ตอนที่แล้วความฝันแรก (19)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปความฝันแรก (21)

ความฝันแรก (20)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 26>

3. ความฝันแรก (20)

****

นับจากนั้นเป็นต้นมา

อารอนก็เริ่มฝัน

การนอนหลับเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้

เขาเพียงแค่ตัดความคิดและหลับตาลงแล้วนอนอยู่เฉยๆ

แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

บางครั้ง เมื่ออารอนห่มผ้าห่มแล้วนอนบนเตียง สติของเขาก็จะขาดหายไป

ความฝัน

ควรจะเรียกว่าเป็นความฝันที่ชัดเจนยิ่งกว่าความฝัน

ในโลกที่แปลกประหลาดนั้น อารอนยังคงมีสติอยู่

สติของเขาถูกย้ายจากโลกแห่งความเป็นจริงไปยังโลกแห่งจินตนาการ

เมื่อลืมตาขึ้น

เขาก็เห็น ถนนลูกรังที่คดเคี้ยวและบ้านหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สุดถนน

มีควันลอยออกมาจากปล่องไฟของบ้าน

กลิ่นหอมกรุ่นของขนมปังอบลอยออกมา คงมีคนกำลังอบขนมปังอยู่

'ถึงบ้านแล้ว'

เขาไม่มีทางลืมมันได้เลย

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปข้างใน

นีน่าคงจะออกมาต้อนรับเขา

อารอนซึ่งเป็นพ่อค้ามักจะออกจากหมู่บ้านเพื่อไปค้าขายสินค้าต่างๆ

และเมื่อเขากลับถึงบ้าน นีน่าจะอบขนมปังให้เขาทุกครั้ง

ภาพเดิมๆที่เขาคิดถึงมากจนน้ำตาไหลออกมา

อารอนเดินไปตามถนนลูกรัง

ความอบอุ่นของอากาศ กลิ่นของหญ้า บ้านที่คุ้นเคยที่สร้างด้วยอิฐ

ควันและกลิ่นหอมของขนมปัง

'ใช่แล้ว'

นี่แหละ

สิ่งที่อารอนต้องการมีเพียงสิ่งเดียว

เปิดประตูบานนั้นแล้วเข้าไปข้างใน

อารอนเดินไป

ก้าวเดินของเขากลายเป็นวิ่งเหยาะๆ

เขาวิ่งไปตามถนนลูกรังจนถึงหน้าประตูที่ปิดอยู่

"นีน่า!"

อารอนเปิดประตู ด้วยสุดกำลัง อย่างเต็มแรง

ไม่เป็นไรหรอกถ้าบานประตูจะพัง

"พี่กลับมาแล้ว...!"

แกร๊ก!

ประตูไม่เปิด

แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก

เขาจับลูกบิดแล้วโยกไปมาซ้ายขวาพร้อมกับดึง ประตูที่ปิดสนิทไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

"นีน่า นี่พี่เอง! พี่เองนะ!"

ปัง! ปัง ปัง!

อารอนทุบประตูด้วยกำปั้น

"เปิดประตูให้พี่หน่อย!"

เธอต้องได้ยินแน่ๆ ไม่มีทางที่เธอจะไม่ได้ยิน

เธอคงจะบ่นว่าเขาเสียงดัง

แล้วก็เปิดประตู...

...แต่ตอนนี้เธอไม่เปิด

"...?!"

อะไรกัน

ประตูปิดอยู่

เขาเคาะ ตะโกน และสุดท้ายก็เตะประตู ไม่เป็นไรถ้ามันจะพัง

ขอแค่เปิดประตูนี้ได้ก็พอ

เขาสามารถเรียกช่างไม้มาซ่อมทีหลังได้

ดังนั้น เปิดสิ

เปิดประตูเดี๋ยวนี้!

ปัง!

อารอนเตะบานประตู

แต่ประตูไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว

มันก็แค่ประตูไม้

'อะไรกัน'

อารอนสติแตก เขาไปยกก้อนหินก้อนใหญ่ใกล้ๆ ประตูขึ้นมา

แล้วเขวี้ยงก้อนหินใส่บานประตู

ปัง!

เสียงดังสนั่น บานประตูสั่นสะเทือนราวกับจะพัง

แต่ก็แค่สั่น มันไม่พัง

เขาขว้างก้อนหินใส่ประตูหลายครั้ง จนร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

แต่ประตูก็ยังคงเดิม

"นีน่า ไม่ได้ยินเหรอ? นี่พี่ไง อารอนไง!"

เขายังคงตะโกนอยู่ข้างนอก แต่ประตูก็ไม่เปิด

อารอนร้อนใจ จึงเดินไปที่หน้าต่างข้างๆ

เขาเห็นผ่านม่าน บานหน้าต่าง

ในห้องครัวเล็กๆ

เด็กผู้หญิงสวมผ้ากันเปื้อนกำลังอบขนมปังอยู่ในเตาอบ

"ฮัม~ ฮัม~ ฮัม~♪"

เสียงฮัมเพลงที่สดใสดังออกมา

เด็กสาวหันหลังให้เขา เธอกำลังจัดผักและผลไม้ใส่จาน

เธอกำลังรอพี่ชายของเธอกลับมา

ก๊อก! ก๊อก ก๊อก!

อารอนเคาะกระจกหน้าต่าง หน้าต่างถูกล็อคจากด้านใน

"นีน่า!"

เขาตะโกนเรียกหลายครั้ง แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ไม่หันกลับมา

โครม!

เขาหยิบก้อนหินแหลมคมมาทุบกระจก

แต่มันยังคงเหมือนเดิม ทำไม ทำไมกัน

เขาใช้ก้อนหินทุบกระจกหน้าต่างครั้งแล้วครั้งเล่า

เล็บของเขาฉีกขาดจนเลือดไหลออกมา แต่เขาไม่สนใจ

"...ทำไม"

อารอนรอคอย ขนมปังจะต้องอบเสร็จในสักวันหนึ่ง

การทำอาหารของเด็กผู้หญิงเพื่อครอบครัวของเธอจะต้องเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า

ถ้าเป็นเช่นนั้น เด็กผู้หญิงคงจะหันกลับมามอง

เธอจัดอาหารบนโต๊ะ

"..."

ขนมปังที่อยู่ในเตาอบไม่อบสุก

"ฮัม~ ฮัม~ ฮัม~♪"

เสียงฮัมเพลงของเด็กผู้หญิงไม่หยุดลง

เด็กผู้หญิงที่สวมผ้ากันเปื้อนยังคงหันหลังให้เขา

ที่นี่คือโลกที่ปิดตายชั่วนิรันดร์

น้องสาวที่รอคอยครอบครัวจะไม่มีวันได้พบกับพี่ชายของเธอ

พี่ชายที่อยากกลับบ้านจะไม่มีวันเปิดประตูบานนั้นได้

—————————————————————————————

100 ปีผ่านไปแล้วนับตั้งแต่เขามายังที่แห่งนี้

ทุกๆ วัน อารอนฝัน

เขามีเวลาอยู่ในความฝันมากกว่าเวลาที่เขาใช้ในการเหวี่ยงและแทงหอก

ความฝันไม่เปลี่ยนแปลง

อารอนยังคงเคาะประตูที่ไม่เปิด

ความฝันไม่เปลี่ยนแปลง มันแค่ทับถมกัน

จากฝันร้ายไปสู่ฝันร้ายที่หนักหนากว่าเดิม

เมล็ดพันธุ์แห่งความทรงจำที่ถูกลืมเลือนเริ่มผลิบาน แตกหน่อ ลำต้น และใบ

ในที่สุดก็ปรากฏเป็นดอกตูม รอเวลาที่จะผลิบาน

และในที่สุด ดอกไม้สีดำสนิทก็ผลิบาน

อารอนได้ความทรงจำที่ถูกลืมเลือนกลับคืนมา

—————————————————————————————

ความสุขของผู้อ่อนแอ

ก็เหมือนปราสาททรายบนชายหาด

จะหายไปเพียงเพราะคลื่นแปรปรวน

กลายเป็นเม็ดทรายปลิวกระจาย

ความสุขของผู้อ่อนแอ

ป็นเพียงความฝันกลางวันที่จะจบลงในสักวัน

นั่นไม่ใช่ความสุข

ถ้าไม่สามารถปกป้องมันได้ นั่นไม่ใช่ความสุข

—————————————————————————————

ท้องฟ้าที่ลุกเป็นไฟ

ชายหนุ่มและเด็กผู้หญิงกำลังวิ่ง พวกเขาวิ่งจับมือกัน

ชายหนุ่มชื่ออารอนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ท้องฟ้าที่เคยสดใสตอนนี้ถูกย้อมเป็นสีแดงราวกับเลือด

ตอนนี้มันเป็นเวลากลางวันอย่างแน่นอน ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีฟ้า

มีเพียงดวงอาทิตย์และก้อนเมฆสองสามก้อน แต่มันกลับลุกไหม้เป็นสีดำ

ท้องฟ้ากำลังลุกเป็นไฟ จะอธิบายสิ่งนี้ได้อย่างไร

ผู้คนในโบสถ์ต่างสวดอ้อนวอนขอความเมตตาจากเทพธิดา

แต่ความเมตตาและความรอดที่พวกเขาต้องการกลับไม่เกิดขึ้น

เทพธิดาฝาแฝดแห่งความบริสุทธิ์และความเมตตา ผู้รักมนุษย์และรักโลก ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมา

พวกเขาทุกคนพูดว่า จุดจบของโลกมาถึงแล้ว

นี่คือวันสิ้นโลก

'...มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย'

อารอนกัดฟันแน่น

อะไรคือจุดจบ อะไรคือวันสิ้นโลก

สมัยที่เขาเด็กๆ เขาสูญเสียพ่อแม่และต้องพึ่งพาน้องสาว

เขาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเจ็บปวด

แต่อารอนไม่ยอมแพ้ เขาทำทุกอย่างที่ทำได้

ขาเข้าไปในเมืองและขโมยเพื่อแลกกับขนมปังเพียงชิ้นเดียว

เขาล้วงกระเป๋าและส่งเงินให้กับหัวหน้า

แน่นอนว่าอารอนที่ไม่มีทักษะในการทำอะไรแบบนี้

และมักจะถูกจับได้และถูกซ้อมจนเกือบตาย

เขาเก็บเงินอย่างอดทนแล้วเริ่มทำธุรกิจ

เขาขายทุกอย่างที่ขายได้

ไม่เป็นไรถ้าเขาต้องอดอาหาร

แต่เขามีน้องสาวอยู่ที่บ้าน

เธออ่อนแอตั้งแต่เกิดและต้องทนกับชีวิตที่ลำบากยากลำบาก

'ความสุขคืออะไร?'

ตอนที่พวกเขายังเด็ก พี่น้องคู่นี้มีความสุขมาก

พวกเขามีพ่อแม่ที่รักและห่วงใยลูกๆ พ่อและแม่ใจดี ทั้งคู่มีอาชีพเป็นพ่อค้า

พวกเขาเดินทางไปมาระหว่างเมืองและหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อซื้อและขายสินค้า

พวกเขายังมีร้านค้าเป็นของตัวเองในหมู่บ้านด้วย

ดังนั้นจึงทำให้พี่น้องคู่นี้ค่อนข้างจะมีฐานะดี

แต่ความสุขก็มลายหายไปอย่างง่ายดาย

ระหว่างทางไปยังอีกเมืองหนึ่ง พ่อแม่ของเขาพบกับกลุ่มโจร และชีวิตของพวกเขาก็จบลงตรงนั้น

'มันเป็นแบบนั้นแหละ'

สองพี่น้องสูญเสียทุกสิ่ง สูญเสียความสุขทั้งหมดไป

ไม่สิ

ความสุขเป็นเพียงภาพลวงตาของพวกเขา

พวกเขาไม่มีความสุขตั้งแต่แรก

ความสุขของคนอ่อนแอไม่ใช่ความสุข

ความสุขที่ไม่สามารถปกป้องได้ไม่ใช่ความสุข

'ถ้าพ่อกับแม่แข็งแกร่งกว่านี้'

ถ้าพวกเขามีพลังที่จะต่อสู้กับโจรได้

ถ้าพวกเขามีหอก ดาบ และทักษะในการใช้มัน

พวกเขาก็คงไม่ถูกปล้นความสุขไป

ดังนั้น

'ความสุขของเราในตอนนั้น...'

มันเป็นเพียงภาพลวงตาตั้งแต่แรก

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด