ตอนที่แล้วเกม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปความขัดแย้งภายใน

มันเกิดอะไรขึ้น


เดิมทีไพ่สามใบซึ่งเรียงเป็นสามแถว ตอนนี้มีไพ่สองใบที่มุมซ้ายบนถูกพลิกกลับมาแล้ว

ในเสี้ยววินาทีที่รูปภาพของชายวัยกลางคนและหญิงสาวปรากฏบนไพ่ ลมหายใจหอบเหนื่อยของซ่งชิงเสี่ยวก็หยุดลง

ไพ่ใบแรก ชายวัยกลางคนสวมเสื้อสูทสีดำ ยิ้มแย้ม ไพ่ด้านล่างเขียนว่า "Zhao Rong Qiang" สามคำ หากซ่งชิงเสี่ยวไม่ได้คาดการณ์ผิด นี่น่าจะเป็นชื่อที่แท้จริงของเขา

ไพ่เหล่านี้เริ่มปรากฏขึ้นครั้งแรกหลังจากที่คนอื่น ๆ เริ่มแยกย้ายเดินเข้าไปในกลุ่มหมอกหนา แต่หลังจากที่ปรากฏขึ้นแล้วก็กลับไม่มีการเคลื่อนถังวใด ๆ อีกเลย กระทั่งหลังจากที่หมายเลขหนึ่งและหมายเลขหกเสียชีวิตไป ไพ่สองใบถึงเพิ่งพลิกหงายไพ่ด้านหน้ากลับมา นี่หมายความว่าการพลิกไพ่เหล่านี้จำเป็นต้องแลกมาด้วยชีวิตของเจ้าของไพ่งั้นเหรอ?

หากการคาดการณ์ของซ่งชิงเสี่ยวเป็นจริง หลังจากที่ไพ่เหล่านี้พลิกกลับมาแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นอีก...

เธอจำภาพของเด็กสาวหมายเลขหนึ่ง และหมายเลขหกที่กำลังมองหาทางออกในพื้นที่แห่งนี้ได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า บางทีวิธีการคิดที่พวกเราพยายามหาทางออกจากที่นี่ผิดตั้งแต่ทีแรกแล้ว เบาะแสที่แท้จริงในการออกจากที่นี่ อาจซ่อนอยู่ในไพ่ทั้ง 9 ใบเหล่านี้

ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นมาในหัวของซ่งชิงเสี่ยว เธอรู้สึกคล้าย ๆ ว่าในที่สุดตัวเองก็ได้หาคำตอบที่ถูกต้องเจอจนได้

พอลองคิดดูดี ๆ  ครั้งแรกที่ถูกนำเข้ามาสู่พื้นที่แห่งนี้ เสียงลึกลับที่บอกกับเธอตอนนั้นก็คือ ‘เจ้าจะยอมรับการทดสอบของพระเจ้าหรือไม่’ พอหลังจากเข้าสู่พื้นที่แล้ว ก็มีคนทั้งหมดเก้าคนในพื้นที่นั้น ไพ่สามใบต่อแถวหนึ่งแถว รวมทั้งหมดมีสามแถวก็คือครบจำนวนทั้งเก้าคนพอดี พอหลังจากที่คนสองคนเสียชีวิตลง กลับกลายเป็นไพ่สองใบที่อยู่มุมซ้ายบนสุดก็หงายพลิกกลับมา

เมื่อรวบรวมและสรุปสถานการณ์ที่เธอรู้ในขณะนี้ ซ่งชิงเสี่ยวก็สามารถประมาณขอบเขตของภารกิจได้ในทันที

ภารกิจการทดสอบนี้ นั่นก็คือ ทุกคนต้องฆ่ากันเอง ส่วนเหตุผลที่จำนวนคนที่เข้าสู่การทดสอบเป็นเลขคี่ไม่ใช่เลขคู่ นั่นก็เพราะมีความเป็นไปได้มาก ว่าภารกิจนี้ต้องการผู้ชนะเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดชีวิตและสามารถออกจากพื้นที่แห่งนี้ได้

ซ่งชิงเสี่ยวพอคิดได้ในจุดนี้ก็ขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ แม้ว่าเธอจะสามารถฆ่าคนเพื่อปกป้องชีวิตตัวเองให้รอดได้ก็จริง แต่พอได้รู้เบาะแสของภารกิจโดยบังเอิญแบบนี้ ก็พลันรู้สึกได้ทันทีเลยว่าสถานการณ์ไม่เป็นผลดีกับเธอสักนิด

เสียงที่ทุกคนได้รับเมื่อเข้าสู่พื้นที่นั้นพูดเหมือนกันหมด ดังนั้นตอนนี้ นอกจากหมายเลขหนึ่งและหมายเลขหกที่เสียชีวิตแล้ว อีกหกคนที่เหลือน่าจะเริ่มค้นพบความผิดปกติบางอย่างแล้วเหมือนกัน

เพียงแต่ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวที่เธอมีมากกว่าทุกคนตอนนี้ก็คือ เธอน่าจะรู้ชัดเจนเป็นคนแรก ว่าการพลิกไพ่เกิดจากการตายของหมายเลขหนึ่งและหมายเลขหก แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ในที่สุดคนอื่นก็จะรู้คำตอบนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อทุกคนรับรู้เป้าหมายภารกิจเหมือนกันแล้ว ข้อได้เปรียบเพียงเล็กน้อยนี้ก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของซ่งชิงเสี่ยวในทันที

ท้ายที่สุด เธอกับหมายเลขหนึ่ง หมายเลขหก ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ทั้งสองคนกลับตายเพราะเธอ คนที่เหลือก็จะระมัดระวังตัวกับเธอมากขึ้นเป็นธรรมดา

ขณะเดียวกันภารกิจนี้ต้องการให้คนที่อยู่รอดเป็นคนสุดท้ายถึงจะมีเงื่อนไขที่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงเมื่อเทียบกับผู้ชายแล้ว ผู้ชายย่อมน่ากลัวและอันตรายกว่ามากอยู่ดี

หากซ่งชิงเสี่ยวต้องการมีชีวิตอยู่รอด ทางเดียวก็คือ...

ต้องฆ่าคนที่เหลืออีกหกคนให้หมด

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะมีพละกำลังและความแข็งแกร่งมากพอที่จะฆ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมดได้หรือไม่ แต่ในสถานการณ์ที่ทุกคนต่างก็ระมัดระวังตัวกับเธอแบบนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ในบรรดาผู้ชายทุกคนเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหากอีกฝ่ายคิดจะทำอันตรายตัวเธอจริง ๆ ว่าพวกเขาจะมีวิธีการไหนบ้าง แต่อย่างน้อยคนที่น่ากลัวที่สุดเมื่อลองเรียบเรียงดูก็น่าจะมีดังนี้

คนแรกเลยคือหมายเลขสามที่ชื่อโจวจิง คนนี้ยังไงก็เป็นอันตรายสำหรับเธอแน่นอน ไม่ต้องวิเคราะห์ให้มากความ

ส่วนคนที่สองก็คือ หมายเลขสี่ซึ่งเป็นคุณหมอที่มีประสบการณ์และดูมีความรอบคอบมากเป็นพิเศษ และเนื่องจากอาชีพของเขา ยิ่งทำให้เธอต้องระมัดระวังตัวมากกว่าใครเพื่อน อาจจะด้วยเพราะความที่เขาเป็นหมอ ดังนั้นจึงทำให้น่าจะมีความคุ้นเคยและใกล้ชิดกับความเป็นความตายมากกว่าคนอื่น ไม่อยากจะคิดว่าหากเกมปลิดชีวิตนี้เริ่มต้นขึ้นจริง ๆ จัง ๆ เมื่อไหร่ เพื่อความอยู่รอดแล้ว เขาคงสามารถเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจได้เร็วกว่าคนทั่วไปแน่ ๆ  ดังนั้นเขาจึงเป็นคนที่น่ากลัวมากที่สุดคนหนึ่งในความคิดเธอ

ส่วนคนที่สามคือหมายเลขเจ็ด ซึ่งพื้นฐานร่างกายเขาก็เป็นคนตัวใหญ่อยู่แล้ว ทั้งแข็งแรง และบึกบึน ที่สำคัญเขามีรูปร่างสูงใหญ่ที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดทั้ง 9 คนในนี้ จึงไม่ง่ายเลยที่จะจัดการเขาได้

แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะไม่เป็นผลดีกับเธอมากแค่ไหน ซ่งชิงเสี่ยวก็ไม่ยอมแพ้แน่นอน เธอแทบจะเอาชีวิตไม่รอดในตรอกแคบ ๆ มาครั้งหนึ่งแล้ว ยังไงก็ไม่เต็มใจที่จะตายอย่างเงียบ ๆ อีกครั้งในเกมนี้อย่างแน่นอน

เธอจับมีดไว้แน่น ๆ

โชคดีนะ ที่อย่างน้อยเธอก็ยังมีไพ่ตายที่เก็บไว้อยู่ในมือข้างนี้ ดังนั้นหากต้องต่อสู้กับชายวัยกลางคนพวกนั้นจริง ๆ  เธอก็ยังมีโอกาสเอาชนะพวกเขาได้อยู่

มีดเล่มนี้ถือเป็นทางรอดชีวิตเดียวที่ยังเหลืออยู่ของเธอ

แต่สิ่งที่ซ่งชิงเสี่ยวคาดไม่ถึงมากกว่านั้นก็คือ สิ่งที่เกือบจะพรากชีวิตเธอไป กลับกลายเป็นความหวังในการเอาชีวิตรอดสุดท้ายของเธอไปเสียได้ คิดดูแล้วก็น่าตลก ราวกับเป็นเรื่องตลกที่โชคชะตาเล่นกับเธอ หลังจากที่สงบสติอารมณ์ลงแล้ว ซ่งชิงเสี่ยวก็ซ่อนมีดไว้ก่อนอย่างระมัดระวัง

และในตอนนี้เองที่เหมือนกับว่าในปากของเธอยังคงมีกลิ่นคาวของเลือด ดังนั้นจึงอาเจียนออกมาสองสามครั้ง ก่อนจะเหลือบตาไปเห็นใบหน้าที่น่ากลัวของชายหมายเลขหกหลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้ว

ลักษณะของเขาแตกต่างจากในรูปถ่ายบนไพ่ราวกับคนละคน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ยิ่งรู้สึกขนลุก

หลังจากที่คนทั้งสองในทีมเสียชีวิต บรรยากาศโดยรอบก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น แต่ตอนนี้ซ่งชิงเสี่ยวไม่มีเวลาไปกังวลกับเรื่องบรรยากาศแบบนี้มากนัก เนื่องจากศพของหญิงสาวที่เสียชีวิตก็ยังอยู่ข้าง ๆ ตัวเธออยู่เลย ขณะที่ตรงลำคอก็มีสายเมาส์พันระโยงระยางมั่วไปหมด เสื้อผ้าถูกฉีกขาดเละเทะ

จัดการได้ไม่ยากหรอกเมื่อเปรียบเทียบกับศพของชายอ้วนเตี้ยที่ดูจัดการลำบากกว่า

เขามีบาดแผลถูกแทงที่คออย่างชัดเจน หากปล่อยให้ศพทิ้งไว้แบบนี้โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง แล้วเกิดคนอื่น ๆ มาพบเข้า ความลับของซ่งชิงเสี่ยวก็จะถูกเปิดเผยทันที

เมื่อความลับเรื่องไพ่ทั้งเก้าใบถูกเปิดเผย อันตรายของเธอก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ดังนั้นศพชายอ้วนเตี้ยคนนี้จะถูกใครพบเห็นไม่ได้เด็ดขาด!

แต่จะซ่อนเขาไว้ที่ไหนได้ล่ะ ในเมื่อที่นี่ก็มีแต่ทุ่งหญ้า ที่ไกลออกไปมีโรงงานร้างก็จริง แต่ก็ไม่มีอะไรที่สามารถใช้ซ่อนตัวได้เลย...

ซ่งชิงเสี่ยวคิดทบทวนภาพที่เห็นตลอดทางอย่างละเอียด นึกถึงถังขนาดใหญ่สิบกว่าใบในโรงงาน ถังแต่ละใบสูงประมาณครึ่งคน ปิดด้วยฝาถังที่ดูหนาและหนักใช่เล่น

ตอนที่ผ่านมา คนอื่น ๆ อีกสองคนรวมทั้งตัวเธอ ต่างก็ไม่แน่ใจว่าในถังมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ จึงไม่มีใครกล้าที่จะลองเปิดฝาดู

แต่ตอนนี้ที่เธอนึกเรื่องนี้ขึ้นมา นั่นก็เพราะ...

ถังใบใหญ่ดูจะเป็นที่ซ่อนศพที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว!

โรงงานไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี่ นิสัยของเธอคือละเอียดรอบคอบ ดังนั้นจึงแอบจดจำเส้นทางและทิศทางคร่าวๆ ไว้ตลอดการเดินทาง ตอนนี้หากจะเดินกลับไปก็ไม่ยากเย็นหรอก ขอเพียงแค่ซ่อนศพของหมายเลขหกสำเร็จ และเก็บกวาดที่เกิดเหตุให้เรียบร้อย แล้วรีบแอบซ่อนตัวอยู่ที่นั่นก่อนที่ใครจะมาถึง โอกาสที่จะมีชีวิตรอดก็จะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งส่วน

คิดได้ดังนี้ ซ่งชิงเสี่ยวจึงใช้มือยันพื้นลุกขึ้นมา ร่างกายของเธอยังสั่นเล็กน้อย ตอนฆ่าคนเพราะตื่นตระหนกเกินไปจึงไม่ทันได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้พอคลายความตื่นตัวลงได้แล้ว ก็รู้สึกใจสั่น เวียนหัว ตาพร่ามัวไปหมด

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมารู้สึกไม่สบาย จึงกัดปลายลิ้นตัวเองอย่างแรง แล้วส่ายหัวไปมาเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่หลงประเด็นกับสิ่งที่ต้องทำในเวลานี้ จากนั้นก็เตรียมออกเดินทางไปยังโรงงานร้างตามความทรงจำอีกครั้งหนึ่ง

เธอคำนวณเวลาและนับเลขในใจไปด้วย ขณะเดียวกันก็แบ่งสมาธิไปที่ไพ่ในหัว ใช้เวลาไปเพียงประมาณสิบห้านาที ในที่สุดเธอก็ระบุตำแหน่งของโรงงานร้างแห่งนั้นได้อย่างมั่นใจ เมื่อกำลังจะเดินย้อนกลับไป ไพ่ในหัวก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ไพ่ใบที่สามตรงมุมซ้ายบนพลิกหงายขึ้น หญิงสาวในชุดแดงหมายเลขแปดกำลังยิ้มให้กล้อง...

เธออยู่กลุ่มเดียวกับชายร่างใหญ่หมายเลขเจ็ดคนนั้น เมื่อไพ่หงายขึ้น แสดงว่าหมายเลขเจ็ดลงมือกับเธอแล้ว

ราวกับเป็นสัญญาณ เมื่อทุกคนเริ่มลงมือ ก็จะมีคนตายมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ที่สุดถูกฆ่าตายทีละคน ผู้รอดชีวิตในทีมจะกลายร่างเป็นนักล่าที่หิวกระหาย ออกตามหาเหยื่อที่เป็นคนด้วยกันเอง เวลาตอนนี้เหลือให้ซ่งชิงเสี่ยวไม่มากแล้ว

เธอกลับมายังที่เกิดเหตุ ก้มลงไปคลำกระเป๋าของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเงินและโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ที่นี่เงินไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอแล้วจึงเก็บใส่ไว้กลับที่เดิม ส่วนโทรศัพท์น่าจะยังมีประโยชน์กับเธออยู่จึงเลือกเก็บไว้ที่ตัวก่อน จากนั้นก็ถอดสายเมาส์ที่พันอยู่ที่คอของหญิงสาวออกมากำไว้ในมือ ตอนนี้ของอะไรก็ได้เธอต้องเก็บเอาไว้ก่อน

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอก็อดทนต่อความกลัวและความรู้สึกขยะแขยงในใจ แล้วเอื้อมมือไปจับศพชายอ้วนเตี้ยหมายเลขหกแบกขึ้นมา

หลังจากที่คนตายแล้ว ร่างกายย่อมหนักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุณหภูมิร่างกายของชายวัยกลางคนค่อยๆ ลดลง ไขมันเต็มตัวของเขาก็ทับลงบนหลังของซ่งชิงเซี่ยวอย่างหนักหน่วง จนเกือบจะทำให้เธอล้มลงกับพื้น

บาดแผลที่คอของชายผู้นั้นมีเลือดถังลเป็นเส้นลงมา ถังลไปที่ถังล่และแขนของซ่งชิงเซี่ยว ซึมเข้าไปในเสื้อผ้า ทั้งลื่นและคัน ส่วนมือของศพนั้นห้อยลงมาที่ด้านข้างลำตัวของซ่งชิงเซี่ยว โยกไปโยกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนๆ นั้นเป็นคนที่เธอฆ่าด้วยมือของเธอเอง ยิ่งเพิ่มภาระทางจิตใจให้กับเธอมากขึ้น

การเดินทางมาที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเดินมาถึงโรงงาน ซ่งชิงเซี่ยวก็แทบจะหมดแรงแล้ว เธอโยนศพของชายวัยกลางคนลงข้างๆ แล้วก็ออกแรงผลักฝาถังขนาดใหญ่เปิดออก ตอนแรกเธอก็ยังกลั้นหายใจ เพราะกลัวว่าจะมีอะไรบางอย่างในถังจะโผล่ออกมา แต่หลังจากที่เปิดฝาแล้ว เธอก็โล่งใจอย่างรวดเร็ว

ในถังมีเพียงของเหลวที่ดูเหมือนน้ำเน่า ๆ แค่ครึ่งถังเท่านั้น ภายใต้แสงไฟที่สลัวทำให้มันดูขุ่นข้นมาก ซ่งชิงเสี่ยวใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะสามารถผลักศพของชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนเตี้ยลงไปในนั้นได้ เมื่อได้ยินเสียง "ตูม" ของน้ำกระเซ็นออก ซ่งชิงเสี่ยวก็ปิดฝาและเริ่มเตรียมลบรอยที่เธอทิ้งไว้ตลอดทางทันที

ในบางจุดที่มีคราบเลือดเธอต้องขัดออกแรง ๆ  ขณะที่บางจุดซึ่งขัดไม่ออกก็ต้องยอมใช้ดินกลบ แต่หากยังมีบางจุดที่ไม่สามารถปกปิดได้จริง ๆ  เธอก็ได้แต่ปล่อยทิ้งไว้ แล้วไปกลบจุดอื่นให้เนียนที่สุดแทน

แต่อย่างไรก็ตาม คนตาแหลมก็คงจะมองออกอยู่ดีว่าที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่เธอเคลื่อนไหวมากที่สุด ถึงจะเป็นแบบนั้น ซ่งชิงเสี่ยวก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

เธอหนีไม่ได้ ถ้าหนีไป ก็คงจะเหมือนไก่หัวขาดที่อาจจะไปเจอกับนักล่าคนอื่นอยู่ดี และหากต้องเผชิญหน้ากันจริง ๆ ในขณะที่พละกำลังของเธอก็ถูกใช้ไปตั้งเยอะแล้วก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะมีมีดอยู่ แต่โอกาสมีชีวิตรอดก็ไม่มากนักอยู่ดี สู้รออยู่เฉยๆ ที่นี่ดีกว่า อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีถังขนาดใหญ่ประมาณสิบกว่าถัง แถมแต่ละถังก็มีฝาปิดครอบไว้อย่างแน่นหนาด้วยทั้งนั้น ดังนั้นหากใครคิดจะหาเธอในถังเหล่านี้ ก็อาจจะต้องอาศัยดวงหน่อยถึงจะเปิดหาเจอ หรือไม่ก็ต้องใช้เวลานานสักนิด

แต่อย่างน้อยขอเพียงแค่เธอมีเวลาตั้งตัวสักนิดระหว่างที่เขาเปิดหาเธอทีละถัง แค่ช่วงเวลานี้ก็เพียงพอที่จะเตรียมตั้งรับเพื่อรออีกฝ่ายเปิดฝาขึ้นแล้ว จากนั้นก็ค่อยโจมตีแบบไม่ให้ทันตั้งตัวได้

เธอหาถังที่ใส่ศพหมายเลขหก แล้วเลือกถังข้าง ๆ  เปิดฝาแล้วมุดเข้าไป ก่อนจะปิดฝาถังตามเดิมอีกครั้ง

เมื่อแสงสลัวค่อยๆ ถูกปิดฝาลง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตใจเธอหรือสาเหตุอื่นกันแน่ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าน้ำที่แช่ครึ่งตัวนี้ช่างเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งจริง ๆ  ราวกับเป็นลางบอกเหตุว่าหากเธอทำพลาด ที่นี่อาจเป็นหลุมฝังศพของเธอในเวลาต่อมา

หลังจากซ่อนตัวและตรวจสอบจนแน่ใจ ว่าไม่มีชายเสื้อผ้าหรือเส้นผมโผล่ออกไปด้านนอกแล้ว ซ่งชิงเสี่ยวจึงเริ่มสังเกตไพ่ในหัวตัวเอง

ในขณะที่เธอกำลังวางแผนและจัดแจงกลบร่องรอยตัวเองเหล่านี้ ไพ่ในหัวของเธอได้ถูกหงายไปมากกว่าครึ่งแล้ว!

เด็กสาวหมายเลขหนึ่ง ชายอ้วนเตี้ยหมายเลขหก หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงหมายเลขแปด เด็กชายหมายเลขห้า แม้แต่ไพ่ของโจวจิงหมายเลขสามก็ยังถูกหงายขึ้น!

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด