ตอนที่ 7 : ปิดทั้งสามเขต
บ่ายวันนั้น บนถนนหานซวง ตลอดทั้งวันมีเสียงกรีดร้องแทบจะไม่หยุดเลย
แต่เฉินหลิงตัวการผู้ยุยงเรื่องทั้งหมดนี้ กลับนั่งเงียบๆ ใต้ต้นไม้กินเผือก*กับเพื่อนข้างบ้านทั้งหลาย...ขณะเดียวกันก็ให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังของผู้ชม
ในตอนแรก เมื่อลุงจ้าวตีจ้าวอี่ความคาดหวังของผู้ชมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่หลังจากตีเพียงไม่กี่ครั้ง การเติบโตก็หยุดนิ่ง จนในที่สุดก็หยุดที่ 48%
หลังจากดูมาเป็นเวลานาน ค่าความคาดหวังก็ลดลง 1% เป็น 47%...
ดูเหมือนว่าผู้ชมเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย
“ผู้ชมในตัวฉัน คงไม่ใช่ทุกคนสินะที่มีความสุข?”
เฉินหลิงอดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเอง
จากการทดลองนี้ เฉินหลิงสามารถระบุได้ว่าความคาดหวังของผู้ชมเปลี่ยนไปตามการกระทำของเขาเอง หากเหตุการณ์ที่เขาเจอนั้นน่าตื่นเต้นเพียงพอ ความคาดหวังก็จะเพิ่มขึ้น และเมื่อไม่มีความสนุกสนานเป็นเวลานาน ความคาดหวังก็จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป...
นั่นหมายความว่า หากเขาต้องการรักษาค่าความคาดหวังให้สูงกว่า 20% เขาจะต้องสร้าง "แผนการที่น่าตื่นเต้น" ต่อไปใช่มั้ย?
วันนี้เป็นเพราะจ้าวอี่ที่ยั่วยุเขาก่อน และอีกฝ่ายยังเป็นอันธพาลแห่งถนนหานซวง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากจะสอนบทเรียนให้เขา...
แต่เรื่องแบบนี้มันทำทุกวันไม่ได้ ใช่มั้ย?
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะถูกลิขิตให้กลายเป็นปีศาจที่คอยสร้างปัญหาให้กับโลกไม่ใช่เหรอ?
แค่คิดแค่นี้ เฉินหลิงก็รู้สึกเหนื่อยใจ...
ตอนนี้ฟางช่วยชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของเฉินหลิงคือ "หมอ" จากเมืองออโรร่า คนที่หมอหลินพูดถึง
บางทีเขาอาจจะสามารถกำจัดภาวะปนเปื้อนภัยพิบัติในตัวเขาออกไป และช่วยให้เขาหลุดพ้นจากการเป็น "เครื่องมือสร้างความบันเทิง"
ขณะที่เฉินหลิงกำลังครุ่นคิดอยู่ เสียงระฆังกังวานดังมาจากระยะไกล!
.
แตง แตง แตง! -
.
ระฆังทั้งสามดังขึ้นราวกับว่าพวกมันสามารถเขย่าอากาศ เสียงดังสะท้อนไปทั่วทุกทิศทาง
ทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงระฆัง การแสดงออกของผู้คนโดยรอบพลันเปลี่ยนไป แม้แต่ลุงจ้าวที่กำลังไล่ตีจ้าวอี่ก็หยุดชะงัก เขาตกตะลึง มองไปไกลสุดสายตา
“ระฆังภัยพิบัติทั้งสามดังพร้อมกัน?!” ชายชราสีหน้าดูน่าเกลียดมาก “เป็นไปได้ยังไง?”
“เสียงระฆังภัยพิบัติเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าจากผู้คุมกฎ นั่นหมายความว่า พวกเขาพบร่องรอยจุดตัดของโลกสีเทาในพื้นที่ ภัยพิบัติบุกเข้ามาแล้ว...”
"ไม่ใช่ว่ามีผู้พิทักษ์แห่งออโรร่าคอยปกป้องอยู่เหรอ มันไม่ควรจะเกิดจุดตัดของโลกสีเทาสิ? ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเกิดภัยพิบัติแค่สามครั้งเองนะ..."
"แล้วตอนนี้ภัยพิบัติอยู่ที่ไหน?"
"ฉันไม่รู้... ยังไงก็รีบกลับบ้านเถอะ ไม่มีเรื่องให้ต้องออกมาข้างนอก!"
เมื่อระฆังภัยพิบัติทั้งสามดังขึ้น ใบหน้าของทุกคนก็ซีดเซียว ส่วนจ้าวอี่ที่เพิ่งถูกทุบตีก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก ขาของเขาอ่อนแรงล้มลงคุกเข่าลงกับพื้น
พื้นใต้เท้าสั่นเล็กน้อย เมื่อเฉินหลิงหันกลับมาก็เห็นม้าเร็วจำนวนมากกว่าสิบตัว ควบมาจากระยะไกล
บนม้าเร็วแต่ละตัวมีคนสวมเครื่องแบบสีดำแดง พวกเขามีซองปืนพกพันรอบเอว ใบหน้าของพวกเขาล้วนเคร่งขรึมไม่แพ้กัน
“ตอนนี้สงสัยว่าภัยพิบัติหลุดออกมา! ทั้งสามเขตถูกปิดแล้ว! ห้ามใครเข้าหรือออก!!”
“กรุณาใส่ใจกับสิ่งที่น่าสงสัยทั้งหมดรอบตัว เช่น ถนนหรืออาคารแปลกๆ ที่โผล่ขึ้นมาจากอากาศ สิ่งที่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตลึกลับ หรือแม้แต่มนุษย์ที่มีพฤติกรรมผิดปกติ!!”
หากพบสิ่งผิดปกติ ให้รายงานผู้คุมกฎทันที!"
"ทุกคน กรุณาให้ความร่วมมือในการสืบสวน!"
เสียงของผู้คุมกฎดังก้องไปทั่วทุกมุมถนนหานซวง พร้อมกับเสียงระฆังเตือนภัยพิบัติในอากาศ
ความรู้สึกตึงเครียดที่อธิบายไม่ได้ปกคลุมทุกพื้นที่
ในขณะนี้ ไม่มีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะนั่งเผือกเรื่องคนอื่นอีกต่อไป ทุกคนต่างรีบกลับบ้าน แม้แต่จ้าวอี่ก็ถูกพ่อของเขาลากเข้าไปในบ้าน พร้อมคำสาปแช่งหลายคำ
เฉินหลิงยืนอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ และกำลังจะเดินกลับบ้าน ในเวลานี้ ตัวอักษรสองบรรทัดเปล่งประกายท่ามกลางใบไม้ที่ร่วงหล่น
.
.
[ค่าความคาดหวังของผู้ชม: +18]
.
[ค่าความคาดหวังปัจจุบัน: 65%]
.
เมื่อเห็นว่าค่าความคาดหวังของผู้ชม พุ่งสูงขึ้น เฉินหลิงตกตะลึง
ครู่ต่อมา ความคิดอันน่าสะพรึงกลัวก็ผุดขึ้นในใจของเขา...
"พวกมัน...จะไม่มาหาฉันใช่มั้ย!"
.
.
........
.
เขต 3
.
กองบัญชาการ
.
แสงแดดสลัวๆ ลอดผ่านโดมกระจกครึ่งวงกลม การหักเหของแสงทำให้เกิดแสงระยิบระยับหลากสีสันส่องสว่างทั่วทั้งห้อง
ธงยาวกว่าสิบเมตรมีเชือกห้อยอยู่ตรงกลาง บนพื้นหลังสีเข้ม มีดาวหกแฉกสีฟ้าสองดวงซ้อนทับกัน เหมือนกับดวงดาวที่ส่องแสงในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เวลานี้ ใต้ธงผู้คุมกฎหลายสิบคนสวมเครื่องแบบสีดำแดงสีหน้าจริงจัง พวกเขายืนเรียงแถวตรง หันหน้าไปทางประตูสำนักงานใหญ่ ราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง
เมื่อประตูเปิดออก ผู้คุมกฎห้านายสวมเสื้อคลุมกันฝนสีดำเดินออกมาพร้อมกัน
ในบรรดาห้าคน หานเหมิงเดินอยู่ตรงกลาง โดยมีเส้นสีเงินสี่เส้นสลักอยู่บนชายเสื้อคลุมของเขา ส่วนอีกสี่คนมีเพียงสามเส้นเท่านั้น เจ้าหน้าที่ผู้คุมกฎทุกคนต่างให้ความสนใจ
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง” หานเหมิงถามน้ำเสียงทุ้ม
“ระฆังภัยพิบัติดังขึ้น ขณะนี้ทั้งสามเขตถูกสั่งปิดโดยสมบูรณ์ แต่ยังไม่พบร่องรอยของภัยพิบัติ…” ผู้คุมกฎลังเลอยู่ครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะถาม
“พี่เหมิง ที่ตัวชี้วัดภัยพิบัติพัง...มันหมายความว่ายังไง?”
"มีแค่สองกรณีเท่านั้น ที่ตัวชี้วัดภัยพิบัติจะพัง" หานเหมิงพูดอย่างใจเย็น
"อย่างแรกคือ มีภัยพิบัติแบบพิเศษเกิดขึ้น และความสามารถของภัยพิบัติพิบัติทำให้เครื่องชี้วัดระดับภัยพิบัติพัง...แต่คำอธิบายนี้เป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้นยังไม่เคยพบภัยพิบัติที่ว่า"
"อย่างที่สองคือ ระดับเก้า...ซึ่งเรียกกันว่า ภัยพิบัติระดับ 'ทำลายล้าง' พลังของมันเกินขีดจำกัดของตัวชี้วัดจะวัดได้ เครื่องมันเลยระเบิดตัวเอง"
"ทำลายล้าง... ระดับทำลายล้าง" ทุกคนหน้าซีด
“ไม่ต้องตื่นตระหนกขนาดนั้น...คุณคงไม่คิดว่าจะมีระดับ 'ทำลายล้าง' เกิดขึ้นใช่มั้ย?” ผู้คุมกฎที่อยู่ข้างๆ หานเหมิงหัวเราะเบา ๆ
“ภัยพิบัติระดับ 'ทำลายล้าง' ในโลกสีเทาที่สามารถกวาดล้างมวลมนุษย์ทั้งหมดได้ พบไม่มาก... หากมีระดับ 'ทำลายล้าง' หลุดมาจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงทั้งเขตสามเลย แม้แต่เมืองออโรร่าเองก็จะถูกกวาดล้างเป็นเถ้าถ่านทันทีที่มันมาถึง”
ในที่สุดทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก…
“งั้น มันควรจะเป็นแค่ 'ภัยพิบัติ' พิเศษใช่มั้ย?”
“ในตอนนี้ นี่เป็นเพียงคำอธิบายเดียว”
“แต่ตัวชี้วัดภัยพิบัติพัง แล้วเราควรให้ระดับมันยังไง?”
"ไม่สามารถให้ระดับได้" หานเหมิงส่ายหัว
"เว้นแต่มันจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง แล้วเราก็ต่อสู้กับมัน...สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการใช้กำลังคนทั้งหมดของเรา เพื่อค้นหาสถานที่ต่างๆ ให้ทั่วและต้องพบมัน ก่อนที่มันจะทำร้ายประชาชน”
“กระจายกันค้นหา…แต่เราอาจมีกำลังคนไม่พอนะครับ”
“งั้นก็เรียกผู้คุมกฎจากที่นั่งสำรองมา การทดสอบข้อเขียนจบลงไม่กี่วันก่อนใช่มั้ย รวบรวมคนที่มีคุณสมบัติมา แล้วบอกพวกเขาว่านี่คือ การทดสอบศิลปะการต่อสู้”
"รับทราบครับ!"
.
.