บทที่ 25 หีบสมบัติทองคำใบที่สอง

"เควิน เจ้าทำได้ดีมาก!"

"หลายปีมานี้ข้าก็พบว่า ในกองทัพเรือต้องมีคนของเราเองถึงจะได้ผล พลเรือตรีคนก่อนนั้น เขาไม่เข้าใจความยุติธรรมของรัฐบาลโลกแล้ว"

สแปนไดน์ตบไหล่เควินด้วยสีหน้ายินดี "แต่เจ้าไม่เหมือนกัน ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถปฏิบัติตามความยุติธรรมได้ ถ้าในอนาคตกองทัพเรือมีเจ้าเป็นผู้นำ พวกอย่างโรเจอร์คงไม่มีทางได้เป็นราชาโจรสลัดแน่!"

พูดพลางเขาก็แสดงท่าทีเยาะเย้ยต่อกองบัญชาการทหารเรือมารีน ฟอร์ดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดเซ็งโกกุ หรือพลเรือเอกทั้งสองที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ในสายตาเขาล้วนแต่เป็นพวกโง่เขลาทั้งสิ้น

สุดท้ายสแปนไดน์ลดเสียงลง กระซิบกับเควิน "อย่าดูที่ตอนนี้ข้าเป็นแค่หัวหน้า CP9 ถ้าการลักลอบขายเสบียงของเจ้าทำได้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การสนับสนุนจากรัฐบาลโลกในกองทัพเรือ ข้าจะทำให้ยิ่งใหญ่ได้! ยิ่งใหญ่มากเลยทีเดียว!"

เห็นเควินลังเลเล็กน้อย

สแปนไดน์พูดต่อ "ไอ้คุซันนั่นมันหยิ่งผยองเกินไปแล้ว หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาจะมองมันไม่ดีอีกระดับ แถมมันยังคอยติดตามการ์ปอยู่ตลอด"

"นอกจากนี้ เพราะคำพูดของโรเจอร์เมื่อครึ่งปีก่อน คลื่นโจรสลัดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้รัฐบาลโลกก็เริ่มมีมาตรการบางอย่างกับกองทัพเรือแล้ว พลเรือเอกยุคของเซ็งโกกุทั้งสามคนนี้ คงจะต้องเกษียณในไม่ช้า"

"เซ็งโกกุจะขึ้นไปอีกขั้น ตามที่ข้าเข้าใจเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชา เซ็งโกกุน่าจะได้เป็นผู้บัญชาการสูงสุด ส่วนไอ้แก่การ์ปนั่นก็คงยังเป็นแค่พลเรือโทเหมือนเดิม ส่วนเซฟา สุนัขล่าเนื้อที่หมดไฟในสายตาผู้บังคับบัญชาไม่มีค่าอะไรเลย"

พูดถึงตรงนี้ สแปนไดน์มองเควินอย่างมีความหมาย "ตำแหน่งพลเรือเอกคงไม่ต้องคิดหรอก แม้แต่ข้าเองก็ไม่มีทางทำให้เจ้าได้ตำแหน่งแบบนั้น แต่ตำแหน่งพลเรือตรีประจำหน่วย G บนเส้นทางแกรนด์ไลน์ ยังพอจัดการได้ แต่ว่า... เงื่อนไขเจ้าก็น่าจะเข้าใจ"

เควินยิ้มเต็มหน้า "แน่นอนอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์นี่นา ในกองทัพเรือต้องมีคนที่เข้าใจความยุติธรรมอย่างถูกต้อง ถึงจะรับใช้รัฐบาลโลกได้ดีขึ้น ใช่ไหมล่ะ?"

......

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในพื้นที่คุกวิญญาณ

โรเจอร์ที่เบื่อจนทนไม่ไหวกำลังจ้องมองเควิน ค่าความชั่วบนแท่นสูงนั้นขึ้นไปถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นสองพันแล้ว

ในฐานะผู้คุม โรเจอร์ที่รู้กฎการเปิดหีบสมบัติแล้วก็ตื่นเต้นมาก ถึงขนาดตื่นเต้นกว่าตอนที่เขาเองพบสมบัติโจรสลัดและเปิดหีบสมบัติเสียอีก

นี่คือธรรมชาติของโจรสลัด บวกกับการที่ต้องอยู่ในคุกและได้ยินเสียงร้องครวญครางทุกๆ ไม่กี่วัน ทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว

"เร็วๆ เปิดเร็วๆ! ดูซิว่าครั้งนี้เจ้าจะได้พลังอะไร ถ้าสามารถบุกมารีจัวร์ได้เลย อะไรที่เป็นราชาแห่งทะเลหรือราชาแห่งนรกก็ไม่จำเป็นต้องออกมาแล้ว!"

โรเจอร์ถูมือไปมา สายตาจับจ้องที่แท่นสูงไม่วางตา

ส่วนเควินก็จ้องเขม็งใส่เขาอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็เริ่มสวดมนต์อย่างเคร่งขรึม เขาไม่รู้ว่าการสวดมนต์กับใครจะได้ผล ในโลกของโจรสลัดนี้ใครเป็นคนดูแลเขาก็ไม่รู้

ได้แต่ท่องชื่อทั้งหมดที่รู้จักไปทีละคน รวมถึงจอย บอยด้วย ถึงอย่างไรการกำจัดรัฐบาลโลกก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้เขาเหมือนกัน

"นี่เป็นพิธีสำคัญอะไรหรือ?"

ใบหน้าที่มีหนวดเคราดกของโรเจอร์เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ส่วนเควินที่กำลังพนมมือนั้น หางตากระตุกเล็กน้อย เขาลืมตาขึ้นและพูดอย่างอดทนไม่ไหว "ถ้าเจ้าพูดอีก ข้าจะทำให้วิญญาณของเจ้าปิดปากตลอดกาล!"

โรเจอร์ยกมือปิดปาก แสดงท่าทางว่าเขาจะไม่พูดอีกแล้วแน่นอน

แม้จะไม่รู้ว่าผู้คุมมีอำนาจนี้จริงหรือไม่ แต่ตามกฎแล้ว ผู้คุมคือเจ้านายที่ใหญ่ที่สุด

ในช่วงเวลาถัดมา คะแนนบนแท่นสูงลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เหลือเพียงหนึ่งหมื่นสองพัน

ในเวลาเดียวกัน หีบสมบัติที่ทำจากทองคำทั้งใบก็ปรากฏขึ้นบนแท่นสูง

ยื่นมือลูบผ่าน

[โลกการผจญภัยของคุณลุงมังกร: ฉีจี้ (คาถาไก่)] [การ์ดคุณสมบัติร่างกาย]

เควินถอนหายใจยาว

ฉีจี้ (คาถาไก่): พลังที่ทำให้วัตถุลอยได้ ถ้าใช้ร่วมกับทูจี้ (คาถากระต่าย) ก็จะทำให้บินได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับเควินที่มีวิชาฮิราชินโนะจุตสึ (เทคนิคสายฟ้าแลบ) แล้ว พลังแบบนี้ไม่ได้มีประโยชน์มากนักในแง่ของการเคลื่อนที่

แต่พลังที่ได้รับจากคุกนั้น ในโลกนี้ล้วนต้องใช้พลังกาย คล้ายกับพลังที่ได้จากผลปีศาจ

นอกจากนี้ ขีดจำกัดของพลังคาถาก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เช่นกัน พื้นฐานร่างกายของคนธรรมดาในโลกการผจญภัยของคุณลุงมังกร กับพื้นฐานร่างกายหรือจิตใจของโลกโจรสลัดนั้นไม่ใช่ระดับเดียวกันเลย

เป็นโลกที่มีขีดจำกัดสูงมาก แต่จุดต่ำสุดก็ต่ำมากเช่นกัน

ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉีจี้ (คาถาไก่) ก็มีประโยชน์สองอย่าง หนึ่งคือในกรณีที่มีพลังกายเพียงพอ สามารถขนส่งทรัพยากรจำนวนมากข้ามเรดไลน์และเขตไร้ลมได้

ตัวอย่างเช่น เมืองทองคำบนเกาะลอยฟ้านั้น ภายใต้พลังของฉีจี้ (คาถาไก่) ก็สามารถขนลงมาจากเกาะลอยฟ้าได้อย่างง่ายดาย

อีกด้านหนึ่งก็คือการเลียนแบบชิกิ ทำให้เกาะทั้งเกาะลอยขึ้น แล้วยกเลิกพลังเหนือน่านฟ้าของมารีจัวร์

คิดถึงตรงนี้ เควินก็ข่มความคิดที่อยากจะลงมือทันที

พลังบนมารีจัวร์นั้น แม้แต่เขาเองก็ยังไม่เห็นทั้งหมด อีกทั้งแม้จะเป็นอุกกาบาตตกลงมาจากฟ้า นักดาบฝีมือเยี่ยมเพียงคนเดียวก็สามารถตัดมันออกเป็นสองส่วนได้

เรื่องนี้ ในตอนเดรสโรซ่า โซโรผมเขียวก็ได้แสดงให้เห็นมาแล้ว

เควินโยนฉีจี้ (คาถาไก่) ขึ้นลงในมือ

สิ่งนี้ไม่ใช่การ์ด พลังการลอยไม่เหมือนกับโกวจี้ (คาถาหมา) ที่ทำให้อมตะ ชูจี้ (คาถาหนู) ที่เปลี่ยนของนิ่งให้เคลื่อนไหว หรือหม่าจี้ (คาถาม้า) ที่รักษาและฟื้นฟู

คาถานี้สามารถทำให้กองทัพปฏิวัติพัฒนาได้เร็วขึ้น

"หิน?"

ข้างๆ เควินมีหัวที่มีเคราดกโผล่ออกมา สายตาจับจ้องที่ฉีจี้ (คาถาไก่)

โรเจอร์ลูบเคราของตัวเอง "ไม่ใช่นี่ หีบสมบัติทองคำใหญ่ขนาดนั้น เปิดออกมาได้แค่ก้อนหินแค่นี้เองเหรอ? ส่วนการ์ดนั่นข้ารู้ว่าเจ้าดูดซึมได้ แต่ก้อนหินนี่มีประโยชน์อะไร?"

เควินเก็บฉีจี้ (คาถาไก่) และการ์ดคุณสมบัติเข้าไป "ของสิ่งนี้ ถ้าใช้ให้ดีก็อาจจะเป็นชิกิคนต่อไปก็ได้ หลังจากเจ้ามอบตัว เขาบุกมารีน ฟอร์ดเพียงคนเดียว หลังจากถูกจับก็กลายเป็นโจรสลัดคนแรกที่หนีออกจากอิมเพลดาวน์ได้"

ชิกิ? ไอ้หมอนั่นไปอาละวาดที่มารีน ฟอร์ดงั้นเหรอ?

เดี๋ยวก่อน!

ก้อนหินเล็กๆ แค่นี้ สามารถทำให้คนมีพลังของผลปีศาจฟุริฟุริได้เลยเหรอ?

อีกครั้ง โรเจอร์มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับคุกที่สามารถขังวิญญาณได้นี้

บางทีตอนนั้นที่คุณชายน้อยคนนี้พูดถึงพลังที่จะบดขยี้ทุกอย่าง อาจจะเป็นจริงก็ได้?

......

สามวันต่อมา คำสั่งแต่งตั้งจากกองบัญชาการทหารเรือกลับปรากฏขึ้นที่เมืองลอสกาปในทะเลตะวันตก

เงาโคลนของเควินมองเอกสารคำสั่งในมือ สมองหมุนติ้วจนแทบคิดอะไรไม่ออก

ป้องกันทุกทาง แต่ไม่คิดเลยว่าความผิดพลาดจะเกิดขึ้นกับสแปนไดน์ ไอ้หมอนั่นทำอะไรเร็วเกินไปแล้ว!

ไปฝึกอบรมที่กองบัญชาการทหารเรือ ยศก็เลื่อนขึ้นสามขั้นจากนายพันตรีประจำหน่วยเป็นนายพันตรีประจำกองบัญชาการ

ส่วนความดีความชอบ...

เควินเอามือกุมหน้าผาก กลายเป็นคนแรกที่ค้นพบต้นตอการรั่วไหลของข้อมูลในปฏิบัติการไล่ล่าที่ทะเลใต้

......

(จบบทที่ 25)