ตอนที่แล้วบทที่ 63​ : วิชาปราณน้ำเเข็ง​เพลิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 65​ : หนูสายฟ้า​

บทที่ 64​ : โอกาสในการวิวัฒนาการของหมัดสวรรค์ห้าสายฟ้า!


บทที่ 64​ : โอกาสในการวิวัฒนาการของหมัดสวรรค์ห้าสายฟ้า!

“พลังปราณขอบเขต​ก่อกำเนิด​?”

องครักษ์สิบสามมองหลินเสวียนด้วยความตกตะลึง

เขาไม่คิดว่าหลินเสวียนจะสามารถฝึกฝนพลังปราณขอบเขต​ก่อกำเนิด​ออกมาได้ภายในเวลาสั้นๆแบบนี้

การฝึกฝนพลังปราณขอบเขต​ก่อกำเนิด​ออกมาได้….หมายความว่าผู้ฝึก​ยุทธ​์คนนั้นได้เริ่มทะลวงสู่ขอบเขต​ก่อกำเนิด​เเก่น​เเท้​แล้ว!

เเละเมื่อผู้ฝึก​ยุทธ​์ฝึกฝนพลังปราณขอบเขตก่อกำเนิด​​ได้ครบเก้าสาย ก็จะสามารถเปลี่ยนร่างกายเป็นร่างกาย​ก่อกำเนิด…เเล้ว​ก้าวเข้าสู่ขอบเขต​ก่อกำเนิด​เเก่น​เเท้​ได้อย่างเป็นทางการ

…..

[การก่อตัวของพลังปราณขอบเขต​ก่อกำเนิด​​สายแรก ส่งผลกระทบต่อวิชา​ระฆัง​ทองคำ​อมตะ​!]

[วิชา​ระฆัง​ทองคำ​อมตะ​ได้รับการกระตุ้นจากพลังปราณขอบเขต​ก่อกำเนิด….ทะลวงขั้นสุดท้ายสำเร็จ, เลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับขั้นต้น พลังป้องกันเพิ่มขึ้นสองเท่า!]

[วิชา​ระฆัง​ทองคำ​อมตะ​เปลี่ยนชื่อเป็น ระฆัง​ทองคำเพลิงอมตะ!]

………

ในขณะเดียวกันนั้น, วิชา​ระฆัง​ทองคำ​อมตะ​ก็เลื่อนระดับได้สำเร็จ!

“เยี่ยมมาก!” หลินเสวียนดีใจมาก

หลินเสวียนไม่คิดว่า แค่การปรุงยาไม่กี่เตาเพื่อเตรียมตัวสำหรับการทะลวงระดับสู่ขอบเขต​ก่อกำเนิด​เเก่น​เเท้​ของเขา…กลับทำให้คัมภีร์​เตาหลอมโลหิตค้นพบหนทางในการเลื่อนระดับ!

แถมวิชา​ฝึก​ปราณ​ขั้น​พื้นฐาน​และวิชา​ระฆัง​ทองคำ​อมตะ​ก็ยังเลื่อนระดับได้สำเร็จ

[ในขณะที่พระน้อยกำลังหลับใหล เหมือนจะได้ยินว่ามีใครบางคนกำลังดูถูกระดับสีเหลือง?]​

[ระดับลึกลับมันแข็งแกร่งมากเหรอ?]​

[พระน้อยถึงจะเป็นคนพิการ, แต่ตอนนี้ก็เป็นระดับลึกลับ​แล้ว]​

[พวกที่อวดอ้างว่าแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าจะแค่ระดับเดียวกับคนพิการอย่างพระน้อยเท่านั้น]​

วิชา​ระฆัง​ทองคำ​เพลิงอมตะ​ที่เพิ่งจะตื่นขึ้น​มา…ก็หาเรื่องดาบคลั่งสังหารวิญญาณทันที!

“หึ…รอดูกันไปเถอะ!” ดาบคลั่ง​สังหารวิญญาณพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

จากนั้น, มันก็ไม่สนใจวิชา​ระฆัง​ทองคำ​เพลิงอมตะ​อีก

หลินเสวียนยกยิ้มกับการทะเลาะ​กันของเหล่าเคล็ดวิชา

จากนั้น​เขาก็ลุกขึ้นโค้งคำนับองครักษ์สิบสามแล้วพูดว่า

“ขอบคุณท่านองครักษ์สิบสามมาก…ที่คอยช่วยคุ้มกันข้า”

“หลินเสวียน, เจ้าไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก!” องครักษ์สิบสามโบกมือ

“จริงสิ ท่านองครักษ์สิบสาม…ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่ายังมีอีกภารกิจที่อยากให้ข้าทำใช่ใหม?”

“ใช่เเล้ว…เเละเวลามันใกล้จะหมดแล้ว, พวกเรารีบออกเดินทางไปทำภารกิจนั้นกันเถอะ!”

เมื่อองครักษ์สิบสามพูดจบ, เขาก็หยิบขลุ่ยออกมาเป่าเบาๆ

จากนั้น, นกอินทรีปีกสีเขียวตัวหนึ่งก็บินลงมาจากก้อนเมฆ

ทางด้านหลินเสวียนก็เรียกนกอินทรีปีกสีเขียวของเขามาเช่นกัน!

ทั้งคู่กระโดดขึ้น, ไปอยู่บนหลังของนกอินทรีปีกสีเขียว

เเล้วองครักษ์สิบสามก็นำทางมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง

……

“ภารกิจครั้งนี้ไม่ยาก”

“แค่ไปจัดการสัตว์อสูรระดับหลอมรวมลมปราณขั้นที่เก้าตัวหนึ่งเท่านั้น”

องครักษ์สิบสามอธิบายบนหลังของนกอินทรีปีกสีเขียว

“สัตว์อสูรเหรอครับ?” หลินเสวียนถามอย่างสงสัย

“ใช่แล้ว!”

“ที่เมืองเทียนเป่ยมีตระกูลหนึ่งที่ชื่อว่าตระกูลตู้”

“สถานะของพวกเขาในเมืองเทียนเป่ยก็เหมือนกับตระกูลหลินของเจ้า ในเมืองหลางหยา”

“ตระกูลตู้ทำงานให้กับพวกเรามาตลอด…เเละส่วนใหญ่ก็คือขุดศิลาวิญญาณ” องครักษ์สิบสามอธิบาย​

“ขุดศิลาวิญญาณเหรอครับ?”

หลินเสวียนรู้สึกสนใจขึ้นมทันที​

เขาเองก็พอจะรู้ที่มาของศิลาวิญญาณอยู่บ้าง

ศิลาวิญญาณ…มักจะเกิดขึ้นในภูเขา

เเละส่วนใหญ่มักจะเกิดควบคู่ไปกับแร่ชนิดอื่นๆ

ยกตัว​อย่างเช่น, บริเวณที่มีเหมืองเหล็กหรือเหมืองทองแดงขนาดใหญ่

บริเวณ​พวกนั้นมักจะมีศิลาวิญญาณปรากฏ​ขึ้น

ยิ่งเป็นแหล่งแร่ล้ำค่ามากเท่าไหร่, โอกาสที่จะเกิดศิลาวิญญาณก็ยิ่งสูง เเละคุณภาพของศิลาวิญญาณก็จะยิ่งดีมากเท่านั้น​

“อืม!”

“สำนักเทียนเซียวมีเหมืองเหล็กแห่งหนึ่ง….และที่​นั่นมันมีศิลาวิญญาณปรากฏ​ขึ้นควบคู่ไปด้วย”

“ปริมาณศิลาวิญญาณไม่มาก เดือนละประมาณสามร้อยก้อน, เเต่ถ้าโชคดีก็อาจจะขุดเจอศิลาวิญญาณระดับกลางบ้าง”

“เเละตระกูลตู้เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด” องครักษ์สิบสามอธิบายต่อ

การขุดศิลาวิญญาณนั้นยุ่งยากมาก

แหล่งแร่ทอดยาวตามภูเขาไปหลายลูก….เรียกได้ว่ายากที่จะหาพบ

บางครั้ง, ขุดลึกลงไปเป็นร้อยเมตรก็ยังหาศิลาวิญญาณไม่เจอ

งานหนักเเละเสียเวลาแบบนี้, ผู้ฝึก​ยุทธปกติ​์ไม่ค่อยอยากจะทำหรอก

แต่สำหรับคนธรรมดา, มันกลับเป็นงานที่ทำกำไรมหาศาล…เพราะสำนักเทียนเซียวให้ค่าตอบแทนสูงมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้รับการคุ้มครองจากสำนักเทียนเซียวอีกด้วย​!

“แต่เดือนที่แล้ว, ศิลาวิญญาณที่ตระกูลตู้นำมาส่งกลับน้อยลงไปครึ่งหนึ่ง”

“จากรายงานของตระกูลตู้ พวกเขาบอกว่าทุกครั้งที่ขุดศิลาวิญญาณได้…พวกเขาก็จะถูกปล้น”

“เเละคนที่ลงมือ…เป็นสัตว์อสูร!”

“สัตว์​อสูร​ตัวนี้รวดเร็วมาก, พวกเขามองไม่ทันว่ามันเป็นตัวอะไร”

“แค่เห็นแสงวาบหนึ่ง คนงานเหมืองหลายคนก็ถูกไฟฟ้าช็อตตาย…เหลือไว้แค่ศพไหม้เกรียม” องครักษ์สิบสามเล่าเรื่องราวคร่าวๆ

“เป็นแบบนี้นี่เอง!”

“ภารกิจของพวกเราคือการกำจัดสัตว์อสูรตัวนั้นใช่ไหมครับ?”

“ใช่แล้ว!”

“แต่สัตว์อสูรตัวนี้ เจ้าเล่ห์มาก”

“มันลงมือมาหลายครั้ง ปล้นศิลาวิญญาณของเราไปเยอะ….แต่จนถึงตอนนี้ คนงานเหมืองก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไร”

“พวกเราแค่คาดเดาว่ามันน่าจะมีระดับพลังขอบเขต​หลอม​รวม​ลมปราณขั้นที่เก้าเป็นอย่างน้อย!” องครักษ์สิบสามอธิบาย​

“งั้นเราก็คงต้องไปตามหามันให้เจอก่อน!” หลินเสวียนยิ้ม

“ถูกต้อง….เอาล่ะ​, เรามาถึงแล้ว!”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน

องครักษ์สิบสามก็ชี้ไปที่ภูเขาลูกแล้วลูกเล่าที่ทอดยาวอยู่เบื้องล่าง

ในภูเขา​เหล่านั้น, มีภูเขาบางลูกที่ถูกขุดจนกลวงไปแล้ว

ส่วนภูเขาบางลูก, ก็กำลังอยู่ในระหว่างการขุด

หลินเสวียนมองลงไปจากมุมสูง ก็เห็นคนงานเหมืองกำลังขุดแหล่งแร่อยู่ทั่วทุกทิศทาง!

“ไปกันเถอะ!”

“ศูนย์บัญชาการอยู่ทางนั้น!”

องครักษ์สิบสามชี้ไปที่บ้านเรือนหลังหนึ่ง และควบคุมนกอินทรีปีกสีเขียว บินไปพร้อมกับหลินเสวียน

……

“เซียน!”

“เซียนจากสำนักเทียนเซียวมาแล้ว!”

นกอินทรีปีกสีเขียวสองตัวร่อนลงมา พร้อมลมแรงพัดกระหน่ำ

ฉากนี้, ทำให้คนงานเหมืองหลายคนต่างก็ร้องตะโกนด้วยความเคารพ

คนงานเหมืองหลายคน, ถึงกับคุกเข่ากราบไหว้!

จากนั้น, ภายในบ้านเรือนก็มีคนวิ่งออกมายืนรอต้อนรับหลินเสวียนและองครักษ์สิบสามด้วยความเคารพ

“ฟุบ!”

“พวกข้า, คารวะท่านเซียน!”

เมื่อหลินเสวียนและองครักษ์สิบสามลงสู่พื้น, ทุกคนต่างก็โค้งคำนับ

“ใครเป็นผู้รับผิดชอบดูแล​ที่เเห่งนี้!”

องครักษ์สิบสามกวาดสายตามองทุกคนแล้วถาม

ท่าทางของเขาดูเย่อหยิ่ง​ ต่างจากตอนที่อยู่ที่ตระกูลหลินโดยสิ้นเชิง

“ตู้คง, คารวะท่านเซียนทั้งสอง!”

ท่ามกลางฝูงชน ชายชราคนหนึ่งที่สวมชุดหรูหรารีบเดินออกมทันที​

เขาค้อมศีรษะ, ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลเเละไม่กล้าสบตากับองครักษ์สิบสาม

เขาคือตู้คง…เจ้าบ้านตระกูลตู้!

“ตู้คง?”

“เจ้าน่าจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลตู้!”

“ในเมื่อรู้ตั้งนานแล้วว่าจะมีสัตว์อสูรมาแย่งชิงศิลาวิญญาณ, ทำไมถึงไม่รีบรายงาน?”

องครักษ์สิบสามพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

แค่ประโยคเดียวของเขา, ก็ทำให้เจ้าบ้านตระกูลตู้เหงื่อตก!

“ตระกูลตู้ไร้ความสามารถ…ขอท่านเซียนอภัยให้ด้วย!”

ตู้คงรีบคุกเข่าลง

เเละคนที่อยู่ด้านหลังที่เห็นดังนั้นต่างก็รีบคุกเข่าตาม…เเละไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจ!

“ขอโทษแล้วจะได้อะไร?”

“พวกเจ้าทำให้ชื่อเสียง​สำนักเทียนเซียวของข้าเสียหาย…ตระกูลตู้ของพวกเจ้ารับผิดชอบไหวเหรอ?”

“ถ้าตระกูลตู้ทำไม่ได้ ก็ให้ตระกูลจ้าว ตระกูลหลี่มาทำแทน…ยังไงก็ต้องมีคนที่ทำได้”

องครักษ์สิบสามพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ข้า ข้าไม่กล้า!”

“ขอท่านเซียนอภัยให้ด้วย!”

“ถ้าหากเรื่องนี้ได้รับการแก้ไข ตระกูลตู้ของพวกเรายินดีมอบของกำนัลล้ำค่าเพื่อไถ่โทษ!”

ตู้คงก้มหน้าลงและโค้งคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าขององครักษ์สิบสามก็ผ่อนคลายลง

เขาหันไปมองหลินเสวียนและพูดว่า

“ไปขอร้องข้าก็ไม่มีประโยชน์, ครั้งนี้ ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เป็นผู้รับผิดชอบ”

“ขอท่านเซียนเมตตาด้วย!”

“ไม่ว่าท่านเซียนจะมีคำสั่งใด, ตระกูลตู้ของพวกเรายินดีทำตามอย่างเต็มที่!”

ตู้คงได้ยินดังนั้น, ก็รีบโค้งคำนับให้หลินเสวียนทันที​

“พอแล้ว!”

“รีบเล่าเรื่องราวโดยละเอียดมาเถอะ!”

หลินเสวียนพูดอย่างแผ่วเบา

“ขอบพระคุณท่านเซียน!”

ตู้คงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดว่า

“สัตว์อสูรตัวนี้ มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย”

“ทุกครั้งที่พวกเราขุดศิลาวิญญาณได้…มันก็จะปรากฏตัวขึ้นทันที​”

“เช้าวันนี้, ก็มีศิลาวิญญาณถูกปล้นไปอีก…แถมยังมีคนงานเหมืองตายไปสามคน!”

ตู้คงพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น

“มีศิลาวิญญาณถูกปล้นไปอีกแล้วงั้นเหรอ?”

บนใบหน้าขององครักษ์สิบสามเผยความโกรธออกมา

ส่วนเรื่องที่คนงานเหมืองตาย… องครักษ์สิบสามไม่สนใจแม้แต่น้อย!

“ใช่ครับ!”

“แต่ครั้งนี้ไม่มาก​ แค่สามก้อนเท่านั้น!”

ตู้คงรีบพูดด้วยท่าทางหวาดกลัว

“ส่วนใหญ่แล้ว, มันเกิดเหตุที่ไหน?”

หลินเสวียนถามอย่างใจเย็น

“ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเหมืองแถวนั้น!”

ตู้คงรีบชี้ไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง, ที่ถูกขุดไปแล้วหนึ่งในสาม

“พาพวกเราไปยังจุดที่เกิดเหตุเมื่อเช้านี้!” หลินเสวียนพูดอย่างเฉยเมย

“ขอรับ!”

ตู้คงไม่กล้าลังเล

เขาลุกขึ้น…พาหลินเสวียนและองครักษ์สิบสาม มุ่งหน้าไปยังเหมืองที่เกิดเหตุ

จากนั้น​ไม่นานนัก!

หลินเสวียนและองครักษ์สิบสามก็มาถึงเหมืองที่เกิดเหตุ

บนภูเขานั้นมีอุโมงค์เหมืองมากมาย

ที่ปากทางเข้าอุโมงค์เหมืองแห่งหนึ่ง…มีศพไหม้เกรียมสามศพที่ยังไม่ได้รับการจัดการ

“เรียนท่านเซียน!”

“เมื่อเช้าเกิดเหตุในอุโมงค์เหมืองแห่งนี้!” ตู้คงพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“ไปกันเถอะ!”

“ลงไปดูข้างในกัน!”

หลินเสวียนพยักหน้า, จากนั้นก็เดินเข้าไปในอุโมงค์เหมือง

…….

ตลอดทาง…องครักษ์สิบสามพยายามสัมผัสร่องรอยของสัตว์อสูร แต่เขาก็ไม่พบอะไรเลย

“มันซ่อนตัวเก่งจริงๆ!” องครักษ์สิบสามขมวดคิ้ว

ทุกครั้งที่เขาทำภารกิจ สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือต้องเจอกับเรื่องแบบนี้

ต้องเสียเวลาและพลังงานเพื่อการตามล่าเป้าหมาย​!

“ลำบากท่านเซียนทั้งสองแล้ว!”

“จุดที่เกิดเหตุเมื่อเช้าอยู่ตรงนี้!”

ไม่นานนัก, เจ้าบ้านตระกูลตู้​ก็ชี้ไปที่บริเวณที่ไหม้เกรียมและพูดขึ้น

ตรงนี้​เป็นผนังเหมืองที่ถูกขุดไปแล้ว….เเต่ตอนนี้​มันยังมีร่องรอยไหม้เกรียมและยังคงมีกลิ่นอายของศิลาวิญญาณอยู่

“อืม!”

หลินเสวียนพยักหน้า, หยิบศิลาวิญญาณออกมาห้าก้อนและเริ่มปล่อยพลังปราณออกมา

“ตูม!”

หลินเสวียนที่เพิ่งจะปล่อยพลังปราณจากศิลาวิญญาณ​!

ทันใดนั้น, ภายในอุโมงค์เหมืองอีกแห่งก็มีรังสีเเห่งความเกรี้ยวกราดปะทุขึ้น!

จากนั้น…เงาร่างขนาดเท่าฝ่ามือก็พุ่งเข้าหาหลินเสวียนอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้า!

“หมัดสวรรค์ห้าสายฟ้า!”

“ตูม!”

หลินเสวียนเตรียมตัวไว้แล้ว เขาจึงปล่อยหมัดออกไปพุ่งชนแสงสว่างเจิดจ้านั้น!

ตูมมมมม!

หมัดของหลินเสวียนกระแทกเข้ากับร่างของสัตว์อสูร

ร่างของมันสั่นสะเทือนเเละปล่อยลำแสงสายฟ้าเจิดจ้าออกมา!

[หมัดสวรรค์ห้าสายฟ้าได้รับการชำระล้างจากสายฟ้า…เกิดความรู้สึกเข้า​ใจบางอย่าง!]

ในที่สุด!

โอกาสในการวิวัฒนาการของหมัดสวรรค์ห้าสายฟ้าก็มาถึงแล้ว!

………………

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด