(พิเศษ) บทที่ 157 ผ้าเช็ดหน้าของเธอสวยมาก
(TL: หากบทไหนมีการแข่งฟุตบอลจะเปิดเป็นตอนฟรีแบบนี้ ถ้าไม่อินเหมือนผมก็อ่านข้ามๆได้ ไม่นานก็จบช่วงนี้แล้ว หลังจากนี้ไปความสัมพันธ์ของพระเอกจะเริ่มเข้าสู่ความวุ่นวาย)
หยางไป่ซานอดไม่ได้ที่จะโกรธ
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่ที่ปรึกษาพูด เขาจึงพยายามควบคุมตัวเอง
เขาจ้องมองชาวจีนสองคนจากเอกภาษาอังกฤษด้วยสายตาหงุดหงิด
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงกลัวชาวต่างชาติขนาดนี้!
หากโดนดูถูก ทำไมถึงไม่ตอบโต้กลับ?
“ไอ้ขี้ขลาดเอ๊ย!” หยางไป่ซานสาปแช่ง
ทีมเอกภาษาอังกฤษกลับมาเขี่ยลูกอีกครั้ง และคนผิวขาวสองสามคนก็ใช้การกดดันอย่างหนักเพื่อทำลายระบบการเล่นของพวกเขาเหมือนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม จริงๆแล้วทักษะของพวกเขาอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น และพวกเขาแค่อาศัยความตัวใหญ่เพื่อทำให้ดูน่าเกรงขาม
นอกจากหมายเลข 3 แล้ว ทักษะของคนอื่นๆอยู่ในระดับธรรมดามาก มันเทียบไม่ได้กับเพื่อนจากเฉิงตูของหยางไป่ซานเลย
หลังจากประสบความสูญเสียครั้งหนึ่ง ทีมเทคโนโลยีสารสนเทศก็มุ่งเน้นไปที่การป้องกันมากขึ้น
ทีมเอกอังกฤษพยายามอย่างหนักแต่ก็ยังล้มเหลวในการบุกทะลวงแนวรับ และในที่สุดก็เสียการครองบอลจากความรีบร้อน
หมายเลข 3 วิ่งไปถึงกรอบเขตโทษแล้ว แต่ก่อนที่กองหน้าทั้งสามจะประสานงานกันแบบเดิม สวี่ชิวเหวินก็สกัดบอลไว้ได้
หยางไป่ซานตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องตะโกนบอกใดๆ เขาเปลี่ยนทิศทางกะทันหันและวิ่งไปยังแดนของคู่ต่อสู้
การจ่ายบอลยาวอันแม่นยำของสวี่ชิวเหวินตกลงมาที่เท้าของหยางไป่ซานอีกครั้ง
เผชิญกับเซนเตอร์แบ็คผิวขาวของคู่ต่อสู้ หยางไป่ซานเลี้ยงหลบและหลอกล่อเขาอย่างง่ายดาย ก่อนจะพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ
สวบ!
หยางไป่ซานทำประตูได้อีกครั้ง ทะลวงผ่านผู้รักษาประตูของเอกภาษาอังกฤษ!
ข้างสนาม ผู้ชมฝั่งสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศที่เงียบงันก่อนหน้านี้ต่างส่งเสียงเชียร์อีกครั้ง
ในทางตรงกันข้าม นักศึกษาเอกภาษาอังกฤษแทบจะเงียบสนิท
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป
สุดท้ายครึ่งแรกก็จบลงด้วยสกอร์ 3:1
ช่วงพักครึ่ง ชายผิวขาวทีมเอกอังกฤษออกจากสนามด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แม้จะรู้สึกหงุดหงิดกับสกอร์ แต่พวกเขาก็ยังขอบคุณนักศึกษาหญิงที่นำน้ำมาให้อย่างสุภาพ
หมายเลข 3 บ่นออกมาเป็นภาษาอังกฤษโดยตรง “ถ้าไม่ใช่เพราะพวกแกสองคนสกัดบอลไม่ได้และเสียตำแหน่ง อีกฝ่ายจะเข้ามายิงง่ายๆได้ยังไง?”
ชายหนุ่มชาวจีนทั้งสองก้มศีรษะลงอย่างเงียบๆ
สิ่งนี้กระตุ้นความเย่อหยิ่งของชาวต่างชาติ และพวกเขาก็ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์ฟูลแบ็คทั้งสองหนักขึ้น
หญิงสาวเอกภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ไม่เข้าใจฟุตบอล เมื่อได้ยินชาวต่างชาติตำหนิฟูลแบ็คทั้งสองที่ไม่สามารถป้องกันได้ พวกเขาก็เชื่อโดยสัญชาตญาณ
หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาและรูปร่างค่อนข้างแย่ตะโกนใส่ทั้งสองโดยตรง “พวกนายเล่นดีๆไม่เป็นหรือไง? คนอื่นๆต่างพยายามอย่างหนัก แต่พวกนายกลับรั้งมันไว้ เราไม่ได้ขอให้นายเล่นให้ดีเป็นพิเศษ แค่ไม่ดึงคนอื่นให้ต่ำลงมันมากเกินไปเหรอ? น่าละอายจริงๆ!”
—
ขณะเดียวกันทีมเทคโนโลยีสารสนเทศก็ออกมาพักข้างสนาม
สวี่ชิวเหวินเพียงคนเดียวมีหญิงสาวสองคนนำน้ำมาให้
คนหนึ่งคือไป๋เยว่เอ๋อร์ และอีกคนคือซูหยานหยาน
สวี่ชิวเหวินเพิกเฉยต่อไป๋เยว่เอ๋อร์
เขารับน้ำจากซูหยานหยาน เปิดขวด แล้วดื่มหนึ่งที ก่อนจะขอบคุณเธอ “หยานหยาน ขอบคุณนะ”
ไป๋เยว่เอ๋อร์พูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าสวี่ชิวเหวินเลือกที่จะรับน้ำของซูหยานหยานแทนของเธอ
ซือเซียงหมิงเดินตามหลังสวี่ชิวเหวิน เมื่อเห็นขวดน้ำในมือของไป๋เยว่เอ๋อร์ เขาจึงถามด้วยรอยยิ้ม “เยว่เอ๋อร์ นี่เป็นน้ำสำหรับฉันหรือเปล่า”
ไป๋เยว่เอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิดมากและพูดด้วยความโกรธ “เอาไป!”
ซือเซียงหมิงยอมรับและดื่มมันอย่างมีความสุข
หลังจากมอบน้ำให้ซือเซียงหมิง ไป๋เยว่เอ๋อร์ก็นั่งลง เธอจ้องมองสวี่ชิวเหวิน รู้สึกงุนงงกับทัศนคติของเขาที่มีต่อเธอ
ถัดจากเธอ เสิ่นหมินเหยาพอใจกับพฤติกรรมของสวี่ชิวเหวินมาก
ถังเว่ยเว่ยเห็นว่าสวี่ชิวเหวินเต็มไปด้วยเหงื่อจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า
ผ้าเช็ดหน้าสีขาวปักลายดอกบ๊วยตรงกลาง
ถังเว่ยเว่ยยื่นมันให้เขา
สวี่ชิวเหวินประหลาดใจ จากนั้นก็ยิ้มแล้วถามอย่างรู้เท่าทัน “เว่ยเว่ย นี่ผ้าเช็ดหน้าเธอเหรอ? มันสวยมาก”
ถังเว่ยเว่ยพยักหน้า
“ฉันมือไม่ว่าง เธอช่วยเช็ดเหงื่อให้ฉันได้ไหม”
ถังเว่ยเว่ยลังเลครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเช็ดเหงื่อของเขา
การเคลื่อนไหวของถังเว่ยเว่ยระมัดระวังมาก เธอเช็ดใบหน้าของเขาอย่างตั้งใจ
ในขณะเดียวกัน สายตาของสวี่ชิวเหวินก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของถังเว่ยเว่ย
ว่ากันว่าผู้ชายที่จริงจังจะดูหล่อเหลาที่สุด แต่แท้จริงแล้วผู้หญิงที่จริงจังก็สวยมากเช่นกัน
ไป๋เยว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างไม่แปลกใจเลยเมื่อเห็นถังเว่ยเว่ยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า เพราะเธอเคยเห็นอีกฝ่ายใช้มันในหอพักมาก่อน
แต่การเห็นสวี่ชิวเหวินจ้องมองถังเว่ยเว่ยด้วยแววตาแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก
เมื่อนึกถึงการปฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสอง เธอก็รู้สึกหดหู่
เธอจ้องมองแผ่นหลังของสวี่ชิวเหวินและอดไม่ได้ที่จะย่นจมูก
ถังเว่ยเว่ยจดจ่ออยู่กับการเช็ดเหงื่อของสวี่ชิวเหวินอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น มือของสวี่ชิวเหวินก็เข้ามาสัมผัส
เธอสะดุ้งและดึงมือกลับโดยสัญชาตญาณ แต่ทิ้งผ้าเช็ดหน้าไว้ในมือของสวี่ชิวเหวิน
สวี่ชิวเหวินไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะกังวลขนาดนี้ เมื่อถูกรายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมชั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ
เขานำผ้าเช็ดหน้ามาจ่อที่จมูกแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ
กลิ่นหอมอ่อนๆอบอวลไปทั่วประสาทสัมผัสของเขา
มันไม่ใช่กลิ่นของเครื่องสำอาง แต่เป็นกลิ่นธรรมชาติจากร่างกายของถังเว่ยเว่ย หรือบางทีอาจเป็นกลิ่นหอมของร่างกาย
แต่ไม่ว่าในกรณีใดมันก็มีกลิ่นหอมมาก
ใบหน้าของถังเว่ยเว่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเห็นการกระทำของสวี่ชิวเหวิน
สวี่ชิวเหวินลืมตาขึ้น และสังเกตเห็นว่าถังเว่ยเว่ยก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
ด้านหลังเธอ ซูหยานหยานจ้องมองด้วยความประหลาดใจพร้อมกับดวงตาเบิกกว้าง ในขณะที่เสิ่นหมินเหยาดูรังเกียจ
เขาหัวเราะเพื่อปกปิดความเขินอายและอธิบายว่า “ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้หอมมาก ฉันอดใจไม่ไหวเลย ฮ่าฮ่า”
สวี่ชิวเหวินพับผ้าเช็ดหน้าแล้ววางไว้ข้างๆ ก่อนจะพูดกับถังเว่ยเว่ย “เว่ยเว่ย ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเหงื่อของฉันหมดแล้ว วางไว้ที่นี่ก่อน ฉันจะส่งมันคืนให้หลังจากซักเสร็จแล้ว”
ถังเว่ยเว่ยพยักหน้าเห็นด้วย
ช่วงพักครึ่งนั้นสั้นเพียงสิบห้านาทีเท่านั้น
สิบห้านาทีต่อมา ครึ่งหลังก็เริ่มต้นขึ้น
ทั้งสองทีมสลับฝั่ง และเนื่องจากเอกภาษาอังกฤษเริ่มเขี่ยในครึ่งแรก จึงเป็นตาของเทคโนโลยีสารสนเทศในรอบนี้
หยางไป่ซานยืนอยู่ที่บอลรอเสียงนกหวีดของผู้ตัดสิน
ก่อนเริ่มการแข่งขัน ผู้เล่นหมายเลข 3 จากเอกภาษาอังกฤษตะโกนเหน็บแนมด้วยภาษาจีนที่ไม่ได้มาตรฐาน “ครึ่งหลังพวกแกเจอดีแน่!”
หยางไป่ซานเหลือบมองหมายเลข 3 เหมือนเขาเป็นคนงี่เง่าและเพิกเฉย
ด้วยเสียงนกหวีดของผู้ตัดสิน หยางไป่ซานก็เริ่มเขี่ยบอล
ไม่นานเอกภาษาอังกฤษก็แย่งบอลมาได้และพยายามใช้การบุกแบบโหมกระหน่ำเพื่อทะลวงแนวรับของทีมเทคโนโลยีสารสนเทศเหมือนในครึ่งแรก
แต่กลยุทธ์นี้เคยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผล
ผู้เล่นทีมเทคโนโลยีสารสนเทศหลายคนรวมถึงสวี่ชิวเหวินต่างรู้สึกผ่อนคลาย
แต่ในไม่ช้า สวี่ชิวเหวินก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป
/////