ความฝันแรก (25)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[คนอ่านแต่ละตอนไม่ถึง 10 คน ขอร้องอย่า copy ไปเลยนะ อันนี้แปลเพราะอยากแปลจริง ๆ ไม่งั้นทิ้งไปนานแล้ว ,เพราะไปทำงานอื่นได้เงินกว่าเยอะ ที่แปลเนี่ยได้วันละ 20 บาทเอง]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 29>
3. ความฝันแรก (25)
****
เป้าหมายของอารอนคือการกลับบ้าน
ซึ่งเขาทำได้เพียงแค่ให้อภัยตัวเอง มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
แค่ให้อภัยบาปของตัวเอง แล้วเขาก็จะกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
"มันง่ายกว่าการฝืนทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า"
เด็กหนุ่มกล่าวอย่างหนักแน่น
อารอนเห็นด้วย เพียงแค่เปลี่ยนความคิดก็พอแล้ว
"ตอนนี้มันง่ายกว่าเดิมเยอะ ความรู้สึกผิดในใจนายคงจางลงไปบ้างแล้ว"
อารอนเห็นด้วยอีกครั้ง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
แต่ตอนนี้ต่างออกไป เขาสามารถตัดสินตัวเองได้อย่างใจเย็น
ช่วงเวลา 100 ปีที่ผ่านมาทำให้เขามีความสุขุมมากขึ้น
เขาไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือศิลปะการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
หรือฝึกฝนทักษะด้วยหอกทั้งวันทั้งคืนอีกต่อไป
ไม่ต้องเสียเหงื่อและเลือดเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
'แล้วช่วงเวลาที่ผ่านมาคืออะไรกัน?'
เขาเพียงแค่ต้องให้อภัยตัวเอง
เผชิญหน้ากับอดีตอย่างซื่อสัตย์ และเอาชนะบาดแผลในใจ
นี่คือคำตอบที่เขาตามหาอย่างนั้นเหรอ?
"เหลือเวลาอีก 20 ปีสินะครับ"
"20 ปีอะไรกัน ไม่ถึงปีก็เสร็จแล้ว ที่เหลือก็พักผ่อนสบายๆ ไป มีที่พักผ่อนหย่อนใจดีๆ อยู่ด้วยนะ"
"ที่แบบนี้มีที่พักผ่อนหย่อนใจด้วยเหรอครับ?"
เด็กหนุ่มจับไหล่อารอนแล้วดีดนิ้ว
ทันใดนั้น อารอนก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
"เอ่อ?"
อารอนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
เบื้องหน้าเขาคือทิวทัศน์ที่ไม่คาดคิด
เสียงน้ำไหล เป็นลำธารเล็กๆ รอบๆ ลำธารมีต้นไม้ ดอกไม้ และต้นหญ้าหลากหลายชนิด
ทางด้านซ้ายของลำธารมีศาลาที่สวยงามตั้งอยู่
"ที่นี่คือที่ไหนครับ?"
"ที่ไหนก็ช่างสิ ก็เอาไว้เล่นสนุกๆ ไง กว่าจะได้กลับบ้านก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว มาสนุกกับงานอดิเรกของฉันหน่อยดีไหม?"
โลกที่อารอนรู้จักเต็มไปด้วยความรกร้างว่างเปล่า
แล้วสวนแห่งนี้โผล่มาจากไหน?
"กว่าจะสร้างสวนนี้ได้ใช้เวลาตั้งสามร้อยกว่าปี ขุดลำธารนี่ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ต้นไม้กับต้นหญ้าก็โตช้าเหลือเกิน เลี้ยงมาตั้งนานกว่าจะรอด"
อารอนพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์
สรุปก็คือ สวนแห่งนี้เป็นงานอดิเรกของเด็กหนุ่ม
"ไม่เป็นไรหรอก น่าจะดีกว่าเล่นกับหอกทั้งวัน"
"..."
"นี่ รับไปสิ"
อารอนรับของที่ลอยมา
มันเป็นหมวกฟางที่ชาวนามักจะใส่
"แล้วก็นี่ด้วย"
ถุงหนังหนักๆ ถูกยัดใส่มืออารอน
ข้างในเต็มไปด้วยเมล็ดพืชหลากหลายชนิด
"เอาไปปลูกนะ มีอะไรไม่รู้ก็ถามได้"
"..."
"อ้อ แล้วอย่ามาถามว่าทำไม ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่"
เด็กหนุ่มพูดพลางสวมหมวกฟาง
"ต้องทำอะไรสักอย่างสิ ถึงจะมีชีวิตเหมือนคนทั่วไป"
"เหมือนคนทั่วไป..."
"ถ้ากลับบ้านไปแล้วนายทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ นีน่าของนายจะชอบไหมล่ะ?"
คงไม่ชอบ อารอนใช้ชีวิตจำเจซ้ำซากมานานจนสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปมาก
ถ้าไม่พยายาม เขาจะไม่สามารถเปลี่ยนสีหน้าได้
"มันช่วยได้นะ"
"อย่างนั้นเหรอครับ"
"พวกนี้มันซื่อสัตย์นะ ดูแลเท่าไหร่มันก็โตเท่านั้น"
"ดีจริงๆ เลยนะครับ”
อารอนหลุดหัวเราะออกมา
พวกมันเติบโตตามการดูแล เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งจริงๆ
'อีก 20 ปี'
ถ้า 100 ปีที่ผ่านมาคือการเดินทางเพื่อหาคำตอบ
20 ปีที่เหลือก็คือการเดินทางเพื่อฟื้นฟูจิตใจให้กลับสู่สภาพเดิม เขาจะไม่ปฏิเสธ
'พี่ชาย'
กว่าจะได้คำตอบนี้ เขาต้องใช้เวลาถึง 100 ปี
ถ้าเขากลับไปที่ห้องรับรองของทาวน์เนียได้
เขาจะขอโทษชายคนนั้น และจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
นั่นแหละคือความหมายของการแข็งแกร่งที่แท้จริง
"ขอบคุณครับ"
เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกัน และเริ่มดูแลสวน
อารอนเริ่มจากการถอนวัชพืช
"ผมเรียกคุณว่าอาจารย์ได้ไหมครับ?"
"อยากตายหรือไง? นายได้เรียนรู้อะไรจากฉันบ้าง?"
"ถึงจะไม่ได้เรียนรู้วิชาดาบ แต่ผมก็ได้เรียนรู้วิธีควบคุมอารมณ์จากคุณนะครับ ถ้าอย่างนั้นก็เรียกว่าอาจารย์ได้อยู่แล้ว"
"ไปทำงานไป"
อารอนยิ้ม
การเดินทางของชายหนุ่มได้สิ้นสุดลงแล้ว
ถึงแม้เขาจะไม่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของพรสวรรค์ได้ แต่เขาก็พบความสงบในจิตใจ
บาดแผลในใจอาจทำให้เขาลำบาก แต่สักวันมันจะหายดี
เขาจะได้กลับไปยังบ้านเกิดที่เขาเฝ้ารอ
ใช่แล้ว นี่คืออารอน เดลเคิร์ด...
————————————————————————————————
อารอนละมือจากหนังสือ
หนังสือเปล่งประกายเจิดจรัสพร้อมกับเปิดหน้าว่างเปล่า
"เป็นอะไรไปอารอน?"
ยูเน็ตยิ้มเบา ๆ และมองดูเขา
"น่าเสียดายจัง กำลังถึงตอนสำคัญเลยนะ เรื่องราวของชายหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคทางจิตใจ ได้รับการเยียวยาจากอาจารย์ เรื่องราวมันไม่สวยงามเหรอ?"
"เรื่องในหนังสือนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ?"
อารอนถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
"แน่นอนค่ะ มันคือความทรงจำที่อารอนเก็บซ่อนเอาไว้นั่นแหละ"
ดวงตาของอารอนสั่นไหว
แปลกจัง เขาเฝ้ารอมาตลอด 100 ปี แล้วจู่ๆ เขาก็ทำสำเร็จงั้นเหรอ?
แค่ยอมรับว่าตัวเองทิ้งน้องสาวไป แล้วสำนึกผิดก็พอแล้วเหรอ?
"ถ้างั้น ผมเป็นอะไรกันแน่ครับ?"
"ว่าไงนะ?"
"ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่? มันแปลกๆ นะครับ"
อารอนสับสน
ความทรงจำไม่ปะติดปะต่อกัน
อารอนที่ให้อภัยตัวเองควรจะกลับไปที่ห้องรับรองของทาวน์เนียในอีก 20 ปีต่อมา แล้วสารภาพความผิดกับเพื่อนร่วมงาน จากนั้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
มันควรจะเป็นแบบนี้
แต่อารอนอยู่ที่นี่
เขาไม่ได้กลับไปที่ทาวน์เนีย
"ทำไมผมยังไม่กลับไปที่ทาวน์เนีย? เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นหรือเปล่า? อย่างเช่น ประตูเปิดช้า..."
"ไม่นะตามบันทึก ประตูพอร์ทัลเปิดตรงเวลาค่ะ 120 ปีหลังจากนั้นตามเวลาของลูอาห์นัน ประตูมิติที่สองที่นำไปสู่ห้องรับรองก็เปิดออก"
อารอนลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างกะทันหัน
"มันแปลกนะครับ"
"อะไรแปลกงั้นเหรอ?"
"มันไม่น่าจะเป็นไปได้น่ะครับ"
ถ้าเพื่อครอบครัวแล้ว
ตอนนี้เขาต้องกลับบ้าน
นีน่าต้องการครอบครัว
ถึงแม้ทวน์เนียจะรอดพ้นจากหายนะ และคนที่ตายไปแล้วจะฟื้นคืนชีพได้
ชีวิตของนีน่าก็ยังคงยากลำบาก เพราะเธออ่อนแอมาตั้งแต่เกิด
เธอต้องการความช่วยเหลือ อารอนต้องช่วยเธอ
เขาเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิดในจิตใจของตัวเองแล้ว
เขารู้แล้วว่าตัวเองทิ้งน้องสาวไป และสำนึกผิดอย่างจริงใจ
น้องสาวต้องให้อภัยเขาแน่ๆ
เขารู้ดีอยู่แล้ว แล้วทำไม...
'มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย'
ต่อให้สลับชิ้นส่วนของปริศนาอย่างไร
มันก็ไม่เชื่อมต่อกัน บางทีชิ้นแรกอาจจะผิดตั้งแต่แรก
อารอนครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็หาคำตอบไม่ได้
"หึๆ"
ยูเน็ตหัวเราะเบาๆ ขณะมองเขา
นั้นทำให้อารอนขมวดคิ้วเล็กน้อย
"มีอะไรน่าขำเหรออย่างงั้นครับ?"
"ก็เรื่องที่นายกำลังกังวลอยู่ไงล่ะ"
"เรื่องที่ผมกังวล?"
"นั่งลงก่อนเถอะ ฉันเข้าใจความรู้สึกสับสนของนาย"
อารอนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนั่งลง
"ความทรงจำของนายยังไม่สมบูรณ์ มันเป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งของกรรมที่นายต้องเจอ"
ยูเน็ตพูดถูก
ในโลกนั้น หากใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานๆ ความทรงจำก็จะปะปนกันจนสับสน
และตอนนี้อารอนกำลังสับสนอย่างมาก
"ให้ฉันลองทายคำตอบดูไหม?"
น้ำเสียงของยูเน็ตฟังดูเป็นลางไม่ดีเอาซะเลย
อารอนอยากจะปฏิเสธ แต่กลับพูดไม่ออก
เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
"อารอน"
"..."
"สิ่งที่นายปรารถนาจริงๆไม่ใช่การกลับไปหาน้องสาวของนายหรอก…."