บทที่ 200 วันนี้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!
“นี่มัน…เป็นไปไม่…”
กล่าวไม่ทันจะสิ้นคำ เฉินหยวนก็มองหลัวเฉิงด้วยสายตาแข็งค้าง ก่อนจะล้มลงและสิ้นใจตายในทันที
“เมื่อครู่นี้มันอะไร!”
สีหน้าทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
คนส่วนใหญ่เห็นเพียงหลัวเฉิงชักกระบี่ออกมา และเฉินหยวนก็ตายทันที ไม่มีผู้ใดเห็นได้ชัดเจนว่ากระบี่หลัวเฉิงฟันคอเฉินหยวนไปตั้งแต่เมื่อใด
มีเพียงผู้อาวุโสที่มีสายตาเฉียบคมเท่านั้นที่มองเห็นการฟาดฟันกระบี่ได้อย่างชัดเจน
“ขั้นหัวใจกระบี่! ทั้งยังใกล้บรรลุขั้นหัวใจกระบี่ระดับกลางแล้ว! กระบี่นั้นเคลื่อนไหวดั่งใจนึก! ความแตกต่างระหว่างขั้นกระบี่ของทั้งสองคนห่างชั้นกันเกินไป!”
ผู้อาวุโสฉินเหมยจับจ้องยังหลัวเฉิง ดวงตาคู่งามของนางเปล่งประกายความตกตะลึง
“ขั้นหัวใจกระบี่ระดับกลาง! เขาเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า แต่กลับสามารถฝึกปรือเพลงกระบี่จนบรรลุขั้นหัวใจกระบี่ได้!”
“ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะสามารถครองอันดับหนึ่งในการทดสอบชิงอวิ๋นได้ แม้ว่าเขาจะปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา แต่พรสวรรค์ด้านกระบี่ของเขานั้นนับว่าล้ำเลิศยิ่งนัก!”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด
แม้แต่นักกระบี่ในขั้นเขตแดนลึกลับ ก็ยังยากนักจะฝึกปรือจนบรรลุขั้นหัวใจกระบี่ได้
หลัวเฉิงยังเยาว์วัย แต่กลับอยู่ในขั้นหัวใจกระบี่ระดับกลางแล้ว!
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร! เขาที่เป็นแค่คนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา เหตุใดจึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!”
หลินหานคงก็กลัวกับสิ่งที่เห็นนี้เช่นกัน เขามองหลัวเฉิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยความริษยาชิงชังอย่างสุดซึ้ง ก่อนกล่าวกับศิษย์หนุ่มที่ถือกระบี่สวมชุดน้ำเงินซึ่งยืนอยู่ข้างๆ
“ศิษย์พี่ซา เราจะปล่อยให้เขาเหิมเกริมเยี่ยงนี้ต่อไปมิได้! ไม่ว่าเช่นไรวันนี้เขาต้องตาย หากปล่อยให้เขาเข้าร่วมเป็นศิษย์ฝ่ายนอก เกรงจะเป็นภัยมหันต์ในอนาคตและมีปัญหาตามมาไม่รู้จบ! ศิษย์พี่จินหมินเองก็คงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นแน่!”
ศิษย์หนุ่มถือกระบี่นามว่าซาฉี เป็นผู้ที่มีพลังยุทธ์แก่กล้าสุดในกลุ่ม เขามองหลัวเฉิงด้วยสายตาเย็นชาและพยักหน้า
“เจ้าวางใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องตายในวันนี้! ศิษย์น้องเย่ เจ้าช่วยข้าสังหารคนผู้นี้ที!”
“ได้!”
ศิษย์ฝ่ายนอกอีกคนพยักหน้า
ซาฉียืนอยู่ห่างจากหลัวเฉิงเพียงห้าก้าว เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฝีมือกระบี่เจ้าไม่เลว หากเจ้าทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก เกรงว่าข้าคงไม่อาจเทียบกับเจ้าได้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่มีวันนั้น!”
หลัวเฉิงยืนถือกระบี่อย่างสง่าผ่าเผย แววตาไม่มีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย เขากล่าวน้ำเสียงเยือกเย็นประดุจถูกส่งมาจากก้นขุมนรก
“รีบลงมือเถอะ วันนี้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
ซาฉีส่ายศีรษะก่อนที่แววตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก “เช่นนั้นก็ตายซะ!”
“สะบั้นเมฆทะลวงคลื่น!”
“หมัดพยัคฆ์คลั่ง!”
ซาฉีและศิษย์น้องเย่ลงมือพร้อมกัน กระบวนท่าทั้งสองประสานกันโจมตีหลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว
“ทลายสวรรค์กระบวนท่าที่สอง สะบั้นเมฆา!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก หลัวเฉิงก็ไม่กล้าประมาทจึงร่ายรำเพลงกระบี่ทลายสวรรค์อีกครั้ง
ปัง!
เสียงปะทะดังกึกก้องกัมปนาท คลื่นอันรุนแรงน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายไปเป็นวงกว้าง
ทันใด ทั้งสามคนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน
หลัวเฉิงและซาฉีถอยหลังไปหกถึงเจ็ดก้าว มีเพียงศิษย์น้องเย่ที่ถอยไปกว่าสิบก้าวก่อนจะหยุดได้ ด้วยคลื่นปะทะอันรุนแรงทำให้เขามีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก
“โอ้สวรรค์! แม้เขาต้องเผชิญกับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกเช่นนี้ แต่กลับยังสามารถต่อสู้กันได้อย่างสูสี!”
“นี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้าจริงงั้นรึ?”
สิ่งที่เห็นเบื้องหน้านี้ทำเอาผู้คนโดยรอบต่างรู้สึกประสาทที่มึนชาราวกับว่าถูกทุบตีอย่างรุนแรง
หลัวเฉิงขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด
ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก เกรงว่าข้าคงไม่สามารถประมาทได้แล้ว!
“เช่นนั้นก็ต้องฆ่าเจ้าก่อน!”
สายตาของหลัวเฉิงจับจ้องไปที่ศิษย์น้องเย่ พร้อมกับพุ่งร่างออกไปอย่างรวดเร็ว
“ศิษย์พี่ซาช่วยข้าด้วย!”
ศิษย์น้องเย่หน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด เมื่อเห็นหลัวเฉิงพุ่งเข้ามาพร้อมเจตนาฆ่าอันแรงกล้า
“อย่าได้หวัง!”
ซาฉีกัดฟันด้วยความโกรธ แล้วกระโจรปราดเข้าหาหลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว เมื่อใกล้บรรลุถึงก็ฟาดฟันกระบี่เข้าใส่ทันที
เคร้ง!
ม่านตาหลัวเฉิงหรี่ลง พร้อมกับประกายแสงกระบี่ทลายสวรรค์ฟาดเข้าปะทะกับกระบี่ของอีกฝ่าย จากนั้นหลัวเฉิงก็พุ่งร่างไปข้างหน้าหาศิษย์น้องเย่อย่างรวดเร็ว
“ตายซะ! สะท้านขุนเขา!”
ระหว่างที่ร่างลอยอยู่ในอากาศ หลัวเฉิงก็ชกหมัดไปข้างหน้าด้วยพลังอันรุนแรง
“อ๊าก! ข้าจะสู้ตายกับเจ้า…”
ศิษย์น้องเย่ไร้หนทางหลบหนีในใจก็หวาดกลัวอย่างยิ่ง เขาปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนออกมาเพื่อเร่งเร้าพลังให้ถึงขีดสุด แล้วพุ่งหมัดสวนกลับเพื่อเอาชีวิตรอด!
ผุก!
เสียงปะทะหนักอึ้งดังขึ้น แล้วเสียงร้องคำรามก็ชะงักขาดทันที
ยามนี้ ครึ่งหนึ่งของร่างศิษย์น้องเย่ถูกหมัดของหลัวเฉิงชกแตกกระจายกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วน ทั่วพื้นถูกคราบโลหิตย้อมจนเป็นสีแดงฉาน!