กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 319 ไม่ตายไม่เลิกรา

กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 319 ไม่ตายไม่เลิกรา

“เป็นเพียงวิชาเล็กน้อย”

ผมสีดำหนาของหลี่อวิ๋นปล่อยยาวลงมาปกคลุมหน้าอกและแผ่นหลัง ชุดคลุมสีเขียวพลิ้วไสว สีหน้าสงบนิ่ง ไร้ซึ่งความหวั่นไหว ดวงตาของเขาล้ำลึก ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า เขายื่นมือข้างหนึ่งออกไป ดีดนิ้วเบา ๆ

“แคร้ง!”

เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น ท้องฟ้าแตกสลาย

แสงสว่างนับหมื่นพุ่งกระจายออกไป ราวกับกระบี่เทพนับไม่ถ้วน พุ่งทะยานออกมา ทำลายท้องฟ้าจนแหลกสลาย ทุกสิ่งทุกอย่าง กลายเป็นอากาศ มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ร่างกายแทบแตกสลาย หนังศีรษะชา รู้สึกหวาดกลัว เมื่อเผชิญหน้ากับกลิ่นอายของเซียนแท้สูงสุด เลือดทั่วร่างกายของเขาก็ดังกึกก้อง พุ่งพล่านอย่างรุนแรง ราวกับกำลังจะลุกไหม้

แรงกดดันอันน่ากลัวแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้กระดูกของเขาราวกับกำลังจะแตกสลาย

“ปัง! ปัง! ปัง!”

แสงกระบี่หลายสายพุ่งทะลวงผ่านร่างกาย พลังอันยิ่งใหญ่ผลักดันมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์จนกระเด็นออกไปไกลหลายหมื่นล้านลี้ กระแทกเข้ากับห้วงปฐมโกลาหลอย่างรุนแรง

ตลอดกระบวนการ เขาไม่มีโอกาสต่อต้านแม้แต่น้อย

ไม่ไกลนัก เย่ฉงกับบรรพบุรุษอีกาทองคำ เมื่อเห็นภาพนี้ ต่างก็ใจสั่น รู้สึกหวาดกลัวจนหัวใจเต้นแรง

น่ากลัวยิ่งนัก

คนที่แข็งแกร่งดั่งมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์มีตบะใกล้เคียงกับระดับเซียนแท้

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสท่านนี้กลับอ่อนแอเช่นนี้หรือ

ความแตกต่างระหว่างทั้งสอง มากมายจนน่าสิ้นหวัง หากผู้อาวุโสท่านนี้ต้องการ พวกเขาคิดว่า เพียงแค่พลิกฝ่ามือก็สามารถปราบปรามอีกฝ่ายได้

ความคิดนี้ เพิ่งปรากฏขึ้น ยังไม่ทันจางหายไป

ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นในห้วงมิติ ฝ่ามือที่หลี่อวิ๋นเพิ่งจะยื่นออกไป คว้าลงมาจากท้องฟ้า กลางฝ่ามือมีสัญลักษณ์หนึ่งดวง ปล่อยแสงสว่างนับหมื่นจั้ง ทะลวงผ่านห้วงปฐมโกลาหลอันไร้ขอบเขต

เงาร่างหนึ่ง ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ถูกดึงออกมาอย่างรุนแรง

หลี่อวิ๋นปรากฏอยู่เหนือโลการาวกับเซียนถูกเนรเทศ มีความสง่างาม ไม่เหมือนกับคนที่อยู่ในโลกนี้ ราวกับเซียนที่จุติลงมาจากสวรรค์

เพียงแค่มือข้างเดียวก็สามารถตรึงห้วงมิติทั้งหมดเอาไว้ นำมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์มาไว้ในมือ

รังสีอำนาจอันล้ำเลิศปกปิดความหยิ่งผยอง ดวงตาที่ล้ำลึกของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความยิ่งใหญ่ ราวกับกำลังควบคุมจักรวาล มองลงมายังสรรพสัตว์

เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์และมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ สองบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกสวรรค์ก่อกำเนิด

ในชั่วขณะนี้ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ราวกับภาพวาดโบราณ ผ่านกาลเวลามานับหมื่นล้านปีก็ยังคงสดใส

“เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ข้ากับเจ้า ไม่ตายไม่เลิกรา!”

มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์คำราม

เขากล่าวด้วยความโกรธแค้น ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด การโจมตีเมื่อครู่ ทำให้กระดูกของเขาแตกหักไปมากกว่าครึ่ง บาดแผลรุนแรงถึงขีดสุด แต่ดวงตาของเขายังคงน่ากลัวยิ่งนัก

ดวงตาหมุนเวียน รัศมีแห่งสังสารวัฏแผ่กระจายออกไป ราวกับสามารถทำให้ทุกสรรพสิ่งเวียนว่ายตายเกิด เบื้องหน้าเขา ปรากฏแท่นบูชาโบราณขึ้นมาหนึ่งแท่น

บนแท่นบูชามีเลือดไหลทะลัก ปล่อยกลิ่นอายอำมหิตอันรุนแรง มีดวงจิตอาฆาตมากมาย ส่งเสียงคร่ำครวญ

นี่คือสรรพสัตว์แห่งโลกเงาโลหิต ถูกเขาหลอมรวมเป็นอาวุธ เมื่อปรากฏตัวขึ้น ห้วงมิติรอบ ๆ ก็พังทลาย

แท่นบูชานี้ แม้จะเป็นอาวุธจักรพรรดิ แต่ในระดับหนึ่ง กลับเหนือกว่าอาวุธจักรพรรดิ

มีกลิ่นอายของระดับเซียน ทำให้ผู้คนหนาวสันหลังวาบ

มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ร่างกายเปล่งประกาย เจิดจ้า รอบกายปรากฏหยาดโลหิตสีแดงเข้ม ปล่อยรังสีอำนาจระดับจักรพรรดิ ผสานกับกลิ่นอายของระดับเซียน ตกลงสู่แท่นบูชา

เย่ฉงกับบรรพบุรุษอีกาทองคำต่างก็ตกใจ

พวกเขาเห็นภาพมากมายปรากฏขึ้นบนแท่นบูชา นั่นคือสรรพสัตว์แห่งโลกเงาโลหิต มีทั้งอัจฉริยะแห่งยุค

ในตอนนี้กลับกลายเป็นเครื่องบูชา

เดิมทีเป็นโลกอันกว้างใหญ่

สุดท้ายกลับกลายเป็นดินแดนไร้ชีวิต เพราะการกระทำของมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ กลายเป็นเพียงคลื่นเล็ก ๆ ในสายธารแห่งกาลเวลา

หากแท่นบูชานี้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่

พวกเขาไม่สงสัยเลยว่าโลกสวรรค์ก่อกำเนิดทั้งหมด อาจจะถูกสังเวย

“ผู้อาวุโส...”

เย่ฉงต้องการเอ่ยเตือน

แต่กลับไร้ซึ่งพลัง ในตอนนี้เขาถูกตรึงไว้กับที่ จิตสำนึกไม่อาจออกจากร่างกาย แม้แต่การอ้าปากก็ยังทำไม่ได้

ได้แต่มองแท่นบูชาปรากฏขึ้นในโลกนี้อีกครั้ง

“น่ารำคาญ!”

หลี่อวิ๋นเอ่ย เขายื่นมืออีกข้างหนึ่งออกไป กลางฝ่ามือมีแสงสีทองพุ่งออกมา แปรเปลี่ยนเป็นตราประทับขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า กระแทกเข้ากับแท่นบูชา ส่งเสียงดังกึกก้อง

แท่นบูชาถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปไกลหลายหมื่นล้านลี้ ขณะที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ หลี่อวิ๋นก็ดีดนิ้ว สัญลักษณ์หนึ่งดวงพุ่งทะยานออกไป ปราบปรามแท่นบูชาเอาไว้

“แท่นบูชานี้ไม่เลว”

หลี่อวิ๋นเรียกแท่นบูชากลับมามองอย่างละเอียด

หากนำกลับไปที่หอคอยกลไกสวรรค์ อาจจะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นแต้มกลไกสวรรค์ได้มากมาย

ส่วนการใช้ด้วยตนเองเขาไม่เคยคิด

แท่นบูชานี้ชั่วร้ายเกินไป หากเขาใช้คงไม่เหมาะสม เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ จะใช้แท่นบูชาที่สังเวยโลกทั้งใบได้อย่างไร

“เจ้ากล้า!”

มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ดวงตาแดงก่ำ

แท่นบูชานี้เขาใช้เวลาทั้งชีวิตสังเวยสรรพสัตว์มากมาย จึงสามารถหลอมรวมได้ ในอนาคต ยังสามารถพัฒนาต่อได้ หากเขาสามารถบรรลุระดับเซียนได้

แท่นบูชานี้อาจจะกลายเป็นอาวุธเซียน!

แต่แท่นบูชาที่ทรงพลังเช่นนี้ หลังจากปรากฏตัวขึ้นไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ ก็ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป ยิ่งไปกว่านั้น ตราประทับที่เขาสร้างไว้บนแท่นบูชาก็ถูกทำลายไปแล้ว

ไม่มีตราประทับของเขา หมายความว่าแท่นบูชานี้ ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป

“ข้ามีสิ่งใดที่ไม่กล้าหรือ”

หลี่อวิ๋นเหลือบมองมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์อย่างเย็นชา ยกมือขึ้นตบลงไปบนหน้าอกอีกฝ่าย “ปัง!” เสียงดังขึ้น เลือดสีแดงสดย้อมห้วงมิติ

เลือดของจักรพรรดิปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ กระจายไปทั่วห้วงมิติ

มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ที่บาดเจ็บอยู่แล้ว ร่างกายแตกสลาย กระดูกหักไม่รู้กี่ท่อน แม้แต่กลิ่นอายก็ยังคงอ่อนแอลง หายใจเข้ามากกว่าหายใจออก

หากหลี่อวิ๋นลงมือหนักกว่านี้อีกเล็กน้อย มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ที่ผ่านการนิพพานมาสิบชาติคงต้องตายก่อนที่จะทำสิ่งใดสำเร็จ

“ในที่สุดก็สงบลง”

หลี่อวิ๋นมองผลงานของตนเอง พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

สุดท้ายเขากวาดตามองห้วงมิติโบกมือเบา ๆ การตรึงโลกสวรรค์ก่อกำเนิดก็หายไปในทันที

ส่วนตัวเขาก็จับมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์กลับไปยังหอคอยกลไกสวรรค์

“ฟู่ว—”

ในขณะที่พลังกลับคืนมา

เย่ฉงก็ถอนหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด จนถึงตอนนี้ ใจของเขายังคงไม่สงบ

พวกเขาต่อสู้กับมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ กลับไม่สามารถเอาชนะองครักษ์สี่ตนที่อยู่เบื้องหน้าได้ แต่ผู้อาวุโสท่านนี้ลงมือ เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้

ความแตกต่างเช่นนี้ทำให้พวกเขาสิ้นหวัง

“ผู้อาวุโสท่านนี้พลังของเขาอยู่ในระดับใดกันแน่”

บรรพบุรุษอีกาทองคำมองไปยังทิศทางที่หลี่อวิ๋นจากไป พึมพำกับตัวเอง

“ยากที่จะคาดเดา”

เย่ฉงครุ่นคิดอยู่นาน กล่าวอย่างขมขื่น

“แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจคือ...”

“อะไรหรือ”

บรรพบุรุษอีกาทองคำหันกลับมาถาม

“แม้แต่เซียนแท้ก็ไม่อาจทำนายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหมื่นโลกาได้”

เย่ฉงกล่าวอย่างช้า ๆ

“เช่นนั้น สหายเต๋าเย่ก็คิดว่า ผู้อาวุโสท่านนี้ มิใช่คนที่อยู่ในโลกสวรรค์ก่อกำเนิดใช่หรือไม่” บรรพบุรุษอีกาทองคำเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

แม้แต่เซียนแท้ก็ยังไม่อาจทำนายหมื่นโลกาได้ คำพูดของเย่ฉงเมื่อครู่ เท่ากับยอมรับโดยปริยายว่าพลังของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์นั้นเหนือกว่าเซียนแท้

ระดับโลกของโลกสวรรค์ก่อกำเนิดยากที่จะมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏขึ้น

“เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น มิอาจยืนยันได้”

เย่ฉงส่ายหน้า

หากผู้อาวุโสท่านนี้มีพลังระดับจักรพรรดิ พวกเขาอาจจะคิดว่าผู้อาวุโสท่านนี้เป็นอัจฉริยะผู้หนึ่งที่ปรากฏขึ้นในโลกสวรรค์ก่อกำเนิด แต่พลังที่ผู้อาวุโสท่านนี้แสดงออกมา กลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทำให้พวกเขาไม่แน่ใจ

บุคคลผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ มิใช่อะไรที่บ่อน้ำเล็ก ๆ อย่างโลกสวรรค์ก่อกำเนิดจะสามารถสร้างขึ้นได้

บางทีผู้อาวุโสท่านนี้ อาจจะมาจากโลกอันสูงส่ง เดินทางผ่านโลกสวรรค์ก่อกำเนิด มาที่นี่เพื่อเล่นสนุกกระมัง