ตอนที่ 28 ฆ่าได้ แต่อย่ามาทำผมเสียทรง
เฉินหยางพูดว่า “เอาล่ะ ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง พูดความจริงมา ลิงน้ำตัวนี้เธอได้มายังไง?”
กวนจินเฟิงถึงกับทรุดลงกับพื้น ร้องไห้โฮ “หยางหย่งซิง ไอ้ผู้ชายคนนั้น!”
“หยางหย่งซิง? ใคร?” เฉินหยางถามอย่างสงสัย
หยางซือจวินที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “แม่ ชื่อนี้มันคุ้นๆ นะ!
“ใช่! น่าจะเป็นพ่อของหนูใช่ไหม”
กวนจินเฟิงพูดด้วยความเสียใจ “เขาไม่ใช่พ่อของลูก เขาเป็นสัตว์ร้าย!”
“วิชาเลี้ยงลิงน้ำนี้ แม่ก็เรียนมาจากพ่อของลูก เขาก็เลี้ยงลิงน้ำไว้ตัวหนึ่ง ลิงน้ำที่เขาเลี้ยงก็กินคนเหมือนกัน!”
“ตากับยายของลูกก็โดนลิงน้ำของเขากินไปแล้ว!”
“แม่เคยทะเลาะกับเขามาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมกลับตัว แม่กลัวว่าจะไปทำร้ายลูกกับน้องสาว จึงพาพวกลูกหนีออกมา”
“ไม่คิดเลยว่าจะถูกเขาเจอ เขากลัวว่าแม่จะแจ้งตำรวจ จึงจับตัวน้องสาวของลูกไปเป็นตัวประกัน”
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม่เอาแต่คิดจะไปช่วยน้องสาวของลูกออกมาจากเงื้อมมือของปีศาจร้าย ไม่เคยคิดจะล้างแค้นให้ตากับยายเลย”
“สุดท้ายแม่ก็หมดหนทาง จึงคิดจะเลี้ยงลิงน้ำบ้าง และจะต้องเป็นลิงน้ำที่แข็งแกร่งกว่าของเขา”
“แบบนี้ถึงจะเอาชนะลิงน้ำของพ่อลูกได้ แล้วค่อยพาน้องสาวของลูกกลับมา”
“แต่แม่… แต่แม่ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นแบบนี้!”
กวนจินเฟิงเสียใจมาก
“แม่! ทำไม… ทำไมแม่ไม่บอกหนูตั้งแต่แรก!”
หยางซือจวินกอดแม่ร้องไห้โฮ
กวนจินเฟิง “แม่จะกล้าบอกได้ยังไง ถ้าบอกหนูไป พ่อของลูกจะฆ่าน้องสาวของลูกแน่”
“โชคดีที่ตลอดหลายปีมานี้แม่ทำงานเป็นภารโรงอยู่ที่มหาวิทยาลัยซูโจว ได้เห็นน้องสาวของลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
เฉินหยางเข้าใจแล้ว
ที่แท้กวนจินเฟิงเรียนวิชาเลี้ยงลิงน้ำมาจากพ่อของหยางซือจวินนี่เอง
“บอกมา ตอนนี้หยางหย่งซิงอยู่ที่ไหน?” เฉินหยางถาม
กวนจินเฟิงส่ายหน้า “ไม่รู้ ฉันไม่ได้ติดต่อกับเขามานานแล้ว”
“แล้วเธอรู้ไหม พ่อของเธออยู่ที่ไหน?” เฉินหยางมองหยางซือจวิน
หยางซือจวินส่ายหน้า “ฉัน… ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เฉินหยางพูดกับกวนจินเฟิง “ในเมื่อนี่เป็นความผิดครั้งแรก เรื่องนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องเอาความอะไร แต่ต่อไปห้ามเลี้ยงลิงน้ำอีก และห้ามเผยแพร่วิชานี้ให้คนอื่นรู้เด็ดขาด!”
“ค่ะ! ฉันจะไม่เผยแพร่วิชานี้อีกแล้ว!” กวนจินเฟิงรีบรับปาก
เฉินหยางหันหลังเดินจากไป
เขาคิดว่าพรุ่งนี้จะไปถามหยางเหนียนจวิน น้องสาวของหยางซือจวินโดยตรง
หลังจากที่เฉินหยางจากไป กวนจินเฟิงก็นึกอะไรขึ้นได้
เธอรีบคว้าแขนหยางซือจวิน “ซือจวิน รีบไป! รีบไปตามคนเมื่อกี้มา ในเมื่อเขามองออกว่าเสี่ยวเฮยไม่ใช่ลิงธรรมดา เขาก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่ๆ ถ้าเขาช่วย น้องสาวของลูกก็จะมีทางรอด!”
หยางซือจวิน “แม่ แต่… แต่หนูว่าน้องสาวอยู่สุขสบายดี กลัวว่าตอนนั้นน้องจะไม่ยอมกลับมาด้วย”
กวนจินเฟิงพูดอย่างโมโห “โธ่เอ๊ย ลูกโง่ ชีวิตสำคัญกว่า หรือว่ายศถาบรรดาศักดิ์สำคัญกว่า”
“อีกอย่าง พ่อของลูกเป็นคนใจร้าย! ถ้าวันไหนเขาคลั่งขึ้นมา เอาตัวน้องสาวของลูกไปให้ลิงน้ำกินจะทำยังไง?”
หยางซือจวินรีบวิ่งออกจากบ้านทันที
“เดี๋ยวก่อน! รอก่อน!”
หยางซือจวินตะโกนเรียกเฉินหยาง
เฉินหยางกำลังจะจากไป ไม่คิดเลยว่าหยางซือจวินจะวิ่งตามออกมา
เขาหันกลับไปมอง
แสงอาทิตย์สาดส่อง ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาหาเขา
ใบหน้าที่คุ้นเคย ทำให้เฉินหยางนึกถึงเรื่องราวเมื่อ 700 ปีก่อน
เป็นเวลาโพล้เพล้แบบนี้ เขาได้พบกับภรรยา หลิวหรูซื่อ
ทั้งคู่จูงมือกัน มีความสุขมาก
ตอนนั้นเฉินหยางคิดว่าจะมีความสุขแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่ไม่คิดเลยว่า ชีวิตของหลิวหรูซื่อจะสั้นนัก
เขาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายกว่า 700 ปี เพื่อชดใช้ช่วงเวลาที่มีความสุขเพียงไม่กี่สิบปีนั้น
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ดวงตาของเฉินหยางแดงก่ำ
“นาย… เป็นอะไรหรือเปล่า?”
หยางซือจวินเห็นดวงตาของเฉินหยางแดงก่ำ ก็ถามด้วยความเป็นห่วง
เฉินหยางได้สติ รีบส่ายหน้า “ไม่มีอะไร มีธุระอะไรหรือเปล่า?”
“คือ… ฉันอยากเลี้ยงข้าว ขอบคุณที่นายช่วยแม่ของฉันไว้”
หยางซือจวินคิดว่าจะกินข้าวทำความรู้จักกับเฉินหยางก่อน ค่อยขอให้เขาช่วย
อยู่ๆ จะให้พูดตรงๆ มันก็ดูเสียมารยาทไปหน่อย
เฉินหยางส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันจะกลับไปเล่นโทรศัพท์แล้ว”
“หา?”
หยางซือจวินรู้สึกงงๆ เล่นโทรศัพท์? เล่นโทรศัพท์ตอนนี้เนี่ยนะ?
เธอรีบพูดว่า “ฉันรู้จักร้านปิ้งย่างร้านหนึ่ง อร่อยมาก!”
“ปิ้งย่างเหรอ? งั้นก็ได้!”
ตอนกลางวันเฉินหยางกินเนื้อเป็ดย่าง แต่คนขายบอกว่าเป็นเนื้อวัว รู้สึกว่ามัน อร่อยดีเหมือนกัน
หยางซือจวินรีบพาเฉินหยางออกจากชุมชนแออัด มาถึงตลาดโต้รุ่ง เดินตรงไปที่ร้านปิ้งย่างชื่อหม่าจื่อเกอ
หน้าร้านปิ้งย่างแห่งนี้มีโต๊ะนั่งอยู่สิบกว่าโต๊ะ ส่วนข้างในร้านก็เต็มไปด้วยลูกค้า ดูท่าทางขายดีจริงๆ
“อยากกินอะไร สั่งเลย ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” หยางซือจวินพูดด้วยรอยยิ้ม
ที่ร้านนี้ขายดี ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าราคาถูก คุ้มค่าคุ้มราคา
ทุกครั้งที่เธอสอบได้คะแนนดี กวนจินเฟิงก็จะพาเธอมากินข้าวที่ร้านนี้
แต่พอเห็นเฉินหยางสั่งเนื้อย่างมาเป็นภูเขา หยางซือจวินถึงกับตกใจ
แบบนี้ไม่ปาเข้าไปสามสี่ร้อยหยวนเลยเหรอ?
แย่แล้วๆๆ!
ค่าขนมเดือนนี้หมดกัน
ตอนนี้แม่ก็กำลังรักษาตัว
แต่ในเมื่อพูดไปแล้ว ก็ต้องยอม
แย่ที่สุดก็ไปหางานพิเศษ แจกใบปลิวเพิ่มก็เท่านั้น
เฉินหยางกลับมานั่งที่โต๊ะ รอเนื้อย่าง
เขาก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ หยางซือจวินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ถามขึ้น “นายชื่ออะไร”
“เฉินหยาง”
“อ้อ? เฉินหยาง วันนี้ฉันเห็นนายอยู่กับอธิการบดีด้วย ดูเหมือนเขาจะเรียกนายว่าอาจารย์ นายเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเราเหรอ ทำไมถึงดูเด็กจัง”
เฉินหยางตอบกลับ “ก็ฉันหน้าเด็ก”
“ตกลง แล้วนายอายุเท่าไหร่? สามสิบได้รึยัง?”
“ประมาณนั้น”
เฉินหยางตอบแบบขอไปที
หยางซือจวินเห็นเฉินหยางไม่ค่อยอยากคุยด้วย สักพักก็ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไร
บนชั้นสองของร้านปิ้งย่าง หลิวหลง กรรมการกีฬาชั้นปี 1 กำลังนั่งดื่มเหล้าสูบบุหรี่กับชายหนุ่มที่สวมหมวกแก๊ปอยู่ที่โต๊ะ
ชายหนุ่มที่สวมหมวกแก๊ปไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหยู่เซิน นักบาสที่โดนเฉินเค่อซินหลอกให้มาแข่งบาสกับเฉินหยางนั่นเอง
“พี่เซิน ผมไม่รู้จริงๆ ว่าอาจารย์พละคนนั้นอยู่ที่ไหน ให้ผมไปตามหา ผมก็ทำไม่ได้” หลิวหลงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
หยู่เซินแค่นเสียงเย็นชา “ไม่รู้ก็ไปสืบมาสิ ครั้งนี้ฉันต้องสั่งสอนมันให้หนัก อย่างน้อยก็ต้องหักขาให้ได้สักข้าง!”
“ในมหาวิทยาลัยทำยาก คงต้องไปจัดการถึงที่บ้าน”
หลิวหลงตกใจ “พี่เซิน ไม่… ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้มั้ง ดูเหมือนพี่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย”
หลิวหลงไม่ได้ใจดี แต่เพราะกลัวความผิด
ถ้าสุดท้ายแล้วเรื่องแดงขึ้นมา เขาถูกตรวจสอบพบว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จะทำยังไง!
เรียนจบก็คงลำบาก
หยู่เซินน่ะมีแบ็ค แต่เขามันไม่มี
หยู่เซินโกรธมาก เขาถอดหมวกแก๊ปออก “ฉันไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากก็จริง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ไอ้เด็กเวรนั่นมันทำแผลที่หัวให้ฉัน รู้ไหมว่าหมอมันโกนผมฉันเป็นทางเลย”
หลิวหลงเห็นสภาพของหยู่เซินในตอนนี้ เกือบจะหลุดขำออกมา
แม่เจ้า!
บนหัวของหยู่เซินมีรอยโกนผมเป็นทางยาว!
นี่มัน… โคตรเท่เลย!
หลิวหลงไม่กล้าหัวเราะออกมา เขาไม่กล้าล่วงเกินหยู่เซิน
ทำได้แค่แอบหยิกต้นขาตัวเอง พยายามกลั้นขำ
หยู่เซินยังคงบ่นไม่หยุด
“ฉันอุตส่าห์ไว้ผมยาวมาตั้งสามปี ตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!”
“บ้าเอ๊ย! ฆ่าได้ แต่อย่ามาทำผมเสียทรงแบบนี้สิวะ!”
“แบบนี้มันทรมานยิ่งกว่าฆ่าฉันทั้งเป็นซะอีก!”
“ว่าไง เรื่องนี้ฉันจะไม่เอาคืนได้ยังไง?” หยู่เซินตบโต๊ะ
“ใช่… ต้องเอาคืน! เรื่องนี้มันใหญ่กว่าเรื่องแค้นพ่ออีก” หลิวหลงรีบหันหน้าหนี เพราะถ้ามองอีกที เขาต้องหลุดขำออกมาแน่ๆ
ทันใดนั้น หลิวหลงก็เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง ชี้ไปที่โต๊ะข้างล่าง “พี่เซิน ดู! ดูสิ!”
“มองอะไร?” หยู่เซินรู้สึกหงุดหงิด
พอเขาหันไปมอง ดวงตาก็เบิกกว้างทันที
ถ้าไม่ใช่เฉินหยาง แล้วจะเป็นใคร!