ความฝันแรก (26)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[คนอ่านแต่ละตอนไม่ถึง 10 คน ขอร้องอย่า copy ไปเลยนะ อันนี้แปลเพราะอยากแปลจริง ๆ ไม่งั้นทิ้งไปนานแล้ว ,เพราะไปทำงานอื่นได้เงินกว่าเยอะ ที่แปลเนี่ยได้วันละ 20 บาทเอง]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 29>
3. ความฝันแรก (26)
****
ทุ่งรกร้างที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ใบไม้ร่วงปลิวไสวท่ามกลางแสงสนธยาที่ไม่เคยจางหาย
ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น
"..."
ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้น
ดวงตาที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยแสงแห่งความมุ่งมั่นเมื่อแรกมาถึงโลกนี้
ตอนนี้กลับว่างเปล่า ไร้ซึ่งประกายใดๆ
มันขุ่นมัวราวกับโคลนตม
ชายหนุ่มพยายามยิ้ม แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้ากลับบิดเบี้ยว
มุมปากที่ยกขึ้นอย่างประหลาดกลับดูน่าขนลุก
"ผมมาที่นี่กี่ปีแล้วครับ?"
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ราวกับเครื่องจักร
"ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้นับ 200 ปีแล้วมั้ง"
เด็กชายที่อยู่ข้างๆ ตอบ และกอดอกมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ผมไม่รู้สึกอะไรเลย…"
ชายหนุ่มพึมพำ
เวลายาวนานได้กัดกร่อนทุกสิ่งทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
ครั้งหนึ่งชายหนุ่มเคยเรียกตัวเองว่า 'อารอน'
แต่ตอนนี้ชื่อนั้นไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มสัมผัสใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ตรงหน้า
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังสัมผัสอะไรอยู่
เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
"ทำไมไม่ไปล่ะ?"
เด็กชายถาม
เสียงกระดูกคอของชายหนุ่มดังขึ้นขณะที่เขาหันไปมองเด็กชายคนนั้นอย่างเชื่องช้า
"ยังไงก็เถอะ นายก็กลับไปได้นี่ ให้อภัยบาปของตัวเองแล้วกลับไปหาครอบครัว นั้นไม่ใช่สิ่งที่คิดไว้เหรอ?"
"คุณกำลังตำหนิผมเหรอครับ?"
"ใช่"
เด็กชายคลายมือที่กอดอกออก
ในมือของเขามีหอกสีดำปรากฏขึ้น
"เป้าหมายในชีวิตนายไม่ใช่การกลับบ้านเหรอ?"
100 ปีก่อน
หรืออาจจะ 200 ปีก่อน
ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว เวลาอะไรนั่นทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรแล้ว
ในตอนนั้น ชายหนุ่มที่ชื่ออารอนมีโอกาส ประตูมิติที่นำไปสู่เนลม์ไฮมฟ์เปิดออก
แต่เขาไม่ไป เขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่ และเขาฝืนตัวเองอีกครั้ง
ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าเขาคิดผิด
ความรู้สึกที่มีต่อครอบครัวเป็นเรื่องโกหก แม้แต่ความรู้สึกที่อยากปกป้องน้องสาวก็ยังเป็นเรื่องหลอกลวง
"ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะครับ"
"สภาพนายก็บอกอยู่แล้ว"
แล้วตอนนี้ เหลืออะไรอยู่บ้างล่ะ?
"ฉันเคยเตือนนายแล้วนะ อารอน…นายต้องกลับไป"
รูน…หอกสีดำสนิทยื่นออกมาจากเงื้อมมือของเด็กชาย
"อาจารย์ก็ไม่ได้ห้ามผมนี่ครับ"
"เหรอ?"
"อาจารย์บอกว่าจะเตะผมกลับไปให้ได้ แต่สุดท้ายก็เคารพการตัดสินใจของผม"
เด็กหนุ่มยิ้มอย่างขบขัน
"งั้นเหรอ ฉันจำไม่ได้แล้วนะสิ"
"อาจารย์มีบางอย่างที่ต้องการจากผม ถึงได้ทำแบบนั้น ถ้าไม่ใช่…ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่นี่ต่อ"
"แล้วไง?"
ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่า ถ้าเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเด็กชายได้
ถ้าชีวิตของเขาก็ยินดีให้มันจบลง ปลายหอกส่องประกายวาววับน่ากลัว
"ผมเองก็ยังไม่รู้เลยครับว่าตัวเองเป็นใคร"
"ก็คงงั้นแหละ อยู่ในที่ที่ไม่มีสิ่งเร้ามากว่า 300 ปี นายทนได้เก่งนี่"
"ผมไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ"
ไม่ว่าจะเป็นพี่ชาย
เพื่อนร่วมงาน
นีน่า
หรือแม้แต่การกลับบ้าน ความรู้สึกทั้งหมดก็จืดจางลงไปในที่สุด
สำหรับชายหนุ่มที่มีความทรงจำไม่ถึง 30 ปี ช่วงเวลา 300 ปีนั้นยาวนานเกินไป ยิ่งถูกขังอยู่ในที่แห่งนี้มา 300 ปีด้วยแล้ว...
ตอนนี้ใจของชายหนุ่มว่างเปล่า
ไม่ว่าจะเทความรู้สึกใดลงไป มันก็จะหายไปเหมือนเทน้ำลงในหม้อที่มีรูรั่ว
หัวใจของมนุษย์นั้น…หากไม่ได้รับการกระตุ้นอยู่เสมอ มันก็จะแข็งกระด้างเหมือนปูนปลาสเตอร์
ชายหนุ่มก็เป็นเช่นนั้น หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไร้ความรู้สึกมานานหลายร้อยปี
เขาก็สูญเสียความรู้สึกไปจนหมดสิ้น จนในที่สุดก็ไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาเดินได้
นั่นคือผีที่เด็กชายพูดถึง
ชายหนุ่มกำลังจะกลายเป็นผีที่ว่านั้น
"หมายความว่าตอนนี้นายไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้วงั้นสิ?"
คำตอบของเขาจะตัดสินว่าคมหอกจะแทงทะลุหัวใจเขาหรือไม่ เด็กหนุ่มกำมือแน่น
"มีสิ่งหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ครับ"
"อะไรล่ะ?"
"ความฝันครับ"
"..."
"อาจารย์เคยบอกว่ามีความฝัน และความฝันนั่นแหละที่ทำให้อาจารย์อยู่มาได้นานขนาดนี้"
เด็กชายหลับตาลง
ชายหนุ่มไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าอาจารย์ของเขากำลังคิดอะไรอยู่
ใช่แล้ว
ใจของชายหนุ่มว่างเปล่า เวลาพรากทุกความรู้สึกและปฏิกิริยาไปจากเขา
แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง
ความฝันเดียว... มันเติมเต็มใจที่ว่างเปล่าของชายหนุ่มราวกับแสงจันทร์
หลังจากสูญเสียทุกสิ่ง ชายหนุ่มก็ได้ตระหนัก
"ความฝันงั้นเหรอ"
เด็กหนุ่มพึมพำทั้งที่ยังหลับตา
"ความฝันนั้นคืออะไรล่ะ?"
ความฝันของคืออะไร?
อะไรทำให้เขามาถึงจุดนี้?
“.....”
คำตอบของชายหนุ่ม
เด็กชายกำลังฟังอยู่ในความเงียบ
และ
เวลาก็ผ่านไป…..
———————————————————————————————
ชายหนุ่มลืมตาขึ้น
เมื่อเขาลืมตาขึ้น ชายหนุ่มก็ยืนอยู่บนที่ราบ
ที่ราบอันกว้างใหญ่ทอดยาวไปจนสุดขอบฟ้า
บางทีแม้ว่าจะวิ่งออกไปหลายวัน วิ่งวันแล้ววันเล่าฉันก็ไม่สามารถไปถึงจุดสิ้นสุดของที่ราบได้
ชายหนุ่มก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจที่แปลกประหลาด
เขามีบางอย่างที่ต้องทำ
เขาต้องแข็งแกร่งขึ้น
ความทรงจำจากจนถึงจุดนั้นถูกรวบรวมไว้ด้วยตัวมันเอง
ความทรงจำก่อนหน้านี้ค่อยๆ เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ความทรงจำเหล่านั้นก่อตัวขึ้นเป็นจิตสำนึก และค่อยๆ ก่อร่างสร้างอัตตาที่ชื่อว่า 'อารอน'
'เขาชื่ออารอน เดลเคิร์ด'
ชายหนุ่มตระหนักรู้ในตนเอง เขาเกิดที่ทาวน์เนีย และถูกอัญเชิญมาที่นี่โดยระบบของเกม สถานะของเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมที่ถูกควบคุมโดยสิ่งที่เรียกว่า 'นายท่าน'
อารอนยอมรับชะตากรรมนั้น เพื่อที่จะมีชีวิตรอด
เพื่อที่จะได้พบกับนีน่า น้องสาวและครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาอีกครั้ง
แล้วอารอนก็ได้พบกับเพื่อนร่วมงาน
เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพผ่านการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขา
"..."
แต่นั่น
อารอนไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
เขามีพรสวรรค์ในฐานะนักรบไม่เพียงพอ
เขาไม่อยากเป็นตัวถ่วง เขาอยากพิสูจน์คุณค่าของตัวเองด้วยการต่อสู้เคียงข้างเพื่อนๆ
แต่เขากลับล้มเหลว ความอ่อนแอของเขาทำให้เพื่อนๆ ต้องตกอยู่ในอันตราย
เขาอยากแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาไม่สามารถพัฒนาไปมากกว่านี้ได้แล้ว
แต่แล้ว พี่ชายก็มอบโอกาสให้เขา
'้ขาจะล้มเหลวไม่ได้'
อารอนตั้งปณิธาน พี่ชายบอกว่ามีฮีโร่ที่มีสถานการณ์คล้ายกับเขาอยู่ในโลกนี้
เขาสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของพรสวรรค์ด้วยความพยายาม
เขาอยากรู้ และอยากจะไล่ตามให้ทัน
ด้วยความมุ่งมั่นนั้น อารอนจึงออกเดินทาง
โลกใบนี้เป็นโลกที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน
ใบไม้ร่วงหล่นลงมา แต่กลับลอยค้างอยู่ในอากาศ ไม่ร่วงลงสู่พื้น
ระหว่างทาง ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกก็เข้ามาในใจของอารอน
"หืม?"
อารอนเกาแก้มของเขาเบาๆ
'เคยมาที่นี่มาก่อนหรือเปล่านะ'
มันแปลก
ทิวทัศน์ของที่นี่น่าประทับใจมาก ถ้าเคยเห็นสักครั้งก็คงไม่มีทางลืม แต่ในความทรงจำของเขา ที่นี่คือที่ที่เขาไม่เคยมาถึงมาก่อน
แต่เขากลับรู้สึกเหมือนเคยมาแล้ว เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
หรือว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าเดจาวู?
อารอนเอียงคอสงสัย เดินต่อไปเรื่อยๆ
ไม่นาน เขาก็พบกับกระท่อมหลังใหญ่ เขาแระแอ่กเล็กน้อยสองสามครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้
"มีใครอยู่ไหมครับ?"
ก๊อก ก๊อก
เขาเคาะประตูกระท่อม แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
เสียงประตูไม้ลั่นดังขึ้นเมื่อเขาเปิดประตู
ภายในกระท่อมใหญ่โตราวกับคฤหาสน์ไม้ อารอนเดินผ่านห้องครัวและห้องอาหารไปอย่างระมัดระวัง
"ว้าก!"
"โอ้ย!"
เสียงตะโกนจากด้านหลังทำให้อารอนสะดุ้งและล้มลงไปกองกับพื้น
"ฮ่าๆๆๆ! ไอ้บื้อ! ก็ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนสิว่ามีคนอยู่หรือเปล่า!"
"คุณเป็นใคร!?"
อารอนลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ และตั้งท่าพร้อมที่จะต่อสู้ บนโต๊ะอาหารที่เมื่อครู่นี้ยังว่าง มีเด็กชายคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่
ไม่มีวี่แววของเขาเลยเมื่อกี้?
"ใครน่ะเหรอ? ฉันเป็นใครกันนะ?"
"ไม่รู้ จะรู้ด้วยเหรอ?!"
เขาไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มคนนี้มาก่อน
หรือว่าเคย?
ไม่สิ...
ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างรุนแรง ความรู้สึกที่ตีวนอยู่ในหัวทำให้อารอนขมวดคิ้ว
"อ้อ เพื่อนร่วมรุ่นของนายมีอยู่คนนึง จำได้ไหม?"
"มีอีกคน? ใครกัน?"
"จำไม่ได้เหรอ?"
"จำไม่ได้หรอก! ฉันเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก มาคนเดียวด้วย"
เด็กหนุ่มยิ้มแห้งๆ
แต่รอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
"เอาล่ะๆ รีบไปกันเถอะ นี่รอบที่สองแล้วนะ"
"รอบที่สอง? พูดเรื่องอะไร..."
"วิ่งสิ วิ่ง! เดี๋ยวโดนดุนะ! โดนดุแน่!"
อารอนถูกผลักดันให้วิ่งไปที่ลานฝึก
เขาไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
'ก็จริงที่ฉันมาที่นี่เพราะอยากแข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่ควรจะอธิบายอะไรให้ฉันฟังหน่อยเหรอ ก่อนจะผลักฉันเข้ามาแบบนี้!'