ตอนที่แล้วตอนที่ 27: คัมภีร์ยันต์สวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29: อันตรายซ่อนเร้น

ตอนที่ 28: ตลาดนัดระหว่างเขา


ตอนที่ 28: ตลาดนัดระหว่างเขา

หลังจากสงบสติแล้ว หวังฝูจึงสัมผัสการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียด

สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือการพัฒนาจิตเทวะ ตอนนี้จิตเทวะแผ่ขยายออกไปในรัศมีห้าจั้ง หากตั้งจิตแล้วตรวจสอบภายในห้าจั้งก็จะเห็นทุกอย่างแบบละเอียด แม้กระทั่งขาของมดที่อยู่มุมกำแพงก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ส่วนขอบเขตทะลวงไปถึงขอบเขตกลั่นลมปราณระดับห้า แม้จะยังไม่ถึงขั้นต้น แต่ระดับพลังวิญญาณไปถึงระดับห้าขั้นกลางแล้ว

“จิตเทวะของเราเกิดขึ้นตอนอยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับสาม จิตเทวะนับว่าแข็งแกร่งอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไปถึงขอบเขตกลั่นลมปราณระดับสี่ ความแข็งแกร่งของจิตเทวะจึงเทียบเท่ากับของขอบเขตกลั่นลมปราณระดับห้า ตอนนี้ ‘วิญญาณยันต์’ เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำให้การฝึกฝนทะลวงสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับห้า ความแข็งแกร่งของจิตเทวะเลยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หากวัดเพียงภายในรัศมีห้าจั้ง ความแข็งแกร่งของจิตเทวะย่อมเทียบได้กับขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเจ็ด”

หวังฝูตบถุงเก็บของเพื่ออัญเชิญใบมีดขนนกสะเทือนออกมา ซึ่งอาวุธวิเศษบินไปมาประหนึ่งแขนภายในระยะห้าจั้ง แม้อัญเชิญโล่เกราะเหลืองแล้วใช้งานอาวุธวิเศษระดับต่ำสองชิ้นพร้อมกันก็ไม่มีความรู้สึกไม่สบายอีกต่อไป

“ตอนนี้น่าจะสามารถปกป้องตัวเองเวลาอยู่สำนักสายนอกได้ แต่ยังนับว่าอีกไกลจากคำว่าอันตรายของโลกแห่งการฝึกตนเป็นเซียน เราต้องเริ่มวาดยันต์แล้ว”

หลายวันต่อมา หวังฝูทุ่มเทกับการฝึกฝนจิตเทวะจนก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว บางครั้งจะมีการใช้อาวุธวิเศษเพื่อฝึกฝนการโจมตีและการป้องกันระหว่างอาวุธวิเศษกับวิชา

หลังจากฝึกฝนห้าวัน หวังฝูจึงเชี่ยวชาญการใช้ใบมีดขนนกสะเทือนและโล่เกราะเหลือง อีกทั้งยังเชี่ยวชาญวิชาไร้ธาตุทั้งห้าจนถึงระดับสมบูรณ์แบบ ทำให้สามารถใช้วิชาได้ดังใจนึก

เมื่อคิดถึงความจริงที่การวาดยันต์จำเป็นต้องใช้พู่กันยันต์ ชาดและกระดาษยันต์จำนวนมากแล้ว ทำให้ทราบว่าหินวิญญาณที่อยู่ในมือมีไม่มากนัก ต่อให้รวมจากตอนอยู่ผาไม้ดำก็มีเพียงสิบกว่าก้อนเท่านั้น หวังฝูจึงรู้สึกไม่พอใจต่อซ่งจิ่งถัง

“ดูท่าว่ามีแต่ต้องขายของเหลววิญญาณในตลาดนัดระหว่างเขาของสำนักสายนอกเท่านั้น แต่ของเหลววิญญาณเหล่านี้ต้องทำให้เจือจางเสียหน่อย อืม… เจือจางด้วยวิธีหนึ่งหยดต่อหนึ่งขวดเล็กแล้วกัน”

ไม่ใช่หวังฝูเป็นคนชั่วร้าย แต่หม้อขนาดเล็กที่สร้างของเหลววิญญาณขึ้นมาคือความลับใหญ่หลวงที่สุดของเขาที่ไม่อาจเปิดเผยได้ นอกจากนี้ปริมาณพลังวิญญาณในหยดของเหลววิญญาณหนึ่งหยดนับว่าสูงมากพอแล้ว

“หากมีใครถาม แค่บอกไปว่าทำขึ้นมาเองแล้วกัน”

หลังจากหยิบแผนที่ของสำนักสายนอกออกมาจึงพบตลาดนัดระหว่างเขาซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของศิษย์สำนักสายนอก ซึ่งมันตั้งอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกของยอดเขาขนนกโบยบิน

ลานกว้างที่หวังฝูอาศัยอยู่ห่างจากหุบเขาไม่มากนัก หลังจากใช้วิชาควบคุมวายุก็มาถึงหุบเขาในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางก็เห็นศิษย์จำนวนมากเดินไปมาระหว่างหุบเขา เห็นได้ชัดว่าตลาดแห่งนี้มีความนิยมค่อนข้างมาก

สิ่งปลูกสร้างสองแถวที่อยู่ในหุบเขาสามารถมองเห็นได้แต่ไกล สภาพของมันไม่ต่างจากตลาดในโลกมนุษย์ ทันทีที่หวังฝูก้าวเข้าไปในตลาดก็มีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นมา

ในตลาดนัดมีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแผงขายของที่ศิษย์สายนอกด้วยกันตั้งขึ้นมาเพื่อขายของหลายอย่าง บางคนถึงขั้นตั้งแผงขายอาหารอร่อยประจำบ้านเกิด พวกเขาไม่สนสิ่งอื่นใดเพื่อทรัพยากร แม้แต่อาหารธรรมดาก็มีขายที่นี่เช่นกัน

หวังฝูเดินรอบข้างพลางสอบถามแผงขายของจำนวนมากจนคุ้นเคยกับราคาสินค้าที่ขายที่นี่ เขาใช้หินวิญญาณเพื่อซื้อขวดดินเผาขนาดเล็กหลายสิบใบที่แผงขายของเบ็ดเตล็ดก่อนจะออกจากตลาด จากนั้นจึงพบสถานที่ซึ่งมีลำธารไหลผ่านก่อนจะนำขวดดินเผาเติมน้ำทีละขวด ตามด้วยใส่หยดของเหลววิญญาณลงไป ขวด “ของเหลววิญญาณไม้คราม” จึงเป็นอันเสร็จสมบูรณ์

“ลำธารบนเขากับของเหลววิญญาณ เป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ”

หวังฝูแย้มยิ้มขณะกลับไปที่ตลาดนัดระหว่างเขา

หลังจากพบสถานที่ที่เห็นได้ชัดแล้ว จึงหยิบเสื้อผ้าเก่าผืนหนึ่งมาปูพื้นพร้อมกับหยิบเบาะมารองบั้นท้าย ส่วนขวด “ของเหลววิญญาณไม้คราม” สิบห้าขวดถูกวางลงบนพื้นตรงหน้า

“ดูเหมือนว่าจะขาดอะไรบางอย่าง…” หวังฝูมองแผงขายของตัวเองพลางลูบคาง จากนั้นดวงตาจึงทอประกาย “รู้แล้ว”

เขาหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาเขียนลงบนพื้นว่า “ของเหลววิญญาณไม้คราม สูตรพิเศษ เสริมแกร่งพลังวิญญาณ ไม่ใช่ของหลอกเด็กแน่นอน”

“อื้ม เรียบร้อย”

หวังฝูโยนกิ่งไม้ขณะปัดมือแล้วรอคอยอย่างเงียบงัน

ฝูงชนที่พลุกพล่านมาและไปไม่หยุดหย่อน ทว่ากลับไม่มีใครหยุดอยู่หน้าแผงขายของของหวังฝู ผิดกับแผงขายของจิปาถะแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่หวังฝูทำอะไรแบบนี้ ทำให้ไม่มีประสบการณ์อะไร โชคยังดีที่เขามีความสามารถการเรียนรู้อันโดดเด่นจนสามารถเรียนรู้จากผู้อื่นได้ในเวลาไม่นาน

เขาหยิบขวด “ของเหลววิญญาณไม้คราม” ขึ้นมาพร้อมกับเปิดฝาขวด จากนั้นใช้วิชาควบคุมวายุเล็กน้อยอย่างชำนาญ ทำให้เกิดสายลมพัดโชยมา แล้วพลังวิญญาณมหาศาลที่อยู่ภายใน “ของเหลววิญญาณไม้คราม” สลายไปทันที

ปราณวิญญาณรอบข้างหวังฝูเข้มข้นขึ้นมาในทันที

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาไม่อาจเมินเฉยได้อีกต่อไป ไม่ช้าจึงพบแผงขายของเรียบง่ายยิ่งของหวังฝู

“ศิษย์พี่ ท่านช่วยแสดงขวดดินเผาใบน้อยมาให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?” ศิษย์ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับห้าคนหนึ่งมองขวดดินเผาขนาดเล็กในมือของหวังฝูพลางถูมือ

“ได้อยู่แล้ว”

หวังฝูส่งขวดดินเผาขนาดเล็กไปให้โดยไม่กังวลอีกฝ่ายจะชิงของแล้วหนีไป ตลาดนัดระหว่างเขาแห่งนี้ถูกก่อตั้งโดยสำนักขนนกร่วงโรย ทำให้มีศิษย์จากโถงพิทักษ์กฎประจำการอยู่ภายใน หากใครฝ่าฝืนกฎโดยไม่ลืมหูลืมตาก็จะถูกจับไปขังในโถงพิทักษ์กฎทันที

ชายคนนั้นหยิบขวดดินเผาขนาดเล็กมาดูอย่างละเอียดขณะยื่นมาใกล้หน้าแล้วทำการสูดดม แล้วความรู้สึกสดชื่นจึงปกคลุมร่างกายในพริบตาประหนึ่งผืนดินที่แห้งผากมานานเผชิญกับน้ำค้างอันแสนหอมหวาน

ทันทีที่เดินผ่านตรงนี้ก็ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อยเพราะการฝึกฝนที่หยุดนิ่งมานาน เพราะงั้นถึงได้ตัดสินใจที่จะลองดูสักตั้ง คาดไม่ถึงว่าปราณวิญญาณที่อยู่ภายในขวดดินเผาขนาดเล็กจะอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้

“ศิษย์พี่ สิ่งนี้คืออะไร ใช้งานแบบไหน? แล้วคิดราคาอย่างไร?”

หวังฝูยิ้มกว้างด้วยรู้ว่าแผนสำเร็จแล้ว แต่แทนที่จะตอบตามตรง เขากลับยื่นนิ้วทั้งห้าแล้วเสนอราคาเป็นอันดับแรก “หินวิญญาณระดับต่ำห้าก้อนต่อหนึ่งขวด”

“ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ เหอะเหอะ” ชายคนนั้นหยิบหินวิญญาณห้าก้อนออกมาทันที จากนั้นจึงสัมผัสได้ถึงปราณวิญญาณอันอุดมสมบูรณ์ที่บรรจุอยู่ในขวดดินเผาขนาดเล็กที่อยู่ในมือก่อนจะส่งหินวิญญาณให้กับหวังฝู

หวังฝูรับหินวิญญาณด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงเอ่ยคำ “ของเหลววิญญาณไม้คราม” ขวดนี้เป็นสูตรประจำตระกูล ซึ่งข้ารวบรวมสมุนไพรแล้วนำมาหมักอย่างพิถีพิถันเจ็ดวัน มันจึงเต็มไปด้วยปราณวิญญาณคุณภาพสูง หากนำไปขัดเกลาโดยตรง ย่อมสามารถพัฒนาการฝึกฝนได้”

“‘ของเหลววิญญาณไม้คราม’ สูตรประจำตระกูล… ข้าขอเพิ่มอีกสามขวด”

“ได้เลยได้เลย” หวังฝูใช้วิชาควบคุมวัตถุเพื่อหยิบขวดดินเผาขนาดเล็กอีกสามขวดขึ้นมาจากพื้นแล้วส่งให้กับอีกฝ่าย ผู้ชายลังเลหยิบหินวิญญาณระดับต่ำสิบห้าก้อนออกมาอย่างไม่ลังเลก่อนจะส่งให้กับหวังฝู หลังจากหวังฝูรับมาแล้วจึงออกจากตลาดนักทันทีโดยไม่รีรอ

เห็นได้ชัดว่าเขาอยากกลับไปเพื่อทำการขัดเกลาทันที

หลังจากขายครั้งแรกสำเร็จ การขายครั้งที่สองกับสามจึงตามมาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ช้า “ของเหลววิญญาณไม้คราม” สิบห้าขวดก็ขายหมด ศิษย์บางคนถึงขั้นไม่พอใจจนถามหวังฝูว่าของจะมาอีกเมื่อไหร่ แน่นอนว่าหวังฝูตอบพร้อมรอยยิ้มว่าจะมาอีกในครั้งหน้า

หวังฝูรวบรวมหินวิญญาณเจ็ดสิบห้าก้อนเข้าสู่ถุงเก็บของได้สำเร็จ

“ครั้งหน้าเราต้องเตรียมโต๊ะไม้ เก้าอี้และผ้าใบไว้ด้วย พอวางไว้บนพื้นแล้วคุณค่าลดลงไปไม่น้อย”

หวังฝูลุกขึ้นขณะตบฝุ่นธุลีออกจากบั้นท้าย จากนั้นเก็บเบาะที่ใช้รองบั้นท้ายพลางเช็ดข้อความที่เขียนไว้บนพื้น หลังจากนั้นเขาจึงเดินไปที่ร้านซึ่งอยู่ไม่ไกลอย่างพึงพอใจ

ร้านค้านี้เขียนไว้ชัดเจนว่าเน้นขายของเกี่ยวกับยันต์

หวังฝูเดินเข้าไปในร้าน แล้วชายชราตรงเคาน์เตอร์จึงตื่นตัวขึ้นมาทันที

“ศิษย์น้องคนนี้อยากซื้ออะไรหรือ?”

“มีพู่กันยันต์ ชาดกับกระดาษยันต์หรือไม่?” หวังฝูเข้าประเด็นทันที

“มีมีมี” ชายชราแย้มยิ้มอย่างมีความสุข “ตระกูลของข้าประจำการอยู่ในตลาดของสำนักสายนอกเพื่อเปิดกิจการขายยันต์มาเป็นเวลาช้านาน พวกข้ามีหลายสิ่งที่เจ้าต้องการเกี่ยวกับการวาดยันต์”

“โห? ศิษย์พี่พอจะให้คำแนะนำได้หรือไม่? หากผลออกมาดี ข้าจะมาอุดหนุนท่านอีกในภายภาคหน้า” หวังฝูแย้มยิ้ม พูดตามตรงแล้วเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ตลาดที่นี่เท่าไหร่ แม้วัสดุเหล่านี้จะถูกกล่าวถึงใน “ชุดยันต์พื้นฐาน” แต่พวกมันเป็นเพียงการแนะนำพื้นฐานเท่านั้น

“แซ่ของข้าคือสวี แม้จะเป็นศิษย์สำนักสายนอก แต่ก็เป็นผู้ดูแลตระกูลสวีในตลาดแห่งนี้เช่นกัน ข้าว่านี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าลองวาดยันต์ หากคิดว่าเหมาะมือก็สามารถกลับมาซื้ออีกได้ หากไม่เหมาะ เจ้าสามารถหันหลังแล้วจากไปได้เลย ว่าไง?” ชายชราแย้มยิ้ม

“ได้สิ” หวังฝูพยักหน้า

“ดีมาก” ชายชราอมยิ้มขณะหยิบพู่กันยันต์สีดำออกมา “พู่กันยันต์เคราดำนี้สร้างจากขนแกะของสัตว์อสูรระดับต่ำขั้นหนึ่งนามแกะเขาดำ มันได้รับการชำระล้างโดยผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่ทำการกลั่นลมปราณสำเร็จในยี่สิบเอ็ดวัน จากนั้นจึงนำมาขัดเกลาบนไฟอ่อน ทำให้เกิดผลสงบจิตใจเวลาวาดยันต์ เหมาะสำหรับผู้ฝึกตนที่วาดยันต์เป็นครั้งแรก มูลค่าอยู่ที่หินวิญญาณระดับต่ำยี่สิบสองก้อน”

จากนั้นเขาหยิบชาดกับกระดาษยันต์ออกมา

“ชาดนี้ขัดเกลาด้วยเลือดของแกะเขาดำเช่นกัน หากใช้คู่กับพู่กันยันต์เคราดำก็จะสามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จได้ร้อยละสิบ มูลค่าอยู่ที่หินวิญญาณระดับต่ำสิบก้อน ส่วนกระดาษยันต์ทำขึ้นโดยใช้กรรมวิธีลับที่สืบทอดกันมาจากตระกูลสวีของข้า มันทั้งนุ่มและเหนียว หลังจากทำการเขียนแล้ว เส้นจะกลมจนหมึกไม่ซึม”

“หนึ่งชุดเท่ากับหนึ่งร้อยแผ่น มูลค่าเท่ากับหินวิญญาณสามก้อน”

“ได้ เอากระดาษยันต์ห้าชุด รวมถึงพู่กันยันต์เคราดำกับชาดด้วย” หวังฝูคิดว่าราคาสมเหตุสมผลก่อนจะซื้อมาทันที

ชายชราบังเกิดความยินดีเมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่เขาทราบหลักการของธุรกิจระยะยาวเช่นกัน ดังนั้นจึงเอ่ยคำออกมา “หินวิญญาณยี่สิบสองก้อนสำหรับพู่กันยันต์เคราดำ หินวิญญาณสิบก้อนสำหรับชาด หินวิญญาณสิบห้าก้อนสำหรับกระดาษยันต์ห้าชุด รวมทั้งสิ้นหินวิญญาณสี่สิบเจ็ดก้อน ข้ามองเห็นความมุ่งมั่นของศิษย์น้อง คิดว่าคงประสบความสำเร็จในไม่ช้า ดังนั้นข้าจะลดค่าพู่กันยันต์เคราดำให้ เบ็ดเสร็จอยู่ที่หินวิญญาณสี่สิบห้าก้อน ว่าไง?”

“ฮ่าฮ่า ความสัมพันธ์แบบนี้นับว่าดี ขอบคุณศิษย์พี่สวี”

หวังฝูส่งมอบหินวิญญาณให้ก่อนจะเก็บพู่กันยันต์ ชาดและกระดาษยันต์เข้าถุงเก็บของ จากนั้นจึงโบกมือลาอย่างพึงพอใจ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด