ตอนที่แล้วบทที่ 6 : ท้าสู้ม่อเสี่ยวหลาง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 : ชัยชนะ!

บทที่ 7 : การต่อสู้อันดุเดือด


บทที่ 7 : การต่อสู้อันดุเดือด

"ชูเกอ…แกรอก่อนเถอะ​!" หวังอู่ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็รีบวิ่งหนีไปทันที

ดูเหมือนว่าเขาจะรีบไปตามม่อเสี่ยวหลางมาช่วย

หลินเทียนเดินมาข้างๆชูเกออย่างเงียบเชียบ เขากุมหน้าอกด้วยสีหน้ากังวล

“พี่ใหญ่ชู ท่านไม่น่ามาเลย ตอนนี้ท่านไม่ใช่คู่มือของม่อเสี่ยวหลางแล้วนะ!”

“มันก็แค่ร้านค้าเล็กๆ, ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย!” หลินเทียนทุบประตูร้านอย่างหัวเสีย

“พี่ใหญ่ชู ท่านรีบหนีไปเถอะ…ก่อนที่ม่อเสี่ยวหลางจะมา!”

“ถ้าข้าไปแล้วเจ้าจะทำอย่างไร?” ชูเกอส่ายหน้า

เขาวางมือลงบนไหล่ของหลินเทียน ตบเบาๆสองสามทีเป็นเชิงปลอบใจ, เขาเคยต่อสู้กับม่อเสี่ยวหลางมาก่อน รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีฝีมือระดับไหน ถึงแม้ตอนนี้ระดับพลังของเขาจะลดลงแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสสู้เลย

'เรื่องแพ้ชนะ ค่อยว่ากันอีกที'

หลินเทียนมองชูเกอด้วยแววตาซาบซึ้งใจ ที่ผ่านมาถึงแม้ชูเกอจะคอยคุ้มครองเขา แต่พวกเขาก็มีข้อตกลงร่วมกัน

หลินเทียนจ่ายค่าคุ้มครอง ส่วนชูเกอก็คอยปกป้องเขา…แต่วันนี้ ชูเกอกลับยอมเสี่ยงเพื่อเขา สิ่งนี้ทำให้เขาอดรู้สึกอบอุ่นหัวใจไม่ได้

“วันนี้พี่ใหญ่ชูทำเพื่อข้าถึงเพียงนี้ ต่อไปนี้ ข้าจะปฏิบัติต่อท่านเหมือนพี่น้อง!” หลินเทียนกำหมัดแน่น สาบานกับตัวเองในใจ

"พี่ชาย ข้าเจอเห็ดหลิงจือหกสุริยันกับต้นหญ้าชิงหลิงแล้ว แต่ที่นี่ไม่มีบัวเก้าปล้องสีเขียวหยกขาย” ทันใดนั้น ชูเหยียนเอ๋อร์ก็วิ่งดุ๊กๆเข้ามาหาพวกเขา

ชูเกอพยักหน้า เขาพอจะเดาออกอยู่แล้วว่าคงหาบัวเก้าปล้องสีเขียวหยกได้ยาก

หลินเทียนไอเบาๆ มองชูเกออย่างมีเลศนัย พร้อมกับชี้ไปทางชูเหยียนเอ๋อร์ด้วยปลายคาง

"พี่ใหญ่​ชู...นี่พี่สะใภ้หรือขอรับ?”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, ชูเกอถึงกับพูดไม่ออก

ทักอะไรเกินไปแล้ว, ชูเหยียนเอ๋อร์ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ​ ยิ่งไปกว่านั้นในใจของข้ามีแต่หญิงสาวที่อยู่ในโลกอันไกลโพ้นเท่านั้น

ส่วนชูเหยียนเอ๋อร์กลับหัวเราะคิกคัก

นางเขย่งปลายเท้าจนตัวลอย แต่ก็ยังสูงไม่ถึงไหล่ของหลินเทียนเเละเริ่มเลียนแบบชูเกอ

นางวางมือลงบนหัวของหลินเทียนเบาๆ​ “เจ้าเด็กนี่ ตาถึงไม่เลว”

ชูเกอได้แต่ยิ้มเจื่อนๆกับการละเล่น​ของทั้งสอง

เเละตอนนี้เขาพยายามควบคุมพลังปราณที่กำลังปั่นป่วนในร่างกาย ปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อมสำหรับการต่อสู้

…….

ข่าวที่ชูเกอประกาศท้าสู้ม่อเสี่ยวหลางแพร่กระจายไปทั่วศูนย์กลางการค้าอย่างรวดเร็ว

เดิมทีศูนย์กลางการค้าก็เป็นสถานที่ๆมีผู้คนเข้ามามากมายหลากหลาย

เเน่นอนว่าพวกเขาชอบดูเรื่องสนุกๆอยู่แล้ว ยิ่งการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างศิษย์ของสำนักใหญ่แห่งแคว้นหยุนหวงด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น

“ต่อไปนี้ ข้าจะได้คุยโวกับคนอื่นๆได้แล้วว่า…ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเห็นการต่อสู้ของอัจฉริยะจากสำนักซวนหยุนด้วยตาของข้าเอง การต่อสู้ในครั้งนั้น…มันช่างเขย่าฟ้าดิน ปั่นป่วนพิภพ”

ณ​ ขณะนี้​ชูเกอปักดาบลงบนพื้นที่ว่างหน้าร้าน

เขายืนตัวตรงราวกับหอก ปิดเปลือกตาลงอย่างเงียบสงบ

“ดูสิ…แค่ท่าทางก็ดูสง่างาม ไม่เหมือนศิษย์จากสำนักเล็กๆเลยแม้แต่น้อย”

ไม่นานนัก บริเวณรอบๆร้านค้าของหลินเทียนก็เต็มไปด้วยผู้คน

"ได้ยินมาว่า ชูเกอเคยเป็นถึงศิษย์สายในระดับท็อปสิบของสำนักซวนหยุน…แต่หลังจากนั้นระดับพลังของเขากลับลดลงอย่างมาก จากอาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นปลายตกลงมาเหลือแค่อาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นกลาง”

“ถ้าอย่างนั้น การต่อสู้ครั้งนี้ชูเกอคงต้องแพ้อย่างแน่นอน”

“พวกท่านคิดว่าอย่างไร?”

“เเต่ข้าว่า…มันต้องมีอะไรพลิกผันแน่ๆ!”

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ฝูงชนก็ค่อยๆเปิดทางเดินให้กับชายหนุ่มร่างผอมบางคนหนึ่ง

ณ​ ขณะนี้…ม่อเสี่ยวหลางมาถึงแล้ว

ม่อเสี่ยวหลางเป็นชายร่างกายผอมบาง, มีผมสั้นเเละผิวคล้ำ

เมื่อเขายืนอยู่ตรงนั้น มันให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก

ม่อเสี่ยวหลางมองชูเกออย่างเหยียดหยาม ชูเกอที่เคยเป็นเหมือนภูเขาสูงใหญ่ในใจของเขา…เเต่ตอนนี้กลับไม่ต่างอะไรกับมดปลวกตัวหนึ่ง

“ชูเกอ แกคงรู้จักสำนวน ‘ตีสุนัขต้องดูเจ้าของ’ สินะ”

“หวังอู่เป็นน้องชายของข้า ม่อเสี่ยวหลางคนนี้…การที่แกซ้อมมัน ก็ไม่ต่างอะไรกับการตบ​หน้า​ข้า!”

ผู้คนรอบข้างต่างพากันเบิกตากว้าง

ม่อเสี่ยวหลางนี่ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก…แล้วชูเกอจะรับมือได้อย่างไร?

ชูเกอค่อยๆดึงดาบขึ้นมาจากพื้นพร้อมยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“สุนัขรับใช้ของเจ้ามาหาเรื่องข้าก่อน …การที่ข้าจะสั่งสอนมันก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน ส่วนเรื่องที่ว่าข้าตบหน้าเจ้า”

“แล้วมันจะทำไมหรือ?”

พรึ่บ!!

เมื่อชูเกอพูดจบ ผู้คนรอบข้างต่างก็มองเขาด้วยความตกตะลึง

“หรือว่าชูเกอจะกลับมามีพลังแข็งแกร่งเเล้ว…เขาจึงไม่เกรงกลัวม่อเสี่ยวหลาง?”

“หรือว่า…เขากำลังเสแสร้ง? กำลังทำเป็นแข็งแกร่ง?”

“ดีมาก!” ม่อเสี่ยวหลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขายื่นมือไปชี้ที่หว่างขาของตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

"เอาล่ะ…ตราบใดที่ตอนนี้เจ้าคลานลอดหว่างขาข้าไป ข้าจะยกโทษให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด”

“แต่ถ้าไม่…หึ! ด้วยระดับพลังแค่นี้ เจ้าคงรับมือข้าได้ไม่ถึงสิบกระบวนท่าหรอก!”

คิ้วของหลินเทียนขมวดเข้าหากันอย่างหัวเสีย

“ม่อเสี่ยวหลาง เจ้ามันเกินไปแล้ว!”

เขามองแผ่นหลังของชูเกอด้วยความเป็นห่วง

‘พี่ใหญ่ชูจะเอาชนะม่อเสี่ยวหลางได้หรือเปล่า​นะ?’

แม้แต่ชูเหยียนเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยังรู้สึกกดดัน นางจ้องมองม่อเสี่ยวหลางด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

“คนเลว! คนสารเลว!”

ฉัวะะ!!

อย่างไร​ก็ตาม, สิ่งที่ตอบคำถามของม่อเสี่ยวหลางคือเงาดาบที่พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว

เเละสิ่งนี้ทำให้​ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึง

ชูเกอลงมือก่อน!

ดาบเล่มนี้พุ่งออกไปราวกับสายฟ้าฟาดเเละเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

ดาบเล่มนี้ฟาดผ่านความว่างเปล่า ราวกับจะผ่าแยกอากาศเบื้องหน้า

พลังปราณอันบริสุทธิ์ ไหลบ่าออกมา ราวกับสายน้ำที่ไหลทะลักออกมาจากเขื่อนที่ไม่สามารถต้านทานได้!

ดวงตาของชูเกอเป็นประกาย เขาได้รวบรวมพลังทั้งหมดที่มีอยู่ ใส่ลงไปในดาบเล่มนี้

ในระดับพลังอาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นกลาง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต้านทานดาบเล่มนี้ได้

แต่ม่อเสี่ยวหลางมีระดับพลังอยู่ที่อาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นปลาย!

ถึงแม้ดาบเล่มนี้ของชูเกอจะรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด แต่เขาก็ยังสามารถตั้งรับได้อย่างทันท่วงที

“ว่ากันว่าหมอนี่เหลือระดับพลังแค่อาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นกลาง… เเล้วทำไมมันถึงมีพลังโจมตีรุนแรงเช่นนี้ได้?” ม่อเสี่ยวหลางครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ไม่เพียงแต่ม่อเสี่ยวหลางเท่านั้นที่ตกใจกับพลังโจมตีของชูเกอ

เขายังตกใจกับสไตล์การต่อสู้ของชูเกอที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า!

แต่ก่อนชูเกอต่อสู้ราวกับสายน้ำ…

ตอนนี้เขากลับต่อสู้ราวกับสายฟ้า!

ฟุ่บ!

เเต่ทันใดนั้น, ม่อเสี่ยวหลางก็ชักมีดสั้นออกมาจากเอว

แสงเย็นยะเยียบสะท้อนออกมาจากใบมีด เขารวบรวมพลังปราณทั้งหมดที่มีอยู่ใส่ลงไปในมีดเล่มนั้นในทันที

ฟ้าว!

เขาฟันมีดสั้นออกไป!

ในชั่วพริบตานั้น สีหน้าของผู้คนรอบข้างต่างก็แปรเปลี่ยน

คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไปราวกับจะปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้

ตูมมมม!

ดาบและมีดปะทะกันจนเกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว, คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไปโดยรอบ ทำให้ฝุ่นผงฟุ้งกระจาย

การปะทะกันในครั้งนี้…พวกเขาเสมอกัน!

ผู้คนรอบข้างต่างมองดูฉากตรงหน้าด้วยความตกตะลึง

สีหน้าของม่อเสี่ยวหลางดูน่าเกลียดเล็กน้อย​

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้เขากลับเริ่มรู้สึกหวาดกลัวชูเกอ…ทั้งๆที่ระดับพลังของอีกฝ่ายก็ลดลงไปมากแล้ว

ความรู้สึกหวาดหวั่นนี้ค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจของเขาราวกับต้นไม้ที่กำลังเติบโต

ชูเกอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมดุจใบมีดจ้องมองม่อเสี่ยวหลาง

รังสีสังหารแผ่ซ่านออกมามากมาย​จนทำให้ม่อเสี่ยวหลางไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ

ฟุ่บบ!

ชูเกอตวัดดาบออกไปอีกครั้ง, เขาฟาดฟันดาบอย่างต่อเนื่อง ปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่ผู้ฝึกตนอาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นกลางพึงมี

เคร้งๆๆๆๆ!

“ตั้งใจรับให้ดีล่ะ!”

ม่อเสี่ยวหลางยกมีดสั้นขึ้นมาป้องกัน เกิดเป็นเสียงโลหะกระทบกันดังกังวาน

เขารีบรวบรวมพลังปราณทั้งหมดที่มีอยู่ปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ซึ่งการเก็บงำ

พลังปราณอันบริสุทธิ์ไหลเวียนในร่างกายของเขาราวกับสายน้ำที่กำลังไหลเชี่ยว

ทันใดนั้น เขาก็คำรามลั่น

“คมมีดพายุ​คลั่ง!” เขาฟันมีดสั้นออกไป

แสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องออกมาจากใบมีด ความเร็วของมีดเล่มนั้นรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน

“วิชายุทธ์ระดับมนุษย์​ขั้นสูง?” ชูเกอหรี่ตาลงเล็กน้อย

พลังของวิชายุทธ์ระดับมนุษย์​ขั้นสูงนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะบรรยาย คลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไป ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างพากันตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

‘อาณาจักร​ทะเลทุกข์ยาก​ขั้นปลาย บวกกับวิชายุทธ์ระดับมนุษย์​ขั้นสูง…นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!’

ผู้คนรอบข้างต่างมองชูเกอด้วยสายตาสงสาร

“ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ชูเกอคงต้องพ่ายแพ้…”

…………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด