บทที่ 76 : ข้าไม่เคยล้มเหลวในการปรุงโอสถ!
บทที่ 76 : ข้าไม่เคยล้มเหลวในการปรุงโอสถ!
"พลังของอาณาจักรลับนี้ช่างน่าทึ่งมากจริงๆ!" หลินเสวียนถอนหายใจเบาๆ
หนูสายฟ้าที่อยู่บนไหล่ของเขาก็ส่งเสียงร้องรับอย่างเห็นด้วย
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เเละในเวลาเดียวกันนั้น ร่างเงาหลายร่างก็ปรากฏขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ
พวกเขาทั้งหมด คือผู้ฝึกยุทธ์ที่ถูกส่งออกมาจากอาณาจักรลับขนาดเล็ก
ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในอาณาจักรลับ, ดังนั้นหลังจากถูกส่งออกมา พวกเขาก็ร่วงลงไปในทะเลโดยตรง
ส่วนบางคนยังคงอยู่ในสภาพพร้อมรบ!
ณ ขณะนี้ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์และองครักษ์สิบสามปรากฏตัวขึ้นไม่ไกลจากหลินเสวียน
เมื่อเห็นดังนั้น, หลินเสวียนก็ไม่ได้ลังเลเเละรีบไปรวมกลุ่มกับผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์และองครักษ์สิบสามทันที
………
"สิบสามลงทัณฑ์, ผลประโยชน์ในอาณาจักรลับของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?"
"เอาอย่างนี้ไหม พวกเรามาเปรียบเทียบผลประโยชน์กันเถอะ" (เอามาอวดนั่นแหละ (-_-))
หลินเสวียนเพิ่งจะรวมมากลุ่มกับผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์และองครักษ์สิบสาม…เสียงของรั่วหยุนที่เต็มไปด้วยความโลภก็ดังมาแต่ไกล
รั่วหยุน สุ่ยหนิง และสุ่ยหาน พวกเขาทั้งสามคนเดินบนผิวน้ำมาหาพวกหลินเสวียน
เเน่นอนว่าทั้งสามคนต่างก็มีบาดแผล…แต่เมื่อดูจากสีหน้าที่ยินดีของพวกเขา ก็สามารถมองออกได้ว่าผลประโยชน์ที่ได้รับในครั้งนี้คงจะไม่น้อย
"เปรียบเทียบผลประโยชน์?" องครักษ์สิบสามหัวเราะอย่างมีเลศนัย
"ใช่แล้ว…มาเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่ได้รับกัน!" รั่วหยุนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
"ดูเหมือนว่าผลประโยชน์ของเจ้าคงจะได้มาไม่น้อย, ลองบอกมาให้ฟังหน่อยสิ!" องครักษ์สิบสามพูดด้วยรอยยิ้ม
"ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก, ข้าแค่โชคดีได้รับศิลาแก่นแท้มาหนึ่งก้อน เเละมันก็เเค่เป็นวัสดุชั้นยอดสำหรับหลอมสร้างอาวุธวิญญาณระดับลึกลับได้เท่านั้น!" รั่วหยุนพูดด้วยท่าทางมั่นใจในชัยชนะ
"ศิลาแก่นแท้?" องครักษ์สิบสามเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ศิลาแก่นแท้เป็นของล้ำค่า มันคือวัสดุหลักสำหรับหลอมสร้างสมบัติมิติ
แหวนมิติที่หลินเสวียนได้มาจากพระวัยกลางคนก็ใช้วัสดุที่ทำจากเศษศิลาแก่นแท้
ถ้าศิลาแก่นแท้มีขนาดใหญ่พอ ก็สามารถใช้หลอมสร้างสมบัติบินอย่างกระสวยแห่งความว่างเปล่าได้!
"ใช่แล้ว, มันมีขนาดเท่ากับคนหนึ่งคนเลยนะ…คงพอที่จะหลอมสร้างสมบัติบินได้หนึ่งชิ้น" รั่วหยุนยังคงพูดอย่างภาคภูมิใจต่อ
"บอกข้อมูลสำคัญแบบนี้ให้ข้ารู้ เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าเเล้วชิงสมบัติหรือไง?...พวกเจ้าสามคนรวมกัน ก็ไม่ใช่คู่มือของข้ากับหัวหน้าหรอกนะ" องครักษ์สิบสามพูดอย่างมีเลศนัย
"เหอะๆ, ข้ากับเจ้าจะต่อสู้กันมานานมาก…นี่ถ้าเจ้าคิดจะจัดการแบบนั้นจริงๆ ข้ารั่วหยุนคงอยู่มาถึงวันนี้ไม่ได้หรอก" รั่วหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
พวกเขาทั้งสองคนต่อสู้กันบ่อยครั้งมาก….แต่พวกเขาก็แค่ต่อสู้เพื่อความสะใจเท่านั้น
รั่วหยุนยังคงเชื่อใจองครักษ์สิบสามอยู่บ้าง…เรียกง่ายๆว่านี่คือมิตรภาพที่เกิดจากการต่อสู้!
"ฮ่าๆๆ โชคของข้าไม่เลวใช่ไหมล่ะ....แล้วเจ้าล่ะ?" รั่วหยุนพูดจบก็ถามอย่างภาคภูมิใจ
ศิลาแก่นแท้ขนาดเท่าคนหนึ่งคน ถือว่าเป็นของล้ำค่ามากๆ
"รั่วหยุน พวกเราก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วจะมัวมาเปรียบเทียบกันไปทำไม?”
“เอาเป็นว่าครั้งนี้ ถือว่าข้าแพ้ก็แล้วกัน” องครักษ์สิบสามตบบ่ารั่วหยุนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
"เจ้าสิบสามเลิกเล่นเเล้วกลับกันได้เเล้ว" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์หยิบกระสวยแห่งความว่างเปล่าออกมาอย่างรีบเร่ง
"ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์รีบขนาดนั้นเลยหรือ?”
“เฮ้ สิบสามลงทัณฑ์ บอกมาหน่อยสิ…พวกเจ้าได้อะไรมาบ้าง?”
เมื่อเห็นแบบนั้นรั่วหยุนก็ไม่พอใจเล็กน้อย….เขากำลังจะโอ้อวด แต่ทำไมพวกเจ้าถึงจะหนีไปแบบนี้ล่ะ?
"รั่วหยุน ครั้งนี้ไม่ต้องเปรียบเทียบกันหรอก…แต่ข้าก็มีของขวัญเล็กๆ น้อยๆให้เจ้า รับไปสิ"
องครักษ์สิบสามยิ้มแล้วหยิบใบไม้หนึ่งใบออกมาจากอกเสื้อยัดใส่มือของรั่วหยุน…จากนั้นเขาก็ขึ้นไปบนกระสวยแห่งความว่างเปล่า
หลินเสวียนมองใบไม้นั้นด้วยสีหน้าแปลกๆ
ฟุ่บบ!
หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสามคนก็ขึ้นไปบนกระสวยแห่งความว่างเปล่า แล้วบินออกไป
…...
"ใบไม้?”
“ผู้อาวุโสรั่วหยุน สิบสามลงทัณฑ์มอบใบไม้ให้เราเเบบนี้มันหมายความว่ายังไง?” สุ่ยหนิงและสุ่ยหานขมวดคิ้วเเล้วถามอย่างสงสัย
"ข้าเองก็ไม่รู้”
“สิบสามลงทัณฑ์มันเป็นอะไรไป ถึงได้ทำตัวลึกลับแบบนี้?”
ผู้อาวุโสรั่วหยุนขมวดคิ้ว จากนั้นก็เปิดฝ่ามือออกมา
เเต่เมื่อเขามองใบไม้นั้นเพียงแวบเดียว…เขาก็ไม่สามารถละสายตาไปไหนได้อีก
"นี่มัน…ใบของต้นผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดงั้นหรือ?"
ผู้อาวุโสรั่วหยุนจ้องมองใบไม้นั้นด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่เบิกกว้างเเละพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
สูดดดดด!
สุ่ยหนิงและสุ่ยหานทั้งสองคนต่างก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
องครักษ์สิบสามและพรรคพวก สามารถนำใบของต้นผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดออกมาได้…นั่นหมายความว่า พวกเขาได้ผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดมาหรือเปล่า?
……
"ฮ่าๆๆๆ หลินเสวียน เจ้าว่าหลังจาก รั่วหยุนรู้ว่านั่นคือใบของต้นผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดแล้ว สีหน้าของมันจะเป็นยังไง?" องครักษ์สิบสามที่นั่งอยู่บนกระสวยแห่งความว่างเปล่าหัวเราะลั่น
"คงจะเหมือนกับตอนที่เขาดูข้าปรุงโอสถ" หลินเสวียนยกยิ้ม
"เจ้านี่…ชอบก่อเรื่องเสียจริง”
“เจ้าไม่กลัวว่าเขาจะปล่อยข่าวออกไป เเล้วทำให้การเดินทางของพวกเราวุ่นวายหรือไง?” ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์พูดอย่างไม่ใส่ใจ
"รั่วหยุนไม่ทำเเบบนั้นหรอกหรับ" องครักษ์สิบสามส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม
"ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่พวกเราจะออกมา ก็มีคนเห็นพวกเราบ้างแล้ว…เรื่องผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิด มันคงปิดได้ไม่มิดหรอก!"
"นั่นสินะ" หลินเสวียนพยักหน้า
ก่อนที่ พวกเขาทั้งสามคนจะถูกพายุส่งออกมา…รอบๆตัวพวกเขาก็มีผู้ฝึกยุทธ์ปรากฏตัวขึ้นไม่น้อย
เเละจากสีหน้าของพวกเขา พวกเขาน่าจะรู้จักต้นผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิด
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก
เขาหยิบป้ายประจำตัวอันหนึ่งออกมาด้วยรอยยิ้ม
บนป้ายประจำตัวมีคำว่าเทพมรณะสลักอยู่ เห็นได้ชัดว่านั่นคือป้ายประจำตัวของผิงถู
"หลินเสวียน สิบสามลงทัณฑ์, นี่คือของทั้งหมดที่อยู่บนตัวของผิงถู ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนฆ่ามัน แต่พวกเราก็เจอมันด้วยกัน"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์พูดจบก็เปิดพื้นที่ภายในป้ายประจำตัว…จากนั้นของมากมายก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลินเสวียนและองครักษ์สิบสาม
"โอสถก่อกำเนิด?, สมบัติระดับสีเหลืองขั้นสูง(เจ็ดเข็มสังหาร)?, แล้วยังมีคัมภีร์หลอมสร้างอาวุธอีก?"
หลังจากของของผิงถูถูกนำออกมา…แม้แต่ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็ยังมองอย่างตื่นเต้น
ศิลาวิญญาณ สมุนไพร วัสดุหลอมสร้างอาวุธต่างๆนั้นไม่ต้องพูดถึง
ที่สำคัญคือโอสถก่อกำเนิดสองขวด, เข็มเงินหนึ่งชุดสีดำสนิทที่ปล่อยออร่าเย็นยะเยือกออกมา, ดาบยาวสีเลือดของผิงถูและคัมภีร์หลอมสร้างอาวุธหนึ่งเล่ม!
"เจ็ดเข็มสังหารเป็นสมบัติใช้แล้วทิ้ง…แต่พลังทำลายล้างของมันรุนแรงมาก”
“ผิงถูมันใช้เจ็ดเข็มสังหารนี่แหละ…ที่โจมตีหัวหน้าแบบลอบกัด, ข้าสนใจสิ่งนี้, งั้นให้ข้าละกัน” องครักษ์สิบสามหยิบเจ็ดเข็มสังหารขึ้นมาด้วยความชื่นชอบ
"หลินเสวียน แล้วเจ้าล่ะ?" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์มองหลินเสวียนแล้วถาม
หลินเสวียนเลือกคัมภีร์หลอมสร้างอาวุธโดยไม่ลังเล!
บนคัมภีร์มีคำว่า, [คัมภีร์หลอมสร้างอาวุธแปดสมบัติ]สลักอยู่…เเละมันยังปล่อยออร่าที่รุนแรงออกมา
"หลินเสวียน คัมภีร์หลอมสร้างอาวุธเล่มนี้ไม่รู้ว่าเป็นเคล็ดวิชาของสำนักเสินหมิงหรือเปล่า…มันอาจมีอันตราย เจ้าอย่าไปยุ่งกับมันเลย!" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์เห็นหลินเสวียนเลือกคัมภีร์หลอมสร้างอาวุธแปดสมบัติก็อดไม่ได้ที่จะเตือน (เคล็ดวิชาของสำนักเสินหมิงมีปัญหาเสมอ)
"ไม่เป็นไร ข้าแค่อ่านดูเฉยๆ…เผื่อจะมีประโยชน์" หลินเสวียนยิ้มอย่างมั่นใจ
ยังไงคัมภีร์หลอมสร้างอาวุธแปดสมบัติก็ไม่ใช่หลินเสวียนที่เป็นคนฝึก…แต่เป็นเคล็ดวิชาต่างหากที่ฝึกฝนด้วยตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นของอื่นๆ นอกจากคัมภีร์หลอมสร้างอาวุธแปดสมบัติ…หลินเสวียนก็ไม่ได้สนใจเลยเเม้เเต่น้อย
"ก็ได้ งั้นของที่เหลือก็เป็นของข้าละกัน!" เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็ไม่พูดอะไรอีก
เขายกยิ้มแล้วเก็บของที่เหลือ
"หัวหน้า, สิบสามลงทัณฑ์, ข้ามีไอเดียเกี่ยวกับผลหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิด" หลินเสวียนพูดขึ้น
"หลินเสวียน มีอะไรก็พูดมาเถอะ ระหว่างพวกเราถือว่าผ่านเรื่องเป็นตายมาด้วยกันเเล้ว…ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้!" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์และองครักษ์สิบสามกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
"พวกเราไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นปรุงโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดให้!" หลินเสวียนพูดอย่างจริงจัง
"ไม่ต้องให้คนอื่นปรุงให้?”
“หลินเสวียน เจ้าจะปรุงโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดเองหรือ?”
“โอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดเป็นถึงโอสถระดับลึกลับนะ!” ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์รู้ว่าหลินเสวียนสามารถปรุงโอสถก่อกำเนิดได้ แต่ โอสถก่อกำเนิดเป็นโอสถระดับสีเหลือง
ระดับสีเหลืองกับระดับลึกลับ…มันเเตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"หัวหน้า ท่านดูนี่ก่อนสิ" องครักษ์สิบสามครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วหยิบโอสถก่อกำเนิดหนึ่งเม็ดส่งให้ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์
"นี่มันก็เเค่โอสถก่อกำเนิดนี่?" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์รับโอสถก่อกำเนิดมาด้วยความสงสัย
"หัวหน้า ท่านดูดีๆสิ…โอสถก่อกำเนิดเม็ดนี้ มันแตกต่างจากโอสถก่อกำเนิดทั่วไปยังไง?" องครักษ์สิบสามกล่าวเตือน
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็มองอย่างละเอียดอีกครั้ง
"ลวดลายโอสถ!" ไม่นานหลังจากนั้น ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็เบิกตากว้าง
"นี่มันโอสถก่อกำเนิดที่มีลวดลายโอสถสองเส้นงั้นหรือ?"
ณ ขณะนี้…สีหน้าของผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ที่มองหลินเสวียนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
"ใช่แล้ว, ผลลัพธ์ของโอสถก่อกำเนิดเม็ดนี้ดีกว่าโอสถก่อกำเนิดทั่วไปถึงสองส่วน" องครักษ์สิบสามกล่าวอย่างมั่นใจ
"หลินเสวียน เจ้าสามารถปรุงโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดที่มีลวดลายโอสถได้งหรือไม่?" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ถามด้วยสีหน้าตกตะลึง
"อืม! ข้ารับประกันได้ว่าโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดที่ข้าปรุง…จะมีลวดลายโอสถอย่างน้อยสองเส้น!" หลินเสวียนพูดอย่างมั่นใจ
ฟุ่บบ!!!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็ลุกขึ้นยืนทันที
เขามองหลินเสวียนด้วยแววตาเป็นประกาย!
ลวดลายโอสถสองเส้น!
ถ้าหากได้กินโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดที่มีลวดลายโอสถสองเส้น…โอกาสที่ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์จะก้าวหน้าได้นั้นจะสูงขึ้นมาก
บางครั้งการบำเพ็ญเพียรก็มักขาดแค่โอกาสในการพัฒนา
ผลลัพธ์ของโอสถที่เพิ่มขึ้นสองส่วน…มันสามารถกำหนดอนาคตของผู้ฝึกยุทธ์ได้เลย!
"เเล้วโอกาสในการปรุงสำเร็จของเจ้ามีกี่ส่วน?" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ถามอย่างเคร่งขรึม
"ข้าไม่เคยล้มเหลวในการปรุงโอสถ…เเม้เเต่เม็ดเดียวก็ไม่เคย!" หลินเสวียนตอบอย่างมั่นใจ
…………………