ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 16 เลี้ยงหม้อไฟ
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 16 เลี้ยงหม้อไฟ
ในขณะนี้ กู้ชิงเฟิงจึงได้ประจักษ์แจ้ง
เหตุใดใต้เท้านาจาถึงได้มีท่าทีองอาจผ่าเผยแม้ต้องเผชิญหน้ากับราชันปราชญ์
มิใช่เพราะความไร้เดียงสา มิใช่เพราะลูกวัวไม่กลัวเสือ
แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายหาได้หวั่นเกรงราชันปราชญ์ไม่!
กู้ชิงเฟิงจ้องมองเด็กหนุ่มรูปงามที่มีแววตาเย็นชา พลันคาดเดาขึ้นมาว่า นี่อาจเป็นร่างจริงของใต้เท้านาจา
แม้ว่าจะมิใช่รูปลักษณ์เด็กน้อยอายุเจ็ดแปดขวบดังเช่นก่อนหน้า แต่นั่นยิ่งทำให้กู้ชิงเฟิงรู้สึกตกตะลึงยิ่งกว่า
อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่กลับเป็นถึงยอดฝีมือระดับราชันปราชญ์!
เขากลับอยากให้อีกฝ่ายเป็นเด็กน้อยอายุเจ็ดแปดขวบที่บรรลุถึงระดับปราชญ์ มิใช่วัยรุ่นเช่นนี้ที่เป็นถึงราชันปราชญ์
เพราะก่อนหน้านั้นเขายังพอทำใจยอมรับได้
แต่ในตอนนี้ เมื่อทุกคนอยู่ในช่วงวัยเดียวกัน ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันจึงเห็นได้ชัด
ทุกคนล้วนเป็นวัยรุ่น เขาเป็นเพียงแค่ผู้อ่อนแอในระดับวิญญาณก่อกำเนิด
ส่วนนาจา กลับกลายเป็นราชันปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่เหนือผืนพิภพ!
กู้ชิงเฟิงกำลังตกตะลึงจนลืมไปว่าแท้จริงแล้วมีคนรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเขา
ชายชราไป๋อวี่บำเพ็ญเพียรมาทั้งชีวิตกลับบรรลุถึงเพียงระดับปราชญ์
ในตอนนี้กลับถูกเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีสยบอย่างง่ายดาย บรรลุถึงระดับที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต
ความปวดร้าวเช่นนี้ ช่างหนักหนาสาหัสยิ่งนัก!
โชคดีที่ชายชราไป๋อวี่มีจิตใจเข้มแข็ง หากเป็นผู้อื่นที่อายุน้อยกว่า คงสติแตกไปนานแล้ว
………………
อีกด้านหนึ่ง เบื้องบนท้องฟ้า
ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวจ้องมองนาจาที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“รา… ราชันปราชญ์ ราชันปราชญ์ที่อายุน้อยเช่นนี้!?”
ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวที่เคยโอหังอวดดี ในตอนนี้กลับมีแววตาหวาดกลัว
เขาใช้ชีวิตมานานเช่นนี้กลับไม่เคยพบเห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อน!
ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวยังสัมผัสได้ว่าสมบัติเวททั้งสี่ชิ้นที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงอาวุธปราชญ์ ในตอนนี้กลับกลายเป็นอาวุธราชันปราชญ์!
นั่นคืออาวุธราชันปราชญ์!
เขาในฐานะราชันปราชญ์ของเผ่ามังกรเจียวก็มีเพียงอาวุธราชันปราชญ์หนึ่งชิ้นเท่านั้น
เด็กหนุ่มราชันปราชญ์ผู้นี้กลับมีถึงสี่ชิ้น!
วังสวรรค์แห่งนี้ แท้จริงแล้วเป็นขุมอำนาจที่น่ากลัวเพียงใดกัน!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวก็รู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วร่าง
……
“นี่คือ… นาจาที่ตื่นรู้อย่างสมบูรณ์เช่นนั้นหรือ”
จี๋อวิ๋นพึมพำกับตัวเอง เขาสัมผัสถึงหุ่นเชิดนาจาที่อยู่ในสภาวะสมบูรณ์ มุมปากเผยรอยยิ้ม
เขาเงยหน้าขึ้นมองราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวที่อยู่บนท้องฟ้าที่มีสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะเลียนแบบน้ำเสียงโอหังของนาจาเอ่ยว่า
“สัตว์เลื้อยคลาน หวังว่าเจ้าจะทำให้ข้า… สนุกได้”
สิ้นคำกล่าว
จี๋อวิ๋นก็ควบคุมหุ่นเชิดนาจา สะบัดหอกอัคคีในมือ
แสงสว่างอันเจิดจรัสรวมตัวกัน พุ่งทะยานขึ้นไป
ตู้ม!
ความว่างเปล่าระเบิดออก เสียงดังกึกก้อง
เร็วยิ่งกว่าแสง ยิ่งกว่าประกายไฟ!
ฉึก!
กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ที่บดบังท้องฟ้าพลันแตกสลาย ปรากฏเลือดสาดกระเซ็น
แสงหอกมิได้หยุด พุ่งทะลวงไปยังราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียว
อีกฝ่ายมิได้นิ่งเฉย คิ้วของเขากระพริบ กระบี่มังกรพุ่งออกมา แผ่รัศมีอันเกรียงไกร นั่นคืออาวุธราชันปราชญ์ของเขา
มีนามว่า กระบี่มังกรขนด!
เคร้ง!
ทั้งสองปะทะกัน ดุจดั่งฟ้าผ่าลงมาท่ามกลางเปลวเพลิง
ตู้ม!
ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวกระจายออกไปทั่วสารทิศ
เทือกเขาที่อยู่ไกลออกไปต่างพังทลาย
ภายในรัศมี สรรพสัตว์ล้มตาย ไร้ซึ่งชีวิต
ตู้ม!
สุดท้ายก็มีเสียงดังสนั่น
กระบี่มังกรขนดของราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวส่งเสียงสั่นไหว รัศมีเลือนราง แตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ต้องหนี!”
เมื่อเห็นอาวุธราชันปราชญ์ที่เขาหลอมขึ้นมาเป็นพันปีถูกทำลายในพริบตา
ราชันปราชญ์ผู้นี้ก็มีแววตาหวาดกลัว ไร้ซึ่งเจตจำนงต่อสู้
อาศัยพลังที่ปะทะกัน เขารีบแปรเปลี่ยนร่างกลับสู่ร่างเดิม
กลายเป็นมังกรเจียวสีเขียวขนาดพันจั้ง คำรามเสียงดังก่อนจะบินหนีไป
“คิดจะหนีต่อหน้าข้าหรือ? แม้แต่อ๋องสามแห่งทะเลตะวันออกยังทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัตว์เลื้อยคลานเช่นเจ้า!”
“ผ้าแพรป่วนฟ้า จับมันไว้!”
เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งดังก้องราวกับมาจากขุมนรก
ในชั่วขณะถัดมา ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวก็รู้สึกถึงพันธนาการ
เขาก้มลงมอง พบว่าร่างกายของเขาถูกผ้าสีแดงที่ดูราวกับมังกรพันรอบตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ผ้าสีแดงนี้มิได้พันธนาการร่างกายเท่านั้น ยังผนึกพลังเวททั้งหมดของเขาไว้ภายใน
ในตอนนี้ ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวมิอาจใช้พลังใด ๆ ได้
ฉึก!
ในชั่วขณะถัดมา ปลายหอกที่ล้อมรอบด้วยเปลวเพลิงก็ขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าต่อตา
“ไม่! ไม่!”
เงาแห่งความตายปกคลุม
ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวคำรามอย่างบ้าคลั่ง แต่ร่างกายถูกผนึก ทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์
ฉึก!
หอกอัคคีเทียบกับร่างกายของมังกรเจียวขนาดพันจั้งแล้ว เล็กจ้อยราวกับไม้จิ้มฟัน
แต่เพียงการโจมตีครั้งเดียวก็สามารถทะลวงผ่านร่างกาย พรากชีวิตของเขาไป!
ติ๊ง!
[สังหารราชันปราชญ์หนึ่งคน ได้รับ 1,000 แต้มการบำเพ็ญ!]
……………
อีกด้านหนึ่ง แสงสีทองปกป้องกู้ชิงเฟิง ทำให้เขามิได้รับผลกระทบจากการต่อสู้
ในตอนนี้เขามองดูที่ไกลออกไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย
เห็นเพียงนาจาที่กลับสู่รูปลักษณ์น่ารักน่าชัง ลากร่างไร้วิญญาณของมังกรเจียวขนาดใหญ่เดินตรงมายังเขาอย่างสบายอารมณ์
ภาพเช่นนี้ ช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก!
“ราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียว ตกตาย… ไปเช่นนี้!?”
กู้ชิงเฟิงรู้สึกราวกับกำลังฝันไป
ผู้คนต่างกล่าวขานกันว่าปราชญ์นั้นเหนือกว่าปุถุชน ส่วนราชันปราชญ์ยิ่งเป็นราชาในหมู่ปราชญ์ เหนือกว่าทุกสรรพสิ่ง ทั่วทั้งแผ่นดินล้วนยอมสวามิภักดิ์ ช่างสูงส่งยิ่งนัก
กล่าวได้ว่านั่นคือระดับที่กู้ชิงเฟิงใฝ่ฝัน
แต่ในตอนนี้ ราชันปราชญ์ที่เขาใฝ่ฝันกลับถูกสังหารต่อหน้าต่อตา
ความสูงส่ง ความยิ่งใหญ่ ทั้งหมดนี้ล้วนสลายไป!
ซี๊ด—!
ในเวลานี้ ชายชราไป๋อวี่ที่อยู่ในจี้หยกก็ส่งเสียงสูดลมหายใจด้วยความตกตะลึง
แม้จะราชันปราชญ์เช่นกัน แต่นาจาแห่งวังสวรรค์ผู้นี้กลับแข็งแกร่งกว่าราชันปราชญ์เผ่ามังกรเจียวมากโข!
“ทั้งยังมีอาวุธราชันปราชญ์อีกสี่ชิ้น ผู้นี้แข็งแกร่งกว่าแม่ทัพเทพเฟยเผิงเสียอีก!”
ชายชราไป๋อวี่นึกถึงเฟยเผิงที่เคยเรียกนาจาว่าองค์ชายสามด้วยน้ำเสียงเคารพ
“องค์ชายสาม นาจาผู้นี้ คงจะมีสถานะไม่ธรรมดาในวังสวรรค์”
เขาพึมพำในใจ คิดว่าตนเองเข้าใจความจริง
หารู้ไม่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของจี๋อวิ๋น เพื่อให้เขาคาดเดาไปเอง
ครู่ต่อมา นาจาลากร่างไร้วิญญาณของมังกรเจียวขนาดใหญ่มาถึงเบื้องหน้า ก่อนจะกล่าวอย่างโอหัง
“ตั้งแต่ข้าเข้าร่วมวังสวรรค์ก็ไม่เคยได้กินเนื้อมังกรอีกเลย อยากกินจนน้ำลายไหล สัตว์เลื้อยคลานตัวนี้แม้มิใช่มังกรแท้ แต่ก็พอกินได้”
“ไปกันเถอะ กลับวังสวรรค์ ข้าจะเลี้ยงเจ้าด้วยหม้อไฟเนื้อมังกรเจียว”
กู้ชิงเฟิงรู้สึกจนใจ ราชันปราชญ์แห่งเผ่ามังกรเจียวไม่เพียงแต่ถูกสังหาร ยังถูกมองว่าเป็นเพียงอาหารจานใหญ่
หากเรื่องนี้แพร่ออกไปคงก่อให้เกิดความโกลาหลอย่างมหาศาล!
ทั่วทั้งมณฑลเทพจงถูคงวุ่นวายไปหมด
ต่อมา พวกเขาก็จากไป หายสาบสูญไปจากที่แห่งนี้
ประมาณหนึ่งชั่วยามหลังจากที่พวกเขาจากไป
ตู้ม!
จิตตระหนักรู้อันน่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขตพลันปรากฏขึ้น
ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย ดวงตะวันจันทรา และดวงดาราดับสูญ
เคร้ง! เคร้ง!
ความว่างแตกสลาย มิอาจทนทานต่อพลังของจิตตระหนักรู้นี้ได้
เพียงแค่จิตตระหนักรู้ก็สามารถบดขยี้ความว่างเปล่า น่ากลัวยิ่งนัก
ผู้นี้คือมหาปราชญ์!