บทที่ 21 การแย่งชิงเงา
7:20 น. นาฬิกานับถอยหลัง 16:40:00
ชิงเฉินวิ่งรอบหมู่บ้านสามรอบ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็นเจียงเสวียกำลังตากเสื้อผ้าของเขาอยู่บนระเบียงชั้นบน ช่วงนี้เขายุ่งกับเรื่องการข้ามมิติจนสะสมเสื้อผ้าไว้มากมาย แต่เดิมตั้งใจจะซักเมื่อวานแต่ก็ถูกเจียงเสวียแย่งไปซักเสียก่อน
เจียงเสวียเห็นเขาก็ยิ้มทักทายผ่านหน้าต่าง "ชิงเฉิน ฉันต้มโจ๊กไว้แล้ว ขึ้นมาทานสิ"
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องหรอก" ชิงเฉินรีบโบกมือปฏิเสธ แล้วกินขนมปังกรอบไปโรงเรียน
หลายปีมานี้ เขาไม่เคยเจอใครดีกับเขาขนาดนี้มานานแล้ว จึงยังไม่ค่อยชินนัก
เมื่อเข้าประตูโรงเรียน ชิงเฉินเห็นคนมากมายวิ่งไปที่อาคารเรียนมัธยมปลาย พอดีเจอหนานเกิงเฉินกำลังวิ่งอยู่ จึงถามด้วยความสงสัย "เกิดอะไรขึ้นหรือ?"
"นายไม่ได้ดูกลุ่มแชทห้องเรียนหรือไง? ห้องข้างๆ เรามีคนข้ามมิติมาจริงๆ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องเรียนน่ะ" หนานเกิงเฉินตอบอย่างหอบแฮ่ก
"เดี๋ยวก่อน พวกนั้นรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนข้ามมิติ?" ชิงเฉินสงสัย เมื่อวานเขาก็ไม่เห็นมีใครในห้องข้างๆ มีแขนขาเป็นกลไกนี่
หนานเกิงเฉินตอบ "ก็เขาโม้เองน่ะสิ อดใจไว้ได้วันเดียว แล้วเมื่อคืนคุยกับเพื่อนก็เผลอหลุดปากออกมา"
ชิงเฉินฟังแล้วขมวดคิ้ว
โรงเรียนหนึ่งมีนักเรียนประมาณสองพันกว่าคน ในจำนวนคนข้ามมิติที่รู้จักกันแล้ว แค่โรงเรียนนี้ก็มีถึงสี่คน แล้วทั้งประเทศจะมีกี่คนกัน? ถึงแม้จะมีแค่สิบกว่าเมืองในประเทศที่มีคนข้ามมิติ แต่จำนวนรวมก็คงไม่น้อยแน่
ชิงเฉินนึกขึ้นได้ว่า ต่อไปจะมีคนจากทั่วประเทศหลั่งไหลเข้ามาในสิบกว่าเมืองนี้ โดยหวังว่าตัวเองจะได้เป็นคนข้ามมิติรุ่นที่สาม สี่ หรือห้าหรือไม่?
ชิงเฉินกับหนานเกิงเฉินวิ่งไปที่ห้องเรียน แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเข้าไปดูให้ชัดๆ หัวหน้าฝ่ายปกครองก็พาครูหลายคนมาพานักเรียนที่อ้างว่าตัวเองเป็นคนข้ามมิติออกไปแล้ว
"พวกเรามาสายไปแล้วว่ะ!" หนานเกิงเฉินบ่น
ชิงเฉินไม่สนใจเรื่องนี้อีก หันไปดึงหนานเกิงเฉินกลับห้องเรียนของตัวเอง
ตามที่เขาคาดเดา คนจากองค์กรลับนั่นคงจะมาถึงโรงเรียนในไม่ช้า คืนนี้ใกล้จะถึงเวลาข้ามมิติแล้ว เขาไม่อยากมีเรื่องยุ่งยากเพิ่มขึ้น
เขาก็ไม่แน่ใจว่าองค์กรลับนั้นเห็นหน้าเขาหรือเปล่า พวกนั้นสามารถจำกัดการเดินทางของเจียงเสวียได้ ก็น่าจะสามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนได้ด้วยใช่ไหม?
แม้ว่าบริเวณที่เขาอยู่จะค่อนข้างเก่าและมีกล้องวงจรปิดน้อย และวันนั้นเขาก็เลือกเดินเฉพาะที่ไม่มีกล้อง แต่ชิงเฉินก็ไม่กล้ารับรองว่าพวกนั้นจะตามหาเขาไม่เจอ
ตลอดทั้งวัน ชิงเฉินอยู่แต่ในห้องเรียนอย่างว่าง่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับองค์กรลับนั้น
เว้นแต่ไปห้องน้ำ เขาไม่ออกจากห้องเรียนแม้แต่ก้าวเดียว
"ชิงเฉิน ชิงเฉิน ดูเร็ว" หนานเกิงเฉินบอก "เหอเสี่ยวเสี่ยวอัปเดตคู่มือใหม่แล้ว!"
ดวงตาของชิงเฉินเป็นประกายทันที จนถึงตอนนี้ ในบรรดาคนข้ามมิติที่ออกมาแนะนำโลกอีกมิติ คู่มือของเหอเสี่ยวเสี่ยวยังคงน่าสนใจที่สุด
คนอื่นๆ แค่อธิบายภาพรวมของโลก หรือให้ข้อมูลเพียงบางส่วน
แต่เหอเสี่ยวเสี่ยว ผู้เล่นเกมระดับสูงคนนี้ กลับแบ่งปันข้อมูลที่มีประโยชน์จริงๆ
เช่น ศาลต้องห้าม หลี่ซูถง ยาปรับเปลี่ยนยีน สิ่งเหล่านี้คนข้ามมิติส่วนใหญ่ยังไม่เคยสัมผัส
แต่ทำไมเหอเสี่ยวเสี่ยวถึงหายไปกะทันหันแล้วกลับมาอีกครั้ง? ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ชิงเฉินเปิดวิดีโอในโทรศัพท์
"สวัสดีครับทุกคน ผมเหอเสี่ยวเสี่ยว เนื่องจากเหตุผลพิเศษบางประการ เมื่อวานผมไม่สามารถให้คู่มือใหม่แก่ทุกคนได้"
"วันนี้ผมจะนำเสนอคู่มือที่สรุปเวอร์ชันข้อมูลปัจจุบันของเกมในโลกอีกมิติ: การแย่งชิงเงาของตระกูลชิง"
"ตระกูลชิงเป็นหนึ่งในห้าบริษัทใหญ่ของโลกอีกมิติ ส่วน 'เงา' คือผู้ที่ควบคุมอำนาจทั้งหมดในโลกใต้ดินภายในกลุ่มบริษัทชิง"
"นี่เป็นประเพณีที่สืบทอดมานานนับพันปีของตระกูลชิง ทุกๆ ระยะหนึ่งจะมีการเลือก 'เงา' คนใหม่ เกิดเป็นเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจของเหล่าทายาท ผู้สมัครเป็นเงาทุกคนต้องผ่านการทดสอบที่โหดร้ายที่สุด"
"ขณะนี้มีผู้สมัครเป็นเงาที่เป็นที่รู้จักแล้ว 8 คน พวกเขาแต่ละคนล้วนมีพรสวรรค์พิเศษ ทั้ง 8 คนนี้มีชื่อว่า ชิงหุ้ย ชิงเหวิน ชิงซือ... แต่ยังมีอีกคนที่ลึกลับมาก ผมยังไม่สามารถสืบหาตัวตนของเขาได้"
ชิงเฉินไม่รู้ว่าหลี่ซูถงเคยคาดเดาว่าเขาอาจเป็นผู้สมัครเป็นเงา เขาถึงกับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการปรากฏตัวของเขาที่เรือนจำหมายเลข 18 มีความหมายอะไร
แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงปรากฏตัวที่เรือนจำหมายเลข 18
ต้องยอมรับว่า คู่มือของเหอเสี่ยวเสี่ยวช่วยเหลือเขาได้มากทุกครั้ง
นาฬิกานับถอยหลัง 6:19:29 เวลาผ่านไปจนถึงบ่าย ชิงเฉินก็ยังไม่เห็นคนจากองค์กรลับมาที่โรงเรียน ส่วนนักเรียนจากห้องข้างๆ ก็ยังไม่กลับมา ได้ยินว่าถูกผู้ปกครองพากลับบ้านไปคิดทบทวนตัวเอง
เวลาข้ามมิติใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชิงเฉินรู้สึกได้ชัดว่าหนานเกิงเฉินกำลังตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าไอ้นี่ข้ามมิติไปเรือนจำหมายเลข 18 จริงๆ ก็คงต้องช่วยมันหน่อยแล้วละ ถึงแม้จะเสี่ยงที่จะถูกจับได้ก็ตาม
"สมมติว่านะ ฉันแค่สมมติ ถ้าคืนนี้นายข้ามมิติ ต้องระวังตัวให้ดีล่ะ นายก็เห็นคนในเน็ตพูดแล้วนี่ โลกอีกมิติไม่ปลอดภัยหรอก" ชิงเฉินกำชับหนานเกิงเฉิน สีหน้าของหนานเกิงเฉินดูไม่เป็น
สีหน้าของหนานเกิงเฉินดูไม่เป็นธรรมชาติ "ฉัน... ฉันไม่ใช่คนข้ามมิตินะ"
"นายรู้ตัวเองดีก็พอ" ชิงเฉินไม่พูดอะไรต่อ
ตกเย็น ชิงเฉินหนีเรียนกลับบ้าน แล้วรอคอยการนับถอยหลังเพื่อข้ามมิติอย่างใจจดใจจ่อ
เขาหลับตาพักผ่อน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก ชิงเฉินเปิดประตูเห็นเจียงเสวียยืนอยู่ข้างนอก "มีอะไรหรือครับ คุณป้าเจียง?"
เจียงเสวียลังเลครู่หนึ่งก่อนพูดว่า "หนูก็รู้ว่าป้าเป็นคนข้ามมิติ อีกไม่นานก็จะถึงเวลานับถอยหลังแล้ว โลกอีกมิตินั้นอันตรายมาก ป้าก็ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาได้อีกหรือเปล่า ถ้าพรุ่งนี้ป้ากลับมาไม่ได้อย่างปลอดภัย หนูช่วยดูแลเสี่ยวอวิ๋นแทนป้าสักวันได้ไหม?"
ชิงเฉินตกใจเล็กน้อย "ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ คุณป้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน"
เจียงเสวียส่ายหน้า "หนูไม่รู้หรอกว่าโลกนั้นอันตรายแค่ไหน แต่ป้ารู้ดี ที่นั่น ถ้าไม่มีพื้นหลังจากห้าตระกูลใหญ่ ชีวิตคนไม่มีค่าอะไรเลย ป้าไม่ได้ให้หนูช่วยดูแลเสี่ยวอวิ๋นนานหรอก ย่าของเธอจะมาจากเมืองเจิ้งพรุ่งนี้..."
"ได้ครับ ผมสัญญา แต่ผมก็ยังหวังว่าคุณป้าจะไม่เป็นอะไรนะ" ชิงเฉินพยักหน้า
"ขอบใจนะ" พูดจบ เจียงเสวียก็ยื่นกุญแจให้ชิงเฉินดอกหนึ่ง "เอากุญแจไว้ที่หนูอีกดอกหนึ่ง ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หนูจะได้เปิดประตูเข้าไปได้สะดวก"
พูดจบเจียงเสวียก็หันหลังเดินจากไป
ชิงเฉินยืนนิ่งอึ้งไปหลายวินาที เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะให้กุญแจบ้านกับเขา
นี่คงถือเป็นความไว้วางใจอย่างหนึ่งสินะ?
นาฬิกานับถอยหลัง 00:09:59 ชิงเฉินใช้เวลาช่วงสุดท้ายนี้อมแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็กไว้ในปาก
เขาอยากทดลองดูว่าของที่ซ่อนไว้ในร่างกายจะสามารถผ่านกำแพงเวลานั้นไปได้หรือไม่
จากนั้นเขาก็บิดแขนตัวเองให้เป็นสีม่วงอีกครั้ง
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ชิงเฉินสูดหายใจลึก
นาฬิกานับถอยหลัง: 00:00:10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 โลกแตกสลาย
แล้วก็รวมตัวกันใหม่