บทที่ 320 – กลยุทธ์ประหลาดใดกัน ต้องใช้เงินทอง?
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[คนอ่านแต่ละตอนไม่ถึง 10 คน ขอร้องอย่า copy ไปเลยนะ อันนี้แปลเพราะอยากแปลจริง ๆ ไม่งั้นทิ้งไปนานแล้ว ,เพราะไปทำงานอื่นได้เงินกว่าเยอะ ที่แปลเนี่ยได้วันละ 20 บาทเอง]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 320 – กลยุทธ์ประหลาดใดกัน ต้องใช้เงินทอง?
เย่เซียงถือมีดสั้น ต่อสู้ท่ามกลางกองทัพนับล้าน!
เขารวดเร็วราวกับสายลม ปรากฏตัวราวกับภูตผี!
แม้กระทั่งยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดสิบกว่าคนก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้!
เวลาผ่านไป การสูญเสียภายในกองทัพอู๋ซีและเยว่อันยิ่งใหญ่ก็เพิ่มขึ้น และกองกำลังนับล้านก็กลายเป็นความโกลาหล
กงอู๋ซีและแม่ทัพกงซุนโกรธจนแทบคลั่ง!
“เจ้าขโมยตัวน้อยน่าตาย! มีประโยชน์อันใดในการโจมตีปลาซิวปลาสร้อย? หากเจ้ามีใจ ก็มาท้าทายข้าสิ!” กงอู๋ซีอุทาน
“หากเจ้าไม่หยุด ข้าจะไม่ยั้งมืออีกต่อไป!”
…
แต่เย่เซียงกลับหัวเราะร่า “ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น! การฆ่าฟันในวันนี้ช่างเร้าใจยิ่งนัก! ท่านหลินมีบทกวีที่ดีว่า ฆ่าหนึ่งคนเป็นอาชญากร ฆ่าพันคนเป็นจอมยุทธ์! การฆ่าเก้าล้านคน นั่นคือยอดฝีมือแท้จริง! มาล้างบางทุกคนและไปขอรางวัลจากฝ่าบาทดีกว่า!”
กงอู๋ซีและแม่ทัพกงซุนกระอักโลหิตอีกครั้ง!
เจ้าต้องการล้างบางทุกคนหรือ? เป็นไปได้ด้วยหรือ?
“เย่เซียง เจ้าขโมยตัวน้อย อย่าได้ลำพองไปนัก! แม้ว่าข้าจะต้องเสี่ยงชีวิตในวันนี้ ข้าจะต้องทำให้เจ้าตายอยู่ที่นี่!” แม่ทัพกงซุนตะโกน ปลดปล่อยกระแสพลังปราณอันน่าทึ่ง น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
“มาสู้กับข้า!” กงอู๋ซีระเบิดลมปราณอันดุร้าย ผลักทุกสิ่งที่ขวางทางเขาออกไป
พอถูกยั่วยุจากทั้งสอง เย่เซียงยิ่งหยิ่งผยองมากขึ้น “มาเลย! พวกเจ้าทั้งหมด มาเลย! มาดูกันว่าความแข็งแกร่งของใครจะยิ่งใหญ่กว่ากัน ระหว่างพวกเจ้าหรือความคมของมีดข้า?”
การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น!
บนหอคอยของป้อมวิหคเพลิงในระยะไกล
หลินเป่ยฟานและคนอื่น ๆ เฝ้าดูฉากนี้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความขบขัน
“การฆ่าฟันของเย่เซียงน่าประทับใจ! สู้คนเดียวกับยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดสิบกว่าคน สร้างความวุ่นวายให้กับกองทัพนับล้าน มันน่าตื่นเต้นมากจนแม้แต่ชายชราอย่างข้าก็อยากร่วมสนุกด้วย! ฮ่าฮ่า…” แม่ทัพจูหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ใช่ ข้าก็อยากไปด้วย ชายชาตรีควรเป็นเช่นนี้!” กัวเส้าซวนอุทานด้วยความตื่นเต้นและความปรารถนา
แม่ทัพระดับขอบเขตต้นกำเนิดคนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย
ทันใดนั้น โม่หรูซวงก็ร้องเรียก “ดูที่นั่น!”
พวกเขาเห็นยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดสวมหน้ากากห้าคนบินเข้าไปในกองทัพอู๋ซีและเยว่อันยิ่งใหญ่อย่างกะทันหัน ก่อให้เกิดการสังหารหมู่
พวกเขาบุกไปข้างหน้า ทิ้งร่องรอยของโลหิตและความรุนแรงไว้เบื้องหลัง
ดวงตาของกงอู๋ซีเบิกกว้างด้วยความโกรธ “พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงมารบกวนกองทัพของข้า? อยากตายหรือ?”
แม่ทัพกงซุนก็โกรธไม่แพ้กัน “พวกเจ้าควรจากไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจ!”
แต่พวกเขาไม่แสดงความเมตตา ยังคงสังหารต่อไป
“กงอู๋ซี เพื่อความทะเยอทะยานของท่าน ท่านได้เปิดประตูต้อนรับโจรและเชิญชวนปัญหาเข้ามา ท่านเป็นคนทรยศ อธรรม อกตัญญู! คนชั่วช้าเช่นท่านควรจะถูกกำจัดโดยทุกคน! วันนี้ ข้าจะทำหน้าที่แทนสวรรค์!”
“กงซุนผู้ไร้เทียมทาน แทนที่จะอยู่ในเยว่อันยิ่งใหญ่อย่างสงบสุข เจ้ากลับกล้ามาก่อความวุ่นวายที่นี่? วันนี้ ข้าจะทำลายชื่อเสียงในตำนานของเจ้าในฐานะเทพสงครามและแสดงให้เจ้าเห็นว่าแผ่นดินนั้นลึกเพียงใดและท้องฟ้านั้นสูงเพียงใด!”
…
“ปรากฎว่าเป็นจอมยุทธ์ผู้มีเกียรติ ขออภัยที่จำไม่ได้ก่อนหน้านี้!” เย่เซียงหัวเราะขณะที่เขาต่อสู้ “ให้พวกเราก่อความหายนะในกองทัพนับล้านนี้ เพื่อให้แน่ใจว่ากองทัพของคนทรยศทั้งสองนี้จะไม่หวนคืนกลับมากันเถิด!”
“แน่นอน!” ยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดทั้งห้าตอบพร้อมกัน การสังหารของพวกเขาทวีความรุนแรงขึ้น
“บัดซบ!” ใบหน้าของกงอู๋ซีและแม่ทัพกงซุนซีดเผือด พวกเขาต้องส่งยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดสองสามคนเข้าไปแทรกแซง
ภายในหอคอยป้อมวิหคเพลิง
โม่หรูซวงถามด้วยความสับสน “พวกเขาเป็นใคร? ทำไมพวกเขาไม่เกรงกลัวกงอู๋ซีและกงซุนผู้ไร้เทียมทาน? พวกเขาพุ่งเข้าไปท่ามกลางกองทัพนับล้าน สร้างความโกลาหลอย่างที่สุด!”
“ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร คนที่ช่วยพวกเราในตอนนี้คือสหายของพวกเรา!” แม่ทัพจูหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ใช่ ข้าอยากไปจริง ๆ!” กัวเส้าซวนอุทานด้วยความตื่นเต้น
หลินเป่ยฟานหัวเราะเบา ๆ เขารู้จักกลุ่มนี้ค่อนข้างดี พวกเขาเป็นยอดฝีมือจากเยว่อันยิ่งใหญ่เองไม่ใช่หรือ?
เมื่อเห็นเย่เซียงสร้างความหายนะ ทำให้กองทัพนับล้านต้องพลิกคว่ำ หลินเป่ยฟานอดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ด้วยตัวเอง
หลินเป่ยฟานกล่าว “แม่ทัพจูและผู้บัญชาการท่านอื่น ๆ ในขณะที่ศัตรูเสียสมาธิ ตอนนี้เป็นเวลาที่จะโจมตีและทำลายกำลังของพวกเขา นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก! โปรดจำไว้ว่า โอกาสเช่นนี้หายาก!”
แม่ทัพจูสนใจ “ท่านหลิน แต่ที่นี่คือป้อมปราการ…”
หลินเป่ยฟานอุทานเสียงดัง “ข้าจะเฝ้ามันเอง รับรองว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ท่านสามารถไปสนุกได้!”
แม่ทัพจูคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเห็นด้วย
อย่างที่หลินเป่ยฟานพูด นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก
ถ้าพวกเขาไม่ดำเนินการที่เด็ดขาดในตอนนี้ พวกเขาอาจไม่ได้รับโอกาสอีกในภายหลัง
ดังนั้น เขาจึงนำยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดแปดคน พลังของพวกเขาท่วมท้น และบุกไปข้างหน้า
“กงอู๋ซี กงซุนผู้ไร้เทียมทาน มาสู้กับข้า!”
“วันนี้ หากพวกเจ้าจะหนี ก็ต้องชดใช้!”
…
ใบหน้าของกงอู๋ซี แม่ทัพกงซุน และคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ไม่ดีแล้ว! ยอดฝีมือของฝ่ายราชสำนักกำลังมา!”
“เจ้าโจรชราพวกนี้! สกัดพวกมันไว้เร็วเข้า อย่าให้พวกมันทะลวงกองกำลังของเรา!”
“รีบหน่อย!”
…
ไม่นาน ยอดฝีมือระดับขอบเขตต้นกำเนิดจากทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกัน ความมืดปกคลุมท้องฟ้า บดบังดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ในขณะเดียวกัน สายตาของหลินเป่ยฟานก็กลับไปที่ป้อมปราการ
ในเวลานี้ กองทัพจากอู๋ซีและเยว่อันยิ่งใหญ่ยังคงโจมตีป้อมปราการอย่างบ้าคลั่ง
ใต้กำแพงนคร ศพทับถมราวภูผา ร่างไร้วิญญาณนอนท่วมท้นดุจห้วงสมุทร
แขนขาขาดกระจัดกระจาย โลหิตสดใหม่ย้อมพื้นดินเป็นสีชาด
แม้กองทัพหลวงจะได้เปรียบที่สูงและชัยภูมิในการตั้งรับ แต่การเสียสละก็มิใช่น้อย
ทว่าความตาย การพลีชีพของพวกเขา เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้ถูกครอบงำด้วยความทะเยอทะยาน
หลินเป่ยฟานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "ในโลกนี้ ชีวิตคนเหมือนหญ้าแพรก"
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ถึงเวลาที่ต้องเข้าแทรกแซงแล้ว
หลินเป่ยฟานโบกมือ ควบคุมความชื้นในอากาศ ทำให้แสงแดดหักเหและรวมแสงไปยังสนามรบ
ในเวลาเดียวกัน หลินเป่ยฟานยังควบคุมการกระจายความร้อนอย่างรวดเร็วของพื้นผิวโลก ทำให้อุณหภูมิพื้นดินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้ อุณหภูมิในสนามรบจึงเพิ่มขึ้นหลายองศา
อากาศก็ร้อนระอุมากพออยู่แล้ว ทำให้ทุกคนเหงื่อไหลท่วมตัวแม้ไม่ได้ทำอะไร แต่หลังจากหลินเป่ยฟานปรับเปลี่ยน อุณหภูมิก็สูงขึ้นไปอีก ทำให้เวียนศีรษะและตาลายเพราะความร้อนจัด
ประกอบกับการขาดน้ำและการต่อสู้ในสภาพอากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้ ทำให้ยิ่งทนไม่ไหว
ในเวลาไม่นาน ทหารในสนามรบก็ล้มลงทีละคนด้วยเสียงดังตุ้บ
พวกเขาไม่ได้ตาย แต่เป็นลมแดดและหมดสติไป!
ทหารหลายแสนคนหมดสติอยู่บนพื้น!
ฉากนี้ช่างน่าตื่นตะลึง!
กงอู๋ซีและแม่ทัพกงซุนโกรธจนกระอักโลหิตเมื่อเห็นภาพนี้!
พวกเขาไม่ได้พ่ายแพ้ต่อศัตรู แต่ถูกสภาพอากาศโค่นล้ม จะสู้ต่อไปได้อย่างไร?
เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้แบบนี้!
พวกเขาขยับตัวไม่ได้ นอนอยู่บนพื้นเหมือนเป้านิ่ง!
ได้แต่มองฟ้าและสบถ "อากาศบัดซบ!"
เมื่ออุณหภูมิยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ทหารจำนวนมากขึ้นทนไม่ไหว สถานการณ์กำลังจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน กงอู๋ซีและแม่ทัพกงซุนสบตากัน และในที่สุดก็ตะโกนอย่างไม่เต็มใจ "ถอยทัพ!"
กองทัพอู๋ซีและเยว่อันยิ่งใหญ่เริ่มล่าถอย
ในขณะเดียวกัน เย่เซียงก็สนุกกับการฆ่าฟัน หลังจากจัดการยอดฝีมือขอบเขตต้นกำเนิดอีกคนด้วยมีดสั้น เขาก็ตบก้นแล้วจากไป
ทิ้งคำพูดหยิ่งยโสไว้เบื้องหลัง "วันนี้ข้าสนุกแล้ว ไว้วันหลังค่อยมาต่อกันใหม่!"
ยอดฝีมือขอบเขตต้นกำเนิดคนอื่นๆ ก็เริ่มถอนตัวทีละคน
"กงอู๋ซี ตาแก่กงซุน พวกเราก็ขอตัวเช่นกัน!"
"ไว้พบกันใหม่ จะได้ประลองกันอีก ฮ่าฮ่า!"
"เส้นทางของเราอาจมาบรรจบกันอีก รอดูกันต่อไป!" ... กงอู๋ซีและสหายมองร่างที่จากไปและร่างของทหารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด
เมื่อการต่อสู้ครั้งใหญ่สงบลงชั่วคราว หลินเป่ยฟานก็ต้อนรับแม่ทัพจูและคนอื่นๆ กลับมา ฉลองชัยชนะครั้งสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ภายในค่ายของอู๋ซีและเยว่อันยิ่งใหญ่ มีบรรยากาศหดหู่ปกคลุม
ในค่ายหลัก กงอู๋ซีถอนหายใจ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก "การต่อสู้วันนี้ช่างน่าสมเพช! ยอดฝีมือขอบเขตต้นกำเนิดหลายคนขัดขวางแผนการของเราและทำให้ฝ่ายเราสูญเสียอย่างหนัก! อากาศร้อนและแห้งแล้งทำให้กองทัพของเราเป็นลมแดดและล้มลง เราไม่มีกำลังที่จะสู้ต่อไปแล้ว!"
กงอู๋ซีถอนหายใจอีกครั้ง "ตอนนี้ เหลือทหารเพียงเจ็ดแสนนาย และยอดฝีมือขอบเขตต้นกำเนิดเพียงสิบนาย ขาดแคลนน้ำและขวัญกำลังใจ ความสามารถในการต่อสู้ของเราลดลงอย่างมาก เราจะทำอย่างไรดี?"
สีหน้าของแม่ทัพกงซุนก็หม่นหมองเช่นกัน "ใช่แล้ว เราจะทำอย่างไรดี?"
ด้วยกำลังพลห้าแสนนาย เขาออกเดินทางเพื่อสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับตัวเอง
แต่การต่อสู้ครั้งแรกในวันนี้กลับพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ทหารเยว่อันยิ่งใหญ่หนึ่งแสนนายเสียชีวิตในการรบ! ... มันเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตของเขา!
เมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นคน!
สงครามเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน แต่ก็มีผู้เสียชีวิตไปมากมายแล้ว จะทำอย่างไรกับการต่อสู้ในอนาคต?
แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว!
"ถึงแม้ว่าการสูญเสียของเราจะรุนแรง แต่เราต้องสู้ต่อไป!"
ความมุ่งมั่นฉายแววในดวงตาของกงอู๋ซี "หากในอีกสองวัน เราไม่สามารถบุกทะลวงป้อมวิหคเพลิงและเข้าสู่ใจกลางที่ราบภาคกลางได้ เราก็จะไม่มีกำลังที่จะสู้ต่อไป ผลที่ตามมาคงคาดเดาไม่ได้!"
แม่ทัพกงซุนพยักหน้า "ท่านกงกล่าวถูกต้องไม่ว่าเราจะอยากสู้หรือไม่ เราไม่มีทางเลือก! ฉะนั้น เรามาหารือกลยุทธ์กันเถิด เวลาเหลือน้อยแล้ว!"
กงอู๋ซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "อันที่จริง อาจจะมีวิธีอยู่..."
แม่ทัพกงซุนตื่นเต้น "ท่านกง ท่านคิดแผนการอันชาญฉลาดได้แล้วหรือ? ได้โปรดบอกกล่าว!"
กงอู๋ซีส่ายหน้า "ไม่เชิงว่าเป็นแผนการอันชาญฉลาด! จะได้ผลหรือไม่ ข้าก็ไม่มั่นใจนัก..."
แม่ทัพกงซุนกระตุ้น "ท่านกง ได้โปรดบอกแผนการให้พวกเราทราบ มาวางแผนร่วมกันเถิด!"
กงอู๋ซียิ้มแห้งๆ ส่ายหน้า "แผนการนี้อธิบายยาก มันเกี่ยวข้องกับแผนลับที่ข้าเก็บไว้ และข้าสามารถใช้มันได้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น"
แม่ทัพกงซุนร้อนใจ "ตอนนี้ไม่ใช่กรณีฉุกเฉินแล้วหรือ? หากไม่ใช้ พวกเราทุกคนก็จบเห่!"
กงอู๋ซีครุ่นคิด "เอาอย่างนี้ ให้เวลาข้าครึ่งวันเพื่อลองดู! ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ข้าจะรับผิดชอบต่อทุกคน เป็นอย่างไร?"
"เช่นนั้นก็ได้ ท่านกงรีบลงมือเถิด เวลามิรอคอยผู้ใด!" แม่ทัพกงซุนกล่าว
"แน่นอน ข้าเข้าใจ!" กงอู๋ซีพยักหน้า
สองชั่วโมงต่อมา กงอู๋ซีกลับมาด้วยสีหน้ายินดี "ข่าวดี! แม่ทัพกงซุน ข่าวดี! แผนลับของข้าใช้ได้แล้ว! มีความหวังที่จะบุกทะลวงป้อมวิหคเพลิงและเข้าสู่ใจกลางที่ราบภาคกลาง!"
แม่ทัพกงซุนดีใจ "จริงหรือ? นั่นเป็นข่าวดีจริงๆ! เราต้องเตรียมการอะไรบ้าง?"
กงอู๋ซีกระแอมและพูดอย่างเคอะเขิน "เราต้องเตรียมเงิน ยิ่งมากยิ่งดี! ขออภัย แม่ทัพกงซุนและแม่ทัพของเยว่อันยิ่งใหญ่ทุกท่าน ข้าจำเป็นต้องให้พวกท่านมอบเงินและทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มี!"
แม่ทัพกงซุนถึงกับตะลึงงัน!
แผนการแปลกประหลาดเช่นนี้ ต้องใช้เงินด้วยหรือ?