ตอนที่แล้วระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 1 เริ่มต้นใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 3 สังหารราวกับสุนัข

ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 2 ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์


ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 2 ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์

เวรเอ๊ย!

จี๋อวิ๋นเบิกตากว้างประหลาดใจกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า

เห็นเพียงเบื้องหน้าเขาปรากฏกลุ่มแสงกลุ่มหนึ่งขึ้น ภายในกลุ่มแสงนั้นปรากฏร่างสูงใหญ่สามพันร่าง

ร่างแต่ละร่างต่างแผ่กลิ่นอายอันทรงพลัง สวมเกราะศึก สวมหมวกเกราะเงิน ถือหอกเงิน เพียงยืนอยู่ตรงนั้นก็ทำให้เขารู้สึกถึงจิตสังหารราวกับจะออกรบพิชิตหมื่นโลกา!

[ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนาย: มาจากวังสวรรค์สูงสุดในโลกเทพนิยาย เป็นกำลังพลใต้บัญชามหาจักรพรรดิหยกแห่งจงเทียน ไร้พ่าย ไร้เทียมทาน]

[แต่ละนายล้วนผ่านการคัดเลือกจากเซียนนับหมื่นคน เลือกเพียงหนึ่งในหมื่น ผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด นับว่าเป็นยอดอัจฉริยะ!]

มองดูสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพร้อมฟังคำอธิบายของระบบ จี๋อวิ๋นก็ตกอยู่ในความตกตะลึง

แต่ไม่นานก็เผยรอยยิ้มเปี่ยมสุขออกมา

ไม่แปลกที่เขาจะดีใจเช่นนี้ เพราะหุ่นเชิดที่สกัดได้นั้นแข็งแกร่งเกินไป

เดิมทีจี๋อวิ๋นคิดว่าตนเองจะสกัดได้หุ่นเชิดสักตัวที่ใช้งานได้ก็ดีแล้ว

ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น!

ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ อย่านึกว่าอ่อนแอ พวกเขานั้นเป็นถึงกองทัพไร้พ่ายที่จักรพรรดิหยกฝึกฝนด้วยตนเอง

จักรพรรดิหยกสามารถเป็นผู้ปกครองสามภพ ครองสวรรค์ได้ บรรดาทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ต่างก็มีคุณูปการไม่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเป็นทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ได้ ต้องมีเจตจำนงสูงสุด พรสวรรค์อันแข็งแกร่ง ปัญญาอันน่าทึ่ง ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้

หากเป็นโลกแฟนตาซี พวกเขาก็เหมือนกับยอดอัจฉริยะเหล่านั้น!

พูดง่าย ๆ ก็คือตอนนี้จี๋อวิ๋นมีถึงยอดอัจฉริยะสามพันคน!

คิดแล้วก็ตื่นเต้นจนตัวสั่น!

ยิ่งไปกว่านั้น จี๋อวิ๋นยังพบว่าทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์เหล่านี้มีตบะตั้งต้นเทียบเท่ากับระดับปราชญ์

โลกแห่งนี้มีระดับการบำเพ็ญตั้งแต่ต่ำไปจนสูงดังนี้

ระดับถ้ำสวรรค์ ระดับผันวิญญาณ ระดับวิญญาณก่อกำเนิด ระดับก่อมรรค ระดับราชัน ระดับปราชญ์ ระดับราชันปราชญ์ ระดับมหาปราชญ์ ระดับกึ่งเทพ ระดับเทพแท้

จากที่จี๋อวิ๋นรู้มา ระดับปราชญ์ในโลกเบื้องล่างนี้ล้วนเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่ที่ประจำการอยู่ขุมอำนาจแต่ละแห่ง

ตอนนี้เขามีทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์เทียบเท่าระดับปราชญ์ถึงสามพันคน แน่นอนว่าสามารถทำอะไรก็ได้อย่างสบายใจ!

“ใช่สิ ระบบ บรรดาทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์เหล่านี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้หรือไม่”

จี๋อวิ๋นถามอย่างรีบร้อน

[หากเจ้าภาพต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดที่สกัดออกมานั้นจะต้องใช้แต้มการบำเพ็ญ]

[วิธีการรับแต้มการบำเพ็ญนั้น ทุก ๆ การสังหารผู้บำเพ็ญที่มีระดับเดียวกันหรือสูงกว่า จะได้รับแต้มการบำเพ็ญจำนวนหนึ่ง]

เข้าใจแล้ว

จี๋อวิ๋นเข้าใจทันที เมื่อเป็นเช่นนี้ เพียงออกศึกสงคราม ความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดเหล่านี้ก็สามารถเพิ่มขึ้นได้

สะดวกสบายอย่างยิ่ง!

ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของบรรดาทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ไม่ได้หยุดอยู่ที่ระดับปราชญ์

ลองคิดดู หลายปีต่อมา เขามีหุ่นเชิดที่เทียบเท่าระดับเทพแท้ถึงสามพันคน

โลกเบื้องล่างนี้จะกลายเป็นสถานที่ที่เขาเป็นใหญ่ที่สุด!

กระทั่งระดับเทพแท้ก็ไม่ใช่ระดับสูงสุด

จี๋อวิ๋นสามารถนำทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายนี้ไปพิชิตโลกอสูรได้โดยสมบูรณ์!

ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ภายหน้าสามารถสกัดหุ่นเชิดได้อีกมากมาย

อืม?

ขณะนั้นเอง จี๋อวิ๋นก็สังเกตเห็นเงาร่างหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสุดของทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์

ต่างจากทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์คนอื่น แม้ว่าเงาร่างผู้นี้จะสวมเกราะศึกสีเงิน หมวกเกราะสีเงิน แต่กลับไม่ได้ถือหอกยาว กลับถือกระบี่ไว้

กลิ่นอายบนร่างแข็งแกร่งกว่าบรรดาทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ด้านหลังมาก

“การแต่งกายนี้…”

จี๋อวิ๋นใจสั่น รีบตรวจสอบข้อมูลทันที

[หุ่นเชิด: แม่ทัพเทพเฟยเผิง]

“เป็นเขาจริง ๆ ด้วย แต่ว่าเหตุใดเขาถึงปรากฏตัวอยู่ตรงนี้”

จี๋อวิ๋นรู้สึกมึนงง ไม่ใช่ว่าสกัดได้แค่หุ่นเชิดในโลกเทพนิยายหรือ

เขาสงสัยอย่างยิ่ง รีบถามระบบทันที

[เจ้าภาพ ระบบนี้ไม่ได้สกัดแค่หุ่นเชิดในโลกเทพนิยายแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่รวมถึงหุ่นเชิดจากเทพนิยายทั้งหมด]

[แน่นอนว่ารวมถึงเฟยเผิงด้วย]

ได้ฟังคำอธิบายของระบบ จี๋อวิ๋นก็เข้าใจทันที

ไม่ใช่แค่ ไซอิ๋ว หรือนิยายยุคบุพกาล เท่านั้น กระทั่งโลกเทพนิยายอื่น ๆ ก็มีหรือ

“เช่นนี้ก็ดี แม่ทัพเทพเฟยเผิงเหมาะที่จะเป็นผู้นำของทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายนี้ไม่น้อย”

จี๋อวิ๋นคิดในใจ

ติ๊ง!

[เจ้าภาพต้องการสกัดหุ่นเชิดทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายนี้หรือไม่]

ขณะนั้นเอง เสียงของระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ระบบสามารถปกปิดกลิ่นอายของพวกเขาได้หรือไม่” จี๋อวิ๋นถาม

[เจ้าภาพ สามารถทำได้]

ดีมาก…

จี๋อวิ๋นพยักหน้าเบา ๆ

ตัวตนที่เทียบเท่าระดับปราชญ์จำนวนมากเช่นนี้ บวกกับเฟยเผิงอีกหนึ่งคน หากกลิ่นอายปะทุออกมาพร้อมกัน คาดว่าคงสะเทือนเลือนลั่น

ทันใดนั้น จี๋อวิ๋นก็คิดจะออกไปด้านนอก สกัดหุ่นเชิดทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายนี้ออกมา

ทว่าขณะนั้นเอง ด้านนอกตำหนักพลันมีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา

จี๋อวิ๋นมองไปเห็นเพียงหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามา

นางสวมชุดกระโปรงยาวสีขาว บุคลิกท่าทางสง่างามบริสุทธิ์ดุจดอกบัวผุดผ่อง โดดเด่นสะดุดตา

จี๋อวิ๋นจำนางได้

นางคือศิษย์น้องหญิงซูชิงเมิ่งแห่งสำนักเร้นสวรรค์ที่ทรุดโทรม ผู้ที่อยู่เคียงข้างร่างเดิม

สำนักเร้นสวรรค์เคยเป็นถึงสำนักนิกายระดับห้า ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองภายในสำนักมีถึงผู้ทรงอำนาจระดับก่อมรรคประจำการอยู่ นับว่ารุ่งโรจน์ยิ่งนัก

น่าเสียดาย เวลาผ่านไปความรุ่งโรจน์ก็โรยรา

กระทั่งบัดนี้ สำนักเร้นสวรรค์อันกว้างใหญ่เหลือเพียงแค่สองคน

มีเพียงจี๋อวิ๋นและซูชิงเมิ่ง

ช่างน่าเวทนายิ่งนัก!

แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงอดีต

ตอนนี้จี๋อวิ๋นมีทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ที่เทียบเท่าระดับปราชญ์ถึงสามพันคน แล้วยังมีแม่ทัพเทพเฟยเผิงที่เทียบเท่าระดับราชันปราชญ์

แม้ว่าจะมีสำนักเร้นสวรรค์ช่วงที่รุ่งเรืองถึงหนึ่งร้อยสำนักอยู่เบื้องหน้า ก็ไม่คู่ควรให้เขาเหลียวมอง

หากบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสำนักเร้นสวรรค์รู้เรื่องนี้คงตกใจจนสิ้นชีวิต!

“ศิษย์พี่ประมุข ข้ารู้ว่าท่านอยากปกป้องรากฐานของสำนักเร้นสวรรค์ ไม่อยากจากไป แต่หากรักษาชีวิตไว้ย่อมสามารถสร้างทุกสิ่งขึ้นมาใหม่ได้!”

“หากว่าสิ้นชีวิตก็จะไม่มีความหวังอีกต่อไป!”

“ก่อนที่คนของสำนักวิญญาณชาดจะมาถึง พวกเรารีบไปกันเถอะ!”

ทันทีที่ซูชิงเมิ่งเข้ามาในตำหนักใหญ่นางก็พูดอย่างรีบร้อน

อืม?

จี๋อวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

สำนักเร้นสวรรค์แม้ว่าจะตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม แต่ด้วยบารมีของบรรพบุรุษจึงทำให้ตั้งอยู่ในสถานที่ที่ดี มีเส้นชีพจรวิญญาณอยู่

ทว่าผู้ที่ไร้ความผิดกลับต้องโทษเพราะมีของล้ำค่า

สำนักเร้นสวรรค์ที่อ่อนแอ ครอบครองสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีคนคิดช่วงชิง และผู้ที่คิดช่วงชิงก็คือสำนักวิญญาณชาด

ต่างจากสำนักเร้นสวรรค์ที่ตกต่ำ สำนักวิญญาณชาดกลับรุ่งเรืองถึงขีดสุด

เป็นถึงสำนักนิกายระดับห้า มีปราชญ์ประจำสำนัก แม้เทียบกับสำนักเร้นสวรรค์ช่วงที่รุ่งเรืองก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน

สำนักเร้นสวรรค์ในตอนนี้ มิอาจต่อกรได้อย่างแน่นอน เสมือนมดกับมังกร!

ด้วยเหตุนี้ คนของสำนักวิญญาณชาดจึงประกาศกร้าวว่า หากสำนักเร้นสวรรค์ไม่ย้ายออกไปภายในสามวันจะถูกสังหาร!

ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ ผู้ที่อ่อนแอแม้แต่สิทธิ์ต่อต้านก็ไม่มี!

เมื่อเข้าใจเรื่องนี้ จี๋อวิ๋นก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย สำนักวิญญาณชาดกระจอกงอกง่อยเช่นนี้ กลับกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าเขา

ซูชิงเมิ่งไม่รู้ว่าจี๋อวิ๋นในตอนนี้หาใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไป

นางเห็นว่าจี๋อวิ๋นไม่ตอบสนองจึงยิ่งร้อนใจ กำลังจะใช้กำลังบังคับพาเขาออกไป

ในยามนั้นเอง กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งพุ่งลงมาจากเบื้องบน ราวกับสายน้ำเชี่ยวกราก โหมกระหน่ำไปทั่ว

ขณะเดียวกันก็มีเสียงเย็นชาตามมา ราวกับ…ประกาศิตเทพ!

“ครบกำหนดสามวันแล้ว เหล่าสมาชิกสำนักเร้นสวรรค์ที่เหลือจงรับความตายเสีย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด