การสังหารหมู่
วินาทีที่เสียงหญิงสาวพนักงานออฟฟิศหมายเลขสองดังขึ้น ความรู้สึกสั่นสะท้านก็ไต่ขึ้นมาตามหลังของซ่งชิงเสี่ยวอย่างควบคุมไม่ได้ และในไม่ช้าก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
ความรู้สึกราวกับถูกมีดแทงทะลุลำคอจนใกล้ตายก็กลับมาอีกครั้ง เธอเงยคอขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพื่อสูดอากาศเข้าปอด
ภายในถังนั้นคับแคบมากอยู่แล้ว ยังมีฝาปิดที่ทั้งหนาและหนักปิดกั้นแสงทั้งหมดจากข้างนอกไว้อีก บวกกับน้ำสกปรกในถังที่แช่ท่อนล่างของร่างกายเธอเอาไว้ ทำให้รู้สึกราวกับว่าอากาศโดยรอบนั้นบางเบาเป็นพิเศษ
เสียงของหญิงสาวพนักงานออฟฟิศยังคงร้องเรียกหาซ่งชิงเสี่ยว ขณะเดียวกัน เสียงนั้นก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากเสียงฝีเท้าที่ได้ยิน คล้ายกับว่าตอนนี้เธอได้ก้าวเข้ามาในโรงงานร้างแห่งนี้แล้ว
ซ่งชิงเสี่ยวเพิ่งเงยคอขึ้นมาได้ไม่นาน เธอก็หยุดชะงักลง ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจนี้ออกอย่างช้าๆ
ด้วยความกลัวตาย เธอจึงเผลอเอามือที่ไขว้ด้านหลังไปแตะลำคอของตัวเองอย่างเกร็งๆ ก่อนจะพยายามบังคับจิตใจตัวเองให้สงบลง
"หมายเลขเก้า คุณอยู่ไหน"
น้ำเสียงอันอ่อนหวานของหญิงสาวในบรรยากาศเช่นนี้ฟังดูแปลกประหลาดเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอพยายามจงใจกดเสียงลงต่ำและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เสียงนี้ก็ดังก้องไปทั่วโรงงาน แล้วสะท้อนกลับมาจากกำแพงอาคารเก่าๆ จนเกิดความรู้สึกสยองขวัญราวกับเสียงร้องไห้คร่ำครวญ ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว
"หมายเลขเก้า ฉันถามคุณอยู่ตรงไหน? "
เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สลับกับเสียงใบหญ้า "ซ่าซ่า" ที่ถูกเหยียบ บางครั้งก็หยุดลง ราวกับเจ้าของเสียงกำลังยืนหาอะไรบางอย่าง
ซ่งชิงเสี่ยวระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในเวลานี้เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอได้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนนึงคือวิญญาณที่หลุดออกจากร่างไปแล้ว และกำลังมองเห็นเจ้าของร่างที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ในถังน้ำ ไม่กล้าขยับเขยื้อน สีหน้าซีดเผือดราวกับศพ เหมือนกับตอนที่ถูกแทงตรงลำคอในตรอก
เธอเห็นหญิงสาวพนักงานออฟฟิศเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ก้มลงมองร่องรอยที่เธอเดินไปเดินมาเมื่อครู่ เพื่อพยายามหาที่ซ่อนของเธอ
"ออกมาเถอะน่า..."
น้ำเสียงของหญิงสาวหมายเลขสองนี้ไม่ได้ราบเรียบ แสดงว่าตอนนี้เธอคงเริ่มเดินไปมาในโรงงาน แต่นอกจากเสียงนี้แล้ว ซ่งชิงเสี่ยวก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีก
ในหัวยังมีไพ่ที่ยังไม่ได้เปิดอีกสามใบ ซึ่งพิสูจน์ว่าคุณหมอยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ แต่แค่อาจจะยืนอยู่ที่ไหนสักแห่งแถวๆ นี้เพื่อรอจังหวะตะครุบเหยื่ออยู่ก็ได้
หัวใจของซ่งชิงเสี่ยวเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เสียงฝีเท้าของหญิงสาวพนักงานออฟฟิศหมายเลขสอง ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เช่นกัน รอบๆ ตัวเธอนอกจากเสียงเสื้อผ้าที่ถูกับด้านข้างถังเมื่อเดินผ่านถังขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังมีเสียงหญ้า แต่หญิงสาวคนนี้กลับไม่ได้ตะโกนเรียกอีกแล้ว
ความเงียบที่แปลกประหลาดเช่นนี้กลับยิ่งทำให้น่าหวาดกลัว
หลังจากนั้นประมาณไม่กี่วินาที เสียงฝีเท้าก็ปรากฏขึ้นเบาๆ ข้างถังขนาดใหญ่ที่ซ่งชิงเสี่ยวซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก ในระหว่างที่เธอจดจ่ออยู่กับเสียงนั้นเอง เธอก็ยิ่งได้ยินเสียงอื่นๆ มากขึ้น ราวกับว่ามีบางสิ่งเคาะที่ขอบถังน้ำเบาๆ เสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหญิงสาวพนักงานออฟฟิศหมายเลข 2 ก็ดังขึ้น
"จ๊ะเอ๋...ฉันเจอเธอแล้วนะ..."
น้ำเสียงและสำเนียงที่อยู่ในประโยคนี้เกือบทำให้ซ่งชิงเสี่ยวร้องไห้ออกมา
แต่เธอก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงกัดปลายลิ้นทันทีที่รู้สึกตัว และฝืนอดทนต่อความเจ็บปวดนี้ไว้อย่างสุดชีวิต เพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายค้นพบเข้า
แต่ถึงแม้จะไม่ได้ร้องออกมา แต่ด้วยความกลัวอย่างที่สุด รูขุมขนทั่วร่างกายของเธอก็ขยายใหญ่ขึ้น เหงื่อเย็นไหลออกมาเป็นสาย ร่างกายของเธอเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว และสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว
โชคดีที่หลังจากที่หญิงสาวพนักงานออฟฟิศเคาะถังและพูดจบแล้ว เมื่อไม่ได้ยินเสียงใดๆ ดังมาจากในถัง จึงรีบจากไปและเดินไปอีกทางด้านหนึ่งของถัง และดูเหมือนจะเคาะเบาๆ และพูดด้วยเสียงที่เบาลง
"ฉันเห็นเธอแล้วนะ..."
เมื่อซ่งชิงเสี่ยวได้ยินเช่นนี้ ร่างกายที่แข็งทื่อก็คลายลงทันที เธอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่หญิงสาวพนักงานออฟฟิศพูด แท้จริงแล้วอีกฝ่ายไม่ได้ค้นพบเธอจริงๆ หรอก แต่แกล้งทำเป็นเจอเพื่อจับพิรุธต่างหาก
การกระทำเช่นนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คุณหมอน่าจะอยู่ใกล้ๆ เพื่อคอยเฝ้าดูสถานการณ์ด้านนอกอยู่จริงๆ รอแค่ให้หมายเลขสองค้นหาเธอพบ จากนั้นก็ฆ่าเธอในโอกาสเดียว
หัวใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ซ่งชิงเสี่ยวรู้สึกราวกับว่าเธอจะหมดสติและหายใจไม่ออกในไม่ช้า แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาหมดสติได้อย่างสบายใจ เธอจึงกัดปลายลิ้นอีกครั้ง รสเลือดคาวกระจายไปทั่วปาก เธอจำได้ว่าตอนที่ฆ่าชายอ้วนเตี้ยวัยกลางคนหมายเลขหกนั่น เลือดก็ได้ไหลเข้าปากของเธอเช่นกัน ความรู้สึกอยากอาเจียนก็พุ่งขึ้นมาที่ลำคออย่างห้ามไม่อยู่
หลังจากที่ปลายลิ้นถูกกัดจนทะลุ เนื่องจากความตึงเครียดและความกลัว ทำให้บาดแผลเล็กน้อยนี้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เธอจึงกัดอีกหลายต่อหลายครั้ง จนกว่าความเจ็บปวดจะสามารถดับความหวาดกลัวที่พลุ่งพล่านนี้ได้
เมื่อหญิงสาวพนักงานออฟฟิศเดินวนรอบๆ จนทั่วแล้ว ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จึงเริ่มกลายเป็นหงุดหงิด เธอตะโกนอีกสองสามครั้ง แล้วในที่สุดก็เลิกแกล้งทำเป็นอ่อนโยน
"หรือว่ายัยนั่นจะไม่อยู่ที่นี่"
ทันทีที่เธอพูดคำนี้ ซ่งชิงเสี่ยวก็แทบจะมั่นใจได้เลยว่าคุณหมออยู่แถวนี้จริงๆ ด้วย
บางทีคุณหมออาจจะรู้ตัวว่าคู่หูเขาเผยไต๋แล้ว ดังนั้นการที่ต้องระมัดระวังฝีเท้าและการหายใจไม่ให้ซ่งชิงเสี่ยวรู้ว่าตัวเองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน ก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป หลังจากนั้นนานพอสมควร เขาจึงพูดขึ้น
"เป็นไปไม่ได้"
ในพื้นที่นี้ ชายที่เดิมทีเป็นคนน่าเชื่อถือคนนี้ กลับพูดจาจนทำให้น่าขนลุก
"ศพของหมายเลขหนึ่งอยู่ใกล้ๆ แต่หมายเลขหกกลับหายไป"
เขาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ "ที่แถวนี้รอบๆ ถูกเหยียบจนเละเทะไปหมด หมายเลขเก้าเธอฉลาดมาก น่าจะจงใจทำลายสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเรา มันถึงไม่มีร่องรอยคราบเลือดหรือเบาะแสชัดเจนที่ชี้ว่าเธอมาที่นี่ได้เลย"
คำพูดของคุณหมอผ่านถังน้ำ ทะลุเข้าไปในหูของซ่งชิงเสี่ยว
แปลกดี ทั้งที่เธอเป็นคนที่เชื้อสายต่ำต้อย ฐานะก็ยากจน พ่อก็เคยไปก่อเรื่องจนมีคดีติดตัว ส่วนแม่ก็ติดเหล้าเมายาทุกวัน เธอมาจากชนชั้นล่างของสังคม น้อยคนนักที่จะชมว่าเธอฉลาดแบบเขา
ซ่งชิงเสี่ยวขยับปลายนิ้วเบาๆ เพื่อลูบมีดสั้น รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย คุณหมอยังคงพูดต่อ
"แต่เหมือนเธอละเลยบางอย่างไป"
แต่เพียงประโยคเดียว จากความสบายใจเล็กน้อยเมื่อสักครู่ ก็ทำให้หัวใจของซ่งชิงเสี่ยวเต้นรัวดีดขึ้นมาที่ลำคอทันที
"ถ้าฉันเดาไม่ผิด ศพของหมายเลขหกน่าจะถูกเธอกำจัดไปแล้ว แล้วถึงลากมาจนถึงที่นี่" คุณหมอหยุดพูดชั่วครู่ แล้วพูดต่อว่า "น้ำหนักของแต่ละคนไม่เท่ากัน รอยเท้าก็ลึกไม่เท่ากัน เธอแบกหมายเลขหกอยู่ ดังนั้นรอยเท้าที่เดินผ่านไปจึงลึกกว่า และหญ้าก็ยุบไปมากกว่ารอยเท้าปกติที่ไม่ได้แบกคน"
ซ่งชิงเสี่ยวเงยคางขึ้น กัดริมฝีปาก ลมหายใจนั้นทั้งแรงและเร็ว คุณหมอดูเหมือนจะเดินมาอีกสองสามก้าวทางนี้ เข้ามาใกล้ที่ซ่อนของซ่งชิงเสี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
"บางทีเธออาจจะซ่อนอยู่แถวๆ นี้นี่แหละ"
เป็นอย่างที่คุณหมอพูดจริงๆ เธอไม่สามารถเถียงได้เลย เมื่อแบกน้ำหนักของคนๆ หนึ่ง ร่องรอยที่เหลืออยู่ก็จะยิ่งหนักขึ้น แม้ว่าซ่งชิงเสี่ยวจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยหลังจากสองคนนั้นตายแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถหลอกลวงคนที่เฉลียวฉลาดแบบหมอคนนี้ได้
เสียงเคาะ "ตุ๊กๆๆ" ดังขึ้น ราวกับว่าคุณหมอกำลังเหยียดนิ้วมือขึ้นแล้วเคาะขอบถังเบาๆ
"ที่นี่ ที่นี่ หรือที่นั่น..."
เมื่อหญิงสาวพนักงานออฟฟิศได้ยินเช่นนี้ ก็คล้ายกับว่าเธอก้าวถอยหลังไปอีกหลายก้าว เสียงฟังดูระมัดระวังเพิ่มขึ้นเมื่อพูด
"สรุปคือเธอยังอยู่ข้างในนี้หรือเปล่า"
"ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจเป็นไปได้ว่าเธอซ่อนตัวอยู่คนเดียว หรือไม่ก็อยู่กับศพของหมายเลขหก"
คุณหมอคิดอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็ถามอย่างลังเล "หรือเราจะลองเปิดฝาถังพวกนี้ให้หมดเลย"
ทันทีที่เธอเสนอแนะ หมอก็หยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยเสียงหัวเราะ
"ไปหาหญ้าแห้งมาจุดไฟที่ใต้ถังนี้น่าดีมากกว่า" ในขณะที่เขาพูด ราวกับว่าเขาโบกมือถือของตัวเอง "กริ๊ก กริ๊ก" เสียงดังขึ้น ราวกับว่าเป็นเสียงของไฟแช็ก เมื่อเปลวไฟลุกขึ้นก็มีเสียง "ตูม" เล็กๆ ซ่งชิงเสี่ยวก็ได้ยินเช่นกัน "โชคดีจังเลยที่เรามีไฟแช็กที่หมายเลขเจ็ดทิ้งไว้พอดี"
ในสถานการณ์เช่นนี้ คำแนะนำของคุณหมอคนนั้นช่างชั่วร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย ร่างกายของซ่งชิงเสี่ยวสั่นเทา เธอคว้าโทรศัพท์มือถือแล้วเอื้อมมือไปดันฝาถังโดยไม่รู้ตัว
แต่ในวินาทีถัดมา เธอก็นึกถึงเรื่องที่หญิงสาวพนักงานออฟฟิศเคาะขอบถังเมื่อสักครู่ได้ คุณหมอเองก็ใช้วิธีจู่โจมทางจิตวิทยาแบบเดียวกันกับหญิงสาวก่อนหน้านี้เลย
จะทำอย่างไรดี หัวใจของซ่งชิงเสี่ยวเหมือนต้องแก้เชือกที่รัดคอตัวเองไว้ ต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก
สถานการณ์ปัจจุบันไม่เป็นผลดีต่อเธอเลยสักนิด ทั้งสามคนต่างก็มือเปื้อนเลือดกันหมด ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทุกคนมีความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดอย่างแน่วแน่ทั้งนั้น หญิงสาวพนักงานออฟฟิศและคุณหมอต่างคนก็ต่างร่วมมือกันแบบนี้ ถ้าเธอถูกค้นพบเข้า มันอันตรายมากเกินไปจริงๆ
"ผมจะนับหนึ่ง สอง สาม ถ้าไม่อยากโดนจุดไฟเผา คุณก็ควรรีบลุกออกมาเองนะ..."
หมอพูดพลางมองไปที่ถังขนาดใหญ่หลายๆ ใบในโรงงาน "หนึ่ง..."
น้ำเสียงของเขายืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ
“สอง...”
แต่ยังไม่ทันนับถึงสาม หญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็พูดขึ้นว่า
"เราลองแค่เปิดถังพวกนี้ดูไม่ง่ายกว่าเหรอ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายจุดไฟ"
ได้ยินดังนั้น คุณหมอก็เห็นด้วยกับแผนการของเธอ เสียงฝีเท้าของทั้งสองคนก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากที่ซ่อนของซ่งชิงเสี่ยว ในบรรดาถังขนาดใหญ่หลายใบที่คุณหมอชี้ว่าน่าสงสัยนั้น มีถังที่ซ่งชิงเสี่ยวซ่อนตัวอยู่ด้วย
ท่ามกลางความกังวลใจ เธอสัมผัสได้ว่าปลายนิ้วของคุณหมอเลื่อนผ่านตัวถังทีละใบ เล็บของเขาขูดที่ขอบถังจนเกิดเสียงเบาๆ ที่ทำให้คนฟังเมื่อได้ยินแล้วสามารถรู้สึกไม่สบายใจได้
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ซ่งชิงเสี่ยวรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นปลาที่รอถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ขณะที่คนอื่นๆ เปรียบเสมือนมีดบนเขียง ในขณะที่นิ้วของคุณหมอกำลังกรีดผ่านถังที่เธอซ่อนตัว เขาก็ชี้ไปที่ถังอีกใบและพูดว่า
"เปิดอันนี้"
เมื่อฝาถูกเปิดออก ก็มีเสียง "เอี๊ยดอ๊าด" ที่น่ารำคาญดังขึ้น หมอคงโชคไม่ดี หญิงสาวพนักงานออฟฟิศพูดด้วยความผิดหวังว่า
"ไม่มี"
จากถังเจ็ดใบที่คุณหมอเลือก เขาล้วนเลือกถังที่ไม่มีศพหมายเลขหกและไม่มีที่ซ่อนของซ่งชิงเสี่ยวเลย ดังนั้นถังขนาดใหญ่ที่เหลืออีกสองใบซึ่งสูงกว่าใบอื่นๆ นี้ หากที่ซ่อนของซ่งชิงเสี่ยวถูกค้นพบก่อนศพหมายเลขหก สถานการณ์ของเธอก็จะตกอยู่ในอันตรายทันที
ในทางกลับกัน ถ้าถังที่ซ่อนศพหมายเลขหกถูกค้นพบก่อน อาจจะยังพอตบตาคุณหมอกับหญิงสาวพนักงานออฟฟิศคนนี้ได้ ทำให้ซ่งชิงเสี่ยวพอจะมีโอกาสรอดชีวิตอยู่
ทันใดนั้น โชคก็เข้าข้างซ่งชิงเสี่ยวอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่คุณหมอเลือกอีกครั้ง หญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็ตะเกียกตะกายเปิดฝาถังด้วยความยากลำบาก ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เพราะดูเหมือนศพหมายเลขหกจะอยู่ในสภาพคว่ำหัวลงและหงายเท้าขึ้น
"ตรงนี้! " หญิงสาวพนักงานออฟฟิศหันกลับไปพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือเมื่อเห็นศพหมายเลขหก ไม่รู้ว่าจะโล่งใจหรือกังวลใจดีกันแน่
ถังใบนี้ใหญ่มาก จากมุมมองของทั้งสองคน พวกเขามองไม่เห็นใบหน้าของชายอ้วนเตี้ยเลยสักนิด เห็นเพียงขาที่หงายขึ้นเท่านั้น คุณหมอก็ขมวดคิ้วมุ่น สั่งหญิงสาวว่า
"ปีนขึ้นไปดูที่ขอบถังหน่อย! "
เขาอยากรู้ว่าซ่งชิงเสี่ยวฆ่าชายวัยกลางคนอย่างไร และอยากรู้ว่าซ่งชิงเสี่ยวซ่อนตัวอยู่ใต้ศพนี้อีกทีหรือไม่
หญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็เชื่อฟังหมออย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่เมื่อได้ยินคำพูดนี้เธอจะยังแอบลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจปีนขึ้นไปอย่างสั่นๆ
ชายวัยกลางคนหมายเลขหกทั้งเตี้ยและอ้วนมาก ดังนั้นหลังจากที่ซ่งชิงเสี่ยวโยนเขาลงไป ศพของเขาก็เต็มถังแล้ว หัวพับไปข้างหน้า
ใบหน้าที่แช่อยู่ในน้ำเน่าโผล่ขึ้นมาเป็นพักๆ หญิงสาวพนักงานออฟฟิศมองแล้วก็ตกใจกลัวมาก
"ไม่มี ยัยหมายเลขเก้าไม่อยู่! "
ทั้งสองคนพูดถึงตรงนี้ ซ่งชิงเสี่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ในถังอีกใบข้างๆ ก็หลับตาลงแน่น ร่างกายที่เกร็งก็ค่อยๆ คลายลง
เธอ "ตุบ" ลงมาที่พื้น หมอดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย
"สงสัยคงไม่มีจริงๆ งั้นไปดูที่อื่นต่อ..."
จากนั้นเสียงฝีเท้าของคุณหมอกับหญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็ดังไกลออกไปมากขึ้น
ซ่งชิงเสี่ยววางใจได้เล็กน้อยแล้วในตอนนี้ ลมหายใจที่ติดๆ ขัดๆ ก่อนหน้านี้ในที่สุดก็ค่อยๆ กลับมาผ่อนคลายตามเดิม
ก่อนหน้านี้เพราะคุณหมอกับหญิงสาวพนักงานออฟฟิศอยู่ใกล้เธอมาก ดังนั้นจึงไม่กล้าหายใจแรง ต้องกลั้นหายใจอยู่เป็นเวลานาน การขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองทำให้ตอนนี้เมื่อร่างกายเธอผ่อนคลายแล้ว แต่ก็รู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว
ทั้งสองคนนั้นคงไปบรรลุข้อตกลงบางอย่างด้วยกัน ถึงสามารถยอมมาร่วมมือกันได้ อย่างว่าแหละ...ยิ่งเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ อยู่กันสองคนยังไงเสียโอกาสในการเอาชีวิตรอดก็ต้องมากกว่าการอยู่คนเดียวอยู่แล้ว จากเจ็ดคนก่อนหน้านี้ที่ตายไป และชายร่างใหญ่ที่พ่ายแพ้ให้กับพวกเขา แค่นี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนแล้ว
เมื่อสองคนนี้จากไป แล้วหาที่อยู่ของเธอไม่เจอ พนันได้เลยว่าในที่สุดพันธมิตรที่เปราะบางนี้ เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องแตกหักและฆ่ากันเองแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเมื่อไหร่ คนที่เหลือรอดคนเดียวอย่างซ่งชิงเสี่ยวก็จะสามารถออกไปจากที่นี่ได้ในที่สุด
เธอเพิ่งจะโล่งใจได้ไม่นานแท้ๆ ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะไปวิเคราะห์ไพ่ทั้งเก้าใบเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่ในวินาทีถัดมา ถังขนาดใหญ่ที่เธออยู่ข้างใน จู่ๆ ก็ถูกกระแทกเข้าด้วยอะไรบางอย่าง แรงกระแทกครั้งแรกยังทำให้ถังเพียงแค่สั่นเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังไม่เอียง แต่หลังจากนั้นแรงกระแทกครั้งที่สองก็ตามมาติดๆ !