ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 9 สำนักวิญญาณชาดพินาศ
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 9 สำนักวิญญาณชาดพินาศ
ทหารสวรรค์สิบนายล้วนสง่างามดุจดวงสุริยัน ปรากฏกายอยู่บนท้องฟ้า
ปลดปล่อยรัศมีบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่ดุจห้วงสมุทร ชั่วขณะนั้น ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ๆ ในสำนักวิญญาณชาด แม้แต่ฉือซงจื่อยังรู้สึกราวกับกำลังหายใจไม่ออก
เขามีสีหน้าตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แม้แต่เสียงยังคงสั่นเทา "ปรา... ปราชญ์สิบ... สิบคน!?"
แม้แต่สำนักวิญญาณชาด ขุมอำนาจระดับห้าที่ยิ่งใหญ่ก็มีเพียงเขาที่เป็นถึงระดับปราชญ์
การจะบรรลุถึงระดับปราชญ์นั้นหาใช่เรื่องง่ายดายไม่
ไม่ต้องพูดถึงพรสวรรค์และปัญญา เพียงแค่ทรัพยากรที่จำเป็นก็ยากจะจินตนาการ
มีเพียงขุมอำนาจระดับสี่ขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสามารถฝึกฝนผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์ได้ถึงสิบคน
วังสวรรค์แห่งนี้เป็นถึงขุมอำนาจระดับสี่กระมัง!
หากฉือซงจื่อล่วงรู้ว่าเบื้องหลังยังมียอดฝีมือระดับปราชญ์เช่นนี้อีกสองพันเก้าร้อยกว่าคน คงหวั่นกลัวจนสิ้นสติ
ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่ทั่วทั้งมณฑลเทพจงถูก็คงต้องสั่นสะเทือน
แม้แต่ขุมอำนาจระดับหนึ่งก็ไม่เคยมียอดฝีมือระดับปราชญ์มากมายถึงเพียงนี้!
ท่ามกลางเวหา
จี๋อวิ๋นควบคุมทหารสวรรค์สิบนาย มุ่งหน้าไปยังสำนักวิญญาณชาด
พวกเขามีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายแข็งแกร่ง ดุจดั่งขุนเขามหึมา
ปราชญ์สิบคนเดินทางมาพร้อมกัน ราวกับจะทำให้ท้องฟ้าถล่มลงมา
แสงสวรรค์สาดส่อง เสียงธรรมะดังก้องกังวาน ราวกับกำลังบรรเลงดนตรีศึกเพื่อพวกเขา
ยอดฝีมือระดับปราชญ์สิบคน การปรากฏตัวของผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ เพียงแค่คิดก็ทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน
ทุกคนในสำนักวิญญาณชาด รวมถึงเหล่าผู้อาวุโส ต่างก็รู้สึกสิ้นหวัง
ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้จะต่อกรได้อย่างไร
ฉับพลันก็ปรากฏตัวปราชญ์สิบคน กดดันจนพวกเขาแทบหายใจไม่ออก!
ก่อนหน้านี้ฉือซงจื่อยังคงมั่นใจ แต่ในเวลานี้ กลับนิ่งเงียบ ร่างกายรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
เขาอดไม่ได้ที่จะกล่าวเสียงต่ำว่า "สำนักวิญญาณชาดของข้ายินยอมสวามิภักดิ์ต่อวังสวรรค์ หวังว่าจะไว้ชีวิตพวกเรา"
ปราชญ์ผู้หนึ่งก้มศีรษะร้องขอ นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
แต่ฉือซงจื่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมศิโรราบ เบื้องหน้าปราชญ์สิบคน เขาไม่มีทางต่อกร
ทว่าทหารสวรรค์นายแรกที่เอ่ยปากกลับกล่าวอย่างเย็นชาว่า "สำนักวิญญาณชาดต้องถูกทำลาย"
สิ้นวาจา จี๋อวิ๋นก็ควบคุมหุ่นเชิดทหารสวรรค์สิบนายพุ่งเข้าโจมตีฉือซงจื่อ
เพียงแค่กำจัดยอดฝีมือระดับปราชญ์ผู้นี้ สำนักวิญญาณชาดก็จะไม่เหลือเรี่ยวแรงต่อต้าน
หอกสงครามสิบเล่มเทียบเท่าอาวุธปราชญ์พุ่งทะยานเข้าใส่ ปลายหอกอันยิ่งใหญ่ดุจดั่งจะทะลวงผ่านกาลเวลา ครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า!
"พวกเจ้าบังคับข้าเอง!"
ฉือซงจื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่ทำลายล้าง พลันโกรธจนเส้นเลือดแทบปริแตก
ชั่วขณะถัดมา ก็ได้ยินเพียงเสียงคำรามของเขา
ทันใดนั้น ภายในสำนักวิญญาณชาด เหล่าศิษย์เกินกว่าสองในสามส่วนต่างก็ระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ
จากนั้น พลังเวทและตบะอันบริสุทธิ์แปรเปลี่ยนเป็นสายธารา หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของฉือซงจื่อ
ทำให้กลิ่นอายของเขาเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง!
ตู้ม!
ในที่สุดก็ทะลวงผ่านกำแพง ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่ระดับราชันปราชญ์!
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าร่างกายของฉือซงจื่อไม่ค่อยมั่นคงนัก มีรอยแตกเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น
เห็นได้ชัดว่าไม่อาจคงอยู่ได้นาน
นี่คือวิชาลับที่ฉือซงจื่อบังเอิญได้พบเจอเมื่อนานมาแล้ว มีนามว่า มหาวิชาเมล็ดเคราะห์หมื่นมาร
โดยการฝัง 'เมล็ดเคราะห์' ลงในร่างกายของผู้ที่มีระดับต่ำกว่า
ผู้ที่ถูกฝัง 'เมล็ดเคราะห์' จะกลายเป็นทาสเคราะห์ ส่วนตัวเขาเองคือนายแห่งเคราะห์
ชีวิตและความตายของทาสเคราะห์ล้วนอยู่ในกำมือของนายแห่งเคราะห์
แน่นอน ประโยชน์ของวิชาลับนี้ มิได้มีเพียงเท่านี้
จุดแข็งที่แท้จริงก็คือ นายแห่งเคราะห์สามารถดูดซับตบะของทาสเคราะห์ทั้งหมด นำมาใช้เป็นของตนเองได้
เดิมทีฉือซงจื่อวางแผนว่าเมื่อฝึกฝนวิชาลับนี้จนสมบูรณ์ เขาจะเปลี่ยนคนทั้งสำนักวิญญาณชาดให้กลายเป็นทาสเคราะห์
ด้วยพลังเหล่านี้ ระดับของเขาจะสามารถทะลวงผ่านระดับปราชญ์ ก้าวสู่ระดับราชันปราชญ์
แต่ตอนนี้ การปรากฏตัวของวังสวรรค์ทำให้แผนของเขาพังทลาย
เมื่อไม่มีทางเลือก เพื่อเอาชีวิตรอดแล้ว ฉือซงจื่อจึงต้องใช้มหาวิชาเมล็ดเคราะห์หมื่นมารอย่างไม่เต็มใจ
นี่จึงทำให้เขาสามารถยกระดับตบะขึ้นสู่ระดับราชันปราชญ์ได้เพียงชั่วคราว หลังจากนั้นตบะก็จะตกลงมา
"วังสวรรค์ช่างบัดซบ ทำลายแผนการหลายปีของข้า พวกเจ้า... พวกเจ้าต้องตาย!"
เดิมทีฉือซงจื่อต้องการแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อซ่อนไพ่ตาย
แต่ไม่คาดคิดว่าวังสวรรค์ต้องการทำลายสำนักวิญญาณชาด เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากระเบิดพลังออกมา
ตู้ม!
พลังอันยิ่งใหญ่เทียบเท่าราชันปราชญ์แผ่กระจายออกไป แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การยกระดับชั่วคราว แต่ก็ยังคงเป็นราชันปราชญ์
เพียงพริบตาก็ปกคลุมรัศมีของทหารสวรรค์สิบนาย ช่างน่ากลัวนัก
บนท้องฟ้าอันไกลโพ้น
เฟยเผิงนำพากู้ชิงเฟิงมายืนอยู่เหนือม่านเมฆา
กู้ชิงเฟิงมองดูเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป "ไม่คิดเลยว่าประมุขสำนักวิญญาณชาดจะสามารถกลืนกินตบะของศิษย์ในสำนักเพื่อยกระดับขึ้นสู่ราชันปราชญ์ได้"
"หากข้าดูไม่ผิด นั่นน่าจะเป็นมหาวิชาเมล็ดเคราะห์หมื่นมาร เป็นวิชาของสำนักมารในอดีต" ชายชราไป๋อวี่กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"ท่านผู้อาวุโส ท่านจะลงมือหรือไม่" กู้ชิงเฟิงมองไปที่เฟยเผิง
อย่างไรเสีย ฉือซงจื่อที่อยู่ในระดับราชันปราชญ์ ทหารสวรรค์ระดับปราชญ์สิบคนคงไม่ใช่คู่มือ
"ไม่จำเป็น" จี๋อวิ๋นที่ควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงอยู่ กล่าว "ราชันปราชญ์ที่ถูกยกระดับขึ้นมาชั่วคราวเช่นนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือ"
สิ้นคำกล่าว บนท้องฟ้าอีกฟากหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวราวกับดวงดาวพลิกกลับ
กู้ชิงเฟิงและชายชราไป๋อวี่หันไปมอง ต่างก็ตกตะลึง
รัศมีบริสุทธิ์ของปราชญ์สิบคนแผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้า!
ณ ที่แห่งนั้นมีทหารสวรรค์อีกสิบนายสวมชุดเกราะสีเงิน ถือหอกสงคราม ปรากฏกายขึ้น ยืนตระหง่านบนท้องฟ้า เหยียบย่ำผืนดิน ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด!
ไม่ต้องพูดถึงกู้ชิงเฟิงและชายชราไป๋อวี่ที่ตกตะลึง แม้แต่ฉือซงจื่อที่อยู่ในระดับราชันปราชญ์ที่มีจิตสังหารเข้มขนในสายตาก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งงัน
ยอดฝีมือระดับปราชญ์ถึงยี่สิบคน!
เป็นพลังที่น่ากลัวยิ่งนัก!
แข็งแกร่งพอที่จะกวาดล้างขุมอำนาจทั้งหมดที่อยู่ต่ำกว่าระดับสี่!
ในเวลานี้ ฉือซงจื่อจึงเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าขุมอำนาจอย่างวังสวรรค์แห่งนี้ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
"ฆ่า!"
จี๋อวิ๋นที่อยู่ห่างออกไปนับหมื่นลี้ สั่งการให้ทหารสวรรค์ทั้งยี่สิบนายลงมือทันที
แม้ว่าจี๋อวิ๋นจะสั่งให้เฟยเผิงลงมือได้ แต่เพื่อแสดงให้กู้ชิงเฟิงและคนอื่น ๆ เห็นถึงความแข็งแกร่งของวังสวรรค์ เขาจึงเรียกทหารสวรรค์ออกมาอีกสิบนาย
หากมีคนแข็งแกร่งเพียงคนเดียวย่อมไม่นับว่าน่ากลัว หากคนทั้งกลุ่มแข็งแกร่ง นั่นถึงเรียกว่าน่ากลัว
ดังที่คาด กู้ชิงเฟิงและชายชราไป๋อวี่ต่างก็ตกตะลึง
ตู้ม!
ปราชญ์ยี่สิบคนลงมือพร้อมกัน พลังทำลายล้างราวกับจะทำลายฟ้าดิน แม้แต่ราชันปราชญ์ตัวจริงก็ยังไม่กล้ารับมือโดยตรง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉือซงจื่อที่ถูกยกระดับขึ้นมา
แต่เขายังมีไพ่ตาย
"คันฉ่องมารสวรรค์!"
เขาคำรามเสียงต่ำ ทันใดนั้นก็มีคันฉ่องสีดำสนิทลอยออกมาจากใต้ดินของสำนักวิญญาณชาด
บนคันฉ่องสลักอักขระโบราณมากมาย ปราณมารแผ่กระจาย เขย่าฟ้าดิน ช่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก
เป็นถึงอาวุธกึ่งราชันปราชญ์ที่ใกล้จะก้าวสู่ระดับราชันปราชญ์!
นี่เป็นสิ่งที่เขาได้รับพร้อมกับมหาวิชาเมล็ดเคราะห์หมื่นมารในอดีต
"ไป!"
ฉือซงจื่อคำรามเสียงต่ำ ควบคุมคันฉ่องมารสวรรค์ลอยขึ้น รวบรวมพลังเวททั้งหมดของเขาใส่เข้าไป
ทันใดนั้นแสงมารก็สว่างจ้าราวกับจะบดขยี้ท้องฟ้า พุ่งเข้าใส่ทหารสวรรค์ทั้งยี่สิบนาย
อาศัยอาวุธกึ่งราชันปราชญ์ทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่า
แม้ว่าจะไม่สามารถสังหารปราชญ์ทั้งยี่สิบคนได้ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาหลบหนี
แต่ไม่นานเขาก็เห็นว่าพลังทั้งหมดของทหารสวรรค์ทั้งยี่สิบนาย ในขณะนี้กลับหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
จากนั้นพลังทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดไปยังหอกสงครามเล่มหนึ่ง ยกระดับให้กลายเป็นอาวุธกึ่งราชันปราชญ์ในชั่วพริบตา
ตู้ม!
ทั้งสองปะทะกันดุจดั่งเทพช่างตีเหล็ก คลื่นยักษ์ซัดสาดถล่มท้องฟ้า พลังอันน่าสะพรึงกลัวทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง!