บทที่ 608 "ยูนิคอร์น" และความเข้าใจผิดของไทเกอร์
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[คนอ่านแต่ละตอนไม่ถึง 10 คน ขอร้องอย่า copy ไปเลยนะ อันนี้แปลเพราะอยากแปลจริง ๆ ไม่งั้นทิ้งไปนานแล้ว ,เพราะไปทำงานอื่นได้เงินกว่าเยอะ ที่แปลเนี่ยได้วันละ 20 บาทเอง]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 608 "ยูนิคอร์น" และความเข้าใจผิดของไทเกอร์
"คุณไทเกอร์ คุณน่าจะขับรถม้าเป็นใช่ไหมคะ?"
มิสุถามไทเกอร์พลางชี้ไปที่บังเหียนบนรถม้า ตอนที่ควีนออกเดินทาง จะมีลูกน้องเป็นคนขับรถม้าให้ แต่ครั้งนี้มิสุยืมมาแค่รถม้าเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาส่งรถม้าคืน ก็ให้ลูกน้องของควีนกลับไปแล้ว
นี่เป็นการพูดคุยส่วนตัวระหว่างแม่ชีและผู้ศรัทธา การไม่มีคนอื่นเข้ามายุ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด
รถม้านี้สร้างขึ้นตามขนาดตัวของควีน แม้แต่สำหรับไทเกอร์ก็ยังใหญ่ไปหน่อย การจะให้มิสุบังคับมันคงเป็นเรื่องยาก
"ไม่มีปัญหาครับ ตอนที่ผมเดินทางเมื่อก่อน ผมเคยมีประสบการณ์ น่าจะคล้ายๆกับรถม้าแหละครับ"
การเดินทางที่ว่านี้เป็นการเดินทางที่แท้จริง เขาเคยถูกเผ่ามังกรฟ้าจับไปเป็นทาส แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็มีช่วงเวลาที่เป็นอิสระ ในฐานะนักผจญภัย เขามีทักษะอยู่ไม่น้อย
"ถ้าอย่างนั้นก็ดี พวกเราออกเดินทางกันเถอะ"
"แม่ชีไม่ขึ้นมาด้วยเหรอครับ?"
"ไม่ล่ะ ฉันมีเพื่อนของฉันเอง ดูสิ มันมาแล้ว"
ด้วยสภาพร่างกายของไทเกอร์ การจะเดินทางไปทั่วประเทศวาโนะยังต้องใช้พาหนะ มิสุก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในฐานะแม่ชีมืออาชีพคนเดียวในตอนนี้ พาหนะของเธอก็พิเศษมากเช่นกัน
"นี่... นี่ยูนิคอร์นเหรอครับ?"
ในสายตาของไทเกอร์ ม้ายูนิคอร์นสีเหลืองอ่อนตัวหนึ่งเดินออกมาจากวัด โดยรวมแล้วมันก็เป็นม้าธรรมดา แต่แผงคอที่ลุกเป็นไฟตั้งแต่หัวจรดหาง และเขาเดี่ยวยาวแหลมบนหัวของมันนั้นโดดเด่นมาก
ไม่เหมือนกับเรื่องเล่าของราพันเซลที่เป็นนิทานพื้นบ้าน ทั้งสี่ทะเลและแกรนด์ไลน์ต่างก็มีตำนานเกี่ยวกับยูนิคอร์น แม้แต่เกาะเงือกก็เคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้บนบก
ยังพอมีโอกาสเห็นม้าที่มีเขาในบางเกาะ ทะเลมหัศจรรย์ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ มากมาย แต่แผงคอที่ลุกเป็นไฟบนหลังม้านั้นจัดอยู่ในประเภทของสัตว์ในจินตนาการอย่างแท้จริง
"ม้าเพลิง สิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นโดยพลังของพระเจ้า ปกติมันอาศัยอยู่ในโบสถ์ เด็ก ๆ ก็ชอบมันมากค่ะ"
มิสุลูบแผงคอของม้าเพลิงเบา ๆ และม้าเพลิงก็หมอบลงตรงหน้าเธอ หลังจากที่มิสดับเบิ้ลฟิงเกอร์นั่งบนหลังของมัน มันก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
"ไฟนี่มันของปลอมเหรอครับ?"
แผงคอที่หลังของม้าเพลิงถูกมิสุกดลงไป ดูเหมือนจะแตกต่างจากเปลวไฟที่ไม่มีตัวตนโดยสิ้นเชิง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไทเกอร์เอื้อมมือไปสัมผัส และความร้อนก็แผ่ซ่านมาจากฝ่ามือของเขา
แค่เปลวไฟไม่ทำให้เขาตกใจ แต่ความร้อนที่ส่งผ่านมาจากฝ่ามือบ่งบอกถึงสิ่งหนึ่ง นั่นคือเปลวไฟจริง ๆ
แต่มิสุที่อ่อนแอกว่าเขามากกลับนั่งอยู่บนหลังม้าเพลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "อย่าพูดแบบนั้นสิ คุณไทเกอร์ก็เป็นสาวกของพระเจ้าเหมือนกัน นั่นเป็นแค่คำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจน่ะ"
"ฮี้ ๆ"
เปลวไฟบนหลังม้าเพลิงไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา แต่เป็นแผงคอที่มีคุณสมบัติของเปลวไฟ สำหรับคนที่มันยอมรับ มันก็เป็นแค่แผงคอธรรมดา ไม่เป็นอันตราย แถมยังทำหน้าที่เป็นเบาะรองนั่งได้อีกด้วย
แต่สำหรับคนที่มันไม่ยอมรับ แผงคอนั้นก็คือเปลวไฟจริง ๆ แค่สัมผัสธรรมดาก็อาจทำให้เกิดแผลไหม้ได้ คำว่า "ปลอม" ของไทเกอร์ทำให้มันไม่พอใจ เลยสั่งสอนไทเกอร์เล็กน้อย
"เอาล่ะ คุณไทเกอร์ ตอนนี้ลองสัมผัสได้แล้ว ครั้งนี้จะไม่ทำให้คุณไหม้อีกค่ะ"
ภายใต้การแนะนำของมิสุ ไทเกอร์วางมือลงไปอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกไฟไหม้ มีเพียงความอบอุ่นของแผงคอ
"ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์จริงๆ..."
ลักษณะพิเศษของม้าเพลิงทำให้เขารู้สึกทึ่งในความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้ ก่อนหน้านี้เขาอาจจะรู้สึกสับสนกับเรื่องนี้ แต่การพูดคุยกับมิสุทำให้เขายิ่งเคารพในพลังอันยิ่งใหญ่นั้น ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็สามารถยอมรับได้
จากนั้น ม้าและรถม้าก็ออกเดินทาง มิสุพาไทเกอร์ออกจากฮาคุไม เดินทางทวนเข็มนาฬิกาไปทั่วประเทศวาโนะ
เซนิกาเมะกำลังฝึกซ้อมในหน่วยดับเพลิง ลัคกี้กำลังฉีดยาให้คนไข้ด้วยเข็มฉีดยา มาเนเน่กำลังตรวจสอบสภาพร่างกายของผู้คน ฮานะคุรารินกำลังปลอบประโลมจิตใจผู้คนด้วยพวงมาลัยดอกไม้
รถบรรทุกถ่านหินขนาดใหญ่กำลังแล่นไปบนหิมะในเมืองริงโกะ โมนเมนลอยไปตามลมบนท้องฟ้า เอลฟูนซ่อนตัวอยู่ในแขนเสื้อและเล่นกับผู้คน
เด็นริวและเมรีปเดินผ่านทุ่งหญ้า ผมของชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาเปลี่ยนเป็นรูปร่างแปลก ๆ เพราะไฟฟ้าสถิต และมีผู้มาใหม่คนหนึ่งถูกไฟฟ้าจากขนแกะของเมรีปช็อตเพราะความอยากรู้อยากเห็น เขาถูกพาไปพักผ่อนท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคน
ฝูงเคนทารอสกำลังวิ่งอยู่บนทุ่งหญ้า มิลแทงค์กำลังนอนอาบแดดอย่างสบายอารมณ์บนพื้นหญ้า
บนท้องฟ้า โอริโคริขนาดใหญ่กำลังบินลงมาพร้อมกับผู้คนบนหลัง เมื่อทุกคนลงมาอย่างปลอดภัย มันก็กระพือปีกที่เหมือนก้อนเมฆขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
ผึ้งหน้าตาแปลก ๆ กำลังเก็บน้ำผึ้ง ถัดจากนั้นคือชาววาโนะที่กำลังกำจัดวัชพืชใต้ต้นไม้
จากฮาคุไมถึงริงโกะ ผ่านชิโมสึกิ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงคุริ ระหว่างทาง ไทเกอร์ได้เห็นพลังเหนือธรรมชาติมากมาย และได้เห็นฉากแปลก ๆ บางอย่าง
เช่น เด็กหลายคนกำลังมุงดูสวนน้ำขนาดเล็กที่ทำจากไม้ไผ่ ข้างในมีสับปะรดแปลก ๆ กำลังเล่นอยู่ หลังจากนั้นไม่นาน สับปะรดก็ถูกเด็กผู้หญิงที่ดูแปลก ๆ พาตัวไป และผู้คนก็แบ่งน้ำที่เหลือกัน
สับปะรดนั้นก็คือคาจิชชู ส่วนเด็กผู้หญิงแปลก ๆ ก็คือมาวิปที่วิวัฒนาการแล้ว นี่คือการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างโปเกมอนและมนุษย์ ประเทศในอุดมคติที่โอโตฮิเมะวาดฝันไว้
"ดีจังเลยนะครับ"
"นี่คือประเทศภายใต้การปกครองของพระเจ้า และเป็นเป้าหมายของเราด้วย การเผยแผ่รัศมีของพระเจ้าไปทั่วทุกมุมทะเล"
"ถ้าทุกที่เป็นแบบนี้ก็ดีสิครับ ตลอดทางที่ผมมา ผมไม่เห็นการเหยียดเชื้อชาติอื่น ๆ เลย ไม่เห็นคนยากจน แม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ยังมีเสื้อผ้าใส่"
"ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยหรูไปหมดหรอก ต่อไปเราจะไปดู... เอ๊ะ สัตว์เลี้ยงเหรอ?"
"ใช่แล้ว นั่นไม่ใช่ลูกแมวและลูกสุนัขที่น่ารักเหรอครับ?"
มิสุรู้สึกว่าเธอได้ยินคำศัพท์แปลก ๆ เธอมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นสัตว์เลี้ยงที่ว่า จนกระทั่งมีเงาอีกหลายเงาปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ
"คุณไทเกอร์ นั่นไม่ใช่สัตว์เลี้ยงนะ คำพูดของคุณค่อนข้างจะดูหมิ่นคนอื่นนะ"
"ผมเป็นแค่เศษสวะจากใต้ทะเล ไม่ควรมาอยู่บนบกเลย ผมน่าจะฝังตัวเองอยู่ในโคลนใต้ทะเลมากกว่า"
เห็นได้ชัดว่าเธอพูดช้าไปแล้ว ตอนนี้ไทเกอร์มีสีหน้าหดหู่ มองดินใต้เท้าอย่างสิ้นหวัง และนั่งยองๆเริ่มขุดหลุม
ผีสองตัวลอยอยู่ข้างหลังเขา แล้วยังทำหน้าทะเล้นใส่ไทเกอร์อีก
"นี่! เจ้าตัวใหญ่ แกพูดว่าใครเป็นสัตว์เลี้ยงกัน! เคารพน้องชายน้องสาวของคนอื่นหน่อยสิ!"
ร่างวิญญาณของเพโรน่าลอยอยู่ตรงหน้าไทเกอร์ ชี้นิ้วสั่งสอนเขา แมวและหมาที่ไทเกอร์เข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยง จริงๆ แล้วคือลูกของเซราโอร่าและเซ็คสึนะ เพโรน่ากำลังพาพวกเขาไปเล่นเท่านั้นเอง