือนว่าเพิ่งปรากฏตัวออกมา แต่กล้าไปยั่วโมโหเผ่ามังกรเจียว คงจะไม่รอดแน่แท้”

“…………”

สิ่งมีชีวิตในมณฑลเทพจงถูต่างก็ไม่เชื่อมั่นในวังสวรรค์ เพราะขุมอำนาจนี้ไม่มีชื่อเสียง

แม้ว่าจะสังหารราชันปราชญ์ได้หนึ่งคน แสดงว่ามิใช่ขุมอำนาจเล็ก ๆ

แต่เมื่อเทียบกับเผ่ามังกรเจียวที่ยิ่งใหญ่มาช้านาน ก็ยังคงเทียบกันไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่มหาปราชญ์หนึ่งคนก็เพียงพอที่จะครอบครองแผ่นดิน ปราบปรามผู้ที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ได้ทั้งหมด

………………

อีกด้านหนึ่ง

ณ ดินแดนเผ่ามนุษย์ พันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์

มีลำแสงรัศมีล้อมรอบยอดเขาวิญญาณ สายรุ้งเคียงข้างผืนดินศักดิ์สิทธิ์ ทะเลสาบสีเขียวขจีระเหยเป็นไอหมอก ราวกับภาพวาด

มองจากที่ไกล แฝงความยิ่งใหญ่ไว้ในความงดงาม

น้ำตกสีเงินสามพันสาย ภูเขามหึมาแปดพันลูก ยิ่งใหญ่ตระการตา ราวกับแดนสวรรค์อันงดงาม

ในเวลานี้ ภายในโถงใหญ่ที่ตกแต่งด้วยทองคำอย่างหรูหรา

ปรากฏร่างเงากว่าสิบร่างที่มีกลิ่นอายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล

พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง ไม่อาจมองข้าม ทุกคนล้วนเป็นมหาปราชญ์

คนที่อ่อนแอที่สุดก็มีตบะระดับมหาปราชญ์ขั้นหนึ่ง ส่วนคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็บรรลุถึงระดับมหาปราชญ์ขั้นเก้า

พวกเขาคือสมาชิกสภาผู้อาวุโสของพันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์ มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ

หากสามารถเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ ล้วนเป็นขุมอำนาจระดับหนึ่ง

ไม่เพียงแต่มีกึ่งเทพประจำการ แต่ยังมีอาวุธเทพยอดมรรคาไว้ป้องกัน เป็นกลุ่มขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในมณฑลเทพจงถู!

ในเวลานี้ ยอดฝีมือระดับมหาปราชญ์ขั้นหนึ่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวกล่าวขึ้น

“ก่อนหน้านี้ ตามรายงานของประมุขทั้งสามจากโถงหัวใจศักดิ์สิทธิ์ ศาลาดาบสวรรค์ และสำนักเมตตาครรไล ผู้ที่ทำลายสำนักวิญญาณชาดก็คือขุมอำนาจที่ชื่อว่าวังสวรรค์”

“ยิ่งไปกว่านั้น คาดการณ์เบื้องต้นว่าวังสวรรค์แห่งนี้มียอดฝีมือระดับปราชญ์ถึงยี่สิบคน”

สิ้นคำพูด บรรดามหาปราชญ์ที่อยู่ตรงนั้นต่างก็รู้สึกประหลาดใจ

“ปราชญ์ยี่สิบคน? นี่เทียบเท่าขุมอำนาจระดับสี่แล้ว เผ่ามนุษย์ของพวกเรา เหตุใดจึงมีขุมอำนาจเช่นนี้ปรากฏขึ้น”

“คาดว่าคงเป็นขุมอำนาจที่ปิดซ่อนตัวมากระมัง ไม่แน่ว่าขุมอำนาจเผ่ามนุษย์ทั้งหมดจะยอมเข้าร่วมพันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อรับการจัดอันดับ”

“ตอนนี้วังสวรรค์แห่งนี้กำลังเป็นศัตรูกับเผ่ามังกรเจียว พวกเราจะช่วยเหลือหรือไม่”

“รอดูสถานการณ์ก่อน หากวังสวรรค์แห่งนี้ต้านทานไม่ไหว ค่อยช่วยเหลือ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาก็ย่อมยอมสวามิภักดิ์”

“ตกลง”

“เห็นด้วย”

หากเป็นขุมอำนาจที่สังกัดพันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาย่อมต้องช่วยเหลือ

แต่ในเมื่อไม่ใช่ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกระตือรือร้น

ใช้เผ่ามังกรเจียวเป็นเครื่องมือในการปราบปรามวังสวรรค์แห่งนี้ก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรเสีย ปราชญ์ยี่สิบคนก็นับว่าเป็นขุมอำนาจที่ดี

……………

ณ วังสวรรค์

ตู้ม!

ภายในโถงใหญ่

พร้อมกับเสียงคำราม จี๋อวิ๋นที่นั่งขัดสมาธิอยู่ กลิ่นอายรอบกายก็พลันเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว

ครู่ต่อมา เขาระงับความผันผวนของพลัง เปิดเปลือกตา ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี

“บรรลุระดับวิญญาณก่อกำเนิดแล้ว”

ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนเขาก็ตามทันกู้ชิงเฟิงที่บำเพ็ญมานานเก้าปี

หากกู้ชิงเฟิงรู้เรื่องนี้ คงจะร้องไห้จนสิ้นสติ

เวรเอ๊ย ข้าเป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์ แต่หลังจากเข้าร่วมวังสวรรค์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็แข็งแกร่งกว่าข้า!

นี่คือความน่ากลัวของกายาเทพมารปฐมกาล

ทำให้พรสวรรค์ของจี๋อวิ๋นแข็งแกร่งถึงขีดสุด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีวิชาบำเพ็ญกายาเทพมารปฐมกาล ไม่ว่าจะเป็นพระสูตรปราชญ์ พระสูตรจักรพรรดิ หรือพระสูตรเซียน ต่างก็เทียบกันไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงยอดอัจฉริยะของโลกเบื้องล่างหรือกายาเทพสูงสุด แม้แต่ในโลกเบื้องบน ไม่ว่าจะเป็นกระดูกราชันเซียนหรือกายาราชาอสูร ต่างก็เป็นเพียงเศษธุลีดิน

“น่าเสียดายที่ปราณวิญญาณในโลกเบื้องล่างมีคุณภาพต่ำเกินไป ทำให้ความเร็วในการบำเพ็ญของข้าลดลง”

จี๋อวิ๋นกล่าวในใจ

หากอยู่ในโลกเบื้องบน ด้วยพรสวรรค์ของเขา ความเร็วในการบำเพ็ญจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกันแล้ว โลกเบื้องล่างย่อมปลอดภัยกว่า

สิ่งมีชีวิตโบราณในโลกเบื้องบน เพื่อที่จะทะลวงผ่านระดับที่สูงขึ้น มักจะออกตามหากายาเทพสูงสุด นำมาหลอมรวมและดูดซับ

หากไม่มีขุมอำนาจหรือผู้ยิ่งใหญ่คอยหนุนหลัง การมีกายาเทพสูงสุดไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้แข็งแกร่งขึ้น แต่กลับนำมาซึ่งหายนะ

ไม่ว่าจะเป็นโลกอสูร โลกมาร หรือโลกเซียน ต่างก็เหมือนกัน

ดังนั้น หากจี๋อวิ๋นต้องการกลับไปยังโลกเบื้องบน อย่างน้อยก็ต้องมียอดฝีมือระดับปราชญ์จำนวนมาก

มิเช่นนั้นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการแก้แค้น แม้แต่ความปลอดภัยของตนเองก็ยังเป็นปัญหา

ในเวลานี้ เขารู้สึกถึงความเคลื่อนไหว จึงควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิง

บนลานกว้าง กู้ชิงเฟิงดูเหนื่อยหอบ ดูเหมือนว่าเพิ่งกลับมาจากข้างนอก

“ผู้อาวุโสเฟยเผิง ตอนนี้ข้างนอกกำลังพูดถึงเรื่องของเผ่ามังกรเจียวและวังสวรรค์”

“ยิ่งไปกว่านั้น เผ่ามังกรเจียวยังประกาศตามหาวังสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่ และประกาศว่าหากพบเจอวังสวรรค์ จะทำลายล้างให้สิ้นซาก นำศีรษะของยอดฝีมือวังสวรรค์ไปแขวนไว้บนกำแพงเมือง เป็นการสั่งสอน!”

เมื่อจี๋อวิ๋นได้ยินคำพูดของกู้ชิงเฟิง ดวงตาของเขาก็หรี่ลง มีจิตสังหารแผ่กระจายออกมา

ในเมื่ออีกฝ่ายประกาศศึกเช่นนี้ เขาย่อมต้องตอบโต้

ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นโอกาส

โอกาสในการประกาศเกียรติศักดิ์ของวังสวรรค์ให้โลกรู้!

“ผู้อาวุโสเฟยเผิง พวกเราจะทำอย่างไรดี” กู้ชิงเฟิงเอ่ยถาม

“วังสวรรค์มิอาจถูกดูหมิ่น มีเพียงคำเดียวเท่านั้น สังหาร!”

จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงกล่าว

สิ้นคำว่า ‘สังหาร’ อุณหภูมิของอากาศก็ลดลงอย่างรวดเร็ว กู้ชิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะหดคอ

“แต่ผู้อาวุโสเฟยเผิง ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าเนื่องจากข้อจำกัด ยอดฝีมือของวังสวรรค์เก้าส่วนในสิบยังไม่ฟื้นคืนชีพ ตอนนี้มีเพียงท่านกับใต้เท้านาจาที่ตื่นขึ้น”

“ส่วนเผ่ามังกรเจียว เป็นถึงเผ่าราชันสัตว์เทพ มีมหาปราชญ์ประจำการ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเผ่าพันธมิตรอีกห้าเผ่า แต่ละเผ่าก็แข็งแกร่งไม่น้อย มีราชันปราชญ์ประจำการ คงจะ…”

กู้ชิงเฟิงอดกังวลไม่ได้

แม้ว่าวังสวรรค์จะแข็งแกร่ง แต่วังสวรรค์ในตอนนี้มีเพียงเฟยเผิงและนาจาที่ตื่นขึ้น

การเผชิญหน้ากับเผ่ามังกรเจียวโดยตรง คงจะไม่เหมาะสม

“เด็กน้อย แม้ว่ายอดฝีมือของวังสวรรค์ส่วนใหญ่จะยังไม่ฟื้นคืนชีพ แต่ยังมีทหารสวรรค์อยู่ มหาปราชญ์ก็หาได้เป็นอันใดไม่”

จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงกล่าว

“แต่ทหารสวรรค์มิใช่ระดับปราชญ์หรือ”

กู้ชิงเฟิงอดสงสัยไม่ได้ “แม้ว่าจะมีทหารสวรรค์ยี่สิบคน สามารถต่อกรกับราชันปราชญ์ได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมหาปราชญ์…”

ความแข็งแกร่งของมหาปราชญ์ อย่าว่าแต่ปราชญ์ยี่สิบคน แม้แต่ห้าสิบคนก็ยังยากที่จะต่อกร

“ใครบอกเจ้าว่ามีทหารสวรรค์เพียงยี่สิบคน”

หลังจากจี๋อวิ๋นควบคุมเฟยเผิงกล่าวจบ

ทันใดนั้น ท่ามกลางสีหน้าที่ตกตะลึงของกู้ชิงเฟิง

ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า ร่างเงาชุดเกราะสีเงินก้าวออกมาทีละคน ทีละคน

จำนวนของพวกเขามากกว่าห้าสิบคนมาก!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด