บทที่ 71 การแย่งชิงซื้อ
บทที่ 71 การแย่งชิงซื้อ
คนขับรถบรรทุกกลับมาอีกครั้ง งานที่ได้เงินวันละสี่สิบหยวนแบบนี้ เขาชอบทำมาก เขามองว่าเฉินเฉิงและคนอื่น ๆ เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนจนไปแล้ว ทุกคนหอบหิ้วของขึ้นรถอย่างเหน็ดเหนื่อย
คนขับมองเฉินเฉิงแล้วพูดว่า "เจ้าของร้าน คุณรวยจริง ๆ นะ เล่นเอาผมต้องมาช่วยขนของอีกแล้ว..."
เฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า "ก็ไม่ได้รวยอะไรขนาดนั้นหรอกครับ แค่พอใช้เองได้เอง ว่าแต่ ไม่ต้องรีบร้อนนะ เราจะไปที่ตลาดกลางคืนทางตะวันตกของเมือง ที่สำคัญที่สุดคือของเหล่านี้ต้องไปถึงที่นั่นอย่างปลอดภัย อย่าให้ของเสียหายนะครับ ของพวกนี้ผมต้องเอาไปขาย"
“ได้เลย!”
“ต้าเหอ คุณไปกับฉุ่ยเฟิ่งนั่งรถของคนขับตามไป ฉันจะขี่สามล้อไปเอง!”
“ได้!” หลี่ต้าเหอกับคนอื่น ๆ ขึ้นรถไป
“ที่รัก เราไปกันเถอะ!” เฉินเฉิงพูด
“ดูสิ เนี่ยนเนี่ยนง่วงขนาดนี้แล้ว!” เสิ่นจือฮวามองไปที่เนี่ยนเนี่ยน
จริง ๆ แล้วตอนนี้เนี่ยนเนี่ยนดูง่วงมาก
“ถ้างั้นวันนี้ฉันจะไม่ไปแล้วกัน คุณไปกันเถอะ” เสิ่นจือฮวา พูดขึ้น “กลับมาเร็ว ๆ ก็พอ”
“ได้!” เฉินเฉิง พยักหน้า “ขึ้นรถเถอะ ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านก่อนแล้วค่อยไป”
“อืม!”
หลังจากส่งทั้งสองคนกลับบ้านแล้ว เฉินเฉิง ก็รีบไปที่ตลาดกลางคืนทางตะวันตกของเมืองทันที
เมื่อเขาไปถึง รถก็พึ่งจะจอดอยู่ด้านนอกตลาดกลางคืน
เฉินเฉิงรีบไปเช่าที่
“สองหยวน!” ชายแก่เห็นเฉินเฉิงมาแล้ว ก็พูดขึ้นทันที
“เอา!” เฉินเฉิงจ่ายสองหยวน
“ไม่ถูกต้อง ต้องเพิ่มอีกหนึ่งหยวน” ชายแก่พูดอีกครั้ง
เฉินเฉิงชะงัก ทำทีเป็นไม่เข้าใจแล้วถามว่า “คุณลุง ปกติเราเช่าที่หนึ่งหยวนไม่ใช่หรือครับ รวมค่าไฟอีกหนึ่งหยวน ก็เป็นสองหยวนไม่ใช่เหรอ…”
“สองหยวนที่ฉันพูดเมื่อกี้นี้คือค่าที่เพิ่มเป็นสองหยวนแล้ว ค่าไฟอีกหนึ่งหยวน รวมเป็นสามหยวน!” ชายแก่จ้องมองเฉินเฉิง “จะเอาหรือไม่เอา ถ้าไม่เอาก็ไป!”
“เอา!” เฉินเฉิงไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม เพียงแค่ยิ้ม “อ๋อ งั้นเพิ่มราคาแล้วสินะ เอาล่ะ เอาสามหยวนก็แล้วกัน!”
พูดแล้วเขาก็ส่งอีกหนึ่งหยวนให้ชายแก่
ชายแก่รับไปโดยไม่พูดอะไร
เฉินเฉิงหันหลังกลับ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที
ชายแก่คนนี้เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะเรียกเงินเพิ่ม!
ไม่ไหวแล้ว ที่นี่คงอยู่นานไม่ได้ ต้องหาทางโฆษณาให้มากขึ้น พร้อมทั้งขายของให้ได้มากขึ้น เพื่อสะสมทุนเริ่มต้นของตัวเองให้ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจลึก ๆ ก่อนกลับไปที่นั่น ช่วยกันขนของลงจากรถ
“ว่าไง เจ้าของร้าน คุณเอาของมาขายที่นี่ มันคุ้มค่าไหม?”
“ไม่คุ้มค่า!” เฉินเฉิงตอบ “ก็แค่หาข้าวกินไปวัน ๆ เท่านั้น”
คนขับรถครึ่งเชื่อครึ่งไม่เชื่อ
เมื่อเฉินเฉิงจ่ายเงินค่าจ้างให้คนขับรถยี่สิบหยวนเสร็จแล้ว เขาก็กลับไปที่จุดวางของ
“เฮ้ เจ้าของร้านเฉินมาถึงแล้ว!”
ขณะที่พวกเขาเพิ่งขนของลงที่นั่น ก็มีคนไม่น้อยเข้ามารุมล้อม
“โห เจ้าหนูเฉิน มาอีกแล้วเหรอ!” คุณป้าสองคนเมื่อสองวันก่อนปรากฏตัวที่นี่อีกครั้ง เมื่อเห็นเฉินเฉิงพวกเธอก็รีบเข้ามา
“อ๊ะ ตู้เย็นใหญ่เหรอ! โห คุณเก่งจริง ๆ นะ หาเจอจนได้ ฉันเอาเครื่องนี้!”
“ฉันเอาเครื่องนี้!” คุณป้าอีกคนรีบจองเครื่องที่เหลือ
“โห ตู้เย็นสองประตูเหรอ!” ไม่คาดคิดว่าคุณป้าคนแรกเมื่อเห็นตู้เย็นสองประตูจะตาเป็นประกาย “ฉันเอาตู้เย็นนี้!”
คุณป้าคนที่ตามมาดูสองมือทุบต้นขาอย่างเสียดาย
เห็นได้ชัดว่าเธอก็อยากได้เครื่องนี้เหมือนกัน
“คุณป้า เราพบกันอีกแล้ว!” เฉินเฉิงยิ้มแล้วพูด “คุณแน่ใจจะเอาเครื่องนี้ไหมครับ?”
“เอา!” คุณป้าพยักหน้าไม่หยุด “เครื่องนี้จุเยอะดี คนในบ้านฉันเยอะ พอดีต้องการเครื่องจุเยอะ คุณบอกมาเลย ราคาเท่าไหร่!”
“เครื่องนี้ถ้าใหม่ก็ต้องสองพันกว่าหยวน สภาพเครื่องนี้คุณก็เห็นแล้ว สภาพดีมาก ฉันขายแค่หนึ่งพันหยวน รับประกันสองปี คุณคิดว่าไงครับ?”
“ตกลง!” คุณป้าเป็นคนตรงไปตรงมา คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมรับ “เงินไม่ใช่ปัญหา แต่คุณต้องรับประกันให้จริง ๆ นะ ฉันบอกคุณเลยนะว่าช่างซ่อมสมัยนี้ขี้โกงจริง ๆ เรียกยากก็ยากมาก แถมยังคิดแพงอีก…”
“คุณป้า…” เฉินเฉิงตอบอย่างจริงจัง แต่แล้วทันใดก็พูดเสียงดังขึ้นต่อหน้าผู้คนที่มุงดูอยู่ “ของที่ขายจากที่นี่ทุกชิ้นมีรับประกันหมดครับ ยกเว้นในกรณีที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ นอกนั้นฟรีทั้งหมด ผมรับรองได้”
“ดีเลย ฉันชอบคนทำงานตรงไปตรงมาแบบนี้ ฉันเอาแล้ว! นี่เงินให้คุณ!”
พูดแล้วคุณป้าก็หยิบเงินหนึ่งพันหยวนส่งให้เฉินเฉิง
เมื่อเงินเข้าไปในกระเป๋า เฉินเฉิงก็ยิ้มเต็มหน้า
พร้อมกันนั้น เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้คุณป้า “คุณป้า ถึงแม้ว่าเราจะขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง ที่เครื่องไม่มีฉลากหรืออะไรแบบนั้น แต่นี่ครับ รับที่อยู่และช่องทางติดต่อของผมไป ถ้าสินค้ามีปัญหาจริง ๆ ผมจะซ่อมฟรีให้ครับ คุณสามารถมาตามหาผมได้เลย”
“ตกลง! คุณคิดรอบคอบจริง ๆ!” คุณป้าดีใจมาก
“ต้าเหอ ยังยืนเฉยทำอะไรอยู่ ช่วยคุณป้ายกตู้เย็นออกไปสิ!”
“อ้อ ใช่ครับๆ คุณป้า บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ?”
“ไม่ไกล ๆ หนุ่มน้อย ขอบคุณมากนะ ยังส่งของถึงบ้านอีก!”
“เป็นหน้าที่ครับ!”
“คุณเฉิน แล้วเครื่องของฉันล่ะ…”
“คุณป้า เครื่องนี้ราคา 750 หยวน!” เฉินเฉิงยิ้มแล้วพูด “สภาพดีกว่าเครื่องก่อนหน้านี้ คุณก็ดูออกใช่ไหมครับ”
“ตกลง!”
“ดีครับ! อากุ้ย ช่วยหน่อย!”
“ได้ครับ!”
เมื่อมีสองคนนี้เป็นผู้นำ และเฉินเฉิงเริ่มมีชื่อเสียงที่นี่แล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ก็ถูกแย่งซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง
ไม่นานนัก ตู้เย็นที่เหลืออีกเครื่องหนึ่งกับทีวีทั้งห้าก็ถูกแย่งซื้อจนหมด
แม้กระทั่งเครื่องซักผ้าทั้งห้าเครื่องก็ขายหมดเช่นกัน
สุดท้ายเหลือเพียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น!
“ทำไมไม่มีใครซื้อเครื่องปรับอากาศเลย?” หลิวฉุ่ยเฟิ่ง ริ่มกังวล
สามร้อยหยวนที่จ่ายไปเพื่อซื้อเครื่องนี้ ถ้ามันขายไม่ออกเธอคงเสียใจมาก!
“อย่าเพิ่งใจร้อน…” เฉินเฉิงส่ายหน้าแล้วพูด “เครื่องนี้เหมือนกับเครื่องเล่นวิดีโอคราวที่แล้ว มันดูเหมือนจะแพงไป และ…”
ขณะที่พูดนั้น ก็เห็นว่าพี่เฉียงเดินเข้ามาทางนั้น
พี่เฉียงเห็นเฉินเฉิง แล้วยิ้มเดินเข้ามาดู “เปิดร้านอีกแล้วเหรอ”
“พี่เฉียง!” เฉินเฉิงยิ้มแล้วยืนขึ้น
“ว่าแต่เครื่องนั้นขอบใจมากนะ!” พี่เฉียงพูดขึ้น “ซ่อมให้เร็วขนาดนี้ ถ้าให้คนอื่นมาซ่อม อย่างน้อยต้องทำให้ผมเสียเวลาทำธุรกิจไปสองวัน”
“ไม่ต้องเกรงใจเลยครับ คุณก็ช่วยผมไว้เหมือนกัน”
“ว่าแต่ ผมมีความคิดนะ” พี่เฉียงยิ้มแล้วชี้ไปที่เครื่องปรับอากาศถาม “เครื่องนี้ราคาเท่าไหร่ครับ?”
“เครื่องปรับอากาศยี่ห้อชุนหลาน…”
“ผมรู้ ราคาเดิมต้องสามพันกว่าหยวน!” พี่เฉียงพยักหน้า “ผมไปดูมาแล้ว”
เฉินเฉิงใจเต้นขึ้นมา คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “พี่เฉียง คุณคิดจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ห้องดูวิดีโอของคุณหรือเปล่าครับ?”
พี่เฉียงชะงัก มองเฉินเฉิงอย่างตกใจ
เฉินเฉิงยิ้มเล็กน้อย “เป็นความคิดที่ดีนะครับ อากาศร้อนแบบนี้ การไปเบียดเสียดกันดูวิดีโอในห้องเล็ก ๆ มันเป็นเรื่องที่ทรมานมาก ถ้ามีเครื่องปรับอากาศสักเครื่อง มันจะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในได้อย่างมาก ผมเชื่อว่าผู้คนจะยิ่งอยากไปดูวิดีโอมากขึ้นด้วยซ้ำ!”