ตอนที่แล้วบทที่ 179 คุณคงไม่ได้ชอบเฉิงลู่ใช่ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 181 เฉิงลู่ เธอเป็นคนเดียวที่ควบคุมเขาได้

(ฟรี) บทที่ 180 สวี่ชิวเหวิน คุณโง่หรือเปล่า?


เฉิงลู่พูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “คุณมีเรื่องอะไร”

“ออกมาก่อนค่อยคุยกัน”

“งั้นรอฉันสักห้านาที”

สวี่ชิวเหวินพยักหน้า และเดินไปรอด้านข้างกับหยางไป่ซาน

หลังจากนั้นประมาณสามหรือสี่นาที เฉิงลู่ก็ออกมาจากห้องกิจกรรมและปิดประตู

ในเวลานี้ เฉิงลู่เปลี่ยนจากชุดเดิมของเธอแล้ว

กางเกงรัดรูปถูกแทนที่ด้วยกางเกงยีนส์ โดยมีเสื้อยืดสีขาวและแจ็คเก็ตผ้าร่มสีดำที่ด้านบน

มวยผมที่ถูกมัดไว้บนศีรษะก็ถูกปลดออกเช่นกัน เส้นผมยาวสลวยลู่ลงมาบนแผ่นหลัง

เฉิงลู่คิดว่ามีเพียงสวี่ชิวเหวินอยู่ที่ทางเดิน ดังนั้นเธอจึงแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหยางไป่ซานด้านข้าง

เธอถามอย่างใจเย็น “คุณต้องการอะไรจากฉัน”

เฉิงลู่ดูสวยงามมากในเวลานี้

จริงๆแล้วเธอไม่ได้แต่งตัวมากนัก เสื้อผ้าค่อนข้างธรรมดา เช่นเดียวกับนักศึกษาหญิงทั่วๆไป แต่เพียงเมื่อเฉิงลู่สวมใส่มัน เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ก็ปรากฏออกมา

สวี่ชิวเหวินกลับมามีสติอีกครั้ง “ฉันได้ยินมาว่าฝ่ายวรรณกรรมและศิลปะของมหาวิทยาลัยเจียวทงจะส่งคนมาที่เจียงหลิงเพื่อช่วยจัดงานเลี้ยง คนคนนั้นคือเธอใช่ไหม?”

เฉิงลู่พยักหน้า “ใช่”

สวี่ชิวเหวินกล่าวต่อ “มหาวิทยาลัยต้องการให้แผนกของฉันจัดงานเลี้ยงปฐมนิเทศ”

“ฉันรู้ แต่แล้วคุณมาหาฉันทำไม? งานเลี้ยงปฐมนิเทศนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการศิลปะของแผนกคุณไม่ใช่เหรอ?”

สวี่ชิวเหวินอธิบาย “ประธานคณะกรรมการศิลปะไม่มีประสบการณ์ในการจัดงานเลี้ยงปฐมนิเทศ แต่ฉันเคยเข้าร่วมมาก่อน ดังนั้นที่ปรึกษาจึงต้องการให้ฉันรับผิดชอบงานเลี้ยงปฐมนิเทศนี้”

เฉิงลู่ประหลาดใจ “ที่ปรึกษามอบหมายให้คุณเป็นผู้รับผิดชอบ?”

“ทำไมล่ะ ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ทำมันเหรอ?”

“ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้น” น้ำเสียงของเฉิงลู่ยังคงราบเรียบ

เฉิงลู่คิดสักพักแล้วเอ่ยถาม “คุณเป็นผู้รับผิดชอบ การมาหาฉันเป็นเรื่องปกติ แต่เขาล่ะมาทำไม?”

หยางไป่ซานได้ยินเฉิงลู่ถามถึงเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและกำลังจะตอบ แต่สวี่ชิวเหวินไม่ให้โอกาสเขา “เขาเป็นเลขานุการของชั้นเรียนเรา ที่ปรึกษาขอให้เขามาช่วยจัดงานเลี้ยงปฐมนิเทศ”

“เลขานุการของพวกคุณไม่ใช่ตงจุนเหรอ? เขาเป็นคนที่เข้าร่วมการประชุมทุกครั้ง”

“ตงจุนเป็นตัวแทนชั้นเรียน หยางไป่ซานเป็นเลขานุการ แต่เขามักจะขอให้ตงจุนเข้าร่วมการประชุมในนามของเขา” สวี่ชิวเหวินอธิบาย

เฉิงลู่เม้มริมฝีปากอย่างดูถูก “คนแบบนี้มาเป็นเลขานุการได้ยังไง”

สวี่ชิวเหวินโต้กลับ “แต่เขามีคุณสมบัติจะอยู่ที่นี่ด้วยแล้วใช่ไหม?”

เฉิงลู่พยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก

ทัศนคติของเฉิงลู่ยังค่อนข้างดี และเธอไม่เย่อหยิ่งหรือเพิกเฉยต่อผู้คน

นอกจากนี้เสียงของเธอก็น่าฟังมาก สวี่ชิวเหวินค่อนข้างชอบฟังการพูดของเธอ

สวี่ชิวเหวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “เรายังไม่เคยมีโอกาสได้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการเลย มาทำตอนนี้เถอะ ฉันชื่อสวี่ชิวเหวิน”

“ฉันรู้ว่าคุณชื่อสวี่ชิวเหวิน”

“ฉันมาจากหลางหยา แล้วเธอล่ะ?” สวี่ชิวเหวินถามอย่างรู้เท่าทัน

“ฉันรู้ว่าคุณมาจากหลางหยา ฉันมาจากหางโจว”

ไม่น่าแปลกใจที่เฉิงลู่รู้ว่าเขามาจากหลางหยา เพราะเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องของเซียวโหยวหราน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอบอกว่าตัวเองมาจากหางโจว สวี่ชิวเหวินก็ประหลาดใจ “เธอไม่ใช่คนซีอานเหรอ?”

เฉิงลู่มองดูเขาแล้วถาม “ใครบอกคุณว่าฉันเป็นคนซีอาน?”

ทันใดนั้นสวี่ชิวเหวินก็ตระหนักได้ ถึงแม้เฉิงลู่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายในซีอาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องเป็นคนซีอานด้วย เขายอมรับความจริงข้อนี้อย่างรวดเร็ว

เขาเปลี่ยนประเด็นอย่างรวดเร็ว “มาเข้าเรื่องกันเถอะ เราควรจัดงานเลี้ยงปฐมนิเทศยังไง? เธอมีไอเดียบ้างไหม?”

เฉิงลู่เม้มริมฝีปากของเธอ หยุดชั่วคราวก่อนจะพูด “คุณเป็นผู้รับผิดชอบไม่ใช่เหรอ? นั่นเป็นหน้าที่ของคุณ”

“แต่เธอมาอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือ และเธอมีประสบการณ์ในการจัดงานเลี้ยงปฐมนิเทศมาก่อน ทำไมไม่ลองเสนอความคิดออกมาดูล่ะ?”

“ฉันไม่รู้สถานการณ์ในแผนกหรือมหาลัยของคุณ ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นใครและจะให้ความร่วมมือหรือไม่ คุณจะขอให้ฉันเสนออะไร?”

สวี่ชิวเหวินคิดอยู่ครู่หนึ่งและตระหนักว่าเฉิงลู่พูดมีเหตุผล

“นั่นก็จริง งั้นเรียกทุกคนมาประชุมกันก่อนแล้วค่อยคุยว่าจะเอายังไงต่อ”

“อันที่จริง เราเพียงแค่ต้องเตรียมเรื่องการแสดงไว้ก่อน ตราบใดที่การแสดงเรียบร้อยดี อย่างอื่นก็เป็นเรื่องเล็กน้อย”

“เธอพูดถูก มาเตรียมการแสดงกันก่อนเถอะ”

เฉิงลู่กลอกตาใส่เขา “ทำไมทุกสิ่งที่ฉันพูดจึงถูกต้อง? คุณไม่มีความคิดของตัวเองหรือไง?”

สวี่ชิวเหวินหัวเราะและอธิบาย “เธอพูดถูกทุกอย่างเลย ฉันจะโต้แย้งได้ยังไง”

เฉิงลู่ยิ้มเบาๆเมื่อได้ยิน

รอยยิ้มนี้ทำลายความรู้สึกของภูเขาน้ำแข็งไปโดยสิ้นเชิง

ด้วยริมฝีปากสีแดง ฟันขาว และใบหน้าละเอียดอ่อน เธอดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษเมื่อยิ้ม

สวี่ชิวเหวินนึกถึงการเต้นรำของเธอก่อนหน้านี้ และอดไม่ได้ที่จะถาม “ฉันถามที่ปรึกษาแล้ว ดูเหมือนว่าการมีส่วนร่วมจะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงนักศึกษาของเจียงหลิงเท่านั้น เธออยากขึ้นไปแสดงการเต้นรำไหม?”

เฉิงลู่กลอกตาใส่เขาและกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณเห็นจริงๆสินะ”

สวี่ชิวเหวินยิ้ม “มันเป็นเรื่องบังเอิญ ฉันเห็นมันตอนยืนอยู่ที่ประตู เรื่องนี้ไม่สามารถตำหนิฉันได้ใช่ไหม?”

สีหน้าของเฉิงลู่ยังคงสงบ เธอไม่พูดหรือเปลี่ยนท่าทางใดๆ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สวี่ชิวเหวินก็อดไม่ได้ที่จะหยอกเสียงเบา “เดรสที่เธอใส่เต้นรำก่อนหน้านี้กับกางเกงรัดรูปตัวนั้นดูดีมาก”

เฉิงลู่สบถใส่เขา “โรคจิต!”

สวี่ชิวเหวินไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้ เพราะน้ำเสียงของเธอไม่ได้ดูโกรธเลย มันออกไปทางขี้เล่นมากกว่า

หยางไป่ซานที่อยู่ด้านข้างเกือบจะตายด้วยความวิตกกังวล

เมื่อเฉิงลู่เริ่มคุยกับสวี่ชิวเหวิน เขาก็ราวกับไม่มีตัวตน

เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่เฉิงลู่เดินออกจากห้องกิจกรรม

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทั้งสองพูดเป็นภาษาจีนกลางอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับมีบางคำที่เขาไม่เข้าใจ

เขาทำอะไรไม่ถูกและไม่สามารถโกรธเฉิงลู่ได้ เขาจึงทำได้เพียงมองสวี่ชิวเหวินด้วยความขุ่นเคือง

สวี่ชิวเหวินตรวจสอบเวลาและพบว่ายังเหลืออีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ชั้นเรียนช่วงบ่ายจะเลิก เขาจึงพูดกับเฉิงลู่ “คืนนี้ฉันว่าจะเชิญตัวแทนของแต่ละชั้นเรียนในแผนกการจัดการและวิศวกรรมกับสมาชิกของคณะกรรมการศิลปะมารับประทานอาหารเย็นด้วยกัน เรามาใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักและหารือเกี่ยวกับงานเลี้ยงปฐมนิเทศกันเถอะ”

เฉิงลู่ไม่ได้คัดค้าน เธอเพียงพยักหน้าเล็กน้อย

สวี่ชิวเหวินเมื่อเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกมีความสุขเล็กน้อยในใจและพูดทันที “ถ้าอย่างนั้นรอฉันก่อน ฉันจะกลับไปติดต่อผู้คนและหาร้านอาหารดีๆ แล้วฉันจะแจ้งให้เธอทราบเมื่อพร้อม”

สวี่ชิวเหวินพูดจบและกำลังจะเรียกหยางไป่ซานให้ออกไปด้วยกัน แต่ทันใดนั้นเฉิงลู่ก็หยุดเขาไว้ “สวี่ชิวเหวิน คุณโง่หรือเปล่า?”

สวี่ชิวเหวินตกตะลึง

เฉิงลู่กล่าวต่อ “คุณจะบอกฉันยังไงเมื่อพบร้านอาหารแล้ว?”

“ทางข้อความ—” เสียงของสวี่ชิวเหวินหยุดลงทันที

ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าตนไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของเฉิงลู่ด้วยซ้ำ

เฉิงลู่ตะคอกเบาๆ “งี่เง่าจริงๆ”

สวี่ชิวเหวินไม่ใช่หยางไป่ซาน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่าเฉิงลู่หมายถึงอะไรและตอบสนองทันที

ทันใดนั้นเฉิงลู่ก็ยื่นมือออกมาหาเขา “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”

สวี่ชิวเหวินหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาทันทีและวางลงบนฝ่ามือของเฉิงลู่

เฉิงลู่ก้มหน้าลงแล้วกดปุ่มต่างๆ บันทึกหมายเลขของเธอลงในโทรศัพท์ของสวี่ชิวเหวิน

เดิมทีหยางไป่ซานคิดว่าเฉิงลู่จะพูดหมายเลขโทรศัพท์ของเธอออกมาและรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เมื่อเห็นการกระทำของเธอ ใบหน้าของเขาก็หม่นลงทันที

/////