ตอนที่แล้วบทที่ 198 ฆ่าหนึ่งคุ้ม! ฆ่าสองได้กำไร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 200 วันนี้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!

บทที่ 199 สู้สามต่อหนึ่ง!


ศีรษะที่ถูกสะบั้นกระเด็นออกไป ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความตกตะลึง เหมือนไม่อยากเชื่อว่าจะต้องตายเช่นนี้!

“เพียงสองกระบี่ก็สามารถสังหารศิษย์ฝ่ายนอกที่อยู่ในระดับเดียวกันได้! ช่างเป็นชายที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

“ไม่เสียทีที่เป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบชิงอวิ๋น ข้าแทบมองไม่เห็นเพลงกระบี่นั้นเลยด้วยซ้ำ”

“คงเป็นเพราะชายผู้นั้นยังไม่ทันระวังตัวกระมัง ใครจะคิดว่าหลัวเฉิงจะลงมือกะทันหันเช่นนี้”

“ศิษย์บำรุงสำนักเยี่ยงเขากล้าลงมือสังหารศิษย์ฝ่ายนอกเช่นนี้ ช่างเป็นการกระทำที่อุกอาจยิ่งนัก!”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

ศิษย์บำรุงสำนักนั้น นับว่าเพิ่งกลายเป็นศิษย์ของสำนักซวนหยวนได้เพียงครึ่งเดียว เมื่อเทียบกับศิษย์ฝ่ายนอกแล้ว ศักดิ์ศรีนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน!

เหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหลัวเฉิงจะกล้าลงมือก่อน ซ้ำยังทำให้ศิษย์ฝ่ายนอกถึงแก่ความตายอีกด้วย!

“แย่แล้ว!”

ใบหน้าของหยวนจื่อหลานซีดเผือด

ข้อกล่าวหาที่หลัวเฉิงได้รับก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้อกล่าวหาลอยๆ ไร้มูลความจริง แต่การสังหารศิษย์ฝ่ายนอกในตอนนี้ มันนับว่าเป็นข้อกล่าวหาที่แท้จริงได้!

“ศิษย์พี่เกา!”

เมื่อเห็นศพตรงหน้า สีหน้าของหลินหานคงเต็มไปด้วยความตกใจ ทันใดก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้นแล้วชี้นิ้วไปทางหลัวเฉิง

“เจ้าช่างกล้าบังอาจนัก! ไม่เพียงแต่ฝ่าฝืนกฎสำนักเท่านั้น แต่ยังกล้าสังหารศิษย์ร่วมสำนักต่อธารกำนัลอีกด้วย!”

“จับตัวมันไว้ ตัดแขนขาของมันออกให้หมดเพื่อล้างแค้นให้ศิษย์พี่เกา!”

ศิษย์ฝ่ายนอกอีกสามคนโกรธแค้นเป็นที่สุด ในแววตาพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน

เมื่อเห็นทั้งสามเข้ามาล้อม หลัวเฉิงกลับไม่ถอยแม้เพียงก้าว แล้วกล่าวน้ำเสียงเย็นชา

“ไยต้องเสียเวลา พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันนั่นแหละ ข้าจะได้ไม่ต้องไปตามเก็บกวาดทีละคน!”

หลังได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงประหนึ่งไม่อยากเชื่อหูตนเอง

ศิษย์ฝ่ายนอกทั้งสามคนนี้ มีสองคนที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า และอีกคนอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ ปราณแท้ในร่างมากล้นและบริสุทธิ์ดุจดั่งเปลวอัคคี พลังนี้เทียบได้กับคชสารสามเศียร!

ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก มีพลังที่จะสามารถเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ได้ทั้งหมด!

หลัวเฉิงเพียงอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า กลับกล้าโอ้อวดว่าจะสู้หนึ่งต่อสาม!

นี่มันเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ แม้นจะมีความบ้าบิ่นเช่นไรแต่ก็ต้องมีขอบเขตบ้าง!

“นี่เขาไม่เห็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกอยู่ในสายตาเลยหรือ?”

บนแท่นสูง ผู้อาวุโสฉินเหมยแสดงสีหน้าตกตะลึงเป็นที่สุด

ผู้อาวุโสเหอแค่นเสียงหัวเราะแล้วกล่าววาจาเย้ยหยัน “ก็แค่สุนัขตัวหนึ่งที่พยายามดิ้นรนครั้งสุดท้ายเท่านั้น!”

ขณะนี้ อาวุโสเหอรู้สึกสะใจเป็นอย่างยิ่ง แววตาเต็มไปด้วยความสุขอย่างหาที่สุดมิได้

มาตรว่าครั้งนี้หลัวเฉิงคงไม่อาจหนีพ้นความตายได้ ทั้งยังตายด้วยน้ำมือคนของจินหมินอีกต่างหาก สิ่งนี้ทำให้ผู้อาวุโสเหอวางใจไร้กังวลเป็นที่สุด!

“ไอ้หนู เจ้าชักจะได้ใจเกินไปแล้ว! แค่ฆ่าเจ้าไม่ต้องลงมือถึงสามคนหรอก ข้าคนเดียวก็เกินพอ!”

ด้วยเสียงคำรามลั่น นักกระบี่หนุ่มหนึ่งในสามศิษย์ฝ่ายนอกก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

เขาเป็นศิษย์ที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า ในมือถือกระบี่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายปราณอำมหิตที่กำลังโชติช่วงยากจะต้านทาน พานให้ผู้พบเห็นต่างใจหายใจคว่ำกันถ้วนหน้า

“เขาคือศิษย์พี่เฉินหยวน! เขาได้ปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับห้าดาวและเข้าสู่สำนักมาได้ครึ่งปีแล้ว! ว่ากันว่าเพลงกระบี่ของเขาถูกฝึกฝนจนสำเร็จในระดับสูง นับเป็นอัจฉริยะนักกระบี่ผู้ยากหาใดเปรียบ!”

มีคนในฝูงชนจำเฉินหยวนได้

“แค่เจ้า หนึ่งเพลงกระบี่ก็พอ! กระบี่เงาสามเล่ม!”

เฉินหยวนเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง เขามองหลัวเฉิงราวกับมองมดปลวกที่อยู่บนพื้น

กระบี่ยาวในมือฟาดฟันออกไปอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วของกระบี่นั้นน่าสะพรึงยิ่ง ด้วยการกวัดแกว่งที่รวดเร็วผ่านให้เกิดภาพเงากระบี่สี่เล่ม ยากจะแยกออกว่าอันไหนแท้จริงอันไหนลวงตา!

“เพลงกระบี่ระดับสี่ดาว กระบี่แยกเงา! เฉินหยวนฝึกฝนจนสร้างกระบี่เงาลวงตาได้สี่เงา นั่นเท่ากับว่าเพลงกระบี่ของเขาถูกฝึกฝนจนบรรลุขั้นสำเร็จเล็กน้อยแล้ว!”

“ครั้งนี้หลัวเฉิงต้องตายเป็นแน่แท้!”

หลายคนไม่กล้ามองต่อ เพราะพวกเขากลัวว่าจะเห็นภาพที่หลัวเฉิงถูกกระบี่นี้ฟันจนขาดเป็นชิ้นๆ

“ทลายสวรรค์กระบวนท่าที่สอง สะบั้นเมฆา!”

แววตาหลัวเฉิงส่องประกายวาบดุจสายอัสนีบาต ทันใดเขาก็ใช้กระบี่ฟาดเข้าปะทะอย่างรุนแรงโดยไร้ซึ่งความลังเล!

เขารู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวเนื่องระหว่างความเป็นตาย หากเขาไม่แสดงความแข็งแกร่งตนให้เป็นที่ประจักษ์ ก็ยากนักจะมีผู้ให้ความสนใจ!

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!...

เสียงปะทะดังขึ้นเป็นระลอก

กระบี่ทลายสวรรค์ของหลัวเฉิงราวกับกลุ่มเมฆที่ล่องลอยเข้าไปในเงากระบี่ทั้งสี่ และในพริบตานั้น ก็เกิดการปะทะกันไปแล้วหลายสิบกระบวนท่า!

“อ๊าก!”

จู่ๆ เสียงร้องโหยหวนก็ดังก้องไปทั่วจัตุรัส

เมื่อทุกคนเพ่งมอง ก็เห็นเฉินหยวนใช้มือทั้งสองข้างกุมคอไว้ พร้อมกับก้าวถอยหลังอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่ก้าวถอย จะปรากฏโลหิตแดงฉานทะลักออกมาจากร่องนิ้วอย่างน่าสยดสยอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด