(พิเศษ) บทที่ 163 ช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้น
(TL: หากบทไหนมีการแข่งฟุตบอลจะเปิดเป็นตอนฟรีแบบนี้ ถ้าไม่อินเหมือนผมก็อ่านข้ามๆได้ ไม่นานก็จบช่วงนี้แล้ว หลังจากนี้ไปความสัมพันธ์ของพระเอกจะเริ่มเข้าสู่ความวุ่นวาย)
สวี่ชิวเหวินและคนอื่นๆใช้เวลาวอร์มร่างกายก่อนเริ่มเกม
เมื่อถึงเวลา 15.00 น. การแข่งขันก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในช่วงสามสิบนาทีของครึ่งแรก ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์เล่นแบบอนุรักษ์นิยมมาก
ตอนแรกสวี่ชิวเหวินไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ในไม่ช้าก็เดาได้ว่าพวกเขาคงไม่แน่ใจว่ายังมีผู้เล่นจากภายนอกอยู่ในทีมของฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าผลีผลาม
นอกจากนี้ผู้เล่นของห้อง 412 ยังเล่นฟุตบอลได้ค่อนข้างดี โดยมีหยางไป่ซานเป็นกองหน้า จินฮ่าวหนานและหลิวจื้อฮ่าวเป็นปีก และสวี่ชิวเหวินเป็นกองกลางตัวรุก ทุกคนเล่นราวกับว่าชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับมัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดแรงกดดันที่มองไม่เห็น
ทุกคนวิ่งไล่บอลอย่างบ้าคลั่งจนทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ไม่มีโอกาสจ่ายบอลผ่านแดนกลางเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็ค่อยๆตระหนักว่าผู้เล่นภายนอกของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศหายไปหมดแล้ว ในบรรดาผู้เล่นตัวรุก นอกเหนือจากหยางไป่ซาน จินฮ่าวหนาน และสวี่ชิวเหวินแล้ว อีกสามคนนั้นค่อนข้างธรรมดา
หลังจากลูกยิงของหยางไป่ซานถูกสกัด ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็กลับมาครองบอลและเริ่มรุกเข้าสู่แดนกลางด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
แม้ว่าทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์จะไม่ได้มีผู้เล่นที่โดดเด่นเช่นหยางไป่ซาน แต่ระดับทักษะโดยรวมของพวกเขานั้นค่อนข้างดี ทุกคนสามารถจ่ายและเลี้ยงบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บอลเข้าสู่แดนหลังของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรวดเร็ว
ผู้เล่นทั้งหกคนจากห้อง 412 มีความกังวลอย่างมาก ทุกคนตระหนักถึงความสามารถของกองหลังฝ่ายตนเองเป็นอย่างดี และไม่กล้าคาดหวังอะไรมากมายจากการป้องกันของพวกเขา
ทุกคนไล่ตามและกดดันอย่างหนักเพื่อพยายามแย่งบอลกลับมา
สมาชิกทั้งหกจาก 412 ทุ่มสุดตัว ทุกการเข้าปะทะและการวิ่งไล่ล้วนใส่สุดกำลัง
ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่สงวนพลังงานไว้ โดยรู้ว่ายังมีช่วงครึ่งหลังที่ต้องเล่น
ความกดดันอย่างไม่หยุดยั้งนี้ทำให้ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ประสบปัญหาอย่างมากอยู่ระยะหนึ่ง
แต่หลายคนมีทักษะการเล่นฟุตบอล พวกเขาจึงค่อยๆปรับตัวได้
เหลือเวลาอีกเพียงห้านาทีก่อนจบครึ่งแรก และจู่ๆทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็เปิดฉากโจมตีอย่างดุเดือด!
กองหน้าและกองกลางของพวกเขาเริ่มทำเกมบุกเข้าใส่อย่างเต็มกำลัง
บอลถูกส่งถึงเท้าของปีกขวาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาก็เคลื่อนไหวต่อไปทางด้านขวาของกรอบเขตโทษ
ต่างจากการบุกโดยประมาทของชายผิวขาวเอกภาษาอังกฤษ เขาเลี้ยงลูกอย่างใจเย็นและประเมินสถานการณ์ในขณะที่กองหลังลังเลที่จะเผชิญหน้าเขา
ศูนย์หน้า ปีกซ้าย และกองกลางของพวกเขาพุ่งมาข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ป่วนแนวรับของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศจนเสียรูปขบวน
ไม่นานปีกขวาของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็เลี้ยงบอลมาถึงกรอบเขตโทษฝั่งขวาแล้ว และแบ็คขวาจากเทคโนโลยีสารสนเทศก็พุ่งเข้าใส่ทันที
แบ็คขวาเข้าสกัดอย่างที่เพิ่งเรียนมา เขาเล็งไปที่ตำแหน่งของบอลแล้วกระโจนเข้าใส่อย่างเต็มกำลัง
แม้ความจริงจะไม่ค่อยแม่นยำ แต่ก็ทำให้ปีกขวาของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ตกใจมาก
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ปีกขวาสะดุ้ง แต่เขาก็แตะบอลไปด้านข้างและกระโดดหลบการเข้าเสียบอย่างช่ำชอง
เมื่อไม่มีกองหลังเหลืออยู่ตรงหน้า เขาก็พุ่งเข้าหาประตูอย่างราบรื่น
เมื่อทุกคนรวมทั้งผู้รักษาประตูคิดว่าเขาจะยิง ทันใดนั้นเขาก็ผ่านบอลไปด้านข้าง จ่ายทะลุฝูงชนไปยังหลิ่วเหลียง ศูนย์หน้าของทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์
มันเป็นการจ่ายที่สวยงาม บอลผ่านช่องว่างระหว่างผู้เล่นหลายๆคนอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่หลิ่วเหลียงรับบอล สีหน้าภาคภูมิใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขาใช้ประโยชน์จากความสับสนของทุกคนยิงออกไปอย่างแรง
ผู้เล่นทีมเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งหมด ตั้งแต่แบ็คขวาที่เพิ่งลุกขึ้น แบ็กซ้ายที่กำลังประกบคู่ต่อสู้ ไปจนถึงผู้เล่นหกคนที่วิ่งอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยจากห้อง 412 ทำได้เพียงเฝ้าดูในขณะที่ลูกบอลทะยานออกไป!
หัวใจของทุกคนจุกอยู่ในลำคอ
บนอัฒจันทร์ นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศต่างกลั้นหายใจ มองดูสถานการณ์ด้วยความกระวนกระวาย ด้วยกลัวว่าบอลจะเข้าไปในตาข่าย สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือหวังว่าผู้รักษาประตูจะเซฟได้ทัน
อย่างไรก็ตาม ผู้รักษาประตูเองก็ไม่ทันตั้งตัวและพุ่งไปทางขวาในขณะที่บอลลอยไปทางซ้าย
“แย่แล้ว!” ทุกคนในทีมเทคโนโลยีสารสนเทศต่างมีความคิดแบบเดียวกัน
ในขณะที่สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ทั้งในและนอกสนามต่างคิดว่าจะต้องได้ประตูนี้อย่างแน่นอน บอลก็ฟาดคานดัง “ปั้ง!” แล้วบินออกจากสนาม!
ผู้เล่นจาก 412 ระเบิดเสียงโห่ร้องราวกับว่าพวกเขาเป็นฝ่ายทำประตูได้!
ในทางตรงกันข้าม ทุกคนในทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์รู้สึกเสียดาย และผู้คนบนอัฒจันทร์ที่พร้อมจะโกนดีใจก็ต้องหยุดกะทันหัน
มันเป็นความรู้สึกอึดอัดคล้ายกับการถูกบังคับให้หยุดก่อนที่จะถึงจุดสูงสุด
นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศบนอัฒจันทร์ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกราวกับว่าพวกเขารอดพ้นจากภัยพิบัติได้อย่างหวุดหวิด
เมื่อเห็นลูกบอลที่ควรจะเป็นประตูไปชนคาน หลิ่วเหลียงก็สบถด้วยความหงุดหงิด
เมื่อสังเกตเห็นความตื่นเต้นของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศ เขาจึงตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง “ครั้งนี้รอดตัวไป! แต่โชคของพวกนายสิ้นสุดลงแล้ว!”
หลังจากพูดอย่างนั้น หลิ่วเหลียงก็รีบกลับไปประจำตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
บอลถูกตั้งเตะจากปากประตู และทีมเทคโนโลยีสารสนเทศก็เป็นฝ่ายครองบอลอีกครั้ง
ประสบการณ์เฉียดฉิวครั้งล่าสุดทำให้พวกเขาเริ่มระมัดระวัง หยางไป่ซานไม่กล้ายิงอย่างบุ่มบ่ามก่อนจะพบโอกาสที่ดีจริงๆ
ในช่วงสุดท้ายก่อนจบครึ่งแรก จู่ๆสวี่ชิวเหวินก็จ่ายบอลยาวไปให้กับหยางไป่ซาน และมันก็เป็นไปอย่างที่หวัง หยางไป่ซานวิ่งหน้าตั้งและใช้กำลังสลัดกองหลังสองคนออกไป ก่อนจะพบช่องว่างเล็กๆ
เขาไม่มีเวลาเงยหน้าขึ้นมอง ดังนั้นจึงได้แต่ยกเท้าขึ้นและยิงตามสัญชาตญาณ
น่าเสียดายที่มุมเล็กเกินไปและผู้รักษาประตูก็คาดการณ์ไว้แล้ว เขาปัดลูกยิงด้วยมือ
“อา! น่าเสียดายจริงๆ!” กองเชียร์ฝั่งเทคโนโลยีสารสนเทศต่างรู้สึกเสียดาย
หยางไป่ซานรู้สึกหงุดหงิดเช่นกัน มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในครึ่งแรก แต่กลับจบลงอย่างสูญเปล่า
ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็ตกใจเช่นกัน
เนื่องจากเหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนจบครึ่งแรก พวกเขาที่เหนื่อยจากการวิ่งจึงผ่อนคลายลง เป็นผลให้เกือบโดนหยางไป่ซานทำประตูแบบไม่ทันตั้งตัว
มันคงจะน่าอายมากหากถูกขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรก
หลังจากเห็นผู้รักษาประตูเก็บบอลได้แล้ว ทีมวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เสียงนกหวีดดังขึ้นและครึ่งแรกก็จบลง
ก่อนออกจากสนาม หลิ่วเหลียงริเริ่มที่จะเดินเข้ามาเยาะเย้ย “โอ้ นี่ไม่ใช่ม้ามืดสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศหรอกเหรอ? ทำไมพวกนายถึงดูอ่อนแอขนาดนี้ล่ะ เพราะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกหรือเปล่านะ?”
หยางไป่ซานตะโกนกลับทันที “เป็นแกเองสินะที่รายงาน ไอ้ลูกสุนัข!”
หลิ่วเหลียงจ้องมองหยางไป่ซานอย่างดูถูก “กล้าทำแต่กลัวที่จะถูกรายงาน?”
หยางไป่ซานตอบโต้ไม่ได้ เรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเขาจริงๆ
หลิ่วเหลียงไม่สนใจและพูดต่อว่า “พวกนายโชคดีที่ลูกนั้นพลาดไป แต่ครึ่งหลังเราจะได้เห็นกัน รอก่อนเถอะ ดูว่าฉันจะบดขยี้พวกนายยังไง”
/////