ตอนที่ 135 เด็กสาวร่างอ้วนกลม (ฟรี)
ตอนที่ 135 เด็กสาวร่างอ้วนกลม
หลังจากที่หยู่ทงกลับมาที่ห้องของตน เขาก็เริ่มฝึกฝนหลังหลับตาลง โดยไม่สนใจความจริงที่ว่าเขาพึ่งโยนลู่เซียวเซียวเข้าไปในโกดังอาหาร
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงเต็ม หยู่ทงก็เริ่มคิดว่ามันนานเกินไปแล้ว
ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ทำไมลู่เซียวเซียวถึงยังไม่ออกมา?
“เธอไม่เคยกินอิ่มท้อง เธอจึงอาจจะพยายามยัดทุกสิ่งเข้าปาก แต่นั่นอาจจะเป็นอันตรายได้!” ใบหน้าของหยู่ทงเปลี่ยนไปทันทีหลังจากคิดได้ถึงสิ่งนี้
หยู่ทงรู้สึกหวาดกลัวกับการคาดเดาของตน หากลู่เซียวเซียวตายเพราะเขาจริงๆ ผู้อาวุโสคนนั้นคงจะฆ่าทุกคนบนเรือด้วยความโกรธอย่างแน่นอน!
เมื่อหยู่ทงนึกถึงภาพอันนองเลือดนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัว
“ไม่ ข้าต้องไปดูก่อน! บางทีอาจมีโอกาสที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้” หยู่ทงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ วิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไม่หยุด มุ่งหน้าตรงไปที่โกดัง
หยู่ทงเปิดประตูโกดัง แต่เขาไม่กล้าจะมองดูสถานการณ์ข้างในเพราะกลัวว่าจะได้เห็นสิ่งที่กลัวเกิดขึ้นจริงๆ
คนโบราณพูดถูก เจตนาดีอาจนำไปสู่ผลลัพธ์เลวร้ายได้จริงๆ!
“ท่านลุง ท่านอยู่ที่นี่หรือเปล่า” ทันใดนั้นเสียงของลู่เซียวเซียวก็ดังมาถึงหูของหยู่ทง ทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อย
เสียงของลู่เซียวเซียวราวกับระฆังเงิน เสียงดังฟังชัด และเมื่อเสียงนั้นมาถึงหูของหยู่ทง มันก็เหมือนกับเสียงสวรรค์ที่ดึงเขาออกจากโลกแห่งจินตนาการ
“เซียวเซียว เจ้า...เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?” หยู่ทงตื่นเต้นอย่างมาก และเขามองเข้าไปในโกดังด้วยเสียงที่สั่นเทา
เมื่อมองเข้าไป เขาได้เห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ ร่างอ้วนกลมอยู่บนพื้น ดูเหมือนกำลังนอนราบอยู่
“เจ้า...เจ้าเป็นใคร เซียวเซียวอยู่ไหน เจ้าทำอะไรกับเธอ!” เมื่อหยู่ทงเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดลง จากนั้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
หยู่ทงคว้าไหล่ของเด็กสาวด้วยมือทั้งสองข้าง และเขย่าเธอไปมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เด็กสาวคนนี้มาจากไหน? ทำไมเธออ้วนถึงขนาดนี้ หรือเธอจะกินเซียวเซียวเข้าไป? เป็นไปได้ไหมว่าอาหารในโกดังเกิดมีจิตวิญญาณขึ้นมา?
“ท่านลุง เอิ้ก... อย่าเขย่าตัวข้า เดี๋ยวข้าจะอาเจียนออกมา” ลู่เซียวเซียวเรอเสียงดัง แล้วพูดด้วยความเจ็บปวด
เธอกินเร็วเกินไป และอิ่มมากจนอาหารแทบจะล้นออกมาทางคอ
“เจ้า...เจ้าคือ เซียวเซียวเหรอ?” ดวงตาของหยู่ทงเบิกกว้างขึ้น เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง และเขาก็จ้องมองไปที่เด็กสาวร่างอ้วนที่อยู่ตรงหน้าซึ่งกลมราวกับลูกบอล
เซียวเซียวจะอ้วนขึ้นมาทันใดได้อย่างไร? และท้องของเธอก็ใหญ่มากเหมือนหญิงมีครรภ์ที่ท้องได้เก้าเดือน
เดี๋ยว ดูเหมือนมีบางอย่างแปลกๆ ตอนที่เขาเข้ามา ดูเหมือนเขาจะเห็นเพียงเด็กสาวคนนี้เท่าไร ไม่เห็นสิ่งอื่นใดอีกเลย
“ให้ตายเถอะ โกดังที่เคยเต็มไปด้วยอาหารของข้า บัดนี้ไม่เหลือสิ่งใดเลย!” ในที่สุดหยู่ทงก็รู้สึกตัว และกรีดร้องออกมา
ถึงว่าทำไมโกดังจึงดูโล่งๆ เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเด็กสาวคนนี้ ของที่เต็มโกดังก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ท่านลุง ท่านไม่ได้บอกว่าข้าจะกินเท่าไรก็ตามจนกว่าจะอิ่มงั้นเหรอ?” ลู่เซียวเซียวคิดว่าเธอทำอะไรผิด เธอจึงพูดอย่างเสียใจ
“เอ่อ...” หยู่ทงเหลือบมองเด็กสาวร่างอ้วน และถึงแม้ในใจของเขาจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่มันก็ไม่มีทางระบายอะไรออกมาได้
“เจ้ากินอาหารทั้งหมดในโกดังของข้าคนเดียวเหรอ?” หยู่ทงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามลู่เซียวเซียวด้วยน้ำเสียงทุ้ม เขายังไม่เคยเชื่อนักในสิ่งที่เห็น
นั่นเป็นอาหารที่กินได้ถึงหนึ่งปีสำหรับทุกคนในเรือ เป็นไปได้ยังไงที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ จะกินจนหมดได้ด้วยตัวคนเดียว?
“ไม่...ไม่ ข้าเหลือเค้กอยู่อีกครึ่งชิ้น และข้าวางแผนที่จะนำมันกลับไปให้บรรพบุรุษได้ลองชิม” ลู่เซียวเซียวค่อยๆ ยื่นมือเล็กๆ ที่อ้วนท้วนออกมา และจะเห็นได้ว่าบนฝ่ามือของเธอ มีเค้กชิ้นเดียวที่มีความขนาดครึ่งฝ่ามืออยู่
หลังจากที่หยู่ทงเห็นสิ่งนี้ วิสัยทัศน์ของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำ และเขาเกือบจะเป็นลม
“อืม...เค้กหอมหมื่นลี้นี้หอมอร่อยมาก คิดดูอีกทีบรรพบุรุษคงไม่สนใจของหวาน ข้ากินเองจะดีกว่า” ลู่เซียวเซียวมองดูเค้กในมือของเธอ หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอก็ตัดสินใจ
ไม่ว่ายังไง ประสาทรับรสของบรรพบุรุษยังไม่ฟื้นคืน การกินเค้กหอมหมื่นลี้ที่หอมหวานนี้ถือเป็นการสิ้นเปลืองไปเปล่าๆ
ลู่เซียวเซียวจึงยกมือเล็กๆ ที่อ้วนท้วนของเธอขึ้น จากนั้นโยนเค้กหอมหมื่นลี้เข้าปาก เคี้ยวมันหลายครั้งแล้วกลืนเข้าไปในท้อง
เมื่อหยู่ทงเห็นสิ่งนี้ เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว และเขาก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับหมดสติไป
“ท่านลุง ท่านเป็นอะไรไป?” ลู่เซียวเซียวสะดุ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน และเธอก็ถามด้วยความเป็นกังวล
แต่ตอนนี้ หยู่ทงหมดสติไปแล้ว เขาไม่ได้ยินเสียงเรียกของลู่เซียวเซียว เขาทำได้เพียงนอนเงียบๆ โดยไม่มีการตอบสนองใดๆ
ลู่เซียวเซียวก็กินมากเกินไปจนขยับตัวไม่ได้ เธอจึงทำได้แค่จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สับสน โดยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
ดูเหมือนเวลาจะหยุดลง ลู่เซียวเซียวไม่สามารถย่อยอาหารได้เร็วนัก ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงนอนอยู่ข้างๆ ร่างของหยู่ทง และรอให้อาหารที่กินไปค่อยๆ ย่อย
เธออิ่มมากตนแทบขยับตัวไม่ไหว
ร่างกายของเธอค่อนข้างแข็งแกร่ง ถ้าเป็นคนปกติ พวกเขาคงท้องแตกตายจากการกินมากเกินไปแล้ว
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หยู่ทงก็ยังไม่ตื่น และลู่เซียวเซียวก็นอนอยู่บนพื้น ไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย
ในที่สุด ลู่เซียวเซียวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอไม่อยากถูกขังอยู่ในโกดังอันเงียบเหงาแห่งนี้ตลอดไป
"บรรพบุรุษ!!!"
"ช่วยข้าด้วย!!!"
เสียงที่คมชัดดังมาจากโกดัง และลู่เซียวเซียวก็รวบรวมกำลังทั้งหมดอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะตะโกนสุดปอด
ลู่ซุนที่กำลังนั่งขัดสมาธิบนเรือ จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา
จิตสัมผัสของลู่ซุนปกคลุมเรือทั้งลำอย่างรวดเร็ว รวมถึงผิวทะเลโดยรอบในรัศมีนับหมื่นลี้
“หือ? เซียวเซียวอยู่ไหน ทำไมข้าถึงได้ยินเสียงของเธอ!” ใบหน้าของลู่ซุนมืดลง และเขาก็พึมพำกับตัวเอง
มีเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถลักพาตัวลู่เซียวเซียวจากข้างกายเขาได้
แต่คนเหล่านี้คงไม่มาอยู่ที่นี่ในตอนนี้
“หือ? เด็กสาวร่างอ้วนคนนั้นมาจากไหนกัน ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่ามีคนเช่นนี้อยู่บนเรือด้วย” ลู่ซุนตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็พึมพำกับตัวเอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย