ตอนที่แล้วตอนที่ 13 อาจารย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 อาจารย์ซ่ง (1)

ตอนที่ 14 แบบหัดคัดอักษร


ตอนที่ 14 แบบหัดคัดอักษร

ตั้งแต่ที่ทราบว่าอาจารย์ซ่งจะมาเยี่ยม นอกเหนือจากช่วงเช้าและบ่ายที่หมดไปกับการปักผ้า อวี้ซีก็ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับแม่นมเซิน วันนี้อากาศดี นางจึงหิ้วตะกร้าอุปกรณ์ปักผ้ามาปักผ้าเช็ดหน้าที่ลานบ้าน

โม่จวีเดินเข้ามาอย่างร่าเริงแล้วบอกอวี้ซี "คุณหนู นายน้อยรองกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!"

ด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณช่วยชีวิตของหนิงซื่อ นายน้อยรองหันเจี้ยนเยี่ยจึงเอาใจใส่อวี้ซีเป็นพิเศษ ถึงกระนั้นตั้งแต่ปีก่อนเขาก็ได้ติดตามอาจารย์ไปฝึกศิลปะการต่อสู้ จึงกลับจวนน้อยครั้งลงมาก

เมื่ออวี้ซีได้พบหันเจี้ยนเยี่ย ความคิดในใจของนางก็ซับซ้อนยากอธิบาย ในชาติก่อนผู้ที่ปฏิบัติดีต่อนางที่สุดรองจากชิวซื่อก็คือพี่ชายรองผู้นี้ ทว่าเขากลับต้องพบกับความโชคร้ายครั้งใหญ่เมื่อถูกชิวเยี่ยนฝู หลานสาวของอู่ซื่อวางแผนใส่ร้าย จนสุดท้ายก็ต้องจำใจแต่งงานกับชิวเยี่ยนฝู ต่อมาถึงได้เดินทางไปเหลียวตงเพื่อหลีกเลี่ยงชิวเยี่ยนฝู และไม่เคยได้กลับมาอีกเลย

หันเจี้ยนเยี่ยเห็นอวี้ซียืนนิ่งงันอยู่หน้าประตู ก็เดินเข้ามาลูบหัวเบาๆ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม "เป็นอะไรไป เห็นพี่ชายรองแล้วดีใจจนพูดไม่ออกเลยหรือ"

รูปโฉมของหันเจี้ยนเยี่ยคล้ายคนตระกูลชิวมากกว่า หน้าเหลี่ยม คิ้วเข้ม ดวงตากลมโต สูงใหญ่กว่าคนวัยเดียวกันเนื่องจากฝึกวิชาการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก

อวี้ซีโผกอดเขาแล้วน้ำตาไหลพราก "พี่ชายรอง" ชาตินี้นางไม่มีทางยอมให้ชิวเยี่ยนฝูมาทำลายความสัมพันธ์ของพี่ชายรองของนางอีกเป็นอันขาด แบบนี้เขาก็จะไม่ต้องเดินทางไปเหลียวตง และไม่ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

หันเจี้ยนเยี่ยงุนงงเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้น

โม่จวีไม่รู้ว่าคุณหนูของตนเป็นอะไรเช่นกัน นางถามขณะยกยิ้ม "คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ นานทีนายน้อยรองจะกลับมา คุณหนูกลับร้องไห้เสียแล้ว!"

อวี้ซีได้สติและเก้อเขินอยู่บ้าง รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา นางตื่นเต้นมากเกินไปเมื่อได้เห็นพี่ชายรองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

หันเจี้ยนเยี่ยเป็นชายอกสามศอกที่ไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียด เมื่อเห็นดังนั้นก็หัวเราะร่า "พี่ชายรองกลับมาแล้วดีใจจนร้องไห้เลยหรือ มาๆ นี่เป็นของที่ข้าซื้อมาให้ ดูสิ ชอบหรือเปล่า" น้องสาวคิดถึงเขาขนาดนี้ ชวนให้ปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก!

อวี้ซีเห็นกล่องเครื่องสำอางในมือแล้วก็กลัดกลุ้ม นางอายุแค่สี่ขวบ แล้วจะให้นางใช้เครื่องสำอางได้อย่างไร "พี่ชายรอง ต่อไปนี้ไม่ต้องซื้อของมาให้แล้ว เปลืองเงินเปล่าๆ" เด็กอายุสี่ขวบจะใช้เครื่องสำอางไปทำไมกัน นางคงเอาไปแจกจ่ายให้คนอื่นต่อ

หนุ่มน้อยยิ้มกว้างก่อนบอก "ไม่เป็นไร ไม่ได้เปลืองเงินเท่าไหร่นัก"

อวี้ซีหมดคำจะกล่าวจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "พี่ชายรอง ถ้าท่านซื้อแบบหัดคัดอักษรมาให้ ข้าจะดีใจกว่านี้มาก"

หันเจี้ยนเยี่ยช้อนอุ้มอวี้ซีเข้าไปในห้องแล้ววางนางลง จากนั้นค่อยเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม "ซีเอ๋อร์เริ่มเรียนรู้ตัวอักษรแล้วหรือ แล้วอยากได้แบบหัดคัดอักษรแบบไหนล่ะ"

เด็กหญิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอก "ถ้าเป็นแบบหัดคัดอักษร ก็ต้องเป็นของท่านเหยียนเจินชิงดีที่สุดแล้ว" นางเคยได้ยินมาว่าแบบหัดคัดอักษรของท่านเหยียนเจินชิงเป็นตำราที่ดีที่สุด

อีกฝ่ายตอบตกลงทันที "ซีเอ๋อร์ขยันเรียนรู้เอาการเอางานอย่างนี้ ข้าจะไปซื้อมาให้ภายในสองวันนี้" เมื่อก่อนทั้งสองสนิทสนมกันมาก แต่ก็ไม่เป็นธรรมชาติเท่าตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงของอวี้ซีทำให้เขาพึงพอใจไม่น้อย

ขณะกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โม่จวีก็ถือตะกร้าอุปกรณ์ปักผ้าของอวี้ซีเข้ามา "คุณหนู โม่จวีเอาตะกร้าอุปกรณ์ปักผ้ามาเก็บไว้ในห้องแล้วเจ้าค่ะ"

หันเจี้ยนเยี่ยได้ยินดังนั้นก็เอ่ยด้วยความประหลาดใจ "ซีเอ๋อร์ เริ่มฝึกปักผ้าแล้วหรือ" เมื่อเห็นน้องสาวพยักหน้าจึงถามต่อด้วยรอยยิ้ม "แล้วเมื่อไหร่จะปักถุงหอมให้ข้าเล่า"

อวี้ซีประมาณการแล้วตอบ "พี่ชายรอง ถุงหอมนี้จะมอบให้กับลูกพี่ลูกน้องหย่าซื่อ ถุงหอมนี้เสร็จเมื่อไหร่ ข้าจะปักให้ท่าน"

หันเจี้ยนเยี่ยรับคำเริงร่า "เยี่ยมเลย ข้าจะรอ"

อวี้ซีแสร้งหยอก "พี่ชายรอง ท่านไม่กลัวว่าถุงหอมที่อวี้ซีปักจะไม่สวยแล้วคนอื่นจะหัวเราะเยาะบ้างหรือ" นางสบายใจเป็นพิเศษเมื่อได้พูดคุยกับพี่ชายคนนี้

อีกฝ่ายตอบอย่างไม่ลังเล "ไม่ต้องห่วง พวกเขาจะต้องอิจฉาข้าอย่างแน่นอน" หันเจี้ยนเยี่ยยังมีพี่น้องร่วมสำนักอีกหลายคน แต่ไม่มีใครเคยได้รับถุงหอมจากที่บ้าน เมื่อเขาได้รับถุงหอมจากน้องสาว คนเหล่านั้นย่อมต้องอิจฉาริษยาเป็นแน่

นางยิ้มกว้างแล้วบอก "พี่ชายรองไม่ต้องห่วง ข้าจะปักถุงหอมที่สวยที่สุดให้กับท่านอย่างแน่นอน" คำพูดของหันเจี้ยนเยี่ยสร้างความอบอุ่นหัวใจให้นางได้เสมอ

ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นานกว่าเขาจะกลับไป

หันเจี้ยนเยี่ยออกไปซื้อแบบหัดคัดอักษรในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่พบแบบหัดคัดอักษรของท่านเหยียนเจินชิง สุดท้ายจึงนึกถึงพี่ชายของตน หันเจี้ยนหมิง

เมื่อซื่อจื่อหันเจี้ยนหมิงได้ยินว่าน้องชายมาขอแบบหัดคัดอักษร แต่ไม่ใช่เพื่อใช้เองและนำไปให้กับอวี้ซี ก็อดไม่ได้ที่จะพูด "แม้แต่น้องสี่ยังรู้จักฝึกฝนการเขียนตัวอักษร แล้วเจ้าเล่า เมื่อไหร่เจ้าจะฝึกบ้าง" หันเจี้ยนหมิงเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูของฮูหยินผู้เฒ่าหันตั้งแต่เด็ก หญิงชราเข้มงวดมาก เขาเริ่มเรียนรู้ตัวอักษรตั้งแต่อายุสามขวบและเริ่มศึกษาตำราตั้งแต่อายุห้าขวบ แม้ด้วยฐานะของเขาจะไม่จำเป็นต้องสอบเข้ารับราชการ การร่ำเรียนก็เพื่อเพิ่มพูนความรู้และเปิดโลกหทัศน์ ส่วนหันเจี้ยนเยี่ยเกลียดการร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก เห็นหนังสือก็เหมือนเห็นศัตรู ตัวอักษรที่เขาเขียนออกมานั้นนั้นแทบจะดูไม่ได้ในสายตาหันเจี้ยนหมิง

หันเจี้ยนเยี่ยเอ่ยทั้งหน้าแดง "เรื่องของข้าเอาไว้พูดทีหลังไม่ได้หรือ พี่ชาย ซีเอ๋อร์บอกว่านางต้องการแบบหัดคัดอักษรของท่านเหยียนเจินชิง ข้าจำได้ว่าพี่ชายน่าจะมีอยู่หลายเล่ม!"

หันเจี้ยนหมิงท้อแท้กับน้องชายไร้สติคนนี้เสียแล้ว เขามีอยู่หลายเล่มอะไรกัน แบบหัดคัดอักษรของเหยียนเจินชิงหาได้ทั่วไปเสียที่ไหน "พรุ่งนี้ข้าจะให้คนเอาไปให้"

หันเจี้ยนเยี่ยบอกอย่างไม่ยอม "พี่ใหญ่ ข้าจะเลือกเอง เลือกเสร็จแล้วข้าจะเอาไปให้นางเอง" ไหนเลยเขาจะไม่รู้นิสัยพี่ชาย เจ้าตัวค่อนข้างขี้เหนียว เขาต้องเลือกด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายจะต้องไม่ยอมยกเล่มที่ดีที่สุดให้อย่างแน่นอน

หันเจี้ยนหมิงครองตำแหน่งซื่อจื่อแห่งจวนกั๋งกง มีของดีมากมาย แบบหัดคัดอักษรที่สะสมไว้นั้นมีมากกว่าสิบเล่ม แม้ไม่ใช่ของแท้แต่ก็ไมได้เป็นของธรรมดา

หันเจี้ยนเยี่ยดูแบบหัดคัดอักษรของเหยียนเจินชิงที่พี่ชายสะสมไว้เกือบทั้งหมดแต่ยังไม่พอใจ สุดท้ายก็เห็นแบบหัดคัดอักษรเล่มหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เขาเปิดออกดูและพบว่าเป็นแบบหัดคัดอักษรเรื่อง "ฟาดฟันชิงตำแหน่ง" ของเหยียนเจินชิง "พี่ใหญ่ ข้าขอเล่มนี้! เล่มนี้ดีที่สุดแล้ว"

หันเจี้ยนหมิงเหมือนมีฝูงอีกากำลังบินวนอยู่เหนือหัว "นี่เป็นอักษรหวัด ซีเอ๋อร์เพิ่งเริ่มเรียนรู้ตัวอักษร เจ้าจะให้นางฝึกฝนอักษรหวัดหรือ" ความหมายคือให้เปลี่ยนเป็นเล่มอื่นที่ง่ายกว่า

ถึงกระนั้นหันเจี้ยนเยี่ยก็หาได้สนใจอะไรมากนัก เขาคิดว่าแบบหัดคัดอักษรเล่มนี้ดูดุดันและมีพลังมาก อีกทั้งแบบหัดคัดอักษรที่แม้แต่พี่ชายของเขายังลอกเลียนนั้นย่อนเป็นตำราชั้นดีอย่างแน่นอน "พี่ชาย ข้าเอาเล่มนี้" ด้วยเกรงว่าจะไม่ยอมยกให้ เขาจึงรีบหยิบแบบหัดคัดอักษรแล้ววิ่งหนีไป

หันเจี้ยนหมิงมองตามแผ่นหลังน้องชายแล้วส่ายหัวอย่างจนใจ "ช่างเถิด..." เขาชินชากับความเอือมระอาน้องชายวัยย่างสิบขวบแต่ยังตัวเหมือนเด็กไปเสียแล้ว

ด้านอวี้ซีเมื่อเห็นว่าแบบหัดคัดอักษรที่หันเจี้ยนหมิงส่งมาให้เป็นเรื่อง "ฟาดฟันชิงตำแหน่ง" ของเหยียนเจินชิงก็อดขำไม่ได้ นางอายุเพียงสี่ขวบ เพิ่งเริ่มเรียนรู้ตัวอักษร ได้รับแบบหัดคัดอักษรที่เป็นอักษรหวัดมาจะเข้าใจได้จริงหรือ

ฝ่ายพี่ชายดูไม่ออกว่านางชอบหรือไม่จึงโพล่งถาม "ซีเอ๋อร์ คิดว่าเป็นอย่างไร หากไม่ถูกใจ ข้าจะไปเปลี่ยนให้!"

เด็กหญิงพูดด้วยรอยยิ้ม "อวี้ซีชอบมาก ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว" ถึงจะไม่ใช่ของแท้แต่นางก็รู้ว่าแบบหัดคัดอักษรเล่มนี้มีค่ามาก

อาจารย์หยางของหันเจี้ยนเยี่ยมีวิทยายุทธ์สูงส่งมาก แต่นิสัยค่อนข้างแปลก ชอบอาศัยอยู่บนเขาและไม่ยอมลงมา หันเจี้ยนเยี่ยจึงจำต้องอาศัยอยู่ฝึกวิชากับอาจารย์หยางบนเขา หลังจากอยู่บ้านได้สามวัน เขาก็กลับขึ้นเขาอีกครั้ง

อวี้ซีเขียนตัวอักษรไปยี่สิบตัวแล้ววางพู่กันลง เห็นว่าหงซานมีท่าทางอยากพูดแต่ก็ไม่กล้าจึงถามด้วยความสงสัย "เป็นอะไรหรือ มีอะไรก็พูดมา อ้ำอึ้งอะไรอยู่เล่า"

หงซานลดเสียงลงแล้วบอก "คุณหนู แบบหัดคัดอักษรที่นายน้อยรองมอบให้คุณหนูเป็นของรักของหวงของซื่อจื่อเจ้าค่ะ"

อวี้ซีไม่ได้คิดอะไรมากนัก จึงเดินไปที่อ่างล้างหน้าแล้วล้างมือ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าแบบหัดคัดอักษรนั้นเป็นของที่ซื่อจื่อโปรดปราน ใครบอกเจ้า"

หงซานมองเจ้านายแล้วเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายไม่เปลี่ยนไปจึงเอ่ยสำทับ "พี่จื่ออีบอกมาเจ้าค่ะ"

อวี้ซีนิ่งไป จื่ออีเป็นสาวใช้ข้างกายพี่ชายใหญ่ การที่นางนำเรื่องนี้มาบอกหงซานไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เด็กหญิงแสร้งทำเฉย “พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

คำตอบของหงซานเป็นไปดังคาด “คุณหนู ข้าคิดว่าพี่จื่ออีคงต้องการขอแบบหัดคัดอักษรกลับคืน”

อวี้ซีหน้าเสีย หมายความว่าอย่างไรกัน พี่ชายรองไม่ได้รับอนุญาตจากพี่ชายใหญ่ให้เอาแบบหัดคัดอักษรมาให้นางหรือ ไม่ว่าพี่ชายรองจะรู้เรื่องหรือไม่อย่างไรก็ไม่น่าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ เห็นทนโท่ว่าคำพูดของจื่ออีคือการใส่ร้ายพี่ชายรอง แววตาของอวี้ซีพลันเย็นชาลง ไม่รู้ว่าสาวใช้ผู้นี้ไปเอาความกล้ามาจากไหน "ข้าเข้าใจแล้ว"

นางไม่ได้พูดอะไรต่อหน้า แต่รีบรายงานกับชิวซื่อในทันที แน่นอนว่าไม่ได้บอกในลักษณะของการฟ้อง แต่พูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง "พี่ชายรองก็เหลือเกิน ถึงพี่ชายใหญ่จะไม่ตำหนิ แต่ข้าก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดี ครั้งหน้าถ้าพี่ชายรองกลับมา ข้าจะไม่คุยกับเขาแล้ว"

ชิวซื่อทราบเรื่องจากปากอวี้ซีก็กล่าวพลางยกยิ้ม "พี่ชายรองของเจ้าเป็นคนไม่เอาใจใส่ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป พี่ชายใหญ่ซื่อจื่อของเจ้าไม่ใช่คนขี้เหนียวขนาดนั้น แบบหัดคัดอักษรที่ให้เจ้าไปแล้ว เจ้าเก็บไว้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องคืน"

อวี้ซีตอบด้วยรอยยิ้ม "พี่ใหญ่จะไม่ตำหนิจริงๆ หรือ"

อีกฝ่ายลูบหัวนางแล้วแย้มยิ้มใจดี "แค่แบบหัดคัดอักษรเล่มเดียว พี่ชายเจ้าจะไปคิดเล็กคิดน้อยได้อย่างไร"

อวี้ซีย่อมไม่ยึดติดกับเรื่องนี้ นางเอ่ยยิ้ม ๆ "ท่านป้า อวี้ซีเห็นว่าแบบหัดคัดอักษรเล่มนั้นดูดุดันทรงพลัง คิดว่าถ้าสามารถปักตัวอักษรแบบนี้ลงไปในงานปักได้ก็คงจะดีมาก จึงไม่ได้คืนแบบหัดคัดอักษรไป" นั่นก็หมายความว่านางจะลอกเลียนแบบหัดคัดอักษรเล่มนี้ให้ได้

ชิวซื่อหัวเราะแล้วบอก "เจ้าอย่ามัวคิดแต่เรื่องงานปัก อาจารย์ซ่งจะมาในช่วงต้นเดือนสิบ เจ้าต้องเตรียมตัวให้ดี" การฝึกฝนงานปักนั้นดี แต่บุตรสาวในตระกูลไม่ได้มีอาชีพเป็นช่างปัก ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดให้กับเรื่องนี้

อวี้ซีตอบอย่างไร้กังวล "ท่านป้า ข้าศึกษาคัมภีร์สามตัวอักษรและตำราร้อยนามสกุลจบแล้ว กำลังจะเรียนตำราพันอักษร"

ชิวซื่อประหลาดใจเล็กน้อย "เจ้าเรียนกับแม่นมเซินได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่กลับเรียนจบหนังสือสองเล่มแล้วหรือ"

เด็กหญิงรู้สึกว่าตนเองช้ามากแล้ว "ข้าใช้เวลาเรียนสองเล่มนี้ไปตั้งสิบวัน ได้ยินมาว่าพี่สามเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วกว่า สอนอะไรก็ล้วนจดจำได้หมด"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด