ตอนที่ 254 คุณมีความเห็นอะไรหรือไม่?

ไป๋เย่า เหลือบมองไปรอบๆ สักครู่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังจ้องมองไปยัง เย่เฉิน ที่อยู่บนเวที เขาเองก็รีบเดินไปยังที่ไกลออกไป

ไม่กี่นาทีต่อมา ไป๋เย่า มาถึงที่นั่งของกรรมการ

พอ ไป๋เย่า มาถึง รองประธานของ ‘สโมสรซุปเปอร์คาร์ หวนยวี่’ หนิง ซิวฮั่น ที่นั่งอยู่ในที่นั่งกรรมการก็เงยหน้าขึ้นทันที ทั้งสองสบตากัน และเข้าใจความตั้งใจของอีกฝ่ายในทันทีว่าหมายถึงอะไร

ตอนที่อยู่ในหางโจว ไป๋เย่า ได้แอบติดต่อกับ หนิง ซิวฮั่น ก่อนแล้ว

ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจในฝีมือของเหล่านักแข่งจากสโมสรซุปเปอร์คาร์ TDC แต่ ไป๋เย่า ผู้ซึ่งทำอะไรอย่างระมัดระวังมาโดยตลอดก็ยังเตรียมแผนสำรองเอาไว้

ไม่นึกเลยว่า ตอนนี้แผนที่ว่านั่นจะต้องหยิบมันออกมาใช้จริงๆ

ซึ่งจริงๆ ..เขาได้ใช้เงินก้อนโตเพื่อซื้อใจ หนิง ซิวฮั่น มาไว้แล้ว

“เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมมีอะไรจะพูดสักหน่อย”

หนิง ซิวฮั่น ลุกขึ้นยืน และกล่าวกับตัวแทนของอีกสองสโมสรซุปเปอร์คาร์ว่า :

“เมื่อกี้นี้ ประธานสโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงหั่วเฮยฉี เย่เฉิน ออกสตาร์ทเร็วไปหนึ่งวินาที …ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้ไม่ควรถูกยอมรับ”

“ผมคิดว่า การแข่งขันในวันนี้ควรจะจบลงเพียงเท่านี้ หากสโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี ต้องการท้าทายสโมสร TDC จริงๆ ก็ให้พวกเขาไปที่หางโจว”

คำพูดของ หนิง ซิวฮั่น ทำให้ตัวแทนของอีกสองสโมสรซุปเปอร์คาร์รู้สึกงงงวย

เย่เฉิน ออกสตาร์ทเร็วไปหนึ่งวินาที?

จริงหรือ?

ทำไมพวกเขาถึงไม่เห็นล่ะ?

หรือว่าเมื่อกี้พวกเขาเหม่อไป ไม่ควรเป็นแบบนั้นสิ

“เหล่าจ้าว คุณว่าไง?”

จากนั้น หนิง ซิวฮั่น ก็ส่งสายตาให้ตัวแทนของสโมสรซุปเปอร์คาร์แห่งหนึ่ง

“อ่า... ใช่ ใช่ครับ”

ตัวแทนของสโมสรซุปเปอร์คาร์แห่งนั้นนิ่งไปเล็กน้อยแล้วพยักหน้าในทันที

ตัวแทนของสโมสรซุปเปอร์คาร์ทั้งสามแห่งที่มาในวันนี้ หากนับจากตำแหน่ง และสถานะ ก็ต้องถือว่า หนิง ซิวฮั่น มีสถานะสูงที่สุด เพราะเขาเป็นคนของตระกูลหนิงในหางโจว ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่

หลังจากที่ได้รับสัญญาณจาก หนิง ซิวฮั่น เหล่าจ้าว จึงรีบสนับสนุน หนิง ซิวฮั่น ทันที

ส่วนความจริงเป็นอย่างไร? เย่เฉิน ออกสตาร์ทก่อนจริงหรือไม่?

นั่นไม่สำคัญเลย

เขาจะไปยอมขัดแย้งกับ หนิง ซิวฮั่น เพียงเพื่อ เย่เฉิน คนหนึ่งได้อย่างไร?

“จริงหรือ?”

ตัวแทนของสโมสรซุปเปอร์คาร์อีกแห่งหนึ่ง เผิงอิง พึมพำอย่างประหลาดใจ

หนิง ซิวฮั่น ไม่ได้พูดอะไรทันที แต่เดินเข้าไปกระซิบข้างๆ หู เผิงอิง เพียงไม่กี่คำ

ทันใดนั้นสีหน้าของ เผิงอิง ก็เปลี่ยนไป

“ใช่ ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของรองประธานหนิง”

ในที่สุด เผิงอิง ก็ต้องพยักหน้า

“แบบนี้ก็ถูกต้องแล้ว ผลประโยชน์ที่คุณควรได้ ..จะไม่ขาดไปแน่นอน”

เมื่อเห็นว่า เผิงอิง ตอบตกลง หนิง ซิวฮั่น ก็กระซิบรับประกันกับเธอ

“เราไปกันเถอะ ไปประกาศผลลัพธ์ที่ยุติธรรม และเป็นกลางกันเถอะ”

ภายใต้การนำของ หนิง ซิวฮั่น ทุกคนก็ไปยังจุดสำคัญของการแข่งขัน

เมื่อคนของสามสโมสรซุปเปอร์คาร์มาถึง คนของสโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี ที่ล้อมรอบ เย่เฉิน อยู่ก็เงียบลงทันที

พวกเขากำลังรอการประกาศผลสุดท้าย รอคอยช่วงเวลาที่สโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี จะได้เกียรติ และตำแหน่งเดิมกลับคืนมา

“ผมขอประกาศว่า เนื่องจาก เย่เฉิน ทำผิดกติกาโดยออกสตาร์ทก่อนหนึ่งวินาที ดังนั้นการแข่งขันในวันนี้จึงถูกยกเลิก”

หนิง ซิวฮั่น กล่าวด้วยเสียงดัง

“ถ้าครั้งหน้าสโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี ยังอยากท้าทายสโมสร TDC ก็ให้ไปที่หางโจว”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ผู้ชมในที่เกิดเหตุก็ส่งเสียงฮือฮากันดังลั่นทันที

“อะไรนะ?”

“ประธานออกสตาร์ทก่อนหรือ? เป็นไปไม่ได้!”

“ใช่แล้ว รถทั้งสองคันออกตัวพร้อมกันชัดๆ”

คนของสโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี พากันตื่นตระหนก

“ว่าแล้วเชียว”

“คิดจะชนะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของพวกเรา ที่แท้ก็ออกสตาร์ทก่อนสินะ”

“พวกแพ้แล้วแพ้อีกก็ยังเป็นแค่ไอ้พวกขี้แพ้ ต้องพึ่งพาแต่วิธีสกปรกๆ เท่านั้นแหละ”

เสียงถากถางนับไม่ถ้วนดังมาจากทางฝั่งสโมสรซุปเปอร์คาร์ TDC

ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามออกสตาร์ทก่อน ตำแหน่งหนึ่งในสี่สโมสรซุปเปอร์คาร์หลักของหางโจวก็ยังคงเป็นของพวกเขา TDC อยู่ดี!!

“คุณมีหลักฐานอะไรบอกว่าเราออกสตาร์ทก่อน?!”

“ประธานของเราไม่ได้ออกสตาร์ทก่อน”

คนของสโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี ออกมาปกป้อง เย่เฉิน

“เย่เฉิน ไม่ได้ออกสตาร์ทก่อนจริงๆ”

ในขณะนั้น สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น คือคนของ TDC เซี่ย หยางเผิง ออกมาพูดด้วย

ถึงแม้เขาจะเป็นคู่แข่ง และหวังที่จะชนะอีกฝ่าย แต่ เซี่ย หยางเผิง ก็เป็นคนที่ยึดมั่นในความจริง และเคารพคู่แข่งของเขาเช่นกัน

เขามั่นใจว่า เย่เฉิน ไม่ได้ออกสตาร์ทก่อน เย่เฉิน และเขาออกสตาร์ทพร้อมกันจากจุดเริ่มต้นในเวลาเดียวกัน

เมื่อ เซี่ย หยางเผิง ออกมาพูด สีหน้าของ ไป๋เย่า ก็เปลี่ยนเป็นดําคล้ำทันที

“เซี่ย หยางเผิง เป็นบ้าอะไร?!”

“เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่านะ ถึงได้ไปพูดแทนไอ้แซ่เย่คนนั้น!”

สมาชิกบางคนของสโมสร TDC ก็พูดด้วยความโกรธ

“เห็นไหม แม้แต่ เซี่ย หยางเผิง ยังพูดออกมาแล้ว”

“ตอนนี้คุณจะว่าไง?”

คนของ เฟิงหั่วเฮยฉี ตะโกนถาม หนิง ซิวฮั่น เสียงดัง

“คุณบอกว่าผมออกสตาร์ทก่อน มีหลักฐานอะไร? เอาออกมาเลยสิ”

เย่เฉิน ถาม หนิง ซิวฮั่น ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“หลักฐาน ไม่มีหลักฐาน”

ทว่าสิ่งนี้กลับทำให้ทุกคนประหลาดใจ หนิง ซิวฮั่น ตอบ เย่เฉิน อย่างไม่แยแสว่าเขา ..ไม่มีหลักฐาน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนของสโมสร เฟิงหั่วเฮยฉี ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เย่เฉิน ขมวดคิ้ว และถามไปอีกครั้งว่า :

“ไม่มีหลักฐาน แล้วคุณอ้างว่าออกสตาร์ทก่อนด้วยเหตุผลอะไร?”

“เหตุผล ..อะไรน่ะหรือ?”

หนิง ซิวฮั่น หัวเราะเยาะ

“ก็เพราะฉัน หนิง ซิวฮั่น เป็นคนของตระกูลหนิงในหางโจวไง!!!”

หนิง ซิวฮั่น เผยสถานะของตัวเองออกมาอย่างตรงไปตรงมา

ตระกูลหนิงในหางโจว?! (杭城宁家)

เพียงคำสั้นๆ สี่คำ แต่ดูเหมือนมีมนต์ขลัง ในชั่วพริบตา ทุกคนก็เงียบสนิท

ตระกูลหนิงในหางโจว เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ทรงพลังอย่างยิ่ง

ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลหนิงจากหางโจว…

ในงานนี้ คงไม่มีใครที่มีสถานะสูงกว่า หนิง ซิวฮั่น อีกแล้ว

“เป็นไงล่ะ ตอนนี้คุณยังจะพูดอะไรอีกไหม?”

หนิง ซิวฮั่น ยืนกอดอก และถาม เย่เฉิน

คนจากเจียงโจวจะมีแบ็คกราวด์(ภูมิหลัง)อะไรได้?

ด้วยความมั่นใจในตระกูลหนิงของหางโจว หนิง ซิวฮั่น จึงกล้าที่จะหยิ่งยโสถึงเพียงนี้

“เป็นไงล่ะ? เบื้องหลังของฉันคือทั้งตระกูลหนิงในหางโจว ฉันบอกว่าคุณทำผิดกติกา คุณก็ต้องทำผิดกติกา แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้?!”

หนิง ซิวฮั่น พูดอย่างท้าทาย

ในขณะนั้น หนิง ซิวฮั่น หยิ่งยโส และโอหังถึงขีดสุด!

“เป็นไงนะหรือ?”

เย่เฉิน พูดขึ้น ไม่ใช่ว่านั่นแค่ตระกูลใหญ่ในหางโจวหรอกหรือ?

วินาทีต่อมา ก่อนที่ เย่เฉิน จะพูดอะไรต่อ เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นอย่างกระทันหัน

“เป็นไงหรือ? แกมันยังไม่คู่ควรให้ คุณชายเย่ ลงมือสั่งสอนแกหรอกนะ และฉันจะเป็นผู้ลงมือสั่งสอนแกแทน คุณชายเย่ เอง”

เพี๊ยะ!!!

เสียงฝ่ามือดังกังวานทันทีที่คำพูดนั้นจบลง

ในพริบตา ใบหน้าของ หนิง ซิวฮั่น ก็ปรากฏรอยแดงจากฝ่ามือ

ภาพนี้ทำให้ทุกคนในที่เกิดเหตุตกตะลึงทันที

เกิดอะไรขึ้น?

ใครกล้าลงมือกับ หนิง ซิวฮั่น?

บ้าจริง!

คนนี้มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!!!

หนิง ซิวฮั่น เป็นคนของตระกูลหนิงในหางโจว มีใครกล้าลงมือกับคนของตระกูลหนิงหรือไม่ ไม่แน่นอน.. และนี่คือเขาคิดจะรับมือกับการแก้แค้นจากตระกูลหนิง อย่างนั้นหรือ?

“เชี้ยยแมร้ง ใครมันกล้าตบฉัน!”

หนิง ซิวฮั่น กุมใบหน้า และเดือดดาลเหมือนเม่นที่พองขน

“ฉันลงมือแทน คุณชายเย่ เองแล้วจะทำไม แกมีความเห็นอะไรหรือไม่?!”

ในขณะนั้น ชายปริศนาคนหนึ่งเดินออกมา และถาม หนิง ซิวฮั่น อย่างกราดเกรี้ยว

“ผม...”

หนิง ซิวฮั่น พยายามจะเถียงกลับ

แต่ทันทีที่เขาเห็นหน้าตาของคนที่ลงมือ เขาก็แสดงความหวาดกลัวออกมาทันที

เป็นไปได้อย่างไร?