ตอนที่ 264 กำไรแสนล้าน เกม ‘ราชาแห่งเกียรติยศ’
ในความคิดของ เย่เฉิน เขาคิดว่าอัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณสิบกว่า หรือไม่ก็มากสุดไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์
การที่ได้ผลตอบแทนเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือถึงขั้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว
นี่คือความคิดของ เย่เฉิน เขาคาดหวังว่าการลงทุนกว่าพันล้านหยวนจะได้ผลกำไรกลับมากว่าพันล้านหยวนก็นับว่าเป็นการลงทุนที่ดีมากแล้ว
แต่ตอนนี้...
หลังจากใช้ความสามารถไปแล้ว ตัวเลขที่ เย่เฉิน เห็นกลับทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก
ผลตอบแทนสูงถึงหลายพันเปอร์เซ็นต์!!!
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว..
การลงทุนเบื้องต้นเพียงสองพันล้านหยวน แต่กลับมีผลตอบแทนอยู่ที่ 3,670% - 5,210%
เมื่อคำนวณคร่าวๆ นั่นหมายถึงผลกำไรประมาณ 70,000 ล้านถึง 100,000 ล้านหยวน!!!
นี่ไม่ใช่แค่ผลกำไรที่ดีเท่านั้น แต่มันคือผลกำไรที่มากมายมหาศาลแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ
เทียบได้กับการสร้างเกม ‘ราชาแห่งเกียรติยศ (Honor of Kings)’ เกมยอดฮิตในวงการเกมเลยทีเดียว
[คำเตือน : ผลตอบแทนนี้อาจไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้าย ในระหว่างทางอาจมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น แต่ถ้าสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม อัตราผลตอบแทนก็สามารถเพิ่มขึ้นได้]
[หากปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างดี อัตราผลตอบแทนก็อาจเพิ่มขึ้นอีก]
ทันใดนั้น เกมก็ส่งข้อความแจ้งเตือนขึ้นมา
เย่เฉิน พิจารณา และซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาคาดคิดไว้อยู่แล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว.. ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอนถึง 100%
สิ่งที่เกมคาดการณ์นี้เป็นเพียงผลตอบแทนในสภาวะปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
แต่ในกระบวนการพัฒนาเกม ข้อผิดพลาด และปัญหาต่างๆ ย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแน่นอน
สำหรับเกมขนาดใหญ่เช่นนี้ การออกแบบ และพัฒนาต่างๆ อาจต้องใช้เวลาเป็นปี หรือหลายปี
ในช่วงเวลาที่ยาวนานเช่นนี้ ใครจะรู้ว่า ..จะเกิดอะไรขึ้น?
อย่างไรก็ตาม เกมได้ระบุไว้แล้วว่าปัญหาต่างๆ สามารถแก้ไขได้ หากสามารถจัดการได้ดี อัตราผลตอบแทนก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีก
ในที่สุด เย่เฉิน ก็สรุปได้ว่า ‘โปรเจกต์นี้ เขาต้องลงทุน!’
แค่สองพันล้านหยวนเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ?
เมื่อเทียบกับผลกำไรมากกว่า 70,000 ล้านถึง 100,000 ล้านหยวน หรือแม้กระทั่งสูงกว่านั้น สองพันล้านหยวนนี้ ..ก็ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย
“ผมชอบเกมนี้มาก”
หลังจากวางโทรศัพท์ลง เย่เฉิน ก็หันไปพูดกับ โม่ เมิ่งเฟย
“ผมยินดีที่จะลงทุน”
“อะไรนะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน โม่ เมิ่งเฟย ถึงกับไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“คุณยินดีจะลงทุนหลายพันล้านหยวน?”
โม่ เมิ่งเฟย ถามด้วยความไม่เชื่อ
“อุตสาหกรรมเกมมีความเสี่ยงสูง การลงทุนเงินจำนวนมากขนาดนี้อาจทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ เลยก็ได้นะ”
โม่ เมิ่งเฟย พยายามเตือน เย่เฉิน ให้พิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง
“ผมคิดดีแล้ว และผมไม่ได้ตั้งใจจะลงทุนแค่หนึ่งพันล้านหยวน แต่ผมจะลงทุนสองพันล้านหยวน”
เย่เฉิน ตอบอย่างแน่วแน่ เรื่องนี้เขาได้ตัดสินใจดีแล้ว
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการลงทุนเบื้องต้นเท่านั้น ในอนาคตก็อาจจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีก แต่คงจะไม่มากเท่าตอนนี้
สองพันล้านหยวน?!!
ตัวเลขนี้เกือบเท่ากับหนึ่งในสิบของ โม่ กรุ๊ป เลยด้วยซ้ำ
เย่เฉิน มองเกมที่เธอออกแบบไว้สูงขนาดนี้เชียวหรือ?
โม่ เมิ่งเฟย ค่อนข้างที่จะตกใจอย่างมาก
เธอยังคงพยายามจะเกลี้ยกล่อม เย่เฉิน แต่เมื่อเห็นความมุ่งมั่นในสายตาของ เย่เฉิน โม่ เมิ่งเฟย ก็จำต้องหยุดพูด และล้มเลิกความคิดนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น โม่ เมิ่งเฟย เองไม่คาดคิดว่าจะเป็นเช่นนี้…
เดิมทีหลังจากที่คุณแม่ของเธอปฏิเสธ โม่ เมิ่งเฟย ก็รู้สึกท้อแท้ คิดว่าแรงกายแรงใจที่เธอทุ่มเทไปตลอดหลายเดือนคงต้องสูญเปล่าแล้ว
แต่ตอนนี้คำพูดของ เย่เฉิน เหมือนแสงสว่างที่ส่องประกายในความมืด ทำให้ โม่ เมิ่งเฟย มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนนี้ โม่ เมิ่งเฟย เริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย
หากเธอต้องดำเนินการพัฒนาเกมนี้จริงๆ เรื่องราวต่างๆ จะมากมายมหาศาล การทำเกมขนาดใหญ่เช่นนี้อาจต้องใช้เวลานานหลายปี
และสิ่งนี้จำเป็นต้องทำอย่างลับๆ โดยไม่ให้คุณแม่ของเธอรู้
หลังจากคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง โม่ เมิ่งเฟย จึงตัดสินใจในที่สุดว่าเธอพร้อมที่จะลอง
“ฉันตัดสินใจ…”
โม่ เมิ่งเฟย กำลังจะตอบตกลง แต่พอพูดไปได้แค่ครึ่งเดียว แต่เธอก็หยุดชะงักไป
“เย่เฉิน ฉันขอเวลาคิดเกี่ยวกับมันสักหน่อยนะ ตอนเย็นฉันจะให้คำตอบคุณ”
โม่ เมิ่งเฟย เปลี่ยนใจ
พูดตามตรง โม่ เมิ่งเฟย รู้สึกอยากจะตอบรับคำเสนอของ เย่เฉิน อยู่แล้ว เพราะเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ นี้เป็นผลงานที่เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนามาหลายเดือน
โม่ เมิ่งเฟย คิดอยากจะลองทำมันจริงๆ และการทิ้งมันไปเช่นนี้ย่อมทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
หากเกมนี้ประสบความสำเร็จ ผลตอบแทนจะมหาศาลมาก
แต่เมื่อเธอคิดจะตอบตกลง เธอก็กลับคิดถึงประเด็นอื่นๆ ขึ้นมา โม่ เมิ่งเฟย จึงอยากขอให้ เย่เฉิน ให้เวลาเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
หากเกมล้มเหลวล่ะ?
อุตสาหกรรมเกมก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน
ถ้าเกมล้มเหลว สิ่งที่เธอจะสูญเสีย ..เพียงแรงกายแรงใจเท่านั้น แต่ เย่เฉิน เขาจะสูญเสียเงินถึงสองพันล้านหยวน ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาล!
สำหรับ โม่ เมิ่งเฟย แล้ว สองพันล้านหยวนถือเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมาก
เธอเกรงว่าหากเงินสองพันล้านหยวนนี้หายไปเปล่าๆ จะทำอย่างไร แล้วเธอจะเผชิญหน้ากับ เย่เฉิน ได้อย่างไรต่อไป...
ดังนั้น โม่ เมิ่งเฟย จึงขอเวลาเพื่อให้ เย่เฉิน ได้ใจเย็นๆ ลงด้วย
วันนี้เมื่อเธอกลับถึงบ้าน โม่ เมิ่งเฟย ตั้งใจจะให้คุณพ่อของเธอมาช่วยพูดเกลี้ยกล่อม เย่เฉิน
“ได้สิ”
เย่เฉิน พยักหน้า
สำหรับเขาแล้ว สองพันล้านหยวน หรือมากกว่านั้นก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เขาสามารถหาเงินกลับคืนมาได้ในไม่กี่วัน หรือแม้กระทั่งในหนึ่งวันจากเกม
เขาเพียงแค่ต้องการลงทุนเท่านั้น ไม่ต้องการทำอะไรอื่น
หากเลวร้ายที่สุด ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับเกม เขาก็แค่ใช้เส้นสาย หรือทรัพยากรของเขาแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
แต่หากว่า โม่ เมิ่งเฟย เห็นด้วยเธออาจจะต้องใช้เวลาหนึ่งปี หรือหลายปี เพื่อทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจ
สำหรับทุกคนแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ นี้ เย่เฉิน ตั้งใจจะลงทุนอย่างแน่นอน เพราะผลตอบแทนนั้นสูงเกินไป
โม่ เมิ่งเฟย ต้องการเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้น เย่เฉิน จึงลุกขึ้น และออกจากห้องทำงานไป
หลังจากส่ง เย่เฉิน ลงไปที่ชั้นล่าง โม่ เมิ่งเฟย ก็กลับมาที่ห้องทำงานของเธอ
เมื่อมองไปที่แผนการพัฒนาเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ โม่ เมิ่งเฟย ก็เงียบไป และไม่มีใครรู้ว่าเธอ ..กำลังคิดอะไรอยู่
เวลาผ่านไปนาทีต่อนาที ช่วงบ่ายประมาณสี่โมงเย็น โม่ เมิ่งเฟย กลับไปที่บ้านพ่อแม่ของเธอ
เธอกลับบ้านเร็วขึ้นกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง เพื่อหลบหน้าคุณแม่ และไปพูดคุยกับคุณพ่อของเธอ
เมื่อกลับถึงบ้าน โม่ เมิ่งเฟย รีบเล่าเรื่องราวให้คุณพ่อของเธอฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้
“สองพันล้าน?”
“เสี่ยวเฉิน จะลงทุนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
หลังจากฟังเรื่องที่ โม่ เมิ่งเฟย เล่าให้ฟัง โม่ หงหรู ก็ประหลาดใจอย่างมาก
หากเป็นการลงทุนแค่ไม่กี่ร้อยล้าน เขาอาจจะไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่สองพันล้านถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง
“คุณพ่อช่วยโทรไปเกลี้ยกล่อม เย่เฉิน ให้หน่อยได้ไหมคะ?”
โม่ เมิ่งเฟย เสนอ
เธอกลัวว่า เย่เฉิน จะตัดสินใจลงทุนเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
หากลงทุนแล้วเสียใจทีหลัง เงินจำนวนนี้อาจจะไม่ได้คืนกลับมามากเท่าที่ควร
“ได้สิ”
โม่ หงหรู พยักหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน โม่ หงหรู ก็กดหมายเลขโทรออกไปหา เย่เฉิน
“ลุงโม่ครับ เรื่องนี้ผมจริงจัง และไม่ได้เป็นการตัดสินใจเพราะอารมณ์ชั่ววูบแต่อย่างใด”
เย่เฉิน กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่น
เขาพอคาดเดาได้ว่า โม่ เมิ่งเฟย คงจะให้ ลุงโม่ โทรมาเพื่อเกลี้ยกล่อมเขา
เขาได้ตัดสินใจเรื่องนี้หลังจากใช้ความสามารถ [มองเห็นอัตราผลตอบแทน] ดังนั้นเขาจึงมั่นใจมาก
แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถเปิดเผยความลับนี้ได้ เย่เฉิน จึงอธิบายได้ไม่มากนัก
“ผมเห็นว่าเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ นี้มีศักยภาพมาก มีโอกาสที่จะกลายเป็นเกมยอดนิยมอีกเกมหนึ่งเช่นเดียวกับ ‘ราชาแห่งเกียรติยศ (Honor of Kings)’ ในอนาคตครับ”