บทที่ 27 เมฆวิเศษของจินนี่
จำได้ว่าตอนที่เปิดหีบสมบัติครั้งแรกยังอยู่ที่ราชอาณาจักรซอร์เบทในทะเลใต้ ตอนนั้นการได้มาซึ่งคะแนนความชั่วร้าย 1,000 คะแนนนั้นช่างยากเย็นเหลือเกิน
แต่ก็เพราะความยากนี่แหละ ถึงได้คิดอยู่เสมอว่าต้องเพิ่มพูนพลังของตัวเองให้มากขึ้น บางครั้งก็นึกถึงพวกเทนริวบิโตะที่ลงมาจากมารีจัวร์มายังหมู่เกาะชาบอนดี้ คิดว่าน่าจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลในคราวเดียว
ดังนั้น ความคิดภายในใจจะสะท้อนออกมาในสิ่งที่ปรากฏในหีบสมบัติหรือเปล่านะ?
เพราะระดับทองแดงนั้นต่ำเกินไป เลยได้แต่การ์ดคุณสมบัติกับอาวุธพวกนั้นออกมาตลอด ต่อมาเพราะคิดจะซ่อนตัวตนเพื่อสังหารพวกเทนริวบิโตะ จึงได้การ์ดทักษะอย่างนินจุตซึชาโดว์โคลนจากนารุโตะออกมา
จนกระทั่งเปิดหีบเงินครั้งแรก ตอนนั้นคิดแต่เรื่องการเคลื่อนที่ จึงได้เมฆวิเศษที่ตรงกับระดับเงินออกมา
การประหารโรเจอร์ที่เมืองลอกทาวน์ ตั้งแต่เมืองลอสกาปในทะเลตะวันตกจนถึงเมืองลอกทาวน์ การเดินเรือทำให้ตัวเองยังรู้สึกว่าความคล่องตัวสำคัญมาก
ในท้ายที่สุด หลังจากสังหารเทนริวบิโตะแล้วต้องหลบหนี ตอนนั้นโบรซาลิโน่ที่ยังเป็นพลเรือตรีนั้น มีความเร็วสูงกว่าเมฆวิเศษ
ดังนั้นหลังจากนั้น ด้วยระดับของหีบทอง จึงได้วิชาฮิราอิชินโนจุตสึออกมา
เครื่องรางไก่นั้นสอดคล้องกับการพัฒนาของกองทัพปฏิวัติ ส่วนฮโยทนยุกิเสะกับเฮนจินโนจุตสึนั้นตรงกับ...
ในคุก เควินนั่งอยู่บนพื้นครุ่นคิดอยู่นาน
ถ้าเป็นอย่างนั้น หลายสิ่งหลายอย่างก็อธิบายได้ เพราะคุกแห่งนี้ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง และโลกที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ออกมาจากหีบสมบัตินั้น ก็พอดีเป็นโลกที่ตัวเองคุ้นเคยดี
ดังนั้น... ตัวเองอยากให้คุซันรับเคราะห์แทนจริงๆ สินะ!
"ทำไมฉันมองสายตาเธอแล้วรู้สึกว่า... กำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่หรือเปล่า? ไอ้บากี้นั่นทุกครั้งที่คิดจะเอาชนะเรลี่ย์ ก็มีสีหน้าแบบเธอตอนนี้เป๊ะเลย"
โรเจอร์พูดพลางมองการ์ดในมือของเควิน "เมื่อกี้เธอบอกว่าของนี่สามารถเพิ่มพลังกายและจิตใจได้ใช่ไหม? งั้นหีบที่น่าเกลียดนี่ก็ดีกว่าหีบทองสิ"
เควินเหลือบมองโรเจอร์แวบหนึ่ง "ระดับมันไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นร่างที่มีชีวิตของนาย การ์ดนี้ก็แทบไม่มีผลอะไรกับนายหรอก แต่สำหรับไอ้เรมุนั่น ก็จะรู้สึกถึงความก้าวหน้าได้อย่างชัดเจน"
พูดจบเควินก็เก็บการ์ดเข้าไป จากนั้นก็หายตัวไปอีกครั้ง
ในห้องน้ำ หลังจากใช้นินจุตซึชาโดว์โคลนอีกครั้ง ร่างจริงของเควินก็สวมหน้ากากแล้วใช้ฮิราอิชินโนจุตสึไปยังเกาะแห่งหนึ่งบนเส้นทางแกรนด์ไลน์
...
"เมื่อกี้ไปเข้าห้องน้ำมาน่ะ ตอนนี้เรามาเริ่มกันต่อเลย"
ในห้องใต้ดินมืดๆ แห่งหนึ่ง มีคนกว่าสามสิบคนนั่งล้อมวงกัน ทุกคนต่างเชิดหน้าชูคอจ้องมองเควินบนแท่นบรรยายด้วยสายตาเร่าร้อน
"ตอนนี้ให้พวกเราตะโกนเบาๆ ตามฉัน"
"พวกเราเกิดมาเท่าเทียมกัน ไม่มีใครมีสิทธิ์อยู่เหนือผู้อื่น!"
"พวกเราคือผู้บุกเบิกแห่งการปฏิวัติ ขอสาบานว่าจะลากผู้กดขี่ทั้งหมดลงสู่หล่มโคลน!"
"อนาคตที่สวยงามและมีความสุขจะต้องมาถึง แม้ต้องเผาผลาญชีวิตของพวกเรา ก็จะใช้ตัวเองเป็นเปลวไฟ เพื่อส่องสว่างให้คนรุ่นหลัง!"
...
เสียงตะโกนเบาๆ ดังขึ้นในห้องใต้ดิน เมล็ดพันธุ์ทีละเมล็ดกำลังหยั่งรากและแตกหน่อในทุ่งนาแห่งความคิด
ทุกคนต่างมองเควินด้วยสายตาเคารพยำเกรงและเทิดทูน ภายใต้บรรยากาศที่ถูกปลุกเร้า อนาคตที่หวังไว้ดูเหมือนจะอยู่แค่เอื้อม
เมื่อจบคาบเรียนแรกของสมาชิกใหม่ หัวหน้าทีมเล็กๆ ก็แยกย้ายทุกคนออกไปทีละคน เมื่อกลับมาก็ยืนอย่างนอบน้อมต่อหน้าเควิน
"ท่านเปลวเพลิง สัมภาระจากทะเลตะวันออกกำลังจะมาถึงแล้ว ยังคงเป็นหัวหน้าทีมจินนี่คุ้มกันมาครับ"
เควินมองเขาแล้วส่ายหน้าเบาๆ "ฉันบอกหลายครั้งแล้วนะ ในกองทัพปฏิวัติไม่มีคำเรียกแบบ 'ท่าน' หรอก พวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน ต่างก็ต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกัน"
"เพราะเราต่างก็หวังว่าจะถึงวันที่เป้าหมายสำเร็จ วันนั้นโลกนี้จะกลายเป็นที่ที่สวยงาม ทุกคนจะได้กินอิ่มนอนหลับ ไม่มีเทนริวบิโตะ ไม่มีทาส และไม่มีโจรสลัดอีกต่อไป"
"เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ฉันอยากให้เธอเรียกฉันว่าผู้บุกเบิกหรือครู เหมือนกับเมล็ดพันธุ์แห่งการปฏิวัติพวกนั้น ได้ไหม?"
โนเอลพยักหน้า แต่ยังคงแสดงความเคารพ
ในตอนนั้นเอง เหนือท้องฟ้าของเกาะ มีเมฆสีเหลืองลอยผ่านชั้นเมฆไป ข้างๆ มันยังมีวัตถุขนาดใหญ่คล้ายอุ้งตีนหมีพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
"อ๊า! ลงกลางเมืองไม่ได้นะ พลังของคุมะยังควบคุมจุดลงไม่แม่นเลย ยุ่งยากจัง"
จินนี่ที่นั่งอยู่บนเมฆวิเศษดูวุ่นวายไปหมด ในที่สุดก็หาจังหวะที่เหมาะสมได้ ใช้พลังผลนิคุนิคุโนมิส่งสัมภาระลงไปในป่าลึก
"ตูม!"
รอยเท้าหมียักษ์ประทับลงบนพื้น จากนั้นจินนี่ก็กระโดดลงมาจากเมฆวิเศษ
เธอหันกลับไปโบกมือ "เมฆเมฆ ไปเล่นก่อนนะ เดี๋ยวฉันทำธุระเสร็จแล้วจะมาตามนะ!"
เมฆวิเศษพุ่งทะลวงเข้าไปในกลุ่มเมฆ ส่วนจินนี่ก็หยิบเด็นเด็นมุชิออกมา เริ่มติดต่อกับคนรับของที่นี่
"โมชิโมชิ? โมชิโมชิ?"
"ตำแหน่งอยู่ในป่าทางทิศตะวันตกของเกาะ ตอนลงมาเมื่อกี้ดูแล้วน่าจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของป่า รีบหน่อยนะ ฉันยังมีธุระอีก!"
ทันใดนั้น เด็นเด็นมุชิก็สวมหน้ากากสีขาว
เสียงของเควินดังออกมาจากข้างใน "รีบกลับไปหาลุงคุมะหรือ? การคบหากันในเวลางานน่าจะส่งผลเสียนะ"
"เอ๊ะ? เค... ท่านเปลวเพลิง? วันนี้เป็นคิวสอนวิชาความคิดที่นี่เหรอคะ?"
จินนี่รีบแก้คำพูด แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายกำลังแซว
ต้องรู้ว่าไอ้หน้ากากคนนี้ก็ถือว่าเป็นคนที่ตัวเอง 'เลี้ยงดู' มา แค่บางครั้งก็ทำให้ร้องไห้จ้าเท่านั้นเอง
"นายอยู่ไหน? รอฉันไปถึงแล้วจะจัดการนายเอง"
"คนของฝ่ายสนับสนุนกำลังไปหาเธอแล้ว หลังจากส่งมอบเสร็จฉันจะไปหาเธอเอง เพิ่งเลิกคาบสอนวิชาความคิดไป ให้ฉันพาเธอกลับจะสะดวกกว่า"
"งั้นก็ดีเลย ถึงเมฆวิเศษจะเร็ว แต่พลังของนายเร็วกว่า คุมะคงคิดถึงฉันแย่แล้ว"
สีหน้าของเด็นเด็นมุชิดูรังเกียจ "ฉันว่าเธอคิดไปเองนะ ช่างเถอะ คราวนี้มีของใหม่เอามาให้พวกเธอ ดูกันว่าจะแบ่งกันยังไงดี"
แค่นเสียงหึหนึ่งที จินนี่ยังไม่ทันได้โต้กลับ เด็นเด็นมุชิก็ถูกวางสายไปแล้ว
ความเคารพนับถือหลังจากเรียนคาบแรก ต่อหน้าแม่มดที่ทรมานเควินมาตั้งแต่เด็ก ก็อยู่ได้แค่สองวันเท่านั้น
...
ที่ฐานลับของกองทัพปฏิวัติ
หลังส่งมอบเสบียงและอาวุธเสร็จ จินนี่ก็ตบไหล่เควินทีหนึ่ง
"ตอนแรกยังไม่ทันรู้ตัว ไอ้หนูนี่โตมาใต้ตาฉันนี่แหละ ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าแกรู้เรื่องพวกนี้ด้วย?"
เควินที่รู้สึกเจ็บนิดๆ ก็ยิ้มแห้งๆ
ต้องบอกว่าสมแล้วที่เป็นหัวหน้ากองทัพตะวันออกในอนาคต พละกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ยินว่าหลังเข้าร่วมกองทัพปฏิวัติก็กินจุขึ้นด้วย
"เห็นมามากก็เข้าใจเอง" เควินพูดต่อ "ความยากจนในเมืองใต้เชิงเขาของราชอาณาจักรซอร์เบท โจรสลัดที่บุกภูเขากลับหัวทุกปีในเมืองลอสกาปแห่งทะเลตะวันตก เมื่อเข้าใจความต้องการและจุดยืนของพวกเขา หลายอย่างก็เข้าใจได้"
...
ขอบบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ นักแปลสะกดชื่อตัวละครผิดหรือมีอะไรผิดแจ้งได้เลยนะคะ นักแปลจะแก้ไขให้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ
(จบบทที่ 27)