ตอนที่แล้วบททดสอบครั้งที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปความว่างเปล่า

มีด


ขณะเดียวกัน ในหัวของซ่งชิงเสี่ยวก็ปรากฏภาพไพ่เรียงกันหลายใบขึ้นมาทันที

ทั้งเสียงปริศนาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ขนที่หลังของเธอลุกชันอย่างตั้งตัวไม่ทัน มันรู้สึกหวาดระแวงอย่างบอกไม่ถูก ประกอบกับเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของหญิงสาวในทีมเดียวกันที่ดังมาจากข้าง ๆ หูอีก ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินมัน

“อย่าร้อง !” ชายวัยกลางคนเตี้ยอ้วนตะโกนเสียงดุ ในสถานที่เช่นนี้ ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอันตรายใดๆ ที่ซ่อนอยู่ในแวดล้อมที่เงียบจนน่าขนลุกนี้ไหม แถมเสียงกรีดร้องของหญิงสาวในสถานการณ์เช่นนี้มีแต่จะทำให้สั่นประสาทคนที่ได้ยินซะเปล่าๆ

ชายวัยกลางคนเตี้ยอ้วนถูกจัดให้ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับซ่งชิงเสี่ยวและหญิงสาว ก็มีความหมายเป็นนัย ๆ ว่าถูกทุกคนรังเกียจแบบอ้อม ๆ อยู่แล้ว  เดิมทีนี่ก็ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก ยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อสักครู่ ในตอนนี้ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

“ฉันกลัว ฉันอยากกลับบ้าน...”

เสียงร้องไห้ของหญิงสาวในตอนนี้ฟังดูน่าขนลุกเป็นพิเศษ ชายวัยกลางคนเห็นได้ชัดว่าตัวเองก็กลัวไม่น้อย แต่พอได้ยินดังนั้นจึงด่าทอเสียงดัง

“แหมยัยบ้า! ใครกันที่จะไม่อยากกลับบ้านในเวลาแบบนี้วะ? ที่นี่ยังไม่มีใครรู้สถานการณ์ชัดเจนเลย ไม่รู้ว่ามีอันตรายอะไรอีกบ้าง แกส่งเสียงดังโวยวายแบบนี้ กลัวตัวเองจะตายไม่เร็วพอหรือไง”

การพูดถึงคำว่า ‘ตาย’ ในสถานที่เช่นนี้ ไม่เพียงแต่หญิงสาวเท่านั้น แม้แต่ชายวัยกลางคนเองก็ยังรู้สึกขนลุก

ซ่งชิงเสี่ยวไม่สนใจฟังบทสนทนาของทั้งสอง แต่ความสนใจของเธอกลับถูกดึงดูดไปที่ไพ่ในหัวตัวเองตอนนี้ต่างหาก ไพ่ที่เรียงกันเหล่านี้แต่ละใบเป็นภาพวาดพื้นสีดำลายเส้นสีแดง แต่ละสามใบเรียงเป็นแถว รวมทั้งหมดก็สามแถว แค่มองดูลวดลายก็รู้สึกกดดันจนอึดอัดไปหมดทั้งตัว

ซ่งชิงเสี่ยวกัดฟันกลั้นความรู้สึกขนลุกไว้ แล้วสังเกตลวดลายของไพ่เหล่านี้โดยละเอียด พิจารณาอยู่นานก็ยังนึกไม่ออกว่าลวดลายเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไร รู้เพียงแต่ว่าไพ่เหล่านี้มีทั้งหมดเก้าใบ

ผู้ที่เข้าสู่ ‘คุกแห่งพระเจ้า’ มีทั้งหมดเก้าคน จำนวนตรงกับไพ่เก้าใบพอดิบพอดี ไม่รู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

ความรู้สึกไม่ดีรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอีกระดับ ขณะที่ข้าง ๆ หูของเธอ ชายวัยกลางคนก็ยังคงบ่นด่าทอไม่หยุด

จำนวนไพ่เหล่านี้หมายความว่าอย่างไร ซ่งชิงเสี่ยวก็ไม่รู้ว่าจะออกจากคุกบททดสอบนี้ได้ไหม เหงื่อเย็นถังลออกมามากมาย ทั้งลื่นและเปียกชื้น คราบเลือดที่เหลืออยู่ในฝ่ามือก็เหนียวเหนอะหนะเมื่อเหงื่อถังลมาโดน

ทำให้ซ่งชิงเสี่ยวเผลอระลึกถึงความทรงจำตอนที่ถูกฆ่าได้อย่างเจ็บปวด โดยเฉพาะในบรรยากาศเช่นนี้ ยิ่งทำให้อดกังวลไม่ได้ เธอเอื้อมมือไปสัมผัสตรงส่วนลำคอที่ถูกแทงโดยไม่รู้ตัว ในวินาทีถัดมา เสียงลึกลับก็ดังขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง

"เลือกวัตถุแล้ว"

ซ่งชิงเสี่ยวตกใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้ เมื่อเธอตั้งสติได้ เธอก็พบว่าในมือของเธอมีสิ่งของอยู่ชิ้นหนึ่ง เธอจับมันโดยสัญชาตญาณ และความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาที่ฝ่ามือทันที

เธอเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ก้มลงมอง นี่คือมีดยาวประมาณฝ่ามือ ใบมีดบางเฉียบเหมือนปีกไหม ภายใต้แสงสลัวในหมอก เธอหมุนฝ่ามือเล็กน้อย มีดด้านหนึ่งก็สะท้อนแสงสีเงิน

ชายวัยกลางคนเตี้ยอ้วนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ แต่ยังคงด่าทอหญิงสาวที่กำลังร้องไห้สะอื้นไม่หยุด ซ่งชิงเสี่ยวแม้จะไม่เข้าใจว่ามีดนี้มาจากไหน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ การมีมีดไว้ป้องกันตัวก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเธอแล้วนี่

แม้จะไม่แน่ใจว่ามีดจะมีประโยชน์มากน้อยเพียงใดในคุกลึกลับแห่งนี้ แต่เธอก็ยังแอบพับแขนเสื้อซุกมีดไว้ข้างในเพื่อไม่ให้ใครรู้

ซ่งชิงเสี่ยวเพิ่งจะทำทุกอย่างเสร็จ หมอกรอบๆ ก็เริ่มจางหายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พื้นที่นี้เริ่มสว่างขึ้น ร่างของชายวัยกลางคนเตี้ยอ้วนและหญิงสาวก็ปรากฏชัดเจน

“ไอ้บ้าเอ๊ย...กูไปทำบาปกรรมอะไรมาวะเนี่ย ถึงต้องมาเจอพวกมึงสองคนที่ไร้ประโยชน์ขนาดนี้”

ชายคนนั้นดูไปดูมาก็เหมือนจะหยิบยืมเอาการด่าทอผู้อื่น เพื่อคลายความกลัวในใจของตัวเอง หญิงสาวคนนั้นที่ได้ยินก็โกรธนะแต่คงไม่กล้าพูดอะไร ชายวัยกลางคนด่าอยู่พักหนึ่ง เหมือนจะรู้สึกเหนื่อยในที่สุดถึงหยุดลงจนได้

“ไอ้สถานที่ผีสิงแบบนี้”

เขาส่ายหัว กำลังจะพูดต่อ หญิงสาวก็ร้อง “อ๊าก ! !” ออกมาอีกครั้ง

“เฮ้ย !  แกอยากตายหรือไง”

อารมณ์ที่ตึงเครียดของชายวัยกลางคนมาถึงจุดวิกฤต เขาชูหมัดขึ้น ทำทีจะต่อยอีกฝ่ายอยู่แล้ว หญิงสาวก็หดไหล่กลับไปโดยสัญชาตญาณ แต่หมัดของชายวัยกลางคนก็ไม่ได้ต่อยลงไปในที่สุด ไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งจะหาสติกลับมาได้ในวินาทีสุดท้าย แต่เป็นเพราะซ่งชิงเสี่ยวเห็นว่าในหมัดที่ชูขึ้นเพื่อต่อยหญิงสาวของเขามีเมาส์พร้อมสายโผล่ออกมาจากที่ว่าง

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย”

สายเมาส์สีดำยังคงกวัดแกว่งไปมา ชายวัยกลางคนเตี้ยอ้วนมีสีหน้าที่ดูเหมือนจะพังทลายลง ทำท่าเหมือนตัวเองเผลอไปจับต้องสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก มือสั่นและโยนเมาส์ที่อยู่ในฝ่ามือออกไป กอดหัวตัวเองไว้

ขณะที่ฝ่ายหญิงสาวก็เอื้อมมือออกมา ในมือเธอถือโทรศัพท์มือถือที่ห่อหุ้มด้วยเปลือกกระต่ายสีชมพูอยู่ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวไม่แพ้กัน

“นี่มันโทรศัพท์ของฉันก็จริง แต่...แต่ฉันเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วนะ”

ดวงตาของเธอที่เปียกชื้นด้วยน้ำตาจ้องมองไปที่ซ่งชิงเสี่ยว “มันมาโผล่ในมือได้ยังไงกัน”

เมื่อเห็นหญิงสาวน่าสงสารคนนี้ที่ดูเหมือนจะตกใจจนตัวสั่น ซ่งชิงเสี่ยวก็สูดหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง พยายามทำให้ตัวเองสงบลง

“ตอนที่เธอเข้ามาในนี้ เธอเคยหยิบมันขึ้นมาหรือเปล่า”

หญิงสาวมีสีหน้าเหมือนเห็นผี เหมือนจะทำตามท่าทางของชายวัยกลางคนที่เตี้ยอ้วนคนนั้น เธอโยนโทรศัพท์มือถือในมือทิ้ง เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งชิงเสี่ยว เธอก็รีบส่ายหัว

“เปล่า” เธอพูดขณะที่ฟันบนและฟันล่างกระทบกันจนเกิดเสียง “กึกๆๆ” เมื่อหมอกโดยรอบจางลง เผยให้เห็นแสงสลัว ซ่งชิงเสี่ยวก็สังเกตเห็นว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าของเธอสั่นกระตุกอย่างผิดปกติ เห็นได้ชัดว่าเธอหวาดกลัวจนถึงขีดสุด

“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คุณหมอพูดถึงเรื่องที่โทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ ฉันหยิบมันออกมาดูก็จริง แต่มั่นใจมากนะว่าฉันก็ใส่กลับไปไว้ในกระเป๋าตัวเองแล้ว”

หญิงสาวพูดถึงตรงนี้ ก็พูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ไม่ แต่ แต่ก่อนที่จะเข้ามาในพื้นที่นี้ ฉันกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่...” คำพูดของเธอทำให้ซ่งชิงเสี่ยวคิดถึงมีดที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อทันที ชายวัยกลางคนเตี้ยอ้วนที่อยู่ข้างๆ กันก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เช่นกัน

“ใช่ ใช่ ใช่ ตอนที่ผมเข้ามาที่นี่ ผมก็ถือเมาส์อยู่หน้าจอคอมเหมือนกัน”

คำพูดของทั้งสองคนเป็นการยืนยันว่าสิ่งของที่คนหลายๆ ถูกเลือกให้ที่นี่ อาจเป็นสิ่งของที่อยู่ในมือหรือที่ร่างกายสัมผัสในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะเข้ามาในพื้นที่นี้

ซ่งชิงเสี่ยวเบิกตาโพลง ขวามือของเธอก็ปิดมีดที่แขนซ้ายไว้ทันที หากการคาดเดาของเธอเป็นจริง มีดที่เธอได้มาตอนนี้ก็อาจจะเป็นอาวุธที่ชายแปลกหน้าคนนั้นใช้ฆ่าเธอตอนนั้น!

หลังจากที่เข้าใจที่มาของสิ่งของเหล่านี้แล้ว ชายวัยกลางคนก็ดูจะสบายใจขึ้นเล็กน้อย

“ผมได้เมาส์ เธอได้โทรศัพท์ แล้วคุณได้อะไรมา ?”

เขาหันมามองซ่งชิงเสี่ยว ขณะที่เธอได้แต่หลุบเปลือกตาลงเล็กน้อย แล้วส่ายหัว

“ไม่มี”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด