ตอนที่แล้วตอนที่ 12 : เฉินเยี่ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 : แกก็เป็นภัยพิบัติ

ตอนที่ 13 : ตัวที่สอง


.

“ออร่าของ [การพิพากษา] หายไปแล้ว”

.

“อ่อร่าของภัยพิบัติก็หายไปเหมือนกัน”

“ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่เหมิงก็น่าจะทำสำเร็จแล้ว”

“หานเหมิงเร็วเกินไป เราไล่ตามเขาไม่ทันเลย”

ในคืนที่ฝนตก คนสี่คนสวมชุดเสื้อกันลมสีดำกำลังควบม้าไปยังสถานที่เหตุในเขตทุรกันดาร พวกเขาคือผู้พิทักษ์จากเขตสาม

สายตาพวกเขามองไปยังเขตทุรกันดารซึ่งได้รับความเสียหาย ก็พลันรู้สึกหวาดกลัวอยู่เงียบๆ

ต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดขนาดไหน ถึงเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายสภาพเป็นแบบนี้ได้?

“ภัยพิบัติครั้งนี้ ดูเหมือนจะมีบางอย่าง…”

ขณะพวกเขากำลังพูดก็มองไปยังอีกด้านหนึ่งของสนามรบ และเห็นชายคนหนึ่งนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนบนตัวเขาเต็มไปด้วยเลือด นั่นดูไม่ต่างจากศพเลย

“พี่เหมิง?!”

ผู้พิทักษ์คนหนึ่งรีบรุดไปข้างหน้าทันที จากนั้นก็อุ้มหานเหมิงขึ้นจากพื้น และตรวจลมหายใจของเขาด้วยความประหม่า

ผู้พิทักษ์อีกสามคนยืนนิ่ง มองหน้ากันด้วยแววตาแปลกประหลาด...

"เขาตายแล้วเหรอ?" หนึ่งในสามคนถามขึ้น

เขาเป็นผู้พิทักษ์เขตสาม หม่าจง

“ยังไม่ตาย! ยังมีชีวิตอยู่!”

ความผิดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าคนทั้งสาม พวกเขามองดูหม่าจงที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัวเบาๆ

“ภัยพิบัติอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เห็นศพ?”

“หนีไปแล้ว?!”

“ไม่มีศพ มันคงหนีไปแล้ว...”

ทุกคนต่างรีบค้นหาบริเวณรอบๆ ทว่าฝนที่ตกลงมาได้ชำระล้างจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ ภัยพิบัติคงต่อสู้กับหานเหมิงที่นี่ได้ไม่นานนัก ก่อนจะหายตัวไปโดยสมบูรณ์แบบราวกับว่ามันระเหยได้

"พี่หม่า! พี่หม่า!!”

ขณะเดียวกันผู้พิทักษ์ในชุดดำแดงรีบวิ่งมาจากระยะไกล

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายรีบขนาดนั้น?” หม่าจงถามพร้อมกับเลิกคิ้ว

"เราเพิ่งได้รับข่าวกรองจากเขตสอง...เมื่อคืนนี้ เกิดภัยพิบัติขึ้นในเขตสอง ครึ่งถนนเต็มไปด้วยเลือด มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสามสิบหกคน"

"อะไรน่ะ?" หม่าจงพูดด้วยความประหลาดใจ “มันเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ครับ ว่ากันว่าที่โจมตีเขตสองเป็นภัยพิบัติระดับสาม”

“จุดตัดของโลกสีเทาครั้งนี้ มีภัยพิบัติสองตัวปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน?...” หม่าจงนิ่งคิด "แล้วฆ่ามันหรือยัง?"

"ยังครับ พวกเขาบอกว่าหลังจากภัยพิบัติคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย แล้วมันก็ไปที่ภูเขาด้านหลัง...มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะเข้าไปยังเขตสาม

แล้วก็เขตสอง หวังว่าเราจะส่งกำลังคนไปช่วย...ที่นั่นมีผู้เสียชีวิตมากเกินไป เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างมีงานล้นมือ”

“เข้าใจแล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้”

ผู้พิทักษ์อุ้มหานเหมิงที่หมดสติรีบไปโรงพยาบาล ดวงตาของหม่าจงจ้องมองไปยังซากปรักหักพังหลังการต่อสู้ และมองไปยังภูเขาด้านหลังที่ซ่อนอยู่ในความมืดซึ่งอยู่ไม่ไกล พลางครุ่นคิด

"จุดตัดโลกสีเทากับภัยพิบัติสองตัว...น่าสนใจนิดหน่อยแฮะ"

.

.

..........

.

"พี่ พวกเราไม่วิ่งแล้วเหรอ?"

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง เด็กชายทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังถนนหานซวงผ่านเส้นทางรกร้าง

“ทำไมต้องวิ่ง?” เฉินหลิงถาม

เฉินเยี่ยนตกตะลึง เกาหัวคิดอยู่นานแต่ก็ไม่พูด

“นอกจากนั้น แม้ว่าเราจะหนีไป แล้วเราจะไปไหนได้?” เฉินหลิงพูดอย่างช่วยไม่ได้

“อาณาจักรออโรร่านั้นใหญ่มาก เมืองหนึ่งมีเจ็ดเขต คนธรรมดาไม่สามารถเข้าเมืองออโรร่าได้แน่นอน นอกจากนี้ในเจ็ดเขต เขตสองกับเขตสามถูกปิดทางเข้าออกแล้ว...”

"ทำไมเราไม่ไปซ่อนตัวในหุบเขาล่ะ?"

"ไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อน พวกเขาจะมาที่นี่ไม่ช้าก็เร็ว เราหนีไปไหนไม่ได้แล้ว" เฉินหลิงตอบกลับด้วยความคลุมเครือ

ที่จริงแล้ว เฉินหลิงเองก็ต้องการหาที่ซ่อนตัว แต่เขาทำไม่ได้!

แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้ "เวที" กลับคืนมาแล้ว แต่ความคาดหวังของผู้ชมยังคงติดอยู่ที่ 20% หากไม่ทำอะไรเลยเพื่อเพิ่มความคาดหวังของผู้ชม ร่างกายของเขาจะถูกแย่งชิงอีกครั้ง และเขาจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด

เฉินเยี่ยนรู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่ามีบางอย่างผิดปกติในตรรกะ...แต่เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากพี่ชายของเขาบอกว่าเขาซ่อนไม่ได้ เขาต้องมีเหตุผลแน่

“อาเยี่ยน”

“หืม?”

“นายไม่กลัวฉันเหรอ?” เฉินหลิงหันกลับมามองเขา “นายน่าจะเห็นว่าฉัน...กลายเป็นสัตว์ประหลาดแล้ว”

เฉินเยี่ยนก้มหน้านิ่งเงียบอยู่นาน

"ถึงพี่จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดก็ไม่เป็นไร ขอแค่...พี่ยังเป็นพี่อยู่"

"นายรู้ได้ยังไงว่าฉันยังเป็นฉันอยู่" เฉินหลิงมองเขาอย่างลึกซึ้ง ท่ามกลางความมืดสีหน้าของชายหนุ่มดูพร่ามัว

"ก็แค่รู้สึก..."

“ว่าแต่ สุขภาพของนายเป็นยังไงบ้าง” เขาถาม “ปกติแล้ว นายควรจะพักผ่อนให้ดีหลังจากปลูกถ่ายหัวใจไม่ใช่เหรอ นายวิ่งแจ้นออกมาข้างนอกแบบนี้จะดีเหรอ”

"หมอคนนั้นเก่งมาก ผมก็เลยหายเร็ว"

"อ่อ... "

จู่ๆ เฉินหลิงก็นึกขึ้นได้ว่า โลกนี้ดูเหมือนจะมีพลังพิเศษ ไม่อย่างนั้นทั้งที่โลกนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วยซ้ำแล้วจะทำการผ่าตัดเช่นการปลูกถ่ายหัวใจได้ยังไง...บางทีอาจมีวิธีบางอย่างที่ทำให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว?

สายตาของเฉินหลิงตกไปที่บริเวณคออันเรียบลื่น เขาเหมือนจะนึกบางอย่างได้

"ใช่สิ เครื่องรางที่ฉันให้นายอยู่ที่ไหน มันเป็นอันที่นายมักจะสวมคล้องคอ"

เฉินเยี่ยนรู้สึกตะลึง ยื่นมือออกไปแตะหน้าอกก็พบว่าว่างเปล่า

“ผมไม่รู้...บางทีอาจจะหายไปตอนที่แอบออกมา”

“...ไม่เป็นไร ถ้าถึงบ้านแล้วฉันจะทำใหม่ให้นาย”

“เอ่อ” เฉินเยี่ยนพูดอีกครั้ง "พี่...พี่ไม่อยากล้างตัวสักหน่อยเหรอ? พี่จะทำให้คนอื่นตกใจนะถ้าเดินบนถนนแบบนี้"

เฉินหลิงตกตะลึง เอามือแตะคอตนเองโดยไม่รู้ตัวซึ่งมันลื่นและยังมีเลือดปกคลุม

น่าแปลก หลังจากเขาออกมาจากร่างของสัตว์ประหลาด บาดแผลที่คอของเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เนื้อและเลือดส่วนใหญ่เชื่อมต่อกัน แต่ยังคงมีคราบเลือดสีแดงฉาน ซึ่งมันทำให้เขาดูเหมือนปีนขึ้นมาจากขุมนรก

ในความสิ้นหวัง เฉินหลิงพบเพียงลำธารใกล้เคียง เขาถอดเสื้อคลุมงิ้วสีแดงออก และเริ่มทำความสะอาดเลือดบนร่างกาย

“พี่ ตอนนี้ผมมีบางอย่างอยากจะถาม…” เฉินเยี่ยนถามอย่างสับสน

“ทำไมพี่ถึงสวมชุดคลุมงิ้วของผม?”

“ฉัน...ไม่รู้”

เฉินหลิงมองดูเสื้อคลุมบนร่างกายของเขาอย่างว่างเปล่า...เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้สวมเสื้อคลุมนี้ตอนที่เขาถูกขวานฟัน

เมื่อคิดดูดีๆ ตอนที่เขากลับบ้านในคืนนั้น เขาก็สวมเสื้อคลุมงิ้วสีแดงนี่ด้วย เมื่อพิจารณาจากคำพูดของเฉินถานกับหลี่ซิ่วชุน ดูเหมือนว่านี่คือเสื้อผ้าที่พวกเขาตั้งใจใช้พันศพหลังจากฆ่าเขา

แต่ทำไมครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้สวมมันให้เขาแต่ทำไม เขาถึงได้กลับมาสวมชุดนี้อีกแล้ว?

เฉินหลิงไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงหยุดคิดถึงเรื่องนี้ นับตั้งแต่เขาเดินทางมายังโลกนี้ เรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้นมากเรื่อยๆ...

เดิมทีเขาต้องการเผาเสื้อคลุมงิ้วที่โชคร้ายนี้ แต่เมื่อเขาเห็นแววตาน่าสงสารของเฉินเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ เขาถอนหายใจแล้วซักเสื้อคลุมอย่างเงียบๆ

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด