(พิเศษ) บทที่ 165 การแก้ไขวิกฤติ
(TL: หากบทไหนมีการแข่งฟุตบอลจะเปิดเป็นตอนฟรีแบบนี้ ถ้าไม่อินเหมือนผมก็อ่านข้ามๆได้ ไม่นานก็จบช่วงนี้แล้ว หลังจากนี้ไปความสัมพันธ์ของพระเอกจะเริ่มเข้าสู่ความวุ่นวาย)
เสื้อผ้าของอันซือซือยังคงค่อนข้างเรียบง่าย
เมื่อตอนที่พึ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผมของเธอไม่ได้ยาวมากนัก แต่ตอนนี้ยาวขึ้นแล้ว และหน้าม้าก็ถูกเล็มอย่างระมัดระวัง โดยไม่มีการแต่งหน้าใดๆ
อย่างไรก็ตาม การแต่งหน้านั้นเป็นเพียงไอซิ่งบนเค้กเท่านั้น คนหน้าตาดีก็ยังคงดูดีแม้ไม่ได้แต่งหน้า
สวี่ชิวเหวินกวาดสายตาไปข้างหลังพวกเธอและไม่เห็นร่างของเฉิงลู่
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็โล่งใจเช่นกัน เกิดเฉิงลู่มาเห็นพวกเขาถูกทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ถล่มในช่วงครึ่งหลัง เขาคงจะสูญเสียความภาคภูมิใจอยู่บ้าง
ช่วงเวลาพักครึ่งสั้นๆสิ้นสุดลง และถึงเวลาที่เกมจะดำเนินต่อ
ผู้เล่นจากทีมเทคโนโลยีสารสนเทศในสนามต่างตะโกนเรียกเขา
สวี่ชิวเหวินรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ฉันจะไปแล้ว” จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์
สวี่ชิวเหวินรีบกลับไปหาตงจุน ยื่นโทรศัพท์ให้อีกฝ่าย จากนั้นวิ่งเหยาะๆไปที่สนาม
ในช่วงต้นครึ่งหลัง การครองบอลเป็นของฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ หยางไป่ซานและคนอื่นๆไม่กล้าผลีผลาม พวกเขาแค่พยายามถ่วงเวลา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกองกลางถูกแทนที่ด้วยอดีตผู้รักษาประตู หวังจวิ้นไฉจึงย้ายไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ช่องว่างระหว่างเขากับสวี่ชิวเหวินมองเห็นได้อย่างชัดเจน และการจ่ายบอลหลายครั้งเกือบจะโดนสกัดโดยคู่ต่อสู้
ต่อมาฝ่ายตรงข้ามตระหนักถึงความตั้งใจของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงเริ่มเพิ่มความกดดัน และในไม่ช้าหวังจวิ้นไฉก็ทำผิดพลาดอย่างรวดเร็ว
เท้าของหวังจวิ้นไฉสั่นและลูกบอลที่ควรจะส่งให้ซือเซียงหมิงนั้นถูกใส่แรงมากเกินไป บอลจึงกลิ้งไปอยู่ระหว่างซือเซียงหมิงและผู้เล่นของทีมตรงข้ามอีกคน
ซือเซียงหมิงตอบสนองช้าไปหนึ่งจังหวะ และลูกบอลก็ถูกครอบครองโดยผู้เล่นของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์แล้ว
ฝ่ายตรงข้ามส่งต่อไปยังผู้เล่นหลักของทีมทันที
จากนั้นโมเมนตัมการรุกรับก็เปลี่ยนไป!
หลังจากผู้เล่นหลักครอบครองบอล ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็เริ่มบุกทันที
การประสานงานของพวกเขาเป็นไปอย่างดีมาก และหลังจากจ่ายไม่กี่ครั้ง บอลก็ข้ามแดนกลางของอีกฝ่ายไปแล้ว
ในฐานะกองหน้า หลิ่วเหลียงยังคงกดดันแนวรับของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง
หยางไป่ซานตะโกนอย่างกังวล “พี่น้องทั้งหลาย จับตาดูพวกเขาไว้! อย่าให้ผ่านไปได้!”
ผู้เล่นของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศต่างก็เหมือนสุนัขบ้า ไล่ตามและเข้าสกัดอย่างไม่คิดชีวิต
มีสมาชิกเพียงไม่กี่คนที่เคยเล่นฟุตบอลอย่างจริงจัง แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยึดมั่นด้วยความไม่เต็มใจที่จะพ่ายแพ้
หลังจากอดทนมานานกว่าสิบนาที กองหลังหลายคนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ขาของหลายๆคนแทบจะเป็นตะคริวขณะวิ่ง
หยางไป่ซานเรียกผู้ตัดสินและเปลี่ยนกองหลังทั้งสี่คนทันที
ผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาไม่เคยสัมผัสฟุตบอลมาก่อนด้วยซ้ำ วันนี้พวกเขาได้ฝึกซ้อมเพียงไม่กี่ชั่วโมงตอนเที่ยง และพวกเขาไม่มีความรู้เรื่องการเล่นฟุตบอลเลย
อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะต้องเล่นได้ดี ในทางหนึ่ง กองหลังดั้งเดิมไปต่อไม่ไหวแล้ว และในทางกลับกัน พวกเขาหวังว่าพลังกายจากความสดใหม่จะช่วยป้องกันการโจมตีอันดุเดือดของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ได้บ้าง
แต่ความเป็นจริงนั้นโหดร้าย
กองหลังทั้งสี่คนที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวออกได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมเป็นอย่างน้อยสองสามครั้ง แต่ทั้งสี่คนที่ลงสนามแทบไม่เคยสัมผัสฟุตบอลเลยด้วยซ้ำ พวกเขาเข้าสกัดไม่ได้ ตามคู่แข่งไม่ทัน และโดยพื้นฐานแล้วเพียงวิ่งไปรอบๆสนามอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
ผู้เล่นจาก 412 วิ่งไปทุกหนทุกแห่ง พยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมสถานการณ์ แต่ความอดทนของมนุษย์นั้นมีจำกัด
ความเร็วของพวกเขาเริ่มช้าลงแล้ว
ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์คว้าโอกาสและจ่ายบอลไปจนถึงเท้าของหลิ่วเหลียง
และในเวลานี้ หลิ่วเหลียงยืนอยู่ในกรอบเขตโทษหน้าประตูแล้ว!
เหลือเพียงสวี่ชิวเหวินเท่านั้นที่ขวางกั้นเขา!
หลิ่วเหลียงเป็นผู้เล่นหลักของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์และยังเป็นกัปตัน ทักษะการเล่นฟุตบอลของเขาดีมาก แต่ก็ยังด้อยกว่าหยางไป่ซานเล็กน้อย
นี่เป็นโอกาสทำประตูครั้งที่สองของเขาในเกมนี้ และในฐานะกัปตันทีม เขาไม่มีเหตุผลที่จะพลาดซ้ำสอง!
หลิ่วเหลียงมั่นใจมาก ราวกับเขาเห็นฉากที่ลูกฟุตบอลเข้าไปนอนอยู่ก้นตาข่ายแล้ว
เขาเอียงเท้าซ้ายในแนวนอน ยกเท้าขวาขึ้น จากนั้นเล็งไปที่ประตูแล้วยิงออกไปเต็มกำลัง
นักศึกษาสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์บนอัฒจันทร์ต่างส่งเสียงเชียร์อย่างกระตือรือร้น และรอคอยเวลาที่ลูกบอลจะเข้าไปในตาข่ายอย่างใจจดใจจ่อ
ส่วนฝั่งของเทคโนโลยีสารสนเทศต่างก็กระวนกระวาย ซูหยานหยานถึงกับประสานมือไว้ที่อกในท่าสวดภาวนา
นับตั้งแต่วินาทีที่หลิ่วเหลียงจับบอล ความสนใจของสวี่ชิวเหวินก็มุ่งไปที่อีกฝ่ายอย่างเต็มที่
เขาจ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของหลิ่วเหลียงด้วยความจริงจัง
ความเร็วของคู่ต่อสู้นั้นเร็วมาก แต่สวี่ชิวเหวินยังคงสังเกตเห็นทิศทางที่มันยิง
เขากระโดดด้วยขาทั้งสองข้างและพุ่งเข้าหาทิศทางของลูกบอลอย่างแม่นยำ
กองเชียร์มีชีวิตชีวาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สวี่ชิวเหวินจะปัดบอลได้!
บอลกระทบมือของเขา ลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วตกลงไปที่เท้าของกองหลังทีมเทคโนโลยีสารสนเทศคนหนึ่ง
ขณะที่กองหลังกำลังจะเคลียร์บอล ผู้เล่นคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากด้านหลัง มันคือปีกขวาของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์!
ชายคนนั้นเล็งมาที่ประตูและเตะมันด้วยกำลังทั้งหมด
สวี่ชิวเหวินเพิ่งลุกขึ้นจากพื้นพอดีกับที่เห็นปีกซ้ายของฝ่ายตรงข้ามง้างเท้ายิง เขาตัดสินวิถีของบอลอย่างรวดเร็วและกระโจนออกไปปิดกั้น
เขาเซฟไว้ได้สำเร็จอีกครั้ง!
สวี่ชิวเหวินไม่ได้อ้อยอิ่ง เขารีบคว้าบอลอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นยืน และเตะโด่งไปยังแดนของคู่ต่อสู้
วิกฤตของการโจมตีครั้งนี้ถูกแก้ไขแล้ว เขาเซฟลูกยิงระยะอันตรายของคู่ต่อสู้ติดต่อกันสองครั้ง!
ทุกคนต่างตกตะลึง อัฒจันทร์เงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็เกิดเสียงเชียร์ดังลั่น
แม้แต่นักศึกษาที่ไม่ได้มาจากสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศก็ยังส่งเสียงเชียร์ให้กับการแสดงอันยอดเยี่ยมของสวี่ชิวเหวิน
บนอัฒจันทร์ เซียวโหยวหรานถึงกับกอดอันซือซือโดยตรง และตะโกนอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวสวี่เซฟได้! ซือซือ ดูสิ เสี่ยวสวี่เซฟไว้ได้ด้วย!”
ในบรรยากาศเช่นนี้ ทุกคนย่อมได้รับผลกระทบจากความตื่นเต้น
อันซือซือไม่ได้ชอบฟุตบอลเป็นพิเศษและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับมันมาก่อน แต่ในเวลานี้ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับเซียวโหยวหรานก็ตาม
เธอหันไปพูดกับเซียวโหยวหราน “โหยวหราน ใจเย็นๆก่อน”
เซียวโหยวหรานก็ตระหนักได้ว่าเธอตื่นเต้นเกินไป
เธอพยายามสงบสติอารมณ์และหัวเราะเบาๆ แต่แก้มของเธอยังคงแดงเล็กน้อย
ซ่งซือหยูที่ด้านข้างเองก็กำลังมองดูสวี่ชิวเหวินอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
บนสนาม การแข่งขันยังดำเนินต่อ
หยางไป่ซานตอบสนองทันทีที่สวี่ชิวเหวินเตะบอลออกมา เขาหันหลังกลับเพื่อไล่ตามลูกทันที
ความเร็วและปฏิกิริยาของเขาดีมาก แต่ยังมีกองหลังสองคนอยู่ที่แดนกลางของสนาม และทั้งสองอยู่ใกล้บอลมากกว่าหยางไป่ซาน
บอลตกลงสู่เท้าของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
หลังจากได้บอลคืน ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็ทำการปรับเปลี่ยนบางอย่างและเริ่มการโจมตีอีกครั้ง
สามนาทีต่อมา บอลก็มาถึงเท้าของหลิ่วเหลียง
ด้วยการหลอกเพียงครั้งเดียว เขาเลี้ยงหลบกองหลังของอีกฝ่ายและทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลัง
เขากลับมาอยู่ในเขตโทษอีกครั้ง
มันเป็นอีกสถานการณ์ 1 ต่อ 1
หลิ่วเหลียงไม่ได้ยิงโดยตรง แต่กลับหยุดบอลไว้ชั่วคราว
เขาเหลือบมองอย่างรวดเร็วที่สวี่ชิวเหวิน ในเวลานี้ เขามีความชื่นชมอย่างมากต่ออีกฝ่าย
การเซฟสองครั้งติดต่อกันไม่ใช่สิ่งที่สามารถกระทำได้ด้วยโชคเพียงอย่างเดียว
/////