ตอนที่ 105 หนึ่งปีต่อมา

"คุณพ่อ!"

"คุณพ่อ!"

จักรวาลเสมือน เกาะภูเขามังกรดำ อ่าวเก้าดาว

เด็กตัวเล็กๆ หลายคนล้อมอยู่รอบหวังอี้ บางคนก็ปีนขึ้นมาตามต้นขาของเขาอย่างคล่องแคล่ว กอดหัวเขา ขี่คอเขา

หงและเทพสายฟ้านั่งอยู่ข้างๆ มองดูฉากนี้อย่างยิ้มแย้ม

สำหรับพวกเขาที่ลูกๆ เติบโตขึ้นแล้ว ฉากนี้ก็ดูอบอุ่นเป็นธรรมดา

หวังอี้เอื้อมมือไปอุ้มลูกสาวที่ดึงผมตัวเองอย่างแรงแล้ววางไว้ที่ตักแม่ของเธอ กอดลูกสาวอีกสองคนที่ดูเรียบร้อยกว่านั่งลงที่เดิม

ลูกๆ ของหวังอี้เกิดในเดือนตุลาคม 2057 ตอนนี้เป็นเดือนธันวาคม 2059 แล้ว ลูกๆ ของเขาก็อายุสองขวบแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงระดับการพัฒนาของร่างกาย พวกเขาทั้งหมดเป็นระดับราชาปีศาจตัวน้อย ราชาปีศาจตัวน้อยที่แท้จริง ราชาปีศาจตัวน้อยที่ทำลายบ้านเรือน ในช่วงเวลาที่พวกเขาซุกซนและก่อกวน เฟอร์นิเจอร์ในปราสาทมักจะถูกเปลี่ยนใหม่ เรียกได้ว่า 'หวังเอ๋อร์ฮ่าตัวน้อย'

ส่วนระดับการพัฒนาทางสติปัญญา พวกเขาอายุเพียงสองขวบแต่ฉลาดผิดปกติ เพราะสืบทอดยีนที่แข็งแกร่งของพ่อและการเลี้ยงดูและการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจนแม้แต่เจ้าชายของอาณาจักรภูเขามังกรดำก็ยังเทียบไม่ได้ ความสามารถในการเรียนรู้ของพวกเขาน่าทึ่ง กล่าวได้ว่าสิ่งต่างๆ บนโลกพวกเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจได้ในทันที แม้ว่าพวกเขาจะอายุเพียงสองขวบ แต่เกรงว่านักเรียนระดับสูงของสำนักทั่วไปก็ยังเทียบไม่ได้กับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม เพื่อวัยเด็กของพวกเขา ขณะนี้หวังอี้ยังคงให้พวกเขาอยู่กับแม่ของพวกเขา และหวังอี้ก็มักจะอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาในจักรวาลเสมือน

"เฮ้ หวังอี้ ฉันอิจฉานายจริงๆ" เทพสายฟ้าพูดด้วยสายตาที่ระลึกถึงอดีต

"อิจฉาอะไร พวกคุณทั้งสองเป็นโสด และไม่มีภรรยา ถ้าคุณชอบ คุณสามารถหาได้ด้วยตัวเอง" หวังอี้ยิ้มพูด

เทพสายฟ้าและหงอาจเป็นหนุ่มโสดที่ร่ำรวยที่สุดสองคนในเมืองฐานโลก ภรรยาของทั้งสองเสียชีวิตตั้งแต่เนิ่นๆ หงมีลูกสองคน ตอนนี้หลานชายก็โตแล้ว เทพสายฟ้าก็มีลูกสาวคนหนึ่ง แต่เนื่องจากเหตุผลบางประการ ความสัมพันธ์กับลูกสาวจึงแตกแยก และขณะนี้ยังอยู่ในช่วงสงครามเย็น

ด้วยสถานะและตำแหน่งของพวกเขา พวกเขาจะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้ แต่พวกเขากลับโสดตลอดมา

ไม่ต้องพูดถึงหงและเทพสายฟ้า หากหวังอี้ไม่ได้อยู่กับหลินโหย่วหยูและคนอื่นๆ ในช่วงแรกๆ เมื่อเขามาถึงจักรวาลและเริ่มฝึกฝน เขาอาจจะไม่สนใจเรื่องความรู้สึก และยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมีลูกเป็นโขยง

แต่ตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีที่พึ่งทางอารมณ์

และตั้งแต่ที่ลูกๆ ของหวังอี้เกิด พ่อแม่ของเขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจหวังอี้แล้ว พวกเขามีเพียงหลานชายและหลานสาวในสายตา ซึ่งทำให้หวังอี้โล่งใจ

"ว่าแต่ หลัวเฟิงที่ยึดร่างสัตว์ยักษ์เขาทอง ร่างมนุษย์ของเขายังไม่เกิดอีกหรือ" หวังอี้ถามเมื่อนึกอะไรขึ้นได้

"อีกไม่นาน บาบาต้าเคยติดต่อเรามาในจักรวาลเสมือน บอกว่าหลัวเฟิงจะสามารถสร้างร่างมนุษย์ได้อีกหนึ่งเดือน จากนั้นก็จะสามารถออกมาในจักรวาลได้" หงก็ถอนหายใจเช่นกัน

ตอนนี้ผ่านมาสองปีแล้ว สมรรถภาพร่างกายของหงก็เพิ่มขึ้นถึงระดับดาวฤกษ์ขั้นสี่ภายใต้การหล่อเลี้ยงของสมบัติล้ำค่าจำนวนมาก ซึ่งเร็วกว่าในต้นฉบับไม่รู้เท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง เถาวัลย์เมฆาของเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับจักรวาลแล้ว และหากสัตว์ยักษ์เขาทองยังคงออกมาอาละวาดเหมือนในต้นฉบับ มันคงจะต้องตายอย่างน่าสังเวช

ส่วนเทพสายฟ้ามีความเร็วในการยกระดับช้ากว่าหง แต่ก็ถึงระดับดาวฤกษ์ขั้นสามแล้ว เพียงแต่ความเข้าใจในเขตแดนทำให้ความแข็งแกร่งของเขาน้อยกว่าหงมาก ขณะนี้กำลังพยายามไล่ตามอยู่

หวังอี้เหลือบมองเทพสายฟ้า ชายคนนี้เป็นรองบ่อนตลอดกาลในต้นฉบับ ตามแนวโน้มนี้ ตำแหน่งรองบ่อนก็ไม่ปลอดภัยแล้ว อาจจะกลายเป็นรองสี่

อย่าลืมว่าตามชื่อแล้ว พวกเขาทั้งหมดได้เข้าร่วมดาวอวิ๋นโม่แล้ว พวกเขาทั้งหมดได้รับเคล็ดวิชาลับของดาวอวิ๋นโม่ ความแข็งแกร่งของหงและคนอื่นๆ สามารถเพิ่มขึ้นอย่างมากได้ก็ต้องขอบคุณเคล็ดวิชาลับของดาวอวิ๋นโม่ และหลัวเฟิงเป็นหัวหน้าของดาวอวิ๋นโม่ในปัจจุบัน (ในชื่อ) หวังอี้เป็นคนที่สองที่เข้ามาแต่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด หงเป็นคนที่สาม เทพสายฟ้าได้แต่เศร้าโศกที่ได้อันดับสี่!

“เจ้าบาบาต้านี่ไม่เลิกเร่งให้ฉันส่งทรัพยากรกลับไปยังโลก มันหลอกผีหรือไง ร่างสัตว์ยักษ์เขาทองของหลัวเฟิงเป็นแค่ระดับดาวฤกษ์ แต่เขากลับให้ฉันส่งโลหะที่ต้องการสำหรับระดับจักรวาลและระดับเจ้าดินแดนกลับไป แล้วให้ฉันเป็นคนจ่ายเงินให้เขา” หวังอี้ส่ายหัวแล้วหัวเราะ

แน่นอนว่าเป็นเพียงการพูดเล่น

โลหะระดับจักรวาลและระดับเจ้าดินแดนเหล่านั้นไม่ใช่ภาระที่ใหญ่เกินไปสำหรับหวังอี้ หากสามารถช่วยให้หลัวเฟิงเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว เขาก็เต็มใจมาก

อย่างไรก็ตาม นิสัยชอบได้ของฟรีของบาบาต้าไม่สามารถตามใจได้ ต้องยืดเยื้อให้มันโกรธแค้นจึงจะได้

ต้องรู้ว่าหลัวเฟิงมีเงินในบัญชีของอาจารย์ของเขา หลัวเฟิงคงจะไม่ให้หวังอี้เสียเปรียบ หงและเทพสายฟ้าไม่มีทางเลือก ไม่มีอาจารย์อมตะที่ตายไปแล้วที่จะทิ้งมรดกมหาศาลให้พวกเขา แต่หลัวเฟิงเป็นทายาทของดาวอวิ๋นโม่ มูลค่าสุทธิของเขาก็มากเช่นกัน หวังอี้จำได้ว่าเมื่อหลัวเฟิงไปถึงระดับเจ้าดินแดน เขาก็ถอนเงินหลายล้านหน่วยฮุนหยวนจากธนาคาร ซึ่งมากกว่าที่เขามีอยู่ตอนนี้เสียอีก!

แม้ว่าหวังอี้จะลงชื่อเข้าใช้ในสถานที่ต่างๆ มากมายในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่ก็เสียเวลาไปกับการเดินทางมากมาย จริงๆ แล้วดาวเคราะห์ที่ลงชื่อเข้าใช้ก็ไม่ได้มีมากนัก เมื่อรวมกับรางวัลแบบสุ่มแล้ว จริงๆ แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มากมายอย่างที่คิด

แต่ก็ทำให้ความมั่งคั่งของหวังอี้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการซื้อทรัพยากรและสมบัติล้ำค่าจำนวนมากเพิ่มขึ้นกลับมาเป็นประมาณหนึ่งล้านหน่วยฮุนหยวน

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ เวลานี้ผ่านไปเพียงกว่าหนึ่งปี! แม้แต่เทพอมตะก็ไม่มีความเร็วในการสร้างรายได้ที่น่ากลัวเช่นนี้!

สิ่งที่ยกระดับได้น่าทึ่งยิ่งกว่าคือความแข็งแกร่งของหวังอี้ พรสวรรค์ในการรับรู้กฎ เขตแดน ความกว้างของสมอง แอมพลิจูดพลังจิต เคล็ดวิชาลับ และอื่นๆ ล้วนได้รับการยกระดับในระดับต่างๆ!

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ร่างโคลนสัตว์ยักษ์ดาวเพลิงของเขาได้เติบโตจากระดับจักรวาลขั้นที่ 1 ไปถึงระดับจักรวาลขั้นที่ 5 และอีกสี่ขั้นหลังจากนั้นต้องใช้เวลาเกือบสองปีจึงจะสำเร็จ!

พรสวรรค์และความเข้าใจของหวังอี้เอง รวมถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้กับกฎพื้นฐานแห่งการดำเนิดของสัตว์ยักษ์ดาวเพลิง บวกกับความช่วยเหลือบางประการจากแผงลงชื่อเข้าใช้ ทรัพยากรและสมบัติล้ำค่าต่างๆ อุปกรณ์และเงื่อนไขต่างๆ หวังอี้มีความเข้าใจในกฎราวกับว่าดื่มน้ำและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดาบและเคล็ดวิชาลับก็ฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว!

กล่าวโดยสรุป ความแข็งแกร่งของหวังอี้ในปัจจุบันนั้นเป็นอันดับหนึ่งที่ไม่มีใครเทียบได้ในระดับดาวฤกษ์ของเขตดาราภูเขามังกรดำ

ในช่วงปีที่ผ่านมา หวังอี้แทบจะไม่ปรากฏตัวในพื้นที่ต่อสู้ของจักรวาลเสมือนแล้ว แต่เขาก็มักจะไปที่สนามประลอง

และองค์กรต่างๆ ในจักรวาลเสมือนที่เชิญให้เขาเข้าร่วมก็ถูกเขาเพิกเฉย

และในช่วงเวลานี้ หวังอี้ก็เฝ้ารอการมาถึงของการประมูลของอาณาจักรจักรวาลเฉียนอูที่มีสามปีครั้ง อาจเป็นไปได้ว่าในการประมูลครั้งนี้ เขาจะได้สิ่งที่เขาต้องการมาตลอด

สัตว์ยักษ์ดาวเพลิงได้เข้าสู่ระดับจักรวาลแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ร่างจริงของหวังอี้ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของหวังอี้ ตามหลักการแล้ว หวังอี้สามารถเลือกร่างโคลนที่สองเพื่อเพาะเลี้ยงได้

ดังนั้น ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้ง!

เป็นเวลานานแล้วที่หวังอี้กำลังมองหาร่างโคลนที่สองที่เหมาะสมกับเขา แต่ก็ยังไม่มีเบาะแส

เพราะความต้องการของเขาสูงเกินไป แม้แต่เผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดสูงสุดอย่างสัตว์ยักษ์เขาทองก็ยากที่จะทำให้เขาพอใจ

ในความคิดของหวังอี้ ร่างโคลนที่สองนั้นดีที่สุดคือเหมือนกับร่างโคลนเผ่าพันธุ์ปีศาจนักฆ่าของหลัวเฟิง ซึ่งมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนกฎแห่งอวกาศ และความสามารถในการเปลี่ยนแปลงที่ลึกลับและแปรเปลี่ยนได้ก็ทำให้หวังอี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาเคยคิดว่าจะเลือกร่างโคลนเผ่าพันธุ์ปีศาจนักฆ่าเป็นร่างโคลนที่สองหรือไม่ เพราะมันสะดวกมาก!

ร่างโคลนทั้งสี่ของหลัวเฟิงนั้นสุดยอดกว่ากันทีละร่าง ร่างมนุษย์บนโลกที่ดูไร้ประโยชน์ที่สุดนั้นกลับเป็นร่างที่แปรปรวนที่สุด เคล็ดวิชาลับเก้าหายนะยกระดับระดับยีน ปรับเปลี่ยนจิตวิญญาณให้บรรลุความเข้าใจที่เหนือธรรมชาติ จิตใจและเจตจำนง! ครบครันทั้งหมด เมื่อรวมกับหอคอยดาราที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลก็ยังต้องจ้องมองด้วยตาค้าง

ไม่ต้องพูดถึงสัตว์ยักษ์เขาทอง ในช่วงแรกที่หลัวเฟิงเติบโตขึ้น เขาพึ่งพาสิ่งนี้ทั้งหมด! เป็นผู้เล่นตัวจริงของหลัวเฟิงในการสร้างผลงานชิ้นเอก

ร่างโคลนเผ่าพันธุ์ปีศาจนักฆ่ายิ่งสร้างผลงานมากมาย ความสามารถในการเพิ่มพูนกฎแห่งอวกาศ บวกกับเคล็ดวิชาลับการแปลงร่างและการเลียนแบบ ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากอันตรายได้หลายครั้งและพลิกสถานการณ์ได้อย่างมาก!

มันเป็นตัวเลือกที่จำเป็นสำหรับการเดินทางและการฆ่าฟันจริงๆ

ร่างโคลนทะเลสันโดษยิ่งไม่ต้องพูดถึง ร่างกายเทพมีขนาดใหญ่จนฆ่าไม่ตาย เติมพลังและเลือดได้ไม่จำกัด และพลังในการระเบิดตัวเองก็มหาศาล และในภายหลัง ระดับร่างกายเทพจะเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นเท่าก็ต้องพึ่งพาเคล็ดวิชาลับ 'การสร้างสรรค์' ของมัน!