ตอนที่ 248 ความสามารถใหม่ที่น่าเหลือเชื่อ

“ได้สิ”

เมื่อเห็นว่าคนที่เป็นหัวหน้าต้องการพูดคุยกับตัวเอง เย่เฉิน ก็สงสัยในตัวตนของพวกเขาเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตอบรับ

“ขอบคุณมากครับ ท่านประธานเย่”

หัวหน้าคนนั้นกล่าวด้วยความสุภาพ จากนั้นเขามองไปรอบๆ สุดท้ายก็เลือกมุมที่ค่อนข้างเงียบสงบ

“ท่านประธานเย่ เชิญทางนี้ครับ”

หัวหน้าพูดพร้อมกับทำท่าทางเชิญชวน

“ฉันจะไปคุยธุระแป๊บนะ”

เย่เฉิน บอกกับเพื่อนๆ สมัยมัธยมปลายของเขาก่อนจะเดินตามหัวหน้าคนนั้นไปยังที่ที่ไม่ไกลออกไปนัก

ส่วน เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ และโจว หย่งเจ๋อ ต่างก็ยังคงอยู่ในอาการตกตะลึง

จนถึงขณะนี้พวกเขายังไม่หายจากความตกใจเลย

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เมื่อไหร่กันที่ เหล่าเย่ พลิกผันกลายเป็น ‘ท่านประธานเย่’ ไปได้?

เมื่อนึกถึงภาพขบวนรถซุปเปอร์คาร์ขนาดใหญ่ที่จอดเรียงราย และคนเหล่านั้นโค้งคำนับทักทาย เหล่าเย่ ว่า ‘ท่านประธานเย่’ เอี๋ยน จวิ้นเต๋อ และเพื่อนๆ ก็รู้สึกราวกับฝันไป

เหล่าเย่ นี่มันเก่งกาจเกินไปแล้ว

ส่วน โจว หย่งเจ๋อ เวลานี้ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่า เย่เฉิน เป็นแค่ผู้ชายที่ถูกสาวสวยรวยเสน่ห์ เลือกให้เป็น ‘แฟนหนุ่ม’ ก็เพียงเพราะหล่อดูดีเท่านั้นเอง

แต่ทันใดนั้น ขบวนรถซุปเปอร์คาร์สุดยิ่งใหญ่ก็ปรากฏขึ้น?

ซึ่งเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่.. มันช่างน่าตกตะลึงจริงๆ

เพราะตัวเขาเองก็เพิ่งซื้อซุปเปอร์คาร์มาเหมือนกัน โจว หย่งเจ๋อ จึงรู้จักรถพวกนี้มากพอสมควร

เมื่อมองไปที่ขบวนรถเหล่านี้ รถแต่ละคันมีราคาสูงกว่ารถ Lamborghini Huracan ของเขามาก บางคันอาจมีราคาสูงถึงหลายสิบล้านหยวน

คนที่มีขบวนรถใหญ่โตขนาดนี้ และเป็นประธานของกลุ่มนี้ได้ โจว หย่งเจ๋อ ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เย่เฉิน มีฐานะอย่างไร?

ในขณะที่ทุกคนยังคงคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ไม่หยุดนั้น เย่เฉิน และหัวหน้าขบวนรถซุปเปอร์คาร์ก็ได้เดินไปยังมุมหนึ่งแล้ว

“ท่านประธานเย่ พวกเราเป็นคนจากสโมสรซุปเปอร์คาร์ ‘เฟิงหั่วเฮยฉี (Beacon Black Cavalry)’ หนึ่งในสี่สโมสรซุปเปอร์คาร์ใหญ่ในหางโจวครับ”

เมื่อไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น หัวหน้าจึงเริ่มกล่าวแนะนำ

ที่จริงแล้วพวกเขาคือกลุ่มคุณหนูคุณชายจากหางโจวที่บังเอิญเคยเห็น เย่เฉิน ขับรถ Lykan HyperSport ที่น่าทึ่งมาก่อน

เมื่อสองสามวันที่แล้วหลังจากกลับไปที่หางโจว หัวหน้าก็ได้รวบรวมสมาชิกเกือบทั้งหมดของสโมสรเข้าด้วยกัน

“สโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงฮั่วเฮยฉี?”

เย่เฉิน พึมพำกับตัวเอง

เขาไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหางโจวมากนัก

“ท่านประธานเย่ ผมชื่อ จ้าว เจิ้นหยวน มาจากตระกูลจ้าวในหางโจว ท่านสามารถเรียกผมว่า เสี่ยวจ้าว ได้เลยครับ”

หัวหน้าของขบวนรถแนะนำตัวเอง

“แล้วคุณมาหาผมมีธุระอะไรหรือ?”

เย่เฉิน สงสัยอย่างมากว่าเพราะอะไรสโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงฮั่วเฮยฉี ถึงมาตามหาเขา

“อย่างที่คิดไว้เลยครับ ไม่มีอะไรจะรอดพ้นสายตา ท่านประธานเย่ ได้”

“ขอพูดตรงๆ เลยก็แล้วกันครับ เนื่องจากเหตุผลหลายประการ สโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงฮั่วเฮยฉี ของเราจึงถูกสโมสรซุปเปอร์คาร์อีกแห่งในหางโจวบดขยี้ และเราสูญเสียตำแหน่งหนึ่งในสี่สโมสรซุปเปอร์คาร์ใหญ่ของหางโจวไป”

“พวกเราจึงอยากจะขอให้คุณมาเป็นหัวหน้า เป็นประธานของสโมสรเรา เพื่อฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของสโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงฮั่วเฮยฉี และนำตำแหน่งสโมสรซุปเปอร์คาร์ใหญ่อันดับหนึ่งของหางโจวกลับมา”

จ้าว เจิ้นหยวน พูดถึงจุดประสงค์ของพวกเขา

“พวกคุณรู้จักผมได้อย่างไร?”

เย่เฉิน สงสัยมาก

“พวกเราเคยบังเอิญเจอคุณขับรถบนท้องถนนมาก่อน แล้วเราเองก็ประทับใจในฝีมือการขับรถของคุณ รวมถึงรถ Lykan HyperSport คันนั้นด้วย จากนั้นเราก็สืบหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณ ..หวังว่าคุณจะไม่ถือสาครับ”

จ้าว เจิ้นหยวน พูดอย่างตรงไปตรงมา เพราะเมื่อเขาต้องการขอให้ท่านประธานเย่ มาเป็นประธานอย่างจริงใจแล้ว ตัวเขาก็ต้องไม่ปิดบังอะไร

“ท่านประธานเย่ ขอเพียงคุณยอมมาเป็นหัวหน้าของเรา พวกเราจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณทุกประการ และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ”

จ้าว เจิ้นหยวน ให้คำมั่น

“พวกเราอาจไม่มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่อย่างน้อยๆ พวกเราก็ยังมีอำนาจในมืออยู่บ้าง”

“หากมีเรื่องอะไร เพียงแค่คุณเอ่ยปาก พวกเราก็พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตยอดทำทุกอย่างเพื่อคุณ”

สโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงฮั่วเฮยฉี ในฐานะที่เคยเป็นหนึ่งในสี่สโมสรซุปเปอร์คาร์ใหญ่ในหางโจว สมาชิกส่วนใหญ่ของพวกเขาคือคุณหนูคุณชายจากตระกูลที่ร่ำรวยในหางโจว

แม้ว่าพวกเขาแต่ละคนอาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับคนในตระกูลชั้นนำ แต่เมื่อรวมพลังกันแล้วก็ยังเป็นกลุ่มที่มีพลังมากพอสมควรทีเดียว

เพื่อจะได้เชิญ ท่านประธานเย่ มาร่วมสโมสร และกู้คืนเกียรติยศ และตำแหน่งเดิม พวกเขายินดีพร้อมฟังคำสั่งของ ท่านประธานเย่ เสมอนับต่อจากนี้

หลังจากพูดจบ จ้าว เจิ้นหยวน ก็เงียบลง ยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบเสงี่ยมรอฟังคำตอบจาก เย่เฉิน

เย่เฉิน ตกอยู่ในความคิด

ติ๊ง..

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของ เย่เฉิน ก็สั่นขึ้นมา

มีข้อความจากเกมหรือ?

เย่เฉิน คาดเดาในใจของเขา

เขาก้มมองดูโทรศัพท์ ปรากฏว่ามีข้อความจากเกมจริงๆ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อให้สังเกตเห็นข้อความจากเกมได้ทันที เย่เฉิน จึงปิดการแจ้งเตือนจากแอปอื่นๆ ทั้งหมด เหลือเพียงเกม [ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้] และ WeChat ไว้เท่านั้น

เย่เฉิน เปิดแจ้งเตือนของ WeChat ไว้เพราะกลัวว่าจะพลาดเรื่องเร่งด่วน ไม่เช่นนั้น WeChat ก็คงจะถูกปิดไปด้วยแล้ว

เย่เฉิน เดินไปอีกสองสามก้าวจนไปถึงที่ที่ไม่มีคน แล้วจึงเปิดเกมขึ้นมา

[ติ๊ง]

[ภารกิจท้าทายใหม่ : กลายเป็นประธานของสโมสรซุปเปอร์คาร์ เฟิงฮั่วเฮยฉี และกู้คืนเกียรติยศ และตำแหน่งเดิมของสโมสรกลับคืนมา]

[รางวัลสำหรับภารกิจท้าทาย : ความสามารถ - มองเห็นอัตราผลตอบแทน ใช้ได้ 3 ครั้ง]

ภารกิจท้าทายครั้งนี้อยู่ในความคาดหมายของ เย่เฉิน แต่รางวัลนั้นเขากลับไม่เคยคาดคิดมาก่อน..

“มองเห็นอัตราผลตอบแทน?”

เย่เฉิน พึมพำกับตัวเองเบาๆ

ครั้งนี้รางวัลจากภารกิจท้าทายไม่ใช่สิ่งของในชีวิตจริง แต่เป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง

และมันแตกต่างจากทักษะอื่นๆ ที่ เย่เฉิน เคยได้รับมา คราวนี้ความสามารถ ‘มองเห็นอัตราผลตอบแทน’ นี้ มีโอกาสใช้ได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น

เนื่องจากเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เย่เฉิน จึงเปิดอ่านหมายเหตุเกี่ยวกับความสามารถ ‘มองเห็นอัตราผลตอบแทน’ จากเกม

หลังจากอ่านเสร็จแล้ว เย่เฉิน รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

ตรงตามชื่อที่บอกไว้เลย ความสามารถ ‘มองเห็นอัตราผลตอบแทน’ สามารถใช้ในการมองเห็นอัตราผลตอบแทนของสิ่งใดๆ ได้ในทันทีโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

ซึ่งความสามารถนี้ ..มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า?

สามารถเห็นอัตราผลตอบแทนของทุกอย่าง นั่นก็เกือบจะเหมือนกับ ‘การล่วงรู้อนาคต’ ไม่ใช่หรือไง?!!

ในขณะนี้ เย่เฉิน ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมรางวัลจากภารกิจท้าทายในครั้งนี้จึงให้โอกาสใช้เพียง 3 ครั้ง แทนที่จะให้เป็นความสามารถมาอย่างถาวร

หากเขาสามารถครอบครองความสามารถ ‘มองเห็นอัตราผลตอบแทน’ ได้อย่างสมบูรณ์

ตราบใดที่เขาใช้มันอย่างเหมาะสม อาจไม่ถึงหนึ่ง หรือสองเดือน เย่เฉิน ก็สามารถกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกได้ หรือแม้กระทั่งสามารถ ‘ทำอะไรก็ได้’ อย่างที่ใจต้องการ เพียงแค่มองหาอัตราผลตอบแทนก่อนทำ...

เมื่อรู้ถึงความน่ากลัวของความสามารถนี้แล้ว เย่เฉิน รู้สึกว่าต่อให้มีโอกาสใช้เพียง 3 ครั้ง อย่างไรมันก็คุ้มค่า..

และแน่นอนว่า ..เขาจะต้องคว้าความสามารถนี้มาให้ได้!!!

เมื่อได้ตัดสินใจแล้ว เย่เฉิน ก็ออกจากเกม และเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง

“ตกลง ผมยอมรับ”

เย่เฉิน หันหลังกลับมา และตอบตกลงกับ จ้าว เจิ้นหยวน

“จริงๆ หรือครับ?”

เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจาก เย่เฉิน จ้าว เจิ้นหยวน ก็รู้สึกดีใจมาก

หลังจากนั้น เย่เฉิน และจ้าว เจิ้นหยวน ก็เดินไปยังหน้าร้านอาหาร

“ท่านประธานเย่ ตกลงแล้ว ท่านประธานเย่ องอาจผึ่งผาย!!!” (威武, องอาจสง่าผ่าเผย)

จ้าว เจิ้นหยวน แจ้งข่าวดีนี้ให้แก่สมาชิกคนอื่นๆ ของสโมสรทราบ

“ท่านประธานเย่ องอาจผึ่งผาย!”

“ท่านประธานเย่ องอาจผึ่งผาย!”

“ท่านประธานเย่ องอาจผึ่งผาย!”

ทันใดนั้น เสียงดังก้องสนั่นไปทั่วบริเวณ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันอย่างสุดขีด!

เมื่อเห็นฉากเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงนี้ โจว หย่งเจ๋อ และเอี๋ยน จวิ้นเต๋อ ก็ยังคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน…