บทที่ 280 ลู่หนาน บทบาทนักแสดง
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 280 ลู่หนาน บทบาทนักแสดง
หลังจากจัดการเรื่องของเซินเป่ยหยวนเสร็จสิ้น ซุนเฉิงก็ก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยหนานกง รอยยิ้มแห่งชัยชนะประดับบนใบหน้า
เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ พบว่ายังพอมีเวลาเหลือเฟือ เขาจึงสตาร์ท SUV คันใหม่ป้ายแดง มุ่งหน้าสู่บริษัทในเขตซีเซี่ยทันที
เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง ซุนเฉิงในชุดลำลองที่ตัดเย็บอย่างประณีตก็มาถึงอาคาร ไซเบอร์ตรอน เทคโนโลยี อันโอ่อ่า
สูทตัวใหม่ราคาเฉียดแสนที่เขาเพิ่งถอยมาเมื่อไม่กี่วันก่อน บ่งบอกถึงรสนิยมและความสำเร็จของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น เขายังซื้อชุดสำรองไว้หลายชุด รวมถึงรองเท้าหนังคู่ใหม่สองคู่ เพื่อให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์
ในเมื่อตอนนี้เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทแล้ว ถ้ายังแต่งตัวเซอร์ๆ เหมือนเดิมคงโดนลูกน้องมองข้ามไปง่ายๆ แน่
อย่าลืมสิว่า ในประเทศจีนไม่มีวัฒนธรรมแบบซิลิคอนวัลเลย์ในสหรัฐอเมริกา แม้แต่ในบริษัทอินเทอร์เน็ต หลายบริษัทก็มีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกายที่เข้มงวดสำหรับพนักงานของพวกเขา
คนเราตัดสินกันที่ภายนอกจริงๆ นั่นแหละ คำโบราณนี่มันยังใช้ได้อยู่เลย
ซุนเฉิงรูปร่างก็ดีอยู่แล้ว ยิ่งได้สวมชุดลำลองตัวใหม่เข้าไป ยิ่งดูดีราวกับหลุดออกมาจากปกนิตยสาร
สองวันที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เขาเข้าบริษัท เขาสังเกตได้ว่าสายตาของพนักงานมองมาที่เขาด้วยความเกรงขามมากขึ้น แม้กระทั่งแอบได้ยินพนักงานสาวหน้าใหม่กลุ่มหนึ่งซุบซิบนินทา คาดเดากันว่าเขาต้องเป็นทายาทเศรษฐีมีตระกูลใหญ่โตแน่ๆ
เขาได้แต่ส่ายหัวและยิ้มขำๆ ให้กับความคิดเหล่านั้น
ระหว่างทางเดิน พนักงานไซเบอร์ตรอนหลายคนก็เข้ามาทักทายเขาอย่างนอบน้อม
"สวัสดีครับคุณซุน!" เสียงทักทายดังขึ้นพร้อมๆ กัน
"ทุกคนดูทุ่มเทกันมากเลยนะ!"
ซุนเฉิงพยักหน้ารับ พร้อมส่งยิ้มอบอุ่นเป็นกันเอง
แม้พนักงานเหล่านี้จะเพิ่งเข้ามาใหม่ บางคนยังไม่ได้รับเงินเดือนเดือนแรกด้วยซ้ำ แต่แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของไซเบอร์ตรอนเทคโนโลยี
บรรยากาศที่คึกคักภายในบริษัทเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นนั้นได้เป็นอย่างดี
"เอ่อ... คุณซุนคะ"
ขณะที่ซุนเฉิงกำลังเดินไปยังห้องทำงาน พนักงานสาวคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีร้อนรน
"มีอะไรรึเปล่า?" เขาถามด้วยสีหน้าสงสัย
"ผู้จัดการหวังกำลังต้อนรับแขกอยู่ค่ะ เขาบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณซุน..." เธอตอบอย่างรวดเร็ว
"เพื่อนผมเหรอ?"
ซุนเฉิงขมวดคิ้วครุ่นคิด เพื่อนคนไหนกันที่รู้ว่าเขาเป็นคนก่อตั้งไซเบอร์ตรอนเทคโนโลยี แล้วยังมาหาเขาถึงบริษัทอีก
แม้จะยังไม่หายข้องใจ แต่เขาก็ส่งยิ้มขอบคุณให้พนักงานสาว ก่อนจะสาวเท้ามุ่งหน้าไปยังออฟฟิศของหวังหลู่ที่อยู่ห้องข้างๆ
ความหมายของคำว่า 'เพื่อน' ในความคิดของซุนเฉิงตอนนี้มันเลือนรางเต็มที
โดยธรรมชาติแล้ว เขาเป็นคนเก็บตัว ไม่ได้มีเพื่อนฝูงมากมายนัก เพื่อนสนิทที่เขามีก็มีแค่เพื่อนร่วมหอพักสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ท่ามกลางมิตรสหายไม่กี่คนนั้น กลับมีหนึ่งคนที่ทรยศเขาเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง การหักหลังครั้งนั้นเกือบทำให้เขาต้องพบกับหายนะครั้งใหญ่
หลังจากเหตุการณ์นั้น ซุนเฉิงก็กลายเป็นคนหวาดระแวง ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ แม้แต่เพื่อนร่วมหอหรือเพื่อนร่วมชั้น เขาก็เริ่มตีตัวออกห่าง ค่อยๆ ปิดตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัว
ทันทีที่ได้ยินว่ามีเพื่อนมาหา ความรู้สึกสับสนก็ถาโถมเข้าใส่ซุนเฉิงในทันที
เขาเดินไปที่ห้องทำงานของหวังลู่สองสามก้าว เคาะประตู แล้วผลักมันเปิดออกครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงดังออกมา
ทันทีที่ประตูเปิดออก สายตาสองคู่ก็จับจ้องมาที่เขา
ซุนเฉิงมองลึกเข้าไปในห้องทำงานของหวังลู่โดยไม่รู้ตัว สายตาของเขาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่กำลังสนทนากับหวังลู่อยู่ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน
"อ้อ เป็นเขานี่เอง!"
แขกที่เดินทางมาเยือนบริษัทในวันนี้คือชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่งเพรียวบาง แว่นกรอบดำที่สวมใส่อยู่ช่วยเสริมให้เขาดูอ่อนเยาว์และใสซื่ออยู่ไม่น้อย
วินาทีที่ซุนเฉิงเห็นชายหนุ่มคนนั้น ราวกับมีข้อมูลเกี่ยวกับเขาปรากฏขึ้นในหัว
ชายหนุ่มในห้องทำงานของหวังลู่มีชื่อว่าลู่หนาน เขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ของมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมเฉินตู เหมือนกับซุนเฉิง
"ตอนที่ได้ยินว่ามีคนมาหา ก็แอบสงสัยอยู่ว่าจะเป็นใคร... ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนาย ลู่หนาน..."
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของซุนเฉิง ลู่หนานเป็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยศักยภาพ เขาเฝ้ามองลู่หนานมาตลอด
ซุนเฉิงประทับใจในวิสัยทัศน์ของลู่หนานหลายอย่าง โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า AI หรือ "ปัญญาประดิษฐ์" จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจในอนาคต การเข้าสู่สนามนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันธุรกิจกับบริษัทอื่น
จากข้อมูลที่เขาทราบ ลู่หนานได้ยื่นขอเงินทุนสำหรับสตาร์ทอัพจากมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมเฉินตูก่อนเขาเสียอีก แถมยังริเริ่มโครงการสั่งงานด้วยเสียง โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง
น่าเสียดายที่ลู่หนานมีไอเดียดี แต่ขาดทั้งทีมและเงินทุนสนับสนุน ทำให้เขาไม่สามารถไปต่อได้ไกลเท่าซุนเฉิง โครงการสตาร์ทอัพของเขาต้องปิดตัวลงในเวลาเพียงเดือนครึ่ง ทิ้งไว้เพียงหนี้สินก้อนโต
ซุนเฉิงไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจที่จะดึงตัวบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการเป็นผู้ประกอบการของเขามาร่วมงาน
ภายในห้องทำงาน เมื่อหวังลู่และลู่หนานเห็นเขาเดินเข้ามา ทั้งคู่ก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
"ท่านประธานซุน..."
"พี่ซุน ขอโทษที่รบกวนนะครับ..."
"เชิญนั่งครับ..."
ซุนเฉิงพยักหน้าและผายมือให้ทุกคนนั่งลง
เขาหันไปทักทายหวังลู่ก่อน "ผู้จัดการหวัง นี่ลู่หนาน เพื่อนร่วมชั้นผมสมัยเรียนที่เฉินตู ขอบคุณที่ช่วยดูแลเขาให้นะครับ!"
"ประธานซุน ไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ จริงๆ แล้วมันค่อนข้างบังเอิญนะ เราคุยกันไปคุยกันมา ดันรู้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกันซะงั้น... มาจากเหมยโจวเหมือนกันเลย"
หวังลู่ยิ้มรับ ก่อนจะลุกขึ้นและขอตัวออกจากห้องไปอย่างสุภาพ "ผมต้องไปเช็คอะไรหน่อยที่ห้องเซิร์ฟเวอร์ คุยกันตามสบายเลยนะครับ!"
หลังจากทักทายทั้งสองคนแล้ว เขาก็ออกจากห้องทำงานไป
เมื่อหวังลู่เดินออกไป ซุนเฉิงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "ว่าไง ลู่หนาน คิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจมาร่วมงานกับ ไซเบอร์ตรอนเทคโนโลยี แล้วสินะ?"
ลู่หนานรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เขาได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมตั้งแต่ก่อนไซเบอร์ตรอนเทคโนโลยีจะก่อตั้งด้วยซ้ำ แต่เขายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตลาดพื้นที่เก็บข้อมูลคลาวด์ และแอบเคลือบแคลงใจในความถูกต้องของฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 20TB ที่ซุนเฉิงมอบให้เขา ช่วงนี้เขาเลยวุ่นวายอยู่กับการหาคนตรวจสอบฮาร์ดไดรฟ์และทำโปรเจกต์ส่วนตัวไปด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ ไซเบอร์ตรอนคลาวด์สตอเรจเปิดตัวแบบสายฟ้าแลบ ทำให้ลู่หนานฉุกคิดถึงโอกาสนี้ขึ้นมาได้ และตัดสินใจเดินทางมาที่นี่
ถึงแม้จะรู้สึกเคอะเขินอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้มาที่นี่มือเปล่า
ลู่หนานพยักหน้ารับ ก่อนจะพูดอย่างมุ่งมั่น "พี่ซุน ผมตัดสินใจแล้ว ครั้งนี้ผมมาที่นี่เพื่อขอการสนับสนุนจากพี่!"
ซุนเฉิงยิ้มกว้างและพยักหน้า นี่มันข่าวดีชัดๆ
ถ้าพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ เขาก็พอได้ศึกษาจากมุมมองของชีวิตจักรกลในโลกของทรานส์ฟอร์เมอร์สมาบ้างแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหนเนี่ยสิ
"ถึงแม้ทักษะทางเทคนิคของนายจะยังต้องพัฒนาอีกหน่อย แต่ฉันเห็นไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และความกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ ในตัวนายนะ ใครจะรู้ บางทีนายอาจจะสร้างชื่อในวงการ AI ก็ได้"
ซุนเฉิงตอบรับอย่างไม่ลังเล "ในฐานะอัจฉริยะด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์คนหนึ่ง ฉันสนับสนุนการตัดสินใจของนายเต็มที่เลย งั้นคืนนี้เราไปรวมตัวกันหน่อยมั้ย ชวนหยางหลินแล้วก็คนอื่นๆ ที่เรารู้จัก ไปหาที่นั่งคุยกันสักหน่อย!"
ก่อนที่ลู่หนานจะทันได้ตอบรับ เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อด้านในของซุนเฉิงก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
เขาส่งยิ้มขอโทษให้ลู่หนาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"ขอโทษทีนะ ดูเหมือนว่าเราคงต้องเลื่อนนัดไปก่อนแล้วล่ะ!"