ตอนที่ 255 ลับๆ ล่อๆ
“แกมันยังไม่คู่ควรให้ คุณชายเย่ ลงมือ เพราะมันจะทำให้มือของ คุณชายเย่ เปื้อนไปเสียเปล่าๆ”
ชายปริศนาพูดขึ้นอีกครั้ง
คำพูดสองประโยคของชายปริศนาคนนี้ทำให้ทุกคนตกใจไม่น้อยเลย
ชายปริศนาคนนี้มีสถานะอะไร ถึงกล้าพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้?
ไม่นาน ทุกคนก็พบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า
หลังจากที่ หนิง ซิวฮั่น ถูกชายปริศนาตบ เขากลับยืนนิ่ง ไม่กล้าพูดโต้แย้งอะไรเลยแม้แต่น้อย
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนยิ่งงุนงงมากขึ้น
หลังจากนิ่งไปสิบกว่าวินาที หนิง ซิวฮั่น ก็พูดคำที่ทำให้ทุกคนตกตกใจ :
“พี่… พี่มาที่เจียงโจวได้ยังไง?”
พี่?
หนิง ซิวฮั่น เรียกชายปริศนาคนนี้ว่า… พี่เหรอ?
“ไอ้เวรเอ้ย”
ชายปริศนาถีบ หนิง ซิวฮั่น อย่างรุนแรง
ตุ้บ!
หนิง ซิวฮั่น ถูกถีบจนล้มลงกับพื้นไปทันที
ก้นของเขาค่อนข้างเจ็บมาก แม้จะเจ็บมาก แต่ หนิง ซิวฮั่น ก็ยังลุกขึ้นมาจากพื้นโดยไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“คุณชายเย่ ขอโทษด้วยนะครับ เป็นความผิดของตระกูลหนิงของเราที่สั่งสอนไม่ดีเอง”
ชายปริศนากล่าวขอโทษ เย่เฉิน แทนในนามของตระกูลหนิง
ชายปริศนาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ หนิง ซิวเหยียน
ครั้งก่อน ตอนที่ เย่เฉิน และซู หนิงซวง ไปแช่น้ำพุร้อน เขาได้พบกับ หนิง ซิวเหยียน ผู้เป็นทายาทของตระกูลหนิงในหางโจวที่มาเที่ยวที่เมืองเจียงโจว
ครั้งล่าสุดหลังจากพบกับ เย่เฉิน หนิง ซิวเหยียน ก็คาดเดาว่าตัวตนของ เย่เฉิน ค่อนข้างน่ากลัวมาก ดังนั้นเขาจึงพยายามหาโอกาสผูกมิตรกับเขามาโดยตลอด
เมื่อ หนิง ซิวเหยียน ได้ยินโดยบังเอิญว่าวันนี้จะมีการแข่งรถครั้งใหญ่ในเจียงโจว เขาจึงมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
โชคดีที่เขามา ไม่เช่นนั้นน้องชายตัวแสบของเขาคงจะสร้างเรื่องใหญ่โตเข้าให้แล้ว
“เขาเป็นอะไรกับคุณ?”
เย่เฉิน ถาม หนิง ซิวเหยียน
“เขาเป็นน้องชายแท้ๆ ของผม เป็นความผิดของตระกูลหนิงเราที่สั่งสอนไม่ดี หวังว่า คุณชายเย่ จะไม่โกรธนะครับ”
หนิง ซิวเหยียน อธิบาย
ปรากฏว่า หนิง ซิวฮั่น แท้จริงแล้วคือน้องชายแท้ๆ ของ หนิง ซิวเหยียน..
หนิง ซิวฮั่น กลัวพี่ชายคนนี้มาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งในตระกูลหนิง หนิง ซิวเหยียน ยังมีสถานะสูงกว่า หนิง ซิวฮั่น มาก
หนิง ซิวเหยียน เป็นหนึ่งในผู้สมัครรับเลือกเป็นทายาทสืบทอดของตระกูลหนิง แต่ หนิง ซิวฮั่น ที่ใช้ชีวิตเหลวไหลไปวันๆ นั้นไม่มีแม้แต่คุณสมบัติพอจะเข้าร่วมแข่งขัน
เมื่อรู้ว่า หนิง ซิวเหยียน เป็นใคร ทุกคนยิ่งตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
ถึงขนาดที่คนของตระกูลหนิงต้องมากล่าวคำขอโทษต่อ คุณชายเย่ คนนี้ด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ?
คุณชายเย่ คนนี้สุดยอดเกินไปแล้ว!!!
“ไอ้เวรนี่ แกยังมัวยืนอยู่อีกทำไม ทำไมไม่รีบเข้ามาขอโทษ คุณชายเย่”
หนิง ซิวเหยียน ตะคอกใส่ทันที
“ดะ… ได้ครับ…”
หนิง ซิวฮั่น ก้าวเดินอย่างสั่นเทาเข้ามาหา เย่เฉิน
“คุณชายเย่ ขอ…”
หนิง ซิวฮั่น เริ่มพูด
“ใครมันบอกให้แกยืนตรงนั้น คุกเข่าลงแล้วรีบขอโทษ คุณชายเย่”
คำพูดของ หนิง ซิวฮั่น ยังไม่ทันจบ หนิง ซิวเหยียน ก็พูดแทรกขึ้นมา
ตุบ!
หนิง ซิวฮั่น ที่เคยหยิ่งยโส คุกเข่าลงต่อหน้า เย่เฉิน ในทันทีโดยไม่กล้าโต้แย้งใดๆ พร้อมกับกล่าวคำขอโทษ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หนิง ซิวเหยียน ถาม
หนิง ซิวฮั่น ไม่กล้าปิดบัง เล่าเรื่องที่ถูก ไป๋เย่า ซื้อตัวออกมาให้ฟัง
ในสายตาของทุกคน ไป๋เย่า รู้สึกอับอายอย่างมาก
ในชั่วพริบตา ทุกคนต่างดูถูก ไป๋เย่า อย่างรุนแรง
พอแพ้ก็เลยติดสินบน น่าสมเพช!
แม้แต่บางคนในสโมสร TDC ก็ยังดูถูก ไป๋เย่า
“ผมขอประกาศว่าในการแข่งขันครั้งนี้ เย่เฉิน คือผู้ชนะ และตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี จะเข้ามาแทนที่ TDC ในฐานะหนึ่งในสี่สโมสรซุปเปอร์คาร์หลักในหางโจว”
ตัวแทนหนึ่งในสามสโมสรตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบออกมาประกาศใหม่อีกครั้ง
“โอ้ โอ้ โอ้!”
“พวกเราได้ตำแหน่งเดิมกลับคืนมาแล้ว!”
คนของ เฟิงหั่วเฮยฉี ต่างตื่นเต้นกันมาก
อีกฝั่ง คนของ TDC ต่างก้มหน้าลงด้วยความละอาย พวกเขารู้สึกอับอายอย่างยิ่ง
ไม่นานเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้คงจะแพร่กระจายไปถึงหางโจวแน่ๆ
เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกในวงการ
หลายคนใน TDC ตัดสินใจจะลาออกจากการเป็นสมาชิก
[ติ๊ง]
[ช่วย เฟิงหั่วเฮยฉี กลับสู่ตำแหน่งหนึ่งในสี่สโมสรซุปเปอร์คาร์หลักในหางโจว ความท้าทายสำเร็จ]
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับความสามารถ ‘มองเห็นอัตราผลตอบแทน’ ใช้ได้ 3 ครั้ง]
ในขณะเดียวกัน เกมก็ส่งข้อความแจ้งเตือนเข้ามา
ภารกิจท้าทายของ เย่เฉิน เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด
“เอาล่ะ ในเมื่อเรื่องจบแล้ว และนี่ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วด้วย ผมขอตัวก่อนนะ”
เย่เฉิน เหลือบมองนาฬิกาแล้วพูดขึ้น
“เรียน? คุณชายเย่ ยังเรียนอยู่อีกเหรอครับ?”
หนิง ซิวเหยียน ถามด้วยความสงสัย
“ใช่ ผมเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง”
เย่เฉิน พยักหน้าตอบ
นักศึกษาปีหนึ่ง?!!
คำตอบของ เย่เฉิน มันเกินความคาดหมายของทุกคน และทำให้ทุกคนตกใจมาก
แบบนี้ คุณชายเย่ คนนี้ก็น่าจะอายุเพียง 18-19 ปีเท่านั้น
นี่คือนักศึกษาที่สุดยอดที่สุดสินะ
ทั้งที่อายุยังน้อย แต่กลับมีทักษะการขับรถที่เหนือชั้นสุดๆ สุดยอดจริงๆ
ในขณะนี้ ไม่เพียงแต่คนของ เฟิงหั่วเฮยฉี เท่านั้นที่ชื่นชม เย่เฉิน แม้แต่ เซี่ย หยางเผิง และบางคนใน TDC ก็เริ่มชื่นชม เย่เฉิน เช่นกัน
บางที นี่อาจจะเป็นเพราะเขามีความแข็งแกร่งที่แท้จริง
“คุณชายเย่ หากคุณต้องไปเรียน ..ก็เชิญก่อนเลยครับ ผมจะหาโอกาสไปขอโทษพร้อมกับ ซิวฮั่น ในภายหลัง”
หนิง ซิวเหยียน ให้คำมั่น
เย่เฉิน พยักหน้า และบอกกับคนของ เฟิงหั่วเฮยฉี ว่า ถ้ามีเรื่องอะไรไว้ค่อยคุยกันทีหลัง
หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็ขับรถกลับไปที่มหาวิทยาลัย
ทุกคนที่เหลืออยู่ต่างถอนหายใจด้วยความรู้สึกทึ่ง
ระหว่างทางขณะรอสัญญาณไฟแดง เย่เฉิน เปิดเกมขึ้นมาดู
ภารกิจท้าทายครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
เย่เฉิน ตรวจสอบกระเป๋าในเกมของเขา ตอนนี้มีการ์ดความสามารถ ‘มองเห็นอัตราผลตอบแทน ×3’ วางอยู่ในนั้นอย่างเงียบๆ
สามารถใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น
ทักษะนี้สำคัญมาก เขาจำเป็นต้องใช้ในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
เมื่อกลับถึงมหาวิทยาลัย เย่เฉิน ก็ได้เข้าเรียนตามปกติ
วันรุ่งขึ้น เนื่องจากมีเรียนเพียงไม่กี่วิชา หลังจากเรียนเสร็จ เย่เฉิน ก็กลับไปที่คฤหาสน์ของเขา
เย่เฉิน ที่เพิ่งนั่งพักได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น
เย่เฉิน เดินออกไปเปิดประตูคฤหาสน์ และจู่ๆ เขาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
คนที่มาเยือนคือ โม่ หงหรู หรือ ลุงโม่…
แต่วันนี้ทำไม ลุงโม่ ดูเหมือนจะมีท่าทีลับๆ ล่อๆ อย่างไรชอบกล?
“ลุงโม่ ..มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
เย่เฉิน ถามด้วยความแปลกใจ
“เสี่ยวเฉิน ลุงแอบมาขอเรียนทำอาหารกับเธอน่ะ”
โม่ หงหรู อธิบาย
“กลัวว่า โม่ เมิ่งเฟย จะเห็นงั้นเหรอครับ?”
โม่ หงหรู อยากจะพัฒนาฝีมือการทำอาหารให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับภรรยา และลูกสาวของเขา แล้วเพื่อจะอวดสักหน่อย
แต่แล้ว.. เพื่อไม่ให้ลูกสาวที่อาศัยอยู่ข้างบ้านรู้ โม่ หงหรู จึงจงใจเลือกเวลาทำงานมาเรียนที่นี่
เมื่อเห็น ลุงโม่ ที่มีท่าทางลับๆ ล่อๆ เย่เฉิน ก็อดขำไม่ได้
โม่ เมิ่งเฟย อยู่ข้างบ้านของเขา ลุงโม่ ยังจะปิดบังไม่ให้เธอรู้เพื่อมาขอเรียนทำอาหารจากเขาได้เนี่ย ..คงเป็นไปไม่ได้หรอก
เย่เฉิน เชิญ ลุงโม่ ให้เข้ามาข้างใน
“เสี่ยวเฉิน ลุงขอโทษที่มารบกวนนะ”
โม่ หงหรู พูดด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ไม่เป็นไรครับ”
เย่เฉิน และโม่ หงหรู มาที่ห้องครัว และเย่เฉิน เริ่มสอนเขาทันที
หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง กลิ่นหอมก็ลอยโชยออกมาจากภายในห้องครัวของ เย่เฉิน
ปิ๊งปิ๊งปิ๊ง~ ป่อง~
ทันใดนั้น เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
โม่ หงหรู ที่เพิ่งเรียนรู้ไปได้บ้าง พอได้ยินเสียงกริ่งนี้ก็แทบจะหมดกำลังใจไปในทันที
เสียงที่เขาไม่อยากได้ยินมากที่สุดดังขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
ครั้งที่แล้วที่เขามาขอเรียนทำอาหารกับ เย่เฉิน รถของเขาทำให้เปิดเผยตัวตนจนทำให้ โม่ เมิ่งเฟย มาเจอเข้า
คราวนี้ เขาไม่ได้ขับรถมาเพื่อความปลอดภัย แต่ โม่ เมิ่งเฟย ยังจะมาที่นี่อีกอย่างนั้นหรือ?!