ตอนที่แล้วตอนที่ 7 : ปิดทั้งสามเขต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 : พ่อ ผมหิว...

ตอนที่ 8 : ฆ่า


.

ถนนหานซวง

.

สองสามีภรรยามีสีหน้ากระดากอาย ยืนอยู่หน้าประตูบ้านด้วยความลังเลใจ

บ้านหลังนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของพวกเขาตอนนี้ถูกครอบครองโดยบุคคลที่กลับมาจากความตาย...หรือ 'อะไรบางอย่าง' ซึ่งลุกจากหลุมศพและถูกปนเปื้อนจากโลกสีเทา

มีความเป็นไปได้สูงที่'บางอย่าง' ที่เข้ามาในบ้านหลังนี้จะเป็นตัวปลอม มันอาจกลายเป็นภัยพิบัติ

“ตอนนี้เราควรทำยังไง…” หลี่ซิ่วชุนกลืนน้ำลาย

“เราจะทำยังไงน่ะเหรอ?” เฉินถานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เข้าไป เก็บข้าวของทั้งหมดให้เร็ว แล้ววิ่ง! วิ่งไปที่เขต 5 หรือเขต 6 สรุปง่ายๆ ยิ่งอยู่ห่างจากที่นี่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น!”

"แต่มันยังอยู่ข้างใน...ถ้ามันตื่นล่ะ จะทำยังไง?”

“มันออกไปแล้ว”

เฉินถานพูดอย่างแน่วแน่ มองดูรอยเท้าเปื้อนโคลนที่หน้าประตูบ้าน

หลังจากได้ยินดังนั้น นางหลี่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดเธอก็ใช้กุญแจไขประตู แล้วทั้งสองรีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“เอาแต่เงินกับของมีค่าแค่นั้น! อย่าเอาของหนักเกินไป!”

“ฉันจะไปห้องนอน คุณไปห้องนั่งเล่น!”

“เร็วเข้า เร็วเข้า! รีบหน่อย! เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะกลับมา!”

ทั้งสองแยกกันหยิบอาหารใส่ถุงด้วยความกระวนกระวาย

เฉินถานเปิดลิ้นชักแล้วยัดเงินทั้งหมดลงในกระเป๋าของเขา ตอนกำลังจะออกไปก็เหลือบเห็นขวาน ที่สามารถใช้ป้องกันตัวได้ วางอยู่ข้างเตียง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยัดมันลงในกระสอบ

ฐานะครอบครัวพวกเขาไม่ได้ร่ำรวย พวกเขามีสิ่งของมีค่าน้อยมาก ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งสองจึงไม่เต็มใจที่จะทิ้งทรัพย์สมบัติแม้แต่อย่างเดียวไว้ เพราะของพวกนี้ พวกเขาต้องแลกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง

หลี่ซิ่วชุนยัดผ้าฝ้ายและผ้าลินินสามชิ้นลงในกระเป๋า แล้วตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเหลือทิ้งไว้ จากนั้นรีบลงไปที่ห้องนั่งเล่น

ทั้งสองคนวางกระสอบไว้แล้วกำลังจะจากไป จู่ๆ หลี่ซิ่วชุนก็พูดว่า

"เรากำลังจะไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาเยี่ยนกลับมา"

"ถ้างั้นเราไปที่เขตสองกันก่อน! หลังจากที่เราไปรับเขาแล้ว เราจะพาเขาไปด้วย รีบเร็ว!” เฉินถานตอบอย่างเด็ดขาด

“เขาต้องถามหาพี่ชายของเขาแน่…”

“พี่ชายของเขาตายแล้ว”

เฉินถานพูดขณะเตรียมจะเปิดประตู ทว่ากลับมีเสียงกุญแจไขจากด้านนอกดังขึ้น

คนทั้งสองพลันยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่!

ประตูบ้านถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา

เฉินหลิงตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นคนทั้งสองถือกระสอบ จึงถามอย่างสงสัย

"พ่อ แม่ นี่พวกคุณจะไปไหนกัน"

เฉินถานกับหลี่ซิ่วชุนใบหน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี

ขณะเดียวกันนั้น มีม้าเร็ววิ่งผ่านนอกหน้าต่าง เสียงตะโกนของผู้คุมกฎดังก้องไปทั่วถนน

"สงสัยว่าจะมีภัยพิบัติหลุดออกมา! มีคำสั่งปิดทั้งสามเขต! ห้ามใครเข้าออก!!"

"กรุณาใส่ใจทุกสิ่งที่น่าสงสัยรอบตัว เช่น ถนนหรืออาคารที่โผล่ออกมาจากอากาศ สิ่งมีชีวิตลึกลับหน้าตาประหลาด หรือแม้แต่มนุษย์ที่มีพฤติกรรมผิดปกติ! "

"หากพบสิ่งแปลก ๆ ให้รายงานทันที..."

เสียงของเจ้าหน้าที่ผู้คุมกฎค่อยๆ หายไป!

บรรยากาศในบ้านแคบ ๆ ตกอยู่ในความเงียบงัน

“พวกเรา...”

เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงข้างนอก ขาของพวกเขาก็สั่นระริก พวกเขามองดูชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว คล้ายกับเขาเป็นปีศาจแยกเขี้ยวจากขุมนรก!

สายตาของเฉินหลิงมองไปที่กระสอบใบใหญ่สองใบ เขานึกถึงสิ่งที่ผู้คุมกฎเพิ่งตะโกนไปจึงปลอบใจพ่อกับแม่

"อย่ากังวลเลยครับ ภัยพิบัติดูเหมือนจะไม่ได้อยู่แถวนี้ บนถนนก็น่าจะยังปลอดภัย?”

.

เฉินถาน...

.

หลี่ซิ่วชุน...

.

เฉินหลิงเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

.

เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับข่าวของภัยพิบัติที่หลุดออกมา แต่เมื่อเขาเห็นความคาดหวังของผู้ชมพุ่งสูงขึ้น เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ...

จ้าวอี่ถูกทุบตีตลอดบ่าย และเขาแทบจะไม่สามารถเพิ่มค่าความคาดหวังมากกว่าสิบ แต่เมื่อผู้คุมกฎตะโกนค่าความคาดหวังก็พุ่งสูงขึ้นมากกว่าหกสิบ!

ตามความเข้าใจในปัจจุบันของเฉินหลิง นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้พบกับความสนุกสนานที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก

.

น่าเสียดายที่ความสนุกนี้...อาจเป็นเขา

.

หมอหลินเคยพูดถึงจุดตัดของโลกสีเทากับภัยพิบัติมาก่อน และเขาบังเอิญเจอมันมาเมื่อคืนนี้

ความทรงจำของเจ้าของเดิมในคืนนั้นหายไป... เมื่อรวมเบาะแสทั้งหมดเข้าด้วยกัน ภัยพิบัตินั่นคืออะไร....จะเป็นใครได้อีกถ้าไม่ใช่เขา?

เฉินหลิงเดาว่าสิ่งที่ผู้คุมกฎกำลังตามหาอาจเป็นผู้ชมที่อยู่ในตัวของเขาเอง

เฉินหลิงเคยคิดจะมอบตัวกับผู้คุมกฎโดยตรง แล้วปล่อยให้พวกเขาหาวิธีจัดการกับผู้ชม แต่เมื่อพิจารณาจากทัศนคติของพวกเขาต่อภัยพิบัติ มีแนวโน้มว่าพวกผู้คุมกฎจะฆ่าเขาทันทีเมื่อทราบเรื่อง

โดยรวมแล้ว เขาต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเป็นจุดเด่น และสังเกตสถานการณ์ไปก่อน

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังคงตึงเครียดและดูประหม่าอย่างมาก เฉินหลิงก็ถอนหายใจและช่วยหลี่ซิ่วชุนถือกระสอบ

“แม่ครับ เวลานี้จะออกไปไหนได้ครับ?”

“เขต 2 กับเขต 3 ถูกปิดแล้ว ถ้าคุณออกไป คุณจะไปนอนข้างถนนเหรอครับ”

เมื่อได้ยินประโยคแรก พวกหลี่ซิ่วชุนต่างตกตะลึง หลังจากฟังจบในที่สุดก็ได้สติและพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

"ใช่แล้ว...เธอพูดถูก"

"พ่อว่างมันลงเถอะ อย่ากังวลไป...ถ้าพวกเราหนีไป แล้วอาเยี่ยนจะทำยังไง?”

เฉินถานกลืนน้ำลายและจ้องมองเฉินหลิง พยายามค้นหาร่องรอยความแปลกประหลาดและเจตนาฆ่าบนใบหน้าของอีกฝ่าย...แต่เขาล้มเหลว

การกระทำของเฉินหลิงดูไม่เหมือนจะเป็น "ภัยพิบัติ" เลย มันแทบไม่ต่างจากเฉินหลิงปกติในความทรงจำของเขา

.

แต่เฉินถานรู้ดี...เขาไม่ใช่เฉินหลิง

.

เฉินหลิงตายแล้ว

.

“พวกคุณนั่งพักก่อนเถอะ ผมจะไปเอาน้ำดื่มในครัว” เมื่อเห็นว่าใบหน้าของพวกเขายังคงซีดเซียว เฉินหลิงก็ดึงเก้าอี้ที่โต๊ะออก แล้วหันหลังเดินเข้าไปในครัว

หลี่ซิ่วชุนกับเฉินถานมองหน้ากัน และในที่สุดก็นั่งลงอย่างจนใจ...

เฉินหลิงเทน้ำอยู่ในครัวพร้อมคิดหาวิธีทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง สามารถพูดกันแบบสบายๆ

"ใช่สิ แม่ครับไส้กรอกย่างที่ทิ้งไว้ให้เมื่อเช้านี้มันหอมมาก แม่ทำยังไงเหรอครับ?"

“ไส้กรอก...ไส้กรอกย่าง?”

หลี่ซิ่วชุนงงเล็กน้อย

เธอกับเฉินถานไปที่หลุมศพเมื่อคืนนี้ ไส้กรอกย่างมาจากที่ไหน?

“มันคืออันที่วางบนเขียง” เฉินหลิงตอบ

ความสับสนในดวงตาของหลี่ซิ่วชุนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอพยายามอย่างหนักที่จะนึกถึงมัน แต่ในที่สุดเธอก็ดูเหมือนจะนึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้ ใบหน้าของเธอก็ซีดลงราวกับกระดาษ

“คุณทิ้งไส้กรอกย่างให้เขาตอนไหน?” เฉินถานถามเสียงต่ำ

“ฉะ...ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่” หลี่ซิ่วชุนลดเสียงลง ตอบเสียงสั่น “เขียงนั่น...เดิมทีมีมีดตัดกระดูก...แต่ตอนที่ฉันกำลังเก็บข้าวของเมื่อกี้นี้ ฉันไม่เห็นมัน... มีดหายไป”

สีหน้าของเฉินถานเปลี่ยนไปทันที!

ในเวลาเดียวกัน เฉินหลิงซึ่งยืนหันหลังอยู่ในครัวให้ทั้งสองคน พูดต่อช้าๆ "ไส้กรอกย่างนั่นรสชาติหอมมาก แต่ดูเหมือนแข็งไปหน่อย...แม่ พรุ่งนี้อย่าอบนานไปนะครับ"

เฉินหลิงเทน้ำแล้วยื่นให้ทั้งสองคน และพบว่าใบหน้าของพวกเขาดูซีดลง...

"โอเคมั้ยครับ? ไม่สบายหรือเปล่า?" เฉินหลิงนั่งตรงข้ามกับพวกเขาด้วยความสับสน

“...ไม่เป็นไร” เฉินถานหายใจเข้าลึกๆ ดึงกระสอบบนพื้นอย่างเงียบๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบขึ้น “อาหลิง”

“หือ?”

"เรื่องเมื่อวานยังจำได้มั้ย?"

"เรื่องเมื่อวาน?" เฉินหลิงพยายามคิดย้อนกลับไปสักพักแล้วส่ายหัว "ผมจำไม่ได้...มีอะไรผิดปกติเหรอครับ?"

"...ไม่มีอะไร" เฉินถานกลืนน้ำลายเบา ๆ ราวกับว่าเขาตัดสินใจได้แล้ว เขามองตรงไปที่ดวงตาของเฉินหลิง "เธอคิดยังไง... เราปฏิบัติกับเธอเป็นยังไง?"

"ดีมากครับ" เฉินหลิงพูดตามความเป็นจริง

"ถ้าตอนนั้นพวกคุณไม่รับผมไว้ ผมคงหนาวตายอยู่ข้างถนน...พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดผมไม่ต้องการผม แต่คุณเลี้ยงดูผม แถมต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำเพื่อส่งผมไปโรงเรียน ผมเป็นหนี้พวกคุณ"

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของเฉินถานก็ดูจะโล่งใจขึ้นมาทันที...

"แล้วถ้าวันหนึ่งอาเยี่ยนป่วย... มีเพียงหัวใจของเธอเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้...เธอเต็มใจที่จะช่วยเขามั้ย"

เฉินหลิงตกตะลึง

ในเวลานี้ เขารู้สึกว่าคำเหล่านี้ค่อนข้างคุ้นเคย ความทรงจำของเจ้าร่างที่กระจัดกระจายพลันผุดขึ้นมาในหัว

เฉินหลิงปวดหัวอีกครั้ง...

ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าเจ้าของเดิมดูเหมือนจะได้ยินคำพูดที่คล้ายกันเมื่อคืนนี้ “ผม...ผม…” เฉินหลิงกุมหัวของเขา สีหน้าแสดงความเจ็บปวด

"อาเยี่ยนคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเรา เพื่อที่จะมีเขา แม่ของเธอต้องกินยาจนทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง... เราทำงานหนักสิบปีกว่าที่จะมีลูกคนนี้ ในที่สุด..."

"เราก็มีลูกที่เกิดจากเราจริงๆ ตอนนี้เขาป่วยเราทนดูเขาตายไม่ได้…หมอเขตสองบอกว่าตราบใดที่เราหาหัวใจอีกดวง ที่อายุไม่เกิน 20 ปีมาได้ ก็จะทดแทนหัวใจของอาเยี่ยนได้"

“อาเยี่ยนของเราเรียกเธอว่าพี่มาหลายปี แล้วเธอก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของเรามาหลายปี ในฐานะพ่อแม่ฉันไม่เคยขออะไรเธอเลย แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้น…เราขอให้เธอช่วยอาเยี่ยน”

“บอกฉันสิ...เธอเต็มใจใช่มั้ย?” ร่างกายของเฉินถานสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเมื่อมองไปที่เฉินหลิงเต็มไปด้วยคำอ้อนวอนและความคาดหวัง

เขาเป็นเหมือนเด็กที่ทำผิด และรอการให้อภัย

ในขณะนี้ความทรงจำที่เลือนรางในคืนฝนตกหนัก ในที่สุดก็ถูกเรียกคืนโดยสมบูรณ์

ขณะที่ต่อต้านอาการปวดหัว เฉินหลิงก็หายใจเข้าลึก ๆ พูดอย่างแหบแห้ง "งั้น... คุณคือคนที่ฆ่าเขา.. . "

"เขา?"

"...อาเยี่ยนรู้มั้ย"

"เขาไม่รู้ ถ้าเขารู้ว่าหัวใจที่เขาจะได้รับเป็นของเธอ...เขายอมตายดีกว่า" ภายในใจเฉินถานฟื้นจากความรู้สึกผิด เขาวางมือลงในกระสอบที่เท้าแล้วค่อย ๆ หยิบขวานอันแหลมคมออกมา

“อาหลิง เธอตายแล้ว เธอไม่ควรอยู่ที่นี่” ดวงตาของเฉินถานเป็นสีแดงก่ำ เขากำขวานไว้แน่น พูดเสียงแหบแห้ง

“ไม่ว่าอะไรที่อยู่ในร่างเธอ…ฉันจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ”

ฟ้าร้องสว่างวาบไปทั่วท้องฟ้าอันมืดมิด ขวานอันแหลมคมถูกยกขึ้นสูง...เหวี่ยงลงมาอย่างแรง!

.

ปัง! -

.

คลื่นความอบอุ่นสาดบนใบหน้าของเฉินถาน บนพื้นมีเลือดสีแดงฉานบานสะพรั่งเหมือนช่อดอกไม้ ร่างของเฉินหลิงล้มลงบนพื้นด้วยเสียงอู้อี้

ขวานฝังอยู่บนคอของเขา มันเกือบจะตัดศีรษะเขาขาด

ดวงตาเฉินหลิงจ้องมองไปที่ความว่างเปล่า ด้วยความเจ็บปวด ความสับสนยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา...

เขาตายแล้ว ไม่มีการเต้นของหัวใจ ไม่มีการหายใจ ร่างกายของเขาค่อยๆ เย็นลง

ภาพนี้ราวกับคนที่นอนหลับท่ามกลางดอกไม้สีแดงสด

หน้าอกของเฉินถานสั่นอย่างรุนแรง เขาจ้องมองไปที่ศพ เสื้อผ้าของเขาเปียกโชก...

"ตาย ตายแล้ว...?"

"...ตายแล้ว"

"ภัยพิบัติล่ะ?"

เฉินถานชะงักชั่วคราว "...ฉันไม่รู้"

หลี่ซิ่วชุนมองดูศพอย่างว่างเปล่า ทันใดนั้นก็พูดว่า "คุณบอกว่าเขาเป็นภัยพิบัติ...ไม่ใช่เหรอ...แต่ถ้าพระเจ้าให้โอกาสเราไถ่บาปอีกครั้งล่ะ"

"ถ้าเป็นแบบนั้น..." เฉินถานหัวเราะอย่างเศร้าหมอง

"ถ้าอย่างนั้น เราก็ควรตกนรกจริงๆ"

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด