ตอนที่แล้วตอนที่ 28 ศิษย์ชั้นนอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 ขโมยตาใส

ตอนที่ 29 ทำอาจารย์ตื่นตระหนก


ตอนที่ 29 ทำอาจารย์ตื่นตระหนก

“อาจารย์เคยตกลงตอนไหน? อาจารย์บอกว่าเมื่อเจ้าฝึกกระบวนท่าที่สามและสี่สำเร็จต่างหาก อาจารย์ถึงจะอนุญาตให้เจ้าไปถ้ำศักดิ์สิทธิ์!”

อวิ๋นชิงเหยากล่าว

“แต่ว่า ข้าฝึกกระบวนท่าได้สำเร็จแล้ว!”

ลู่เหรินยิ้ม

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

อวิ๋นชิงเหยาตกตะลึงจากนั้นก็หัวเราะออกมา “ศิษย์รัก เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียว เจ้าก็ฝึกสองกระบวนท่านี้ได้แล้ว? ต่อให้เจ้าเป็นผู้บรรลุสัจธรรมแห่งสวรรค์ก็เป็นไปไม่ได้!”

“ท่านอาจารย์ รับชม!”

ลู่เหรินหยิบดาบเพลิงวิญญาณออกมาในมือ แกว่งดาบเพลิงวิญญาณ แสดงกระบวนท่าระเบิดสายฟ้าและพายุฝนออกมา

“เป็นไปได้ยังไง?”

อวิ๋นชิงเหยาตกใจจนปากอ้า

นี่มันเหลือเชื่อเกินไป!

ศิษย์ของนาง ต่อให้เป็นผู้บรรลุสัจธรรมแห่งสวรรค์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนวิชาดาบสองกระบวนท่านี้ได้สำเร็จภายในเวลาเพียงวันเดียว

ลู่เหรินถามว่า “ท่านอาจารย์ เช่นนั้นข้าสามารถไปถ้ำศักดิ์สิทธิ์ได้หรือยัง?”

อวิ๋นชิงเหยาขมวดคิ้ว อยากจะปฏิเสธจริง ๆ ถึงแม้ว่าลู่เหรินจะฝึกฝนกระบวนท่านี้ได้สำเร็จ แต่การไปที่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ก็ยังคงอันตรายมาก

อัจฉริยะที่มีสายเลือดขั้นสี่หลายคน ไม่ยอมเพิ่มระดับพลังของตนเอง ฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาสิบกว่าปี หรือหลายสิบปีก็มี

พวกเขาเปิดช่องจิตแปดช่อง เก้าช่อง หรือแม้กระทั่งฝึกฝนวิทยายุทธขั้นปฐพีระดับล่างจนถึงขั้นสมบูรณ์

แต่ศิษย์ของนางเพียงฝึกฝนวิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับล่างจนถึงระดับสมบูรณ์ บวกกับวิชาดาบสี่กระบวนท่าที่นางถ่ายทอดให้จะต่อสู้กับพวกเขาได้อย่างไร?

“ศิษย์รัก เจ้าอยากไปถ้ำศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ หรือ?”

อวิ๋นชิงเหยาอดไม่ได้ที่จะถามย้ำอีกครั้ง

ลู่เหรินพยักหน้าพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านอาจารย์ หากข้าสามารถเปลี่ยนแปลงสายเลือดได้ ข้าก็จะสามารถกลายเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงได้ คนภายนอกก็จะไม่สามารถพูดว่าท่านรับศิษย์ไร้ค่ามา!”

“อาจารย์ไม่สนใจว่าคนภายนอกจะพูดถึงอาจารย์อย่างไร อาจารย์แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้า หากเจ้าไปที่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสามสำนักใหญ่ รวมถึงผู้สืบทอดคนอื่น ๆ จะไม่มีใครปล่อยเจ้าไปแน่!”

อวิ๋นชิงเหยามองลู่เหรินอย่างลึกซึ้ง

ในสายตาของนาง ศิษย์คนนี้ของนางอาจจะไม่ใช่นักเรียนที่ยอดเยี่ยม แต่เขามีความมุ่งมั่นและความทรหดอดทน คล้ายกับนางมาก

“ข้าแค่อยากจะลองเสี่ยงดู!”

ลู่เหรินกล่าว

อวิ๋นชิงเหยาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถอนหายใจยาวแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้ว หากอาจารย์เป็นเจ้า อาจารย์ก็อยากจะลองเสี่ยงดูเหมือนกัน เอาเถอะ อาจารย์จะไม่ห้ามเจ้าแล้ว ตอนนั้นอาจารย์จะไปกับเจ้าด้วย”

จากนั้นอวิ๋นชิงเหยาก็บอกอีกว่า “ช่วงนี้อาจารย์กำลังสร้างเคล็ดดาบสวรรค์ท่าที่ห้า หากสามารถสร้างได้สำเร็จก็จะถ่ายทอดให้เจ้า เพื่อให้ความแข็งแกร่งของเจ้าเพิ่มขึ้นอีกขั้น!”

พูดจบอวิ๋นชิงเหยาก็จากไปอย่างรีบร้อน

ลู่เหรินมองอาจารย์จากไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า

หลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาช่วงหนึ่ง ลู่เหรินจะบอกว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรต่ออวิ๋นชิงเหยาเลยก็คงจะเป็นเรื่องโกหก

สุภาพสตรีที่งดงาม ย่อมเป็นที่หมายปองของบุรุษ

แต่เขาก็รู้ดีถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับอวิ๋นชิงเหยา ทั้งในเรื่องของสถานะและความแข็งแกร่ง ต่างก็มีช่องว่างที่ใหญ่มาก

ถึงแม้ว่าอวิ๋นชิงเหยาจะอายุมากกว่าเขาเพียงสามปี แต่ในเรื่องของอายุก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่อวิ๋นชิงเหยาคงมองเขาเป็นแค่ศิษย์เท่านั้น

“สิ่งที่ข้าต้องทำตอนนี้คือการแข็งแกร่งขึ้น!”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะไปที่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต่อให้ต้องตาย เขาก็จะไป!

หลังจากพักผ่อนหนึ่งวัน ลู่เหรินก็ไปที่หอกระบวนท่าของศิษย์ชั้นนอก

เมื่อมองไปที่อาคารสูงสามชั้นตรงหน้า ลู่เหรินก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

หอกระบวนท่าของศิษย์ชั้นนอกมีถึงสามชั้นที่นี่เก็บวิทยายุทธไว้มากมายขนาดไหนกัน?

“ดูเหมือนว่าต้องเป็นศิษย์ชั้นนอกถึงจะสามารถเข้าถึงวิทยายุทธที่แข็งแกร่งได้!”

ลู่เหรินเดินเข้าไปในหอกระบวนท่า หยิบป้ายประจำตัวศิษย์ชั้นนอกออกมา แล้วพูดกับผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้ามาเลือกวิทยายุทธ!”

ศิษย์ชั้นนอกสามารถมาที่นี่เพื่อยืมวิทยายุทธได้ทุกเมื่อ ยกเว้นวิทยายุทธขั้นปฐพีที่ต้องใช้แต้มผลงานในการยืม ส่วนวิทยายุทธอื่น ๆ สามารถยืมได้ตลอดเวลา

นี่ก็เป็นสิทธิพิเศษของศิษย์ชั้นนอก!

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอมองดูป้ายของลู่เหริน แล้วพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เจ้าคือลู่เหรินคนนั้นเหรอ? สายเลือดไร้ค่าที่เรียกวิญญาณมังกรออกมาไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว?”

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอ ลู่เหรินก็รู้สึกพูดไม่ออกดูเหมือนว่าสถานะสายเลือดไร้ค่าของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งสำนักแล้ว

“ในหอกระบวนท่าของศิษย์ชั้นนอก ไม่มีวิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับต่ำ อย่างต่ำก็เป็นวิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับสูง เจ้าคงต้องมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ!”

“อะไรนะ?”

ลู่เหรินตกใจเล็กน้อย

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอมองไปรอบ ๆ แล้วโบกมือเรียกลู่เหรินมากระซิบว่า “แต่ว่าข้ามีวิชาฝึกกายาขั้นมนุษย์ระดับต่ำเก็บไว้เป็นการส่วนตัว หากเจ้าสนใจ ข้าจะขายให้เจ้าในราคาถูก!”

“วิชาฝึกกายา?”

ดวงตาของลู่เหรินเป็นประกาย

“ท่านผู้อาวุโส ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอกระบวนท่า แต่กลับมาขายวิทยายุทธให้ข้าแบบลับ ๆ?”

ลู่เหรินมองผู้อาวุโสด้วยความแปลกใจ

“อย่าพูดเหลวไหล นี่เป็นวิชาที่ข้าได้มาจากดินแดนลับแห่งหนึ่งตอนที่ออกเดินทางเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช่เคล็ดวิชาของสำนัก เดิมทีข้าตั้งใจจะขายให้กับพวกอัจฉริยะ แต่พวกอัจฉริยะเหล่านั้นดูถูกวิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับต่ำ!”

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอรีบอธิบาย

“อ้อ?”

ลู่เหรินรู้สึกสนใจขึ้นมา “ท่านผู้อาวุโส ข้าขอเปิดหูเปิดตาหน่อยได้หรือไม่เล่า?”

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นหนังสือ ปัดฝุ่นออก แล้วส่งให้ลู่เหริน

“เคล็ดชำระกายา!”

ลู่เหรินเห็นตัวอักษรบนหน้าปกหนังสือ เป็นวิชาฝึกกายขั้นมนุษย์ระดับต่ำจริง ๆ

“เคล็ดชำระกายา ขั้นมนุษย์ระดับต่ำ วิชาฝึกกายที่สืบทอดกันมาเป็นพัน ๆ ปี นักสู้สามารถใช้พลังปราณในร่างกายของตนเองเพื่อชำระล้างร่างกาย ในที่สุดก็จะบรรลุเคล็ดกายาทองคำ”

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอดึงหนังสือกลับมาแล้วพูดว่า “เอาหรือไม่? ราคาเดียว… ห้าแสนเหรียญทองแดง หากเจ้าไม่มีเงินพอก็สามารถติดไว้ก่อนได้!”

“ห้าแสน?”

ลู่เหรินเบิกตากว้าง ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอคนนี้ช่างเรียกราคาสูงเกินไป

วิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับต่ำ มีมูลค่าเพียงหนึ่งแสนเหรียญทองแดง และเมื่อเข้ามาในสำนักก็สามารถยืมวิทยายุทธได้ มีศิษย์น้อยคนนักที่จะยอมเสียเงินซื้อวิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับล่าง

“ถ้าเจ้าไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร ข้าก็ไม่ได้บังคับเจ้า!”

หลังจากพูดจบ ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอก็เก็บตำราไว้ในอกแล้วหลับตาลง

เขาคาดการณ์ว่าลู่เหรินต้องซื้อแน่ ๆ!

นี่เป็นวิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับต่ำ แถมยังเป็นวิชาฝึกกายาที่หายาก ลู่เหรินเป็นสายเลือดไร้ค่า สามารถฝึกฝนได้แค่วิทยายุทธขั้นมนุษย์ระดับต่ำเท่านั้น

ดวงตาของลู่เหรินเป็นประกาย ทันใดนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านผู้อาวุโส วิทยายุทธของท่านวิเศษขนาดนั้นเลยเหรอ? สืบทอดมาจากพันปีก่อน? ข้าอยากดูว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”

“ข้าจะไปหลอกเจ้าทำไม?”

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอแค่นเสียงเย็น แต่ในใจกลับรู้สึกดีใจ ลู่เหรินคนนี้ติดเบ็ดแล้ว

“ดูได้แค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น!”

ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอโยนหนังสือให้ลู่เหริน

ลู่เหรินถือ “เคล็ดชำระกายา” นั่งลงข้าง ๆ หันหลังให้ผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอ แล้วเปิดอ่านอย่างละเอียด

ส่วนผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอก็นอนอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย

เมื่อนึกถึงว่าอีกไม่นานก็จะได้เงินห้าแสนเหรียญทองแดง อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก

ลู่เหรินถือหนังสือเห็นว่าผู้อาวุโสผู้เฝ้าหอไม่ได้สนใจเขา มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

ในวินาทีต่อมา เขาก็เข้าไปในพื้นที่ของหอคอยศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับ “เคล็ดชำระกายา”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด