บทที่ 195 สถิติใหม่ของการทดสอบชิงอวิ๋น
หลัวเฉิงทำแต้มได้ถึงสองหมื่นห้าร้อยหกสิบหกแต้ม!
แต้มนี้ถูกแขวนอยู่ที่อันดับหนึ่งของตารางแต้ม สูงเสียดฟ้าเหมือนดวงดาวที่ส่องแสงเจิดจ้า!
ผู้อาวุโสเสื้อคลุมเขียวซึ่งรับผิดชอบการบันทึกแต้ม ก็ถึงกับผงะอึ้งไปเฉกเช่นเดียวกันกับผู้อื่น
โจวรั่ว หยวนจื่อหลาน กู่หลิงเฟิง รวมถึงผู้อาวุโสเหอที่อยู่บนแท่นก็ต่างตกตะลึงมิแพ้กัน
โดยเฉพาะผู้อาวุโสเหอ เขาไม่คิดเลยว่าคำพูดของตนจะกลายเป็นจริงขึ้นมาเช่นนี้
วาจาเขาที่กล่าวล้อเล่นว่า หลัวเฉิงจะเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบชิงอวิ๋น!
เหล่าศิษย์ที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็เบิกตากว้าง ปากอ้าค้างจนเกือบจะยัดไข่ได้ทั้งฟอง
จัตุรัสที่กว้างขวางเงียบสนิทในทันที
แม้แต่หลัวเฉิงเองก็ยังแสดงสีหน้าประหลาดใจ
เขาคิดว่าแต้มของตนคงอยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันแต้มเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเกินกว่าสองหมื่นแต้มเช่นนี้!
“เป็นไปไม่ได้! คนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา จะสามารถมีแต้มสูงขนาดนี้ได้อย่างไร? ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด ไม่แน่ว่าอาจเกิดความผิดพลาดใด หรือไม่เขาก็อาจใช้วิธีสกปรกบางอย่างเป็นแน่!”
เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวปลุกทุกคนให้ตื่นจากภวังค์
หลินหานคงเดินเข้ามาในจัตุรัส แล้วเพ่งมองหลัวเฉิงด้วยสายตาเกลียดชัง
หลินหานคงไม่คิดเลยว่า หลัวเฉิงจะไม่เพียงแต่กลับมาจากเกาะชิงอวิ๋นอย่างปลอดภัย แต่ยังขึ้นอันดับหนึ่งในทดสอบชิงอวิ๋นอีกด้วย!
หากมันเป็นเช่นนี้จริง หลัวเฉิงก็จะได้เข้าสู่สำนักฝ่ายนอกและกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอก และสถานะของหลัวเฉิงจะมิแตกต่างจากเขาแม้แต่น้อย!
จากนี้ไป คงเป็นการยากที่จะสังหารอีกฝ่ายเพื่อแก้แค้นให้พี่ใหญ่และตระกูลหลินของเขาได้!
ด้วยเหตุนี้ ไหนเลยหลินหานคงจะยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้!
“ใช่แล้ว มันต้องมีความผิดพลาดบางอย่าง หรือไม่หลัวเฉิงก็พบช่องโหว่ในการทดสอบชิงอวิ๋นแล้วโกงเป็นแน่!”
“แม้แต่กู่หลิงเฟิง โจวรั่ว และคนอื่นๆ พวกเขาก็ยังได้แต้มแค่ไม่กี่พัน แต่ทว่าคนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา จะสามารถได้แต้มสองหมื่นกว่าแต้มได้อย่างไร!”
“ใช่แล้ว ผู้อาวุโสโปรดตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง! และตัดสิทธิ์การเข้าร่วมของหลัวเฉิง!”
เสียงตะโกนนี้ปลุกให้ทุกคนรู้สึกตัว
เหล่าศิษย์บำรุงสำนักต่างก็ไม่อาจทนให้คนไร้ค่าผู้นี้กดขี่ได้ พวกเขาจึงตะโกนเรียกร้องให้ตัดสิทธิ์แต้มของหลัวเฉิง
ผู้อาวุโสในเสื้อคลุมเขียวตื่นจากภวังค์ จากนั้นจึงรีบตรวจสอบป้ายหยกประจำตัวและสมุดหยกบันทึกแต้มของหลัวเฉิงอย่างละเอียดอีกครั้ง
“เงียบ!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงของผู้อาวุโสในเสื้อคลุมเขียวเปล่งออกมาอย่างหนักแน่น ก้องกังวานไปทั่วจัตุรัส และทุกคนก็เงียบลงในทันที
“ข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว แต้มของหลัวเฉิงไม่มีความผิดพลาดแต่ประการใด!”
ระหว่างที่กล่าว ผู้อาวุโสในเสื้อคลุมเขียวก็ยื่นป้ายหยกประจำตัวคืนให้กับหลัวเฉิง ทว่าในแววตาเขายังแสดงออกถึงความประหลาดใจเช่นเคย
เนื่องจากว่า ทันทีที่หลัวเฉิงเข้าสู่สำนัก เขาก็เข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋น นี่ก็นับว่าพิสดารมากพออยู่แล้ว แต่ทว่าเขากลับกลายเป็นอันดับหนึ่งในตารางทดสอบชิงอวิ๋นครั้งนี้อีกต่างหาก!
เรื่องเช่นนี้ใครจะเชื่อได้?
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสในเสื้อคลุมเขียว คนที่เรียกร้องให้ตัดสิทธิ์การแข่งขันของหลัวเฉิงก็เงียบปากลงพลัน มิกล้าเปล่งเสียงกล่าวสิ่งใดอีก
ด้วยว่าผู้อาวุโสกล่าวออกมาเช่นนี้แล้ว หากยังกล้าตั้งคำถามอีก นั่นเท่ากับว่าคลางแคลงใจต่อคำตัดสินของผู้อาวุโส!
การลบหลู่ผู้อาวุโสนั้น ถือว่าเป็นการรนหาที่ตายดีๆ นั่นเอง!
บนแท่นสูง ผู้อาวุโสสิบคนที่รับผิดชอบการทดสอบชิงอวิ๋นต่างเงียบงัน
หลัวเฉิงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในทดสอบชิงอวิ๋น!
ผลลัพธ์นี้ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ผู้อาวุโสคนหนึ่งมองไปที่หลัวเฉิงแล้วกล่าวอย่างชื่นชม
“สองหมื่นกว่าแต้ม! นี่เป็นแต้มสูงสุดในประวัติศาสตร์การทดสอบชิงอวิ๋น! ไม่คาดคิดเลยว่าผู้ที่สามารถสร้างสถิติใหม่จะเป็นเขา…”
ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวว่า “ดูเหมือนว่า หลัวเฉิงเป็นคนสังหารหลินจินไท่จริงๆ ไม่เพียงแต่หลินจินไท่เท่านั้น ตามความเห็นข้า ฟางรุ่ยและเฉาเชิงก็อาจถูกเขาสังหารด้วยเช่นกัน ต้องเป็นเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถมีแต้มสูงเยี่ยงนี้ได้”
“คงจะเป็นดั่งที่ท่านว่า”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย
ผู้อาวุโสฉินเหมยเบิกดวงตาคู่งามกว้างด้วยความประหลาดใจ
“แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้ายังติดใจอยู่ ฟางรุ่ย เฉาเชิงและตัวเต็งคนอื่นๆ ต่างก็เป็นผู้มีฝีมือโดดเด่นที่สุดในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า อาศัยเพียงหลัวเฉิงคนเดียว จะสามารถสังหารพวกเขาได้จริงหรือ?”
ผู้อาวุโสทุกคนเงียบไปอีกหนหนึ่ง
ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสฉินเหมยเท่านั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขารู้สึกฉงนใจไม่แพ้กัน
แต่ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว จะไม่เชื่อก็คงยาก
หลังเงียบงันไปพักใหญ่ จู่ๆ ผู้อาวุโสหนึ่งในนั้นก็เอ่ยถามขึ้นอย่างฉับพลัน
“วิญญาณยุทธ์ที่หลัวเฉิงปลุกขึ้นมา เป็นวิญญาณยุทธ์ที่ไม่ถือกำเนิดจริงหรือ?”
ผู้อาวุโสฉินเหมยพยักหน้า “หลัวเฉิงเข้าร่วมการทดสอบเข้าสู่สำนัก อีกทั้งเรื่องนี้ยังถูกตรวจสอบโดยผู้อาวุโสเฉินซวน จึงไม่ต้องกังขาเลยว่าวิญญาณยุทธ์เขานั้น เป็นวิญญาณยุทธ์ที่ไม่ถือกำเนิดจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่มีดาวแม้เพียงดวงอีกด้วย”
เมื่อวาจานี้ถูกขานออกมาก็ทำเอาทุกคนถึงกับตะลึงลานจนมิอาจกล่าวคำใดออก
ผู้อาวุโสเฉินซวนเป็นหนึ่งในสิบผู้อาวุโสฝ่ายนอก เมื่อเขาลงแรงตรวจสอบด้วยตนเอง มันย่อมไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน
วิญญาณยุทธ์ที่ไม่ถือกำเนิดที่ไม่มีดาวเลยแม้แต่ดวงเดียว!
พรสวรรค์เช่นนี้เรียกได้ว่าต่ำต้อยเกินคำบรรยาย!