บทที่ 70 : ผู้ฝึกยุทธแต่ละคนต่างก็มีมีวิถีแห่งเต๋าที่ตัวเองยึดมั่น
บทที่ 70 : ผู้ฝึกยุทธแต่ละคนต่างก็มีมีวิถีแห่งเต๋าที่ตัวเองยึดมั่น
"ตอนแรกข้ายังลังเลอยู่ เพราะชายฝั่งทะเลเหนือมันไกลมาก"
"แต่ถ้าเจ้าจะไป ข้าก็จะไปด้วยแน่นอน!" องครักษ์สิบสามพูดอย่างไม่ลังเล
"งั้นพวกเรายังขาดอีกหนึ่งคน!"
"เรื่องนี้ง่ายมาก…ปล่อยให้ข้าจัดการเอง!" องครักษ์สิบสามพูดอย่างมั่นใจ
"เจ้ารอข่าวจากข้าได้เลย…เเละพวกเราน่าจะออกเดินทางได้พรุ่งนี้เช้า!"
หลินเสวียนพยักหน้ารับ, แล้วส่งองครักษ์สิบสามออกไป
……..
หลังจากนั้น, หลินเสวียนก็หยิบโอสถก่อกำเนิดและโอสถหลอมลมปราณมากินอย่างละหนึ่งเม็ด
วางศิลาวิญญาณไว้ในห้องฝึกฝน ปล่อยให้วิชาปราณน้ำแข็งเพลิงฝึกฝนด้วยตัวเอง
หนูสายฟ้ามองศิลาวิญญาณที่หลินเสวียนวางไว้…ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย ทว่ามันก็ยังไม่กล้าขโมยกิน!
……
"หลินเสวียน…ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์จะไปกับพวกเรา"
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง องครักษ์สิบสามก็ส่งข่าวกลับมา
"ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์จะไปด้วย?" หลินเสวียนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
"อืม!"
"จริงๆแล้วสามลงทัณฑ์อยากจะไป…แต่หัวหน้าไม่ค่อยไว้ใจ เลยตัดสินใจไปเอง" องครักษ์สิบสามส่งข้อความมา
"ไม่ค่อยไว้ใจ?" หลินเสวียนงุนงงกับคำนี้
"สามลงทัณฑ์คนนั้น...พูดอย่างไรดี, ไว้เจ้าได้เจอกับเขาแล้วจะรู้เอง"
"แต่ตอนนี้ดีแล้ว!"
"ในเมื่อผู้อาวุโสยอมไปด้วย, พวกเราก็ยิ่งมั่นใจในด้านความปลอดภัยได้มากขึ้น" องครักษ์สิบสามพูดอย่างยินดี
"ตกลง, งั้นพวกเราออกเดินทางกันพรุ่งนี้เช้า!"
หลินเสวียนตอบกลับ จากนั้นก็นั่งพักผ่อนอยู่ที่ค่ายกลดูดซับพลังวิญญาณ
……
[วิชาปราณน้ำแข็งเพลิงฝึกฝนอย่างหนักตลอดทั้งคืน พลังปราณขอบเขตก่อกำเนิดสายที่สี่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย…อีกไม่นานก็น่าจะบ่มเพาะออกมาได้!]
โอสถก่อกำเนิดหนึ่งเม็ด!
โอสถหลอมลมปราณหนึ่งเม็ด!
ศิลาวิญญาณสี่ก้อน!
ทั้งหมดนี้ทำได้แค่ทำให้พลังปราณขอบเขตก่อกำเนิดสายที่สี่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
"ดูเหมือนว่า ยิ่งมีพลังปราณขอบเขตก่อกำเนิดมากเท่าไหร่ การบ่มเพาะพลังปราณขอบเขตก่อกำเนิดสายใหม่…ก็ยิ่งต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้นเท่านั้น"
"แต่ข้าก็ไม่ต้องกังวลอะไร"
"ในมือข้ายังมีโอสถก่อกำเนิดที่มีลวดลายโอสถสิบเส้นอีกสิบเม็ด!"
"โอสถหลอมลมปราณก็มีเยอะ, ศิลาวิญญาณก็ไม่ขาดแคลน, พวกมันเพียงพอที่จะใช้ได้อีกสักพัก"
หลินเสวียนไม่ได้รู้สึกกังวล
การบำเพ็ญเพียรไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน…เขาต้องค่อยๆเป็นค่อยๆ ไป
หลินเสวียนมีความอดทน, ดังนั้นเขาจะค่อยๆฝึกฝน!
……
"หลินเสวียน!"
"พวกเราออกเดินทางกันได้แล้ว!"
ทันใดนั้น, เสียงขององครักษ์สิบสามก็ดังมาจากข้างนอก
"มาแล้วครับ!"
หลินเสวียนตอบกลับ เขาล้างหน้าล้างตา แล้วก็เดินลงมาข้างล่าง
ณ ขณะนี้…ทั้งองครักษ์สิบสามและผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ต่างก็สวมชุดคลุมยาวสีเขียว
พวกเขาเก็บสัญลักษณ์ของสำนักเทียนเซียวเอาไว้…หลินเสวียนก็เช่นกัน
"หลินเสวียนคารวะผู้อาวุโส!" หลินเสวียนรีบคารวะ
"หลินเสวียน ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนั้น…พวกเราล้วนเป็นคนของหอลงทัณฑ์เหมือนๆกัน"
"สิบสามลงทัณฑ์เเละพรรคพวกมักจะเรียกข้าว่าหัวหน้า…เจ้าไม่รังเกียจก็เรียกข้าว่าหัวหน้า หรือจะเรียกผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็ได้!"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์โบกมือ, เขาไม่ได้สนใจเรื่องพิธีรีตองมากนัก
"ครับ…หัวหน้า!"
เมื่อผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ไม่ใส่ใจ หลินเสวียนก็ยิ่งไม่ใส่ใจ
"งั้นตกลงตามนั้น…เอาล่ะ, ได้เวลาแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถอะ!"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์มองท้องฟ้าแล้วพูดขึ้น
"พวกเราไม่ต้องไปรับเหยี่ยวปีกสีเขียวก่อนหรือ?"
หลินเสวียนงุนงงเล็กน้อย!
"เหยี่ยวปีกสีเขียว?"
องครักษ์สิบสามได้ยินดังนั้น ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด
"เหยี่ยวปีกสีเขียวสามารถบินได้หมื่นลี้ต่อวัน แต่การเดินทางไปยังชายฝั่งทะเลเหนือ ต้องข้ามแคว้นกว่างหลิงไปครึ่งหนึ่ง!"
"ต่อให้เหยี่ยวปีกสีเขียวบินโดยไม่หยุดพัก…ก็ต้องใช้เวลาถึงสองเดือน"
"กว่าข้าจะไปถึงที่นั่น มันคงจะสายไปแล้วเเหล่ะ!"
องครักษ์สิบสามพูดพลางส่ายหัว
"แล้วพวกเราจะไปกันยังไงล่ะ?" หลินเสวียนพึมพำ
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลา!
"หัวหน้า, รีบเอาออกมาให้หลินเสวียนดูสิ!"
องครักษ์สิบสามมองผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ด้วยรอยยิ้ม
"เอาล่ะ!"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ยกยิ้ม
จากนั้นเขาก็หยิบอาวุธวิญญาณที่มีรูปร่างคล้ายกระสวยออกมา
อาวุธวิญญาณนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ, บนพื้นผิวของมันนั้นมีอักขระที่ซับซ้อนติดตั้งอยู่มากมาย
"อาวุธวิญญาณสำหรับบิน?"
หลินเสวียนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก!
อาวุธวิญญาณมีหลายประเภท, ตั้งเเต่อาวุธวิญญาณสำหรับป้องกัน, อาวุธวิญญาณสำหรับโจมตี, และอาวุธวิญญาณสำหรับบิน
"ใช่แล้ว!"
"สิ่งนี้เรียกว่า กระสวยเเห่งความว่างเปล่า มันเป็นอาวุธวิญญาณระดับลึกลับขั้นสูง…เเละมีเพียงชิ้นเดียวในหอลงทัณฑ์สายนอก!"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ตอบด้วยรอยยิ้ม
กระสวยเเห่งความว่างเปล่า ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของหอลงทัณฑ์…ปกติแล้วไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ง่ายๆ!
แต่ครั้งนี้เรื่องอาณาจักรลับเป็นเรื่องใหญ่มาก!
และผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็เป็นถึงหัวหน้า…เขาจึงสามารถนำออกมาใช้ได้
"เปิดใช้งาน!"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์พูดพลางร่ายมนตร์
ทันใดนั้น, กระสวยเเห่งความว่างเปล่าก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีความยาวสิบฟุต
ภายในมีพื้นที่เล็กๆที่ดูเรียบง่ายมาก
"ข้างในนี้นั่งได้ด้วย?" หลินเสวียนตกตะลึงอีกครั้ง
"อืม!"
"เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธนั่งอยู่ข้างในใช้ศิลาวิญญาณเป็นพลังงาน…มันก็จะบินได้เอง, ส่วนพวกเราแค่คอยควบคุมทิศทางก็พอแล้ว"
"นอกจากนี้, บนกระสวยเเห่งความว่างเปล่ามีค่ายกล...พลังป้องกันของมันจึงเทียบเท่ากับอาวุธวิญญาณระดับลึกลับ!"
"ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้ทั่วไป…ไม่สามารถทำลายมันได้" องครักษ์สิบสามอธิบาย
"ถ้าอย่างนั้น การที่จะเป็นช่างหลอมสร้างอาวุธได้…ก็ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านค่ายกลด้วยสินะ?"
หลินเสวียนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ใช่แล้ว!"
"ผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกล อาจจะไม่ใช่ช่างหลอมสร้างอาวุธ…แต่ช่างหลอมสร้างอาวุธที่แข็งแกร่งทุกคน ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกล" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์พูดอย่างมั่นใจ
"จริงๆแล้ว ผู้ฝึกยุทธทุกคนเพียงแค่ทะลวงสู่ขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้ก็สามารถเป็นช่างหลอมสร้างอาวุธได้ เเล้ว…แต่ก็แค่เป็นได้เท่านั้น"
"ถ้าหากไม่มีค่ายกลช่วย…ก็ทำได้แค่หลอมสร้างอาวุธวิญญาณระดับสีเหลืองขั้นสูงเท่านั้น"
"อาวุธวิญญาณระดับลึกลับขึ้นไป ต้องใช้ค่ายกลเสมอ" องครักษ์สิบสามพูดเสริม
"ข้าเข้าใจแล้ว!" หลินเสวียนพยักหน้า
ตอนนี้, เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับการหลอมสร้างอาวุธในระดับหนึ่งแล้ว
"เอาล่ะ พวกเราขึ้นไปกันเถอะ!" ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ยกยิ้ม
เขากระโดดขึ้นไปบนกระสวยเเห่งความว่างเปล่าเป็นคนแรก
จากนั้น, หลินเสวียนและองครักษ์สิบสามก็ตามขึ้นไป!
พื้นที่ภายในกระสวยเเห่งความว่างเปล่าเป็นเหมือนกับกล่องแก้ว
เมื่อหลินเสวียนยืนอยู่ภายในกระสวยเเห่งความว่างเปล่า, เขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ภายนอกได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น, ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์ก็หยิบศิลาวิญญาณระดับต่ำออกมาห้าก้อน…แล้ววางไว้ในค่ายกลตรงกลางกระสวยเเห่งความว่างเปล่า
บูมมมม!
ทันใดนั้น, กระสวยเเห่งความว่างเปล่าก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
เเละพริบตาเดียวมันก็บินออกไปไกลหลายร้อยลี้!
"ความเร็วนี้..…"
หลินเสวียนรู้สึกทึ่งอย่างมาก!
ถึงแม้ว่ากระสวยเเห่งความว่างเปล่าจะมีความเร็วสูงมาก แต่คนข้างในกลับรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนพื้นราบ…ไม่รู้สึกถึงความไม่สบายแม้แต่น้อย
มันสะดวกสบายกว่าการนั่งเหยี่ยวปีกสีเขียวมาก
"พวกเราพักผ่อนกันก่อนเถอะ"
"ด้วยความเร็วของกระสวยเเห่งความว่างเปล่า, พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็น่าจะไปถึงชายฝั่งทะเลเหนือแล้ว"
ผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ณ ขณะนี้…หลินเสวียนยืนอยู่ภายในกระสวยเเห่งความว่างเปล่า
เขามองดูภูเขาและแม่น้ำที่อยู่เบื้องล่าง…รู้สึกถึงความทะเยอทะยาน อยากจะขึ้นไปยืนบนยอดเขาที่สูงที่สุด เพื่อมองดูภูเขานับพัน
ส่วนหนูสายฟ้า ก็ยืนขึ้นสองขาอยู่บนไหล่ของหลินเสวียน
ดวงตาเล็กๆ ทั้งสองข้างกระพริบถี่ๆ เห็นได้ชัดว่ามันค่อนข้างตกตะลึงกับฉากที่ได้เห็น
……
[ดีมาก!]
[แบบนี้สิ ถึงจะเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธอย่างพวกเราควรทำ!]
[ท่องเที่ยวไปตามภูเขาและแม่น้ำ…เรียนรู้วิถีแห่งชีวิตจากธรรมชาติ]
ในขณะนี้…วิชาทะยานเหนือคลื่นดีใจมาก!
มันชอบภูเขาและแม่น้ำที่สวยงามเเบบนี้เป็นที่สุด
[วิชาทะยานเหนือคลื่น มองเห็นความกว้างใหญ่ของโลกและความงดงามของภูเขาและแม่น้ำ…จิตวิญญาณได้รับการยกระดับเเละกำลังพัฒนาตัวเอง!]
"เจ้าช่างเป็นวิชาที่รักอิสระเสรีเสียจริง"
หลินเสวียนยกยิ้มแล้วพูดในใจ
[จะเป็นวิชาที่รักอิสระเสรี หรือวิชาที่ชอบฝืนชะตาฟ้าดิน….มันก็ล้วนเป็นรูปแบบของการดำรงชีวิต]
[ผู้ฝึกยุทธก็คือผู้จุดประกายแห่งความหวังเเห่งชีวิตในใจ, ไล่ตามอนาคตที่ไม่แน่นอน…เดินบนเส้นทางที่อาจจะไม่มีวันสิ้นสุด]
วิชาทะยานเหนือคลื่นพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา
เเละคำพูดนี้ของมัน ทำให้หลินเสวียนรู้สึกเหมือนได้รับการตรัสรู้บางอย่างภายในใจ!
ใช่แล้ว!
นี่คือรูปแบบการดำรงชีวิต!
ผู้ฝึกยุทธแต่ละคนต่างก็มีวิธีการบำเพ็ญเพียรของตัวเอง…มีวิถีแห่งเต๋าที่ตัวเองยึดมั่น
ลู่จื่อเยว่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในสำนักเทียนเซียว!
ผู้อาวุโสหลิวยึดติดกับตำแหน่งผู้ดูแลหอทรัพยากรสายนอก แม้ว่าศักยภาพของเขาจะหมดลงแล้ว…แต่เขาก็ยังคงยึดมั่นในความเชื่อดั้งเดิม!
ศิษย์พี่หญิงรองยู่หยาน เพื่อที่จะก้าวหน้าต่อไป…จึงกลายเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสสายในที่ใกล้หมดอายุขัย!
องครักษ์สิบสามถึงกับสละสถานะศิษย์สายในเเละมาเข้าร่วมหอลงทัณฑ์สายนอก…ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะเดินบนเส้นทางการบำเพ็ญเพียรให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น
ทุกคน…ต่างก็ดิ้นรนเเละเดินบนเส้นทางที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมที่สุด
ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา..หลินเสวียนก็รู้สึกว่าตัวเองได้เข้าสู่สภาวะที่ลึกลับ!
ความรู้สึกนี้….เหมือนกับนั่งอยู่บนก้อนเมฆ
ความคิดทั้งหมดปลอดโปร่ง…ทั่วทั้งร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยพลังลึกลับ!
หลินเสวียนกำลังเกิดภาวะหยั่งรู้ฟ้าดิน!
[วิชาทะยานเหนือคลื่นสอดคล้องกับสภาวะการหยั่งรู้….ความเร็วในการพัฒนาเพิ่มขึ้นสามเท่า!]
[วิชาปราณน้ำแข็งเพลิงสอดคล้องกับภาวะการหยั่งรู้…ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรเพิ่มขึ้นสามเท่า!]
ตูมมมม!
ในเวลาเดียวกัน!
พลังปราณขอบเขตก่อกำเนิดสามสายภายในร่างกายของหลินเสวียน ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
พวกมันก่อตัวเป็นแรงดูดมหาศาล…ดูดซับพลังวิญญาณจากสวรรค์และโลกอย่างต่อเนื่อง!
……
"เจ้าหมอนี่…เกิดภาวะการหยั่งรู้อีกแล้วเหรอ?"
ในตอนนี้
ทั้งผู้อาวุโสหนึ่งลงทัณฑ์และองครักษ์สิบสามต่างก็มองหลินเสวียนเหมือนมองสัตว์ประหลาด!
…………………………….