ตอนที่ 268 ผมก็มีเพชรเม็ดเล็กๆ เหมือนกัน
“เข้าคิว.. ขอโทษด้วย ฉัน สวี..คนนี้ ไม่เคยต้องเข้าคิว”
ชายวัยกลางคนหัวเราะเยาะอย่างไม่แยแสพลางตอบกลับ
“เธอรู้ไหมว่านี่ใคร?”
“นี่คือคุณสวี โฮ่วเหว่ย, คุณสวี”
หนึ่งในลูกน้องของ สวี โฮ่วเหว่ย พูดเสียงดัง
สวี โฮ่วเหว่ย มาจากมณฑลข้างเคียง และเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สวี โฮ่วเหว่ย ได้เพิ่มพูนความมั่งคั่งอย่างรวดเร็วด้วยเหมืองแร่ที่เขามีอยู่ในมือ ไม่ใช่แค่ในเมืองนี้ แม้แต่ทั่วทั้งมณฑล สวี โฮ่วเหว่ย ก็ยังถือเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีชั้นนำ
และด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน สวี โฮ่วเหว่ย มักได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพอย่างสูง
สำหรับการให้เขาต้องเข้าคิว ..นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
“สวี โฮ่วเหว่ย? ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน..”
พนักงานส่ายศีรษะ และอธิบายว่า :
“อาจารย์ของเราได้ตั้งกฎไว้ว่าทุกคนที่มา ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือมีตำแหน่งใด ก็ต้องเข้าคิว และรักษาความสงบ”
“คุณ...”
ลูกน้องของ สวี โฮ่วเหว่ย เตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ สวี โฮ่วเหว่ย ห้ามเขาไว้ก่อน
สวี โฮ่วเหว่ย มองไปยังพนักงาน แล้วค่อยๆ หันเบนสายตากลับมาที่ เย่เฉิน
“หนุ่มน้อย ฉันจะให้คุณหนึ่งแสนหยวน แลกกับที่นั่งของคุณ”
สวี โฮ่วเหว่ย พูดพร้อมกับหยิบสมุดเช็คขึ้นมา เตรียมจะเขียนเช็คให้ เย่เฉิน
“ฉันให้คุณหนึ่งล้านหยวน เงียบซะ”
เย่เฉิน ตอบกลับอย่างเย็นชา
เขาตั้งใจจะเล่นโทรศัพท์มือถือเพื่อพักผ่อนสักหน่อย แต่กลับถูกรบกวนโดย สวี โฮ่วเหว่ย คนนี้
“ไอ้หนูนี่ แกว่าอะไรนะ?”
ลูกน้องของ สวี โฮ่วเหว่ย ถึงกับอึ้งไป
ไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับ สวี โฮ่วเหว่ย มาก่อน และเย่เฉิน ..คนนี้เป็นคนแรก
“หนุ่มน้อย.. ฉันขอแนะนำให้นายรู้จักเจียมตัวซะหน่อยนะ”
สวี โฮ่วเหว่ย หัวเราะด้วยความโกรธ
เขาบังเอิญผ่านมาเจียงโจว และได้ยินมาว่า เหยียน อวี้ตาน นักออกแบบชื่อดังอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจนำเพชรเม็ดใหญ่มาให้เธอออกแบบมัน
แต่... เขากลับถูกพนักงานเมินเฉย และถูกบอกให้เข้าคิว
และตอนนี้ยังมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล้ามาต่อกรกับเขาเรื่องเงินอีก!
ปกติแล้ว เขาเป็นคนที่ใช้เงินซื้อทุกอย่าง แต่ตอนนี้กลับถูกคนอื่นใช้เงินซื้อ?
แต่ต้องยอมรับว่า ..ความรู้สึกแบบนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจจริงๆ
“ดี... ดี... ดี...”
สวี โฮ่วเหว่ย พูดคำว่า ‘ดี’ ซ้ำสามครั้งด้วยความโมโห
ปัง!
ในวินาทีต่อมาเขาก็วางกล่องผ้าไหมเล็กๆ ลงบนโต๊ะอย่างแรง
ท่ามกลางสายตาของทุกคน สวี โฮ่วเหว่ย เปิดกล่องผ้าไหมออก
ทันใดนั้น เพชรสีชมพูเม็ดใหญ่ก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน
นี่คือเพชรสีชมพู ซึ่งแตกต่างจากเพชรธรรมดาทั่วไป เพชรสีชมพูเม็ดนี้ไม่ว่าจะเป็นขนาด หรือสี ถือว่าเป็นระดับยอดเยี่ยม
แต่มันก็ยังไม่อาจเทียบได้กับเพชรสีน้ำเงิน Fancy Vivid Blue น้ำหนัก 9.76 กะรัตของ เย่เฉิน
“ว้าว!”
พนักงานอุทานด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นเพชรเม็ดนี้
เธอเรียนอยู่กับอาจารย์มาหลายปี และเคยเห็นเพชรมาทุกชนิดแล้ว
แต่เพชรสีชมพูที่มีขนาดใหญ่ และสีสวยขนาดนี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“นี่คือ...?”
เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เห็น พนักงานจึงไม่สามารถบอกระดับของเพชรสีชมพูเม็ดนี้ได้ในทันที
“นี่คือเพชรสีชมพู Fancy Light ขนาด 6.19 กะรัต”
สวี โฮ่วเหว่ย พูดด้วยความภาคภูมิใจ
เขาใช้เวลา และทรัพยากรจำนวนมากกว่าจะได้เพชรสีชมพูเม็ดนี้มาในราคาหลายร้อยล้านหยวน
“6.19 กะรัต... Fancy Light...”
พนักงานพูดด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง
“ฉันให้เวลาเธอครึ่งนาที ถ้า อาจารย์เหยียน ยังไม่ออกมาพบฉัน ฉันจะพาเพชรเม็ดนี้ไปให้คนอื่นออกแบบแทน”
สวี โฮ่วเหว่ย ข่มขู่
เพชรสีชมพูขนาดใหญ่ และระดับสูงเช่นนี้ค่อนข้างหายากมาก
นักออกแบบหลายคนไม่ได้แค่ต้องการออกแบบให้มัน แต่ต้องการเห็นเพชรระดับนี้ด้วย
หากพวกเขาได้ออกแบบเครื่องประดับที่ใช้เพชรเม็ดนี้ ..มันอาจจะกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่โด่งดังไปทั่วโลก
นี่คือความฝันตลอดชีวิตของนักออกแบบหลายๆ คน
“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
พนักงานเข้าใจดีว่าเพชรสีชมพู ขนาด 6.19 กะรัตระดับ Fancy Light มีความสำคัญอย่างไร เธอจึงไม่กล้าละเลย และรีบหันไปแจ้งอาจารย์ของเธอให้ทราบทันที
แกร๊ก..
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะทำอะไร ประตูบานหนึ่งก็ถูกเปิดออก และหญิงสาวอายุประมาณสามสิบกว่าปีผู้มีใบหน้าสง่างามก็เดินออกมา
“เกิดอะไรขึ้น?”
ขณะนั้น ใบหน้าของหญิงสาวผู้สง่างามแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ปกติเธอชอบความสงบ และตอนนี้เธอกำลังอยู่ระหว่างการสนทนาที่สำคัญ แต่ข้างนอกกลับมีความวุ่นวายเกิดขึ้น ซึ่งรบกวนเธอจนไม่สามารถสนทนาได้อย่างราบรื่น
หญิงสาวผู้นี้คือ เหยียน อวี้ตาน นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดัง
“อาจารย์คะ นี่... นี่…”
เมื่อพนักงานเห็น เหยียน อวี้ตาน เธอพยายามอธิบายด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมชี้นิ้วไปที่เพชรสีชมพูของ สวี โฮ่วเหว่ย
เหยียน อวี้ตาน หันไปมองตามทิศทางที่ลูกศิษย์ชี้ไป และทันใดนั้น ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
แม้ว่าเพชรเม็ดนี้จะไม่ใช่เพชรที่มีระดับสูงสุดที่เธอเคยเห็น แต่ก็เป็นเพชรสีชมพูที่ใหญ่ที่สุดที่เธอเคยเจอมา
แน่นอนว่า ..มันสวยงามมากจริงๆ
เมื่อเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของ เหยียน อวี้ตาน สวี โฮ่วเหว่ย ก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ดูสิ?
เขาคิดไว้แล้วว่าแม้แต่ดีไซเนอร์ที่เย่อหยิ่งเช่นเธอ ยังต้องตกตะลึงไม่ต่างจากคนอื่นเมื่อเห็นเพชรสีชมพูเม็ดนี้ของเขา
“คุณคงเป็น อาจารย์เหยียน สินะ ฉันไม่ชอบพูดพร่ำเพรื่อ”
สวี โฮ่วเหว่ย พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า :
“ฉันจะให้คุณออกแบบเครื่องประดับจากเพชรเม็ดนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องราคา แต่ฉันมีเงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ”
“คือคุณ.. ต้องเริ่มออกแบบให้ฉันทันทีโดยไม่ต้องรอคิว และอีกอย่างคือไล่ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ออกไป”
สวี โฮ่วเหว่ย บอกเงื่อนไขของเขาอย่างมั่นใจ
สำหรับเขา เงินสามารถละเมิดกฎเกณฑ์ทุกอย่างได้เสมอ
พนักงานคนนั้นไม่บอก หรือว่าต้องเข้าคิว? ตอนนี้มาดูสิว่าเขายังต้องเข้าคิวหรือไม่?
ส่วนไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ที่ไม่ยอมให้เขาใช้เงินซื้อที่นั่ง ตอนนี้เขาจะให้ อาจารย์เหยียน ไม่ต้องไปออกแบบให้มันเลย..
ซึ่งไอ้เด็กหนุ่มคนนี้จะไปทำอะไรได้? นี่แหละคือพลังอำนาจของ ‘เงิน’!
หลังจาก สวี โฮ่วเหว่ย พูดจบ เขานั่งลงอย่างมั่นใจ รอให้ เหยียน อวี้ตาน ตอบรับเงื่อนไขของเขา
ใบหน้าของ เหยียน อวี้ตาน เปลี่ยนไป เมื่อได้ยินคำพูดของ สวี โฮ่วเหว่ย
“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”
เธอถามลูกศิษย์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเธอรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้น
ลูกศิษย์ไม่กล้าปิดบัง และเธอเล่าทุกอย่างให้อาจารย์ของเธอฟังอย่างครบถ้วน
และหลังจากที่ได้ฟังทุกอย่างแล้ว เธอก็มองไปที่เพชรสีชมพูเม็ดนั้นอย่างเฉยเมย
“อาจารย์เหยียน คุณคิดอย่างไร?”
“ฉันมีเวลาไม่มากหรอกนะ”
สวี โฮ่วเหว่ย ถามอีกครั้ง และแอบมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาเยาะเย้ย
เขาคิดว่า เย่เฉิน ยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจพลังอำนาจของ ‘เงิน’
ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกแรง อาจารย์เหยียน ก็จะจัดการทุกอย่างให้เขาเอง
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่สามารถรับเงื่อนไขของคุณได้ คุณเอาเพชรเม็ดนี้ของคุณกลับไปได้เลย”
คำตอบของ เหยียน อวี้ตาน ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ
เหยียน อวี้ตาน ปฏิเสธ?
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แม้แต่ลูกศิษย์ของเธอก็รู้สึกเสียดาย
เพชรสีชมพูเม็ดใหญ่อย่างนี้ ถ้าอาจารย์สามารถออกแบบเครื่องประดับที่สมบูรณ์แบบได้ มันจะทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในนักออกแบบเครื่องประดับระดับโลกได้อย่างแน่นอน
อาจารย์ของเธอยังคงเป็นอาจารย์คนเดิมอย่างที่เคยเป็น แม้ว่าด้วยเหตุผลหลายประการเธอจะต้องมาอยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างเจียงโจว
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ เธอก็จะไม่ยอมละเมิดจรรยาบรรณของตัวเองเพราะเงิน
“อะไรนะ? คุณพูดว่าอะไร?”
สวี โฮ่วเหว่ย ที่เพิ่งจะรู้สึกภูมิใจมาก ก็ต้องตกใจ ..เขาไม่อยากเชื่อว่า เหยียน อวี้ตาน จะปฏิเสธเขา
เธอปฏิเสธเพชรสีชมพูระดับสูงขนาดนี้?
“อาจารย์เหยียน ฉันขอแนะนำให้คุณคิดใหม่อีกครั้ง เพชรสีชมพูที่ใหญ่ และมีระดับสูงขนาดนี้ หากคุณพลาดไป คุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
สวี โฮ่วเหว่ย พูดขึ้น เขาพยายามโน้มน้าวเธออีกครั้ง
“ฉันปฏิเสธ”
เหยียน อวี้ตาน ส่ายหน้าพลางตอบกลับอย่างมั่นใจ
บางทีในอนาคตเธออาจรู้สึกเสียดายที่พลาดเพชรที่มีระดับสูงขนาดนี้ไป แต่นั่นจะไม่ทำให้เธอเสียใจในทางเลือกของเธอ
เพราะเธอไม่เคยละเมิดจรรยาบรรณของตัวเอง และเธอจะไม่ก้มหัวให้อำนาจเงิน
“คุณ…”
สวี โฮ่วเหว่ย กำลังจะพูดต่อ แต่ทันใดนั้นเสียงที่ไม่คาดคิดก็ดังขึ้นขัดจังหวะของเขา
“เสียใจ? ทำไม อาจารย์เหยียน ถึงต้องเสียใจ?”
“ผมเองก็มีเพชรเม็ดเล็กๆ อยากให้คุณช่วยออกแบบเหมือนกัน”
ทันใดนั้น ทุกสายตาก็หันไปมองที่ เย่เฉิน
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เย่เฉิน หยิบกล่องเล็กๆ ออกมา และเปิดมันออกอย่างช้าๆ