ตอนที่แล้วบทที่ 8 : ชัยชนะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 : ฟื้นฟูการเพาะปลูก

บทที่ 9 : สัญญาการพนัน


บทที่ 9 : สัญญาการพนัน

“บัวเก้าปล้องสีเขียวหยกอย่างนั้นรึ...”

“มันเป็นของหายากอยู่นะ เท่าที่ข้ารู้…แถวนี้ไม่มีใครขายหรอก” หลินเทียนครุ่นคิด

เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของชูเกอ หลินเทียนก็นึกอะไรบางอย่างออก

‘หรือว่า…บัวเก้าปล้องสีเขียวหยกจะมีความสำคัญกับพี่ใหญ่ชู?’

หลินเทียนไอเบาๆเเล้วเผยยิ้มออกมา

“เเต่พี่ใหญ่ชูไม่ต้องกังวล ข้ารู้จักที่ๆหนึ่ง…ที่นั่นต้องมีบัวเก้าปล้องสีเขียวหยกขายอย่างแน่นอน!”

“ที่ไหน?” ชูเกอถามอย่างร้อนรน

"หอซวนหยุน!"

เเต่ก่อนที่ชูเกอจะไปที่หอซวนหยุน หลินเทียนก็ดึงแขนเขาเอาไว้

"พี่ใหญ่ชู ข้ารู้ว่าตอนนี้ท่านกำลังขาดเงิน…นี่ห้าหมื่นผลึกขาวที่ข้าเก็บหอมรอมริบเอาไว้ อย่ารังเกียจนะขอรับ”

เเน่นอนว่าชูเกอไม่ได้ปฏิเสธ เขาเก็บผลึกขาวพวกนั้นเอาไว้ จากนั้นก็พาชูเหยียนเอ๋อร์มุ่งหน้าไปยังหอซวนหยุนอย่างรวดเร็ว

………

หอซวนหยุนคือร้านค้าที่สำนักซวนหยุนเปิดขึ้นในศูนย์กลางการค้า มันตั้งอยู่บริเวณใจกลางของศูนย์กลางการค้า…ผู้คนจึงพลุกพล่านเเละคึกคักกว่าร้านค้าของหลินเทียนมาก

เมื่อชูเกอและชูเหยียนเอ๋อร์เดินเข้าไปในหอซวนหยุน พวกเขาก็พบกับห้องโถงที่กว้างขวางเเละตกแต่งอย่างหรูหรา

ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนมากมาย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ที่นี่รู้สึกแออัดเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น, ชูเกอก็เดินตรงไปหาหญิงสาวคนหนึ่ง

"ข้าต้องการบัวเก้าปล้องสีเขียวหยก"

หญิงสาวผู้นี้คือพนักงานของร้านค้า…เธอส่งยิ้มอย่างอ่อนหวานออกมา

"เชิญทางนี้เจ้าค่ะ” เธอยื่นมือออกไป เป็นเชิงเชื้อเชิญ

ชูเกอเดินตามหญิงสาวผู้นั้นขึ้นไปบนชั้นสอง, บนชั้นสองมีผู้คนน้อยกว่าชั้นล่าง แต่สินค้าที่วางขายกลับมีระดับสูงกว่ามาก

“บัวเก้าปล้องสีเขียวหยกเป็นสมุนไพรระดับสูง, คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายสรรพคุณให้ท่านฟังแล้วนะเจ้าคะ…ราคาของมันอยู่ที่สามหมื่นผลึกขาว นี่เป็นบัวเก้าปล้องสีเขียวหยกอันสุดท้ายในร้านของเราแล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวผู้นั้นกล่าว

ชูเกอมองชูเหยียนเอ๋อร์​ เเละนางพยักหน้าเบาๆ

‘สามหมื่นผลึกขาว ถือว่าถูกมากแล้ว’

ชูเกอหยิบการ์ดสีขาวใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ มันคือบัตรที่ศิษย์สำนักซวนหยุนใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย…ภายในบัตรนี้มีผลึกขาวอยู่สามหมื่นผลึก

แต่ในขณะที่ชูเกอกำลังจะจ่ายเงิน มันก็มีเสียงแหลมเล็กดังขึ้นเสียก่อน

“โอ้โห นึกว่าใครที่ใหน…ที่แท้ก็อัจฉริยะชูเกอ​ ศิษย์สายในลำดับแปดนี่เอง”

“ใกล้ถึงการคัดเลือกศิษย์หลักแล้ว แทนที่จะไปเตรียมตัว…เจ้ากลับมาที่นี่ทำไม?”

ชายคนนั้นทำท่าทางเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก

“อ้อ…ข้าลืมไป! ตอนนี้ชูเกอก็เป็นแค่คนพิการไปแล้วสินะ ที่เจ้ามาที่นี่…คงจะมาซื้อของเพื่อรักษาตัวล่ะสิ!”

ดวงตาของชูเกอเย็นเยียบลง เขามองชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังเดินตรงเข้ามาอย่างเชื่องช้า ชายคนนั้นดูสง่างาม ส่วนหญิงสาวนั้นงดงามราวกับดอกไม้

โอวหยางเซวียนและหลินเมี่ยวเข่อ!

หลินเมี่ยวเข่อเดินตามโอวหยางเซวียนมาติดๆ, เเละเมื่อนางเห็นชูเกอนางก็รู้สึกสะใจเล็กน้อย​

“เมื่อก่อนหมอนี่เอาอกเอาใจข้าสารพัด ตอนนี้ข้าอยู่กับโอวหยางเซวียนแล้ว…มันต้องเสียใจจนอกแตกตายแน่ๆ!” หลินเมี่ยวเข่อคิดในใจ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น…กลับทำให้นางรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ ชูเกอกลับไม่ได้มองนางแม้แต่ครั้งเดียว!

ยิ่งไปกว่านั้นข้างๆชูเกอยังมีเด็กสาวตัวน้อย​ ที่กำลังทำท่าทางล้อเลียนใส่นาง

‘มันต้องจงใจแน่ๆ เมื่อก่อนเขารักข้ามาก คงไม่มีทางที่เขาจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย…ข้าต้องยั่วโมโหมัน!’

เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเมี่ยวเข่อจึงดึงแขนเสื้อโอวหยางเซวียนพร้อมกับออดอ้อน

“พี่เซวียน ข้าอยากได้บัวเก้าปล้องสีเขียวหยก”

‘ยัยผู้หญิงสารเลวนี่!’ ชูเกอหรี่ตาลง

เขามองหลินเมี่ยวเข่อด้วยแววตาเย็นชา ภายในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้นราวกับจะเผาผลาญร่างของนางให้มอดไหม้เป็นจุล

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​โอวหยางเซวียนถึงกับพูดไม่ออก…แต่ในพริบตาเดียวเขาก็หัวเราะออกมา

“ได้สิ ข้าจะซื้อให้…สี่หมื่นผลึกขาว!”

หญิงสาวที่เป็นพนักงานมีสีหน้าลำบากใจ

ชูเกอมาถึงก่อน แต่โอวหยางเซวียนกลับเสนอราคาที่สูงกว่า

ไม่ว่านางจะเลือกฝ่ายไหน…มันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี

"บัวเก้าปล้องสีเขียวหยกยังไม่ได้ทำการซื้อขาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าสามารถ​เสนอราคาที่สูงกว่าได้" โอวหยางเซวียนกล่าวกับพนักงาน

พนักงานสาวพยักหน้ารับอย่างลนลาน จากนั้นก็มองชูเกอด้วยสีหน้าลำบากใจ

“ห้าหมื่นผลึกขาว” ชูเกอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ชูเกอเพิ่มราคาอีกหนึ่งหมื่นผลึกขาว!

เขาต้องได้บัวเก้าปล้องสีเขียวหยกมาครอบครองให้ได้ มันคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เขาสามารถฟื้นฟูระดับพลัง!

หญิงสาวที่เป็นพนักงานถอนหายใจอย่างโล่งอก ความจริงแล้วในใจของนางอยากจะขายให้กับชูเกออยู่แล้ว

ในเมื่อตอนนี้ชูเกอเสนอราคาที่สูงกว่าโอวหยางเซวียน นางก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

"ช้าก่อน! ข้าเพิ่มให้อีกหนึ่งหมื่นผลึกขาวเป็นหกหมื่นผลึกขาว ข้าอยากจะรู้จริงๆว่า…ไอ้ยาจกอย่างเจ้าน่ะ มีเงินมากแค่ไหนกันเชียว!” โอวหยางเซวียนร่ำรวยมหาศาล หกหมื่นผลึกขาวนั้นมากพอที่จะซื้อบัวเก้าปล้องสีเขียวหยกได้ถึงสองอัน

ชูเกอหรี่ตาลง, ห้าหมื่นผลึกขาว…นั่นคือเงินทั้งหมดที่เขามี

หากห้าหมื่นผลึกขาวยังไม่พอซื้อบัวเก้าปล้องสีเขียวหยก…

“กล้าพนันกับข้าไหม?” ชูเกอเอ่ยอย่างกะทันหัน

“กล้า! ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ข้ารับคำท้าทั้งหมด!” โอวหยางเซวียนหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ

"ข้าจะตีแผ่นศิลาทดสอบพลังจนถึงขั้นเจ็ด, หากข้าทำได้ เจ้าต้องออกไปจากที่นี่เเละห้ามแย่งชิงบัวเก้าปล้องสีเขียวหยกกับข้า”

“แต่หากข้าทำไม่ได้…ต่อไปนี้ ข้าจะหลบหน้าเจ้าทุกครั้งที่เจอเจ้า เป็นอย่างไร เจ้ากล้าพนันหรือไม่?” ชูเกอกล่าว

เขาพอจะมองออกว่าโอวหยางเซวียนต้องการที่จะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา ดังนั้นเขาจะมอบโอกาสให้โอวหยางเซวียนได้ ‘ทำลาย’ เขาอย่างเปิดเผย!

“ขั้นเจ็ดอย่างนั้นรึ? นั่นมันระดับของผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นปลาย….ตอนนี้เจ้ามีระดับพลังแค่อาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นกลาง แค่ตีแผ่นศิลาทดสอบพลังให้ถึงขั้นหกก็แทบจะหมดแรงแล้ว เจ้ายังกล้าพูดว่าจะตีให้ถึงขั้นเจ็ด?” โอวหยางเซวียนกล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง

"ตกลงหรือไม่ตกลง…ตอบมาคำเดียวอย่าเวิ่นเว้อ!” ชูเกอทำท่าทางเหมือนไม่สบอารมณ์

เเละเมื่อได้ยิน​เช่นนี้, โอวหยางเซวียนก็หัวเราะอย่างเย็นชา

“ตกลงสิ, ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะตีแผ่นศิลาทดสอบพลังจนถึงขั้นเจ็ดได้!”

โอวหยางเซวียนมั่นใจในตัวเองมาก

เเละนี่ไม่ใช่เพราะเขาดูถูกชูเกอ แต่เป็นเพราะในสำนักซวนหยุน…มันเป็นเวลานานหลายสิบปีมาแล้วที่ไม่มีผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นกลางคนไหนสามารถตีแผ่นศิลาทดสอบพลังให้ถึงขั้นเจ็ดได้

‘ชูเกอจะทำได้หรือ?’

เท่าที่เขารู้…เมื่อก่อน ตอนที่ชูเกอยังอยู่ในอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นกลาง เขาสามารถตีแผ่นศิลาทดสอบพลังได้แค่ขั้นหกเท่านั้น

‘ชูเกอคงจะสิ้นหวังจนทำอะไรไม่ถูกแล้วสินะ? หลังจากวันนี้ ชูเกอคงจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน! การคัดเลือกศิษย์หลักในครั้งนี้ เขาคงไม่สามารถเป็นภัยคุกคามข้าได้อีกต่อไป’ โอวหยางเซวียนครุ่นคิดอย่างยินดี

ส่วนหลินเมี่ยวเข่อที่ยืนอยู่ข้างๆก็รู้สึกสะใจเป็นอย่างยิ่ง

‘ดูสิว่าเจ้าจะเสแสร้งได้อีกนานแค่ไหน อีกไม่นาน…เจ้าก็ต้องเปิดเผยธาตุแท้ออกมา’ หลินเมี่ยวเข่อเองก็คิดในใจอย่างอารมณ์ดี​

หลังจาก​นั้น…พวกเขาทั้งหมดก็เดินไปยังแผ่นศิลาทดสอบพลัง

ตอนนี้ มีผู้คนมากมายกำลังใช้งานแผ่นศิลาทดสอบพลัง…เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ

"หวังลี่ทำได้ถึงขั้นเจ็ด, เก่งมาก!”

“ด้วยพลังขนาดนี้…น่าจะติดหนึ่งในห้าสิบของศิษย์สายในได้อย่างแน่นอน”

"น้อยไปแล้วมั้ง? ข้าว่า…หวังลี่มีโอกาสติดหนึ่งในยี่สิบนะ!”

เเต่ทันใดนั้น, เมื่อชูเกอและพรรคพวกปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็ได้รับความสนใจในทันที

"นั่นใครน่ะ?”

"เหมือนจะเป็นชูเกอนะ ทำไมเขาถึงมาที่นี่ได้?”

"ศิษย์สายในลำดับแปดที่ได้รับบาดเจ็บจนระดับพลังลดลงงั้นรึ?”

หวังลี่สวมชุดดำทั้งตัวเเละดูสง่างาม

ระดับพลังของเขาพัฒนาจนถึงอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นปลาย และในที่สุดเขาก็สามารถตีแผ่นศิลาทดสอบพลังได้ถึงขั้นเจ็ด

เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของชูเกอมาก่อน, แต่ตอนนี้ระดับพลังของชูเกอลดลงเหลือแค่อาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นกลาง…งั้นชูเกอคงจะด้อยกว่าเขาแล้ว

หวังลี่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เดินจากไป….ส่วนโอวหยางเซวียนที่รู้จักกับหวังลี่เป็นอย่างดีก็รีบเอ่ยขึ้นทันที​

"หวังลี่หลบไปก่อน อัจฉริยะชูของพวกเราบอกว่า…เขาจะตีแผ่นศิลาทดสอบพลังให้ถึงขั้นเจ็ด”

"โอ้?” หวังลี่มองชูเกอเเล้วยิ้มมุมปาก

“เช่นนั้น ข้าจะรอดู…ว่าเขาจะทำได้ใหม” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก

"พี่ชาย ไม่เอาแล้วได้ไหม? เรากลับกันเถอะ” ชูเหยียนเอ๋อร์ดึงชายเสื้อชูเกอเบาๆเเล้วกระซิบ

ชูเกอลูบหัวชูเหยียนเอ๋อร์เเล้วยิ้มบางๆ

“ไม่เป็นไร เชื่อใจข้าเถอะ”

ชูเหยียนเอ๋อร์พยักหน้ารับ

เเละในตอนนี้ จู่ๆนางรู้สึกมั่นใจในตัวชูเกออย่างประหลาด

‘บางที…เขาอาจจะทำได้จริงๆก็ได้นะ?’

จากนั้น​ชูเกอก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เเล้วเดินตรงไปยังแผ่นศิลาทดสอบพลัง

แผ่นศิลาทดสอบพลังมีสีเทา มันทำมาจากวัสดุพิเศษที่ใช้สำหรับทดสอบพลังของผู้ฝึกตนในอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​

จุดสูงสุดคือสิบขั้น, เเละนั่นแสดงถึงพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นปลาย

ดังนั้น, คำพูดที่บอกว่าชูเกอจะตีแผ่นศิลาทดสอบพลังให้ถึงขั้นเจ็ด…มันจึงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก

ฟุบ!

เมื่อมาถึงหน้าจุดทดสอบ, ชูเกอก็ชักดาบออกมาจากฝัก!

ชิ้งงงง!!!!

แสงเย็นเยียบสาดส่องออกมา!

พลังปราณอันบริสุทธิ์ไหลเวียนในร่างกายของเขาราวกับคลื่นยักษ์!

ชูเกอถือดาบยกดาบขึ้นเล็กน้อย แสงเย็นยะเยียบสะท้อนออกมาจากใบดาบของเขา

รังสีสังหารแผ่ซ่านออกมา!

ชูเกอในตอนนี้…เปรียบเสมือนเสือที่กำลังรอคอยจังหวะ​งับเหยื่อ!

“หึ…เสแสร้ง!” หลินเมี่ยวเข่อแสยะยิ้มอย่างเย็นชา

นางไม่เชื่อว่าชูเกอจะทำได้

เเละในขณะที่​สายตาของทุกคนกำลังจับจ้องไปยังชูเกอ

ในที่สุด…เขาก็ฟาดฟันดาบออกไป!

ดาบอัศนี!

​ตูมมมม!

ชูเกอตวัดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว

พลังปราณอันบริสุทธิ์ไหลบ่าออกมา ราวกับสายฟ้าที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้า

เคร้งงงงง!!!

คมดาบฟาดลงบนแผ่นศิลาทดสอบพลังอย่างจัง​ จากนั้นดาบในมือของชูเกอแตกละเอียดเป็นเก้าส่วน

“ดาบหักแล้ว! ยังจะตีให้ถึงขั้นเจ็ดได้อย่างไร…”

ในขณะที่โอวหยางเซวียนกำลังจะพูดจบ…แผ่นศิลาทดสอบพลังก็เปล่งประกาย

สามขั้น!

ข้ามไปสามขั้นในทันที!

สี่ขั้น!

ห้าขั้น!

สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังแผ่นศิลาทดสอบพลัง…และแน่นอนว่า…ขั้นหกก็สว่างขึ้น!

“ขั้นหกแล้ว!”

“ดูเหมือนว่า…ขั้นหกจะเป็นขั้นสูงสุดที่ผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเล​ทุกข์ยาก​ขั้นกลางจะทำได้”

“คงจะหยุดแค่นี้แล้วล่ะ ขั้นเจ็ดมันยากเกินไป…เฮ้ย! ขั้นเจ็ดสว่างแล้ว!”

ขั้นเจ็ด!

โอวหยางเซวียนมีสีหน้าตื่นตระหนก เขามองแผ่นศิลาทดสอบพลังอย่างไม่ละสายตา

ส่วนหวังลี่…เขายืนตะลึงอยู่ตรงนั้น ราวกับถูกฟ้าผ่า

ส่วนด้านชูเกอ, มุมปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย

…………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด