ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 11 กายาเทพมารปฐมกาล
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 11 กายาเทพมารปฐมกาล
เบื้องบนท้องนภา
ปราชญ์ทั้งสามที่มาจากขุมอำนาจระดับสี่ต่างก็ตกตะลึงกับการล่มสลายของสำนักวิญญาณชาด
ในเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ อีกฝ่ายไม่เพียงแต่สังหารฉือซงจื่อ แต่ยังทำลายอาวุธกึ่งราชันปราชญ์ คันฉ่องมารสวรรค์ และยังกวาดล้างสมบัติของสำนักวิญญาณชาดจนหมดสิ้น
พลังอำนาจเช่นนี้ ย่อมต้องแข็งแกร่งเกินกว่าจะจินตนาการได้
“อยากรู้ว่าเป็นฝีมือใคร ก็ใช้การสืบค้นวิญญาณก็สิ้นเรื่อง”
ชายผู้นี้มีใบหน้าเย็นชาเอ่ยขึ้น
ในชั่วพริบตา เขาก็จับศิษย์ของสำนักวิญญาณชาดคนหนึ่งมาอยู่เบื้องหน้า และใช้การสืบค้นวิญญาณทันที
การสืบค้นวิญญาณเช่นนี้ ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก
ผู้ที่ถูกสืบค้นวิญญาณ หากโชคดีก็แค่ดวงวิญญาณเสียหาย บำเพ็ญต่อไปไม่ได้ตลอดชีวิต หากโชคร้ายก็จะกลายเป็นคนปัญญาอ่อน หรืออาจถึงแก่ชีวิต
แต่ปราชญ์ทั้งสามที่อยู่ตรงนั้นกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านแม้แต่น้อย
ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ ผู้ที่อ่อนแอไม่มีสิทธิ์แม้แต่ชีวิต!
ครู่ต่อมา ชายผู้นั้นก็สืบค้นวิญญาณเสร็จสิ้น เนื่องจากเขาแบ่งปันให้กับอีกสองคน พวกเขาจึงเห็นความทรงจำของศิษย์ผู้นั้นเช่นกัน
ผลลัพธ์ทำให้พวกเขาตกตะลึงจนถึงขีดสุด
“ยี่… ยี่สิบคน ยอดฝีมือระดับปราชญ์ยี่สิบคน… ซี้ด…”
ทั้งสามคนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“วังสวรรค์ ขุมอำนาจนี้มาจากที่ใด เหตุใดจึงมียอดฝีมือระดับปราชญ์ถึงยี่สิบคน”
“ขุมอำนาจเช่นนี้ ย่อมต้องเป็นขุมอำนาจระดับสี่หรือสูงกว่านั้น เหตุใดพวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“มีสองความเป็นไปได้ หนึ่งคือชื่อวังสวรรค์เป็นชื่อปลอม เพื่อปกปิดตัวตน อีกอย่างก็คือวังสวรรค์เป็นขุมอำนาจที่ซ่อนตัว ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน”
ปราชญ์ทั้งสามถกเถียงกันอยู่พักใหญ่
สุดท้าย พวกเขาก็ลงความเห็นว่าความเป็นไปได้ที่สองมีโอกาสมากที่สุด
เพราะหากต้องการทำลายสำนักวิญญาณชาดก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวตน
สำนักวิญญาณชาดไม่มีทั้งภูมิหลัง ไม่มีผู้สนับสนุน และไม่ได้ครอบครองสมบัติล้ำค่าหรือมรดกอันใด ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดตัวตน
“วังสวรรค์ ดูเหมือนว่าต่อไปหากพบเจอคนของขุมอำนาจนี้ จะต้องหลีกเลี่ยงให้ไกล”
ยอดฝีมือระดับปราชญ์ยี่สิบคน พวกเขาหวาดกลัวยิ่งนัก
หากอีกฝ่ายคิดจะเล่นงานพวกเขา ก็คงถูกทำลายในพริบตา
เพราะพลังอำนาจของพวกเขายังด้อยกว่าสำนักวิญญาณชาด
“ไปเถิด รายงานเรื่องนี้ให้พันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์!”
พันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์คือองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบแห่งที่แข็งแกร่งที่สุดในมณฑลเทพจงถู
พวกเขามีหน้าที่กำหนดระดับของขุมอำนาจต่าง ๆ
ขุมอำนาจที่เทียบเท่าก็คือพันธมิตรสายมาร
แต่ทั้งสองขุมอำนาจนี้ล้วนเป็นของเผ่ามนุษย์ ในดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างมหาภูผาสิบหมื่น ยังมีพันธมิตรสัตว์เทพอยู่
พันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์ พันธมิตรสายมาร และพันธมิตรสัตว์เทพ
ทั้งสามขุมอำนาจนี้ เป็นขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลเทพจงถู เป็นดั่งหม้อสามขาที่ค้ำจุนซึ่งกันและกัน
ในบรรดาสามขุมอำนาจนี้ พันธมิตรสัตว์เทพแข็งแกร่งที่สุด บางครั้งพันธมิตรสายมารและพันธมิตรแดนศักดิ์สิทธิ์จึงต้องร่วมมือกันเพื่อต่อกร
จากนั้นทั้งสามคนก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงพุ่งทะยานจากไป
………………
อีกด้านหนึ่ง
ไม่นาน เฟยเผิงและหุ่นเชิดทหารสวรรค์ก็กลับมายังวังสวรรค์
ทันทีที่มาถึง จี๋อวิ๋นก็ควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงนำสมบัติฟ้าดินทั้งหมดที่ได้จากสำนักวิญญาณชาดออกมา
ภายในโถงใหญ่ จี๋อวิ๋นมองดูสมบัติที่กองสูงราวกับภูเขา เปล่งประกายเจิดจรัส
เพียงแค่มองดูก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ
“ระบบ สมบัติฟ้าดินทั้งหมดนี้ แปลงเป็นแต้มต้นกำเนิดได้เท่าใด”
ติ๊ง!
[เรียนเจ้าภาพ สามารถแปลงเป็นแต้มต้นกำเนิดได้สองแสนแต้ม]
สองแสนแต้มเชียวหรือ
จี๋อวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ก็สมเหตุสมผล นี่เป็นสมบัติที่สำนักวิญญาณชาดสะสมมานับพันปี
ยิ่งไปกว่านั้น ฉือซงจื่อยังมีความทะเยอทะยาน อยากจะทะลวงสู่ระดับราชันปราชญ์ จึงรวบรวมสมบัติฟ้าดินไว้มากมาย
เมื่อรวมทั้งหมดแล้ว การแปลงเป็นแต้มต้นกำเนิดสองแสนแต้ม ถือว่าสมเหตุสมผล
จากนั้น จี๋อวิ๋นก็ทำการแปลงสมบัติฟ้าดินทั้งหมด
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น แต้มต้นกำเนิดสองแสนแต้มเข้าบัญชี รู้สึกอิ่มเอมใจ
“ในที่สุดก็ถึงเวลาสุ่มแล้ว…”
จี๋อวิ๋นรู้สึกตื่นเต้นจนต้องลูบมือ นี่เป็นการสุ่มครั้งแรกหลังจากที่เขาได้รับระบบ
ครั้งที่แล้วเป็นของขวัญจากระบบ ไม่นับ
“ตอนนี้ข้ามีทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายแล้ว สุ่มเป็นสิ่งของก่อนก็แล้วกัน”
จี๋อวิ๋นคิดในใจ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้วัสดุหุ่นเชิดสามชิ้นจากสำนักวิญญาณชาด นั่นก็คือพรสวรรค์ร่างกายสามประเภท
พอดีใช้เป็นตัวช่วยในการสุ่ม
“ร่างกายนี้ไร้ซึ่งพรสวรรค์ หวังว่าจะสุ่มได้พรสวรรค์ร่างกายหรือสายเลือดที่ดี…”
จี๋อวิ๋นรู้สึกคาดหวัง ทันใดนั้นเขาก็เริ่มสุ่ม
“ระบบ สุ่มสิ่งของ ใช้ [กายาเทพสุริยัน] [กายาวิญญาณอัคคีโชติแต่กำเนิด] [กายาวิญญาณอัคคี] เป็นตัวช่วยในการสุ่ม”
ติ๊ง!
[เพิ่มวัสดุหุ่นเชิดเรียบร้อยแล้ว เริ่มทำการสุ่มสิ่งของ…]
[กำลังทำการสุ่ม…]
ปึง!!
ในชั่วพริบตานั้น เบื้องหน้าจี๋อวิ๋นก็ปรากฏกลุ่มแสงมากมาย
กลุ่มแสงเหล่านี้มีขนาดแตกต่างกัน
กลุ่มเล็ก ๆ มีขนาดเท่าไข่นกพิราบ ส่วนกลุ่มใหญ่ ๆ มีขนาดเท่าดวงดาว
เห็นได้ชัดว่าสิ่งของถูกแบ่งระดับด้วยขนาดและความสว่างของกลุ่มแสง
จี๋อวิ๋นมองดูกลุ่มแสงที่พุ่งผ่านไป รู้สึกตื่นเต้น
ครั้งแรกที่เขาสุ่ม ไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ เพราะแต้มต้นกำเนิดเหล่านี้ เขาหามาได้ด้วยตัวเอง ความรู้สึกย่อมแตกต่างจากการสุ่มฟรีโดยสิ้นเชิง
ในที่สุดกลุ่มแสงก็หยุดลง
ตู้ม!
ทันใดนั้น กลุ่มแสงที่สว่างไสวเกินกว่าจะบรรยายได้ก็พุ่งเข้ามา
พร้อมกับเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
ติ๊ง!
[ยินดีด้วย เจ้าภาพได้รับพรสวรรค์ร่างกาย ‘กายาเทพมารปฐมกาล’!]
[กายาเทพมารปฐมกาล]: ในห้วงปฐมกาลก่อนที่ฟ้าดินจะถือกำเนิด เคยมีเทพมารสามพันตน เป็นตัวแทนของกฎเกณฑ์มหามรรคสามพันวิถี พรสวรรค์ร่างกายนี้ สืบทอดพลังจากเทพมารสามพันตน!
ซี้—!
จี๋อวิ๋นได้ยินเสียงของระบบ ก็ตกตะลึงในทันที
กายาเทพมารปฐมกาลที่สืบทอดพลังจากเทพมารสามพันตน เป็นถึงพรสวรรค์ร่างกายที่แข็งแกร่งเกินไป!
“เวรเอ๊ย! ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
จี๋อวิ๋นรู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างที่สุด
เดิมทีเขาแค่หวังว่าจะได้รับสายเลือดผานกู่ หรือร่างแท้บรรพชนจอมเวทก็พอแล้ว
ไม่คิดว่าจะได้พรสวรรค์ร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดมาครอบครอง
พรสวรรค์ร่างกายนี้ แข็งแกร่งกว่าสายเลือดผานกู่และร่างแท้บรรพชนจอมเวทมาก
เพราะแม้แต่ผานกู่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเทพมารสามพันตน
ตอนนี้จี๋อวิ๋นได้รับกายาเทพมารปฐมกาล ไม่เพียงแต่ได้รับพลังของผานกู่ แต่ยังรวมถึงพลังของเทพมารอีกสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าตน
พูดตามตรง แม้ว่าผานกู่จะแข็งแกร่ง แต่กฎเกณฑ์แห่งฤทธาที่เขาเข้าใจก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
เทพมารตนอื่น ๆ ที่เข้าใจกฎเกณฑ์อื่น ๆ บางตนแข็งแกร่งกว่ากฎเกณฑ์แห่งฤทธามาก
เช่น กฎเกณฑ์แห่งกาลเวลา กฎเกณฑ์แห่งกรรม กฎเกณฑ์แห่งมิติ…
เพียงแค่นึกถึงความแข็งแกร่งและความน่าสะพรึงกลัวของกฎเกณฑ์เหล่านี้ จี๋อวิ๋นก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบอดใจรอไม่ไหว
“ด้วยกายาเทพมารปฐมกาลนี้ ข้าสามารถบำเพ็ญได้แล้ว แม้แต่ในโลกเบื้องบน ก็เป็นพรสวรรค์ร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด!”
จี๋อวิ๋นพึมพำกับตัวเอง
หลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่สองครั้ง ในที่สุดเขาก็สามารถบำเพ็ญได้ และยังได้รับพรสวรรค์อันแข็งแกร่งเช่นนี้!
