ตอนที่แล้วบทที่ 199 สู้สามต่อหนึ่ง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 201 คำสาบานที่มิอาจรักษา

บทที่ 200 วันนี้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!


“นี่มัน…เป็นไปไม่…”

กล่าวไม่ทันจะสิ้นคำ เฉินหยวนก็มองหลัวเฉิงด้วยสายตาแข็งค้าง ก่อนจะล้มลงและสิ้นใจตายในทันที

“เมื่อครู่นี้มันอะไร!”

สีหน้าทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างเปลี่ยนเป็นซีดเผือด

คนส่วนใหญ่เห็นเพียงหลัวเฉิงชักกระบี่ออกมา และเฉินหยวนก็ตายทันที ไม่มีผู้ใดเห็นได้ชัดเจนว่ากระบี่หลัวเฉิงฟันคอเฉินหยวนไปตั้งแต่เมื่อใด

มีเพียงผู้อาวุโสที่มีสายตาเฉียบคมเท่านั้นที่มองเห็นการฟาดฟันกระบี่ได้อย่างชัดเจน

“ขั้นหัวใจกระบี่! ทั้งยังใกล้บรรลุขั้นหัวใจกระบี่ระดับกลางแล้ว! กระบี่นั้นเคลื่อนไหวดั่งใจนึก! ความแตกต่างระหว่างขั้นกระบี่ของทั้งสองคนห่างชั้นกันเกินไป!”

ผู้อาวุโสฉินเหมยจับจ้องยังหลัวเฉิง ดวงตาคู่งามของนางเปล่งประกายความตกตะลึง

“ขั้นหัวใจกระบี่ระดับกลาง! เขาเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า แต่กลับสามารถฝึกปรือเพลงกระบี่จนบรรลุขั้นหัวใจกระบี่ได้!”

“ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะสามารถครองอันดับหนึ่งในการทดสอบชิงอวิ๋นได้ แม้ว่าเขาจะปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา แต่พรสวรรค์ด้านกระบี่ของเขานั้นนับว่าล้ำเลิศยิ่งนัก!”

ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด

แม้แต่นักกระบี่ในขั้นเขตแดนลึกลับ ก็ยังยากนักจะฝึกปรือจนบรรลุขั้นหัวใจกระบี่ได้

หลัวเฉิงยังเยาว์วัย แต่กลับอยู่ในขั้นหัวใจกระบี่ระดับกลางแล้ว!

“มันจะเป็นไปได้อย่างไร! เขาที่เป็นแค่คนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา เหตุใดจึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!”

หลินหานคงก็กลัวกับสิ่งที่เห็นนี้เช่นกัน เขามองหลัวเฉิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยความริษยาชิงชังอย่างสุดซึ้ง ก่อนกล่าวกับศิษย์หนุ่มที่ถือกระบี่สวมชุดน้ำเงินซึ่งยืนอยู่ข้างๆ

“ศิษย์พี่ซา เราจะปล่อยให้เขาเหิมเกริมเยี่ยงนี้ต่อไปมิได้! ไม่ว่าเช่นไรวันนี้เขาต้องตาย หากปล่อยให้เขาเข้าร่วมเป็นศิษย์ฝ่ายนอก เกรงจะเป็นภัยมหันต์ในอนาคตและมีปัญหาตามมาไม่รู้จบ! ศิษย์พี่จินหมินเองก็คงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นแน่!”

ศิษย์หนุ่มถือกระบี่นามว่าซาฉี เป็นผู้ที่มีพลังยุทธ์แก่กล้าสุดในกลุ่ม เขามองหลัวเฉิงด้วยสายตาเย็นชาและพยักหน้า

“เจ้าวางใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องตายในวันนี้! ศิษย์น้องเย่ เจ้าช่วยข้าสังหารคนผู้นี้ที!”

“ได้!”

ศิษย์ฝ่ายนอกอีกคนพยักหน้า

ซาฉียืนอยู่ห่างจากหลัวเฉิงเพียงห้าก้าว เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฝีมือกระบี่เจ้าไม่เลว หากเจ้าทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก เกรงว่าข้าคงไม่อาจเทียบกับเจ้าได้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่มีวันนั้น!”

หลัวเฉิงยืนถือกระบี่อย่างสง่าผ่าเผย แววตาไม่มีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย เขากล่าวน้ำเสียงเยือกเย็นประดุจถูกส่งมาจากก้นขุมนรก

“รีบลงมือเถอะ วันนี้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”

ซาฉีส่ายศีรษะก่อนที่แววตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก “เช่นนั้นก็ตายซะ!”

“สะบั้นเมฆทะลวงคลื่น!”

“หมัดพยัคฆ์คลั่ง!”

ซาฉีและศิษย์น้องเย่ลงมือพร้อมกัน กระบวนท่าทั้งสองประสานกันโจมตีหลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว

“ทลายสวรรค์กระบวนท่าที่สอง สะบั้นเมฆา!”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก หลัวเฉิงก็ไม่กล้าประมาทจึงร่ายรำเพลงกระบี่ทลายสวรรค์อีกครั้ง

ปัง!

เสียงปะทะดังกึกก้องกัมปนาท คลื่นอันรุนแรงน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปเป็นวงกว้าง

ทันใด ทั้งสามคนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน

หลัวเฉิงและซาฉีถอยหลังไปหกถึงเจ็ดก้าว มีเพียงศิษย์น้องเย่ที่ถอยไปกว่าสิบก้าวก่อนจะหยุดได้  ด้วยคลื่นปะทะอันรุนแรงทำให้เขามีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก

“โอ้สวรรค์! แม้เขาต้องเผชิญกับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกเช่นนี้ แต่กลับยังสามารถต่อสู้กันได้อย่างสูสี!”

“นี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าจริงงั้นรึ?”

สิ่งที่เห็นเบื้องหน้านี้ทำเอาผู้คนโดยรอบต่างรู้สึกประสาทที่มึนชาราวกับว่าถูกทุบตีอย่างรุนแรง

หลัวเฉิงขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด

ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก เกรงว่าข้าคงไม่สามารถประมาทได้แล้ว!

“เช่นนั้นก็ต้องฆ่าเจ้าก่อน!”

สายตาของหลัวเฉิงจับจ้องไปที่ศิษย์น้องเย่ พร้อมกับพุ่งร่างออกไปอย่างรวดเร็ว

“ศิษย์พี่ซาช่วยข้าด้วย!”

ศิษย์น้องเย่หน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด เมื่อเห็นหลัวเฉิงพุ่งเข้ามาพร้อมเจตนาฆ่าอันแรงกล้า

“อย่าได้หวัง!”

ซาฉีกัดฟันด้วยความโกรธ แล้วกระโจรปราดเข้าหาหลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว เมื่อใกล้บรรลุถึงก็ฟาดฟันกระบี่เข้าใส่ทันที

เคร้ง!

ม่านตาหลัวเฉิงหรี่ลง พร้อมกับประกายแสงกระบี่ทลายสวรรค์ฟาดเข้าปะทะกับกระบี่ของอีกฝ่าย จากนั้นหลัวเฉิงก็พุ่งร่างไปข้างหน้าหาศิษย์น้องเย่อย่างรวดเร็ว

“ตายซะ! สะท้านขุนเขา!”

ระหว่างที่ร่างลอยอยู่ในอากาศ หลัวเฉิงก็ชกหมัดไปข้างหน้าด้วยพลังอันรุนแรง

“อ๊าก! ข้าจะสู้ตายกับเจ้า…”

ศิษย์น้องเย่ไร้หนทางหลบหนีในใจก็หวาดกลัวอย่างยิ่ง เขาปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนออกมาเพื่อเร่งเร้าพลังให้ถึงขีดสุด แล้วพุ่งหมัดสวนกลับเพื่อเอาชีวิตรอด!

ผุก!

เสียงปะทะหนักอึ้งดังขึ้น แล้วเสียงร้องคำรามก็ชะงักขาดทันที

ยามนี้ ครึ่งหนึ่งของร่างศิษย์น้องเย่ถูกหมัดของหลัวเฉิงชกแตกกระจายกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วน ทั่วพื้นถูกคราบโลหิตย้อมจนเป็นสีแดงฉาน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด