ผู้ปรารถนาอำนาจเพื่อความแข็งแกร่งของตนเอง (4)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[คนอ่านแต่ละตอนไม่ถึง 10 คน ขอร้องอย่า copy ไปเลยนะ อันนี้แปลเพราะอยากแปลจริง ๆ ไม่งั้นทิ้งไปนานแล้ว ,เพราะไปทำงานอื่นได้เงินกว่าเยอะ ที่แปลเนี่ยได้วันละ 20 บาทเอง]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
<เรื่องราวของแอรอน ตอนที่ 31>
4. ผู้ปรารถนาอำนาจเพื่อความแข็งแกร่งของตนเอง (4)
**********
"หืม"
คนที่ทำให้เขาเกือบตายพูดขึ้น
น้ำเสียงของเขาดูเหมือนกำลังวิเคราะห์
"ดูเหมือนจะไม่ใช่ แค่ทำให้เกิดสถานการณ์ที่รุนแรงก็ไม่น่าจะได้ผล ต้องมีเงื่อนไขอื่นอีกสินะ"
หัวเข่าของอารอนทรุดลงกับพื้น
เขาจับด้ามหอกที่ถูกโยนทิ้งไปและหอบหายใจด้วยความอ่อนล้า
เลือดไหลหยดลงมาจากทั่วร่างกายของเขา
"วันนี้พอแค่นี้ สามวันหลังจากนี้ ค่อยมาทำต่อ"
"เดี๋ยวก่อนครับ"
"มีอะไร"
รีเจียนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
"ผมยังไม่..."
"หืม?"
อารอนพูดกับรีเจียนที่กำลังจะหันหลังกลับ
“คุณบอกว่าคุณไม่สามารถทำอะไรได้ใช่ไหมครับ?”
อารอนกำลังประสบกับนรกในใจ
รีเจียนเองก็รู้ดีเช่นกัน
เขาเลือกทำแบบนั้นโดยตั้งใจ
เขาเลือกและตัดเฉพาะส่วนที่จะทำให้แม้แต่คนที่คุ้นเคยกับความเจ็บปวดก็ยังต้องกรีดร้องออกมา
ยิ่งกว่านั้น หากเพิ่มความกลัวให้คิดว่าร่างกายจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะเสียสติ
'อารอน ชายคนนั้นฝึกฝนมากเกินไป
รีเจียนมองอารอนตั้งแต่หัวจรดเท้า
ร่างกายที่แทบจะยืนเองไม่ไหว
ดวงตาสีแดงก่ำ
เขาต้องหายใจทางปาก และน้ำลายปนเลือดจะไหลลงมาด้วยทุกครั้ง
เข่าของอารอนเริ่มสั่นสะท้าน
เขาพยายามสร้างสถานการณ์สุดโต่งขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ของเขา แต่มันก็คล้ายกับการทรมานแบบดิบๆ
มีวิธีอื่นอยู่
ในตอนแรก วิธีการนี้ที่เด็กชายแนะนำนั้นไม่ได้ฝึกฝนด้วยซ้ำ
การฝึกอบรมที่ต้องแลกด้วยพลังทางร่างกายและจิตใจให้อยู่ติดกับการทรมาน
วิธีการนี้ขัดแย้งกับความเชื่อของรีเจียน
“ครั้งต่อไปเราจะเปลี่ยนวิธีการฝึก ฉันให้นายพักสักหนึ่งสัปดาห์”
"ยังครับ…”
"หืม?"
อารอนพูดกับรีเจียนที่กำลังจะหันหลังกลับไป
"ผมยังไม่ตาย"
"ว่าไงนะ?"
"ผมยังยืนอยู่ตรงนี้ปกติ ไม่เห็นเหรอครับ? คุณพูดเองว่าจะจัดการในแบบที่เหมาะสม”
แววตาของรีเจียนเปลี่ยนไป
อารอนจ้องมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ
"ถ้าหยุดตอนนี้ มันก็จะไม่มีความหมายอะไรเลยคุณจะบังคับให้จบในสิ่งที่คุณเริ่มต้นขึ้นเองงั้นเหรอ?"
"ถ้าทำต่อไป ฉันไม่สามารถรับประกันชีวิตนายได้หรอกนะ"
“...ผมยังไม่ตายครับ ผมยังไหว”
อารอนหัวเราะ
'ไม่เป็นไร'
เขาจะต้องไม่ตาย
แค่นี้เขาไม่ตายหรอก
ถ้าเป้าหมายของการฝึกคือการจำลองสถานการณ์ในรอบชิงชนะเลิศ แบบนี้มันยังห่างไกลนัก
"นายมันโง่ แยกการฝึกกับการฆ่าตัวตายไม่ออกหรือไง? ถ้านายมีศักยภาพ มันก็ทำได้ด้วยวิธีอื่นสิ"
"มันอาจจะเป็นไปได้สำหรับอัจฉริยะอย่างคุณ…."
รีเจียนขมวดคิ้ว
นี่เจ้านั้นกำลังบอกว่าตัวเองทำได้แค่นี้งั้นเหรอ?
"ได้โปรดนะครับ..."
"...อย่ามาโทษฉันล่ะ"
รีเจียนจับด้ามดาบในแนวตั้ง
เมื่อเห็นดังนั้น อารอนก็พยักหน้าและแทงหอกออกไปในอากาศอีกครั้ง
ผลลัพธ์ก็คือความล้มเหลว
ฉึก!
ลมพัดเบาๆ ละหยดเลือดก็กระเซ็นลงพื้น
อารอนเซ แต่ไม่ล้ม
'นี่ไม่ใช่การฝึก แต่มันคือการฆ่าตัวตาย'
คำพูดของรีเจียน
อาจจะถูกก็ได้
มันอาจจะมีวิธีอื่น
แต่วิธีนี้มันแน่นอนที่สุด
อารอนมั่นใจได้
เพราะเขามองเห็นมัน
'ภาพความทรงจำของช่วงชีวิตที่ผ่านมา'
ว่ากันว่าเมื่อกำลังจะตาย ความทรงจำมากมายผ่านเข้ามาในจิตใจ
ดังที่อาจารย์กล่าวไว้ว่าถ้าพลังแห่งกรรมแฝงอยู่ในความทรงจำไม่มีวิธีไหนที่จะได้ผลเท่าวิธีนี้
"ฮ่า ๆ ๆ..."
ฉึก
ทุกครั้งที่เขาแทงอย่างงุ่มง่าม ใบมีดก็จะกรีดผ่านร่างกายของเขา
ความรู้สึกของความตายที่เขาเคยสัมผัสค่อย ๆ แล่นเข้ามา
'ถ้าข้าตายตรงนี้...'
บางทีมันอาจจะดีกว่าก็ได้
ชีวิตของเขามันก็ไร้ค่าอยู่แล้ว
50 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นตามที่อาจารย์บอก
เขาแกว่งหอกตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย
แต่เขาก็ยังมีความหวังที่จะประสบความสำเร็จ และมันก็เหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจของเขา
ไม่สามารถถอยหลังกลับได้
อารอนไม่สามารถขึ้นสวรรค์ได้
และก็ไม่สามารถตกนรกได้
เขากำลังเดินไปในเขาวงกต
'มันคือความแตกต่างระหว่าง 0 และ 1'
แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีเส้นทางหนึ่งปรากฏขึ้นในเขาวงกตนั้นล่ะ?
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงภาพลวงตา เขาก็ต้องไป
แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ด้วยขวากหนามก็ตาม
การที่ไม่มีทางออกในเขาวงกตตั้งแต่แรก กับการที่มันมีทางออกอยู่แต่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
อารอนจะไม่ยอมปล่อยมันไป
ไม่มีทาง
เขาจะไม่มีวันลืมภาพที่เขาเห็นในภาพลวงตานั้น
"..."
ร่างกายของอารอนโงนเงน
เขาเสียเลือดมากเกินไปแล้ว
ถ้าไม่ทำอะไรตอนนี้ เขาจะตายเพราะเสียเลือดมาก
รีเจียนรู้สึกได้และกำลังจะขยับตัว
"พอได้แล้ว"
แต่จู่ๆ ก็มีเด็กชายคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเขาและขัดเขาไว้
อารอนเซไปเซมาเหมือนคนเมา แต่เขาก็ยังทรงตัวอยู่ได้โดยใช้หอกแทนไม้เท้า
"หยุดก่อนรีเจียน"
"นายจะฆ่าลูกศิษย์ตัวเองรึไง?"
"เขาไม่เหมือนกับอัจฉริยะแบบนาย อารอนผู้ไร้พรสวรรค์ต้องเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าได้"
สายตาของรีเจียนและเด็กชายจ้องกันเขม่ง
"กำแพงที่นายก้าวข้ามไปได้อย่างง่ายดาย สำหรับเข้าเด็กโง่นี่ มันต้องเดิมพันด้วยชีวิต"
"ยังมีโอกาสอื่นอีกไม่ใช่เหรอ ถ้าตายไปก็ไม่มีโอกาสแล้ว"
"พูดอะไรของนาย? มีแต่นายที่โอกาสล้นเหลือ สำหรับอารอนของเรา ถ้าพลาดโอกาสครั้งหนึ่งไป มันก็จะหายไปตลอดกาล เพราะเขาเป็นเด็กบื้อยังไงล่ะ"
“นั่นถือเป็นคำชมเหรอ?”
"ยังไงก็เถอะ ดูไปเงียบ ๆ ก็แล้วกัน"
ถ้าเป็นเรื่องของศิลปะการต่อสู้ รีเจียนคงจะโต้แย้งและเข้าไปจัดการแล้ว
แต่โลกใบนี้ไม่ใช่โลกของเขา
อารอนที่เซอยู่เมื่อครู่ก็ยืนขึ้นอย่างมั่นคง
"โอ้! นั้นไง?"
"อะไรของนาย?"
"เมื่อกี้ เห็นไหม? ภาพความทรงจำของชีวิตที่ผ่านมา?"
รีเจียนกุมขมับ
ลูกศิษย์ตัวเองกำลังจะตายอยู่แล้ว แต่เด็กชายก็ยิ้มอย่างสดใสและพูดไปเรื่อยๆ
"ก่อนตาย สมองจะพยายามค้นหาความทรงจำและข้อมูลทั้งหมดเพื่อเอาชีวิตรอด นี่แหละคือภาพความทรงจำของช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันเป็นวิธีทางวิทยาศาสตร์นะรู้ไหม?"
"วิธีทางวิทยาศาสตร์ของนายคือการทำร้ายคนจนเกือบตายงั้นเหรอ?"
"โธ่เอ๊ย ก็เจ้าอารอนมันโง่ ถ้าพูดไปมันก็ไม่เข้าใจหรอก!"
"ฉันไม่เข้าใจวิธีการของนายเลยจริง ๆ"
อย่างไรก็ตาม อารอนยืนนิ่งและขยับริมฝีปาก
เสียงที่เปล่งออกมากลับไม่ได้ยินอะไรเลย
ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังเห็นอะไร
ดวงตาของเขาดูโปร่งใสเหมือนลูกแก้ว
"ว้าว! นั้นไง มาแล้วๆๆๆๆ!"
เด็กหนุ่มร้องตะโกนด้วยดวงตาเป็นประกาย
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับอารอน
หอกในมือของอารอนเริ่มสั่น
เงาดำมารวมตัวกันที่ปลายหอก และค่อย ๆ รวมตัวกัน
แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่วิชาศิลปะการต่อสู้
มันเป็นปรากฏการณ์บางอย่างที่คล้ายกับเวทย์มนตร์
เงาที่เกาะอยู่ที่ปลายหอกก่อตัวเป็นภาพลวงตาโปร่งแสงและสั่นไหวเบา ๆ
แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น
เงาก็หายวับไปเหมือนแสงเทียนที่ดับลง
ตุบ
ร่างของอารอนล้มลงกับพื้น
"อ๊ะ เจ้านั้นตายหรือเปล่าเนี่ย?"
"..."
เด็กบ้านี่…มันเป็นอาจารย์แบบไหนกัน
เมื่อคิดแบบนั้นรีเจียนพุ่งไปหาอารอนอย่างรวดเร็วและจับชีพจรของเขาทันที
เขายังมีชีวิตอยู่แม้ชีพจรเต้นเบา ๆ ก็ตาม
รีเจียนแบกอารอนขึ้นบ่าและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
มีหมอที่ถูกเรียกตัวมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้รออยู่ที่กระท่อม
มีเลือดสำรองเตรียมไว้อย่างเพียงพอ เขาจะไม่ตายเพราะเสียเลือดมากอย่างแน่นอน
'ชื่ออารอน เดลเคิร์ดสินะ'
ชายหนุ่มมองดูอารอนที่หมดสติ
เขานึกถึงเงาดำที่เห็นเมื่อครู่
'ไม่มีผิดแน่'
เขาไม่ได้ตาฝาดไป
เห็นได้ชัดว่าเป็นเงาแห่งกรรมของชายคนนี้
ตามที่อาจารย์ของเขาบอก เด็กหนุ่มคนนี้สืบทอดกรรมนั้น
“....”
ดวงตาของรีเจียนมืดลง
และเขาเร่งฝีเท้าของเขาให้เร็วกว่าเดิม